ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 63 ไม่เสียเงิน

ตอนที่63 ไม่เสียเงิน
ทั้งสามแพลตฟอร์มเร่งปรึกษากันและระบุจำนวนค่าเสียหายไปให้หงซิ่วในทันใด ตราบใดที่เธอสามารถจ่ายเงินในจุดนี้ครบจำนวนได้ พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งห้ามสตีมเมอร์ในสังกัดเทียนซูวเช่นกัน
สตีมเมอร์ตัวท็อปจากห้าอันดับแรกของแพลตฟอร์มเฟยอวี่ หยางหมิงอ้างสิทธิ์ชดเชยคนละ250ล้านหยวน
สตีมเมอร์ตัวท็อปจากสามอันดับแรกของแพลตฟอร์มหลงย่า ขออ้างสิทธิ์ชดเชยคนละ130ล้านหยวน
สตีมเมอร์ตัวท็อปจากสี่อันดับแรกของแพลตฟอร์มสวอน ขออ้างสิทธิ์ชดเชยคนละ220ล้านหยวน
หยางหมิงและทั้งสองต่างคลี่ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจบนใบหน้า ค่าปรับสูงขนาดนี้ หงซิ่วเองก็ไม่กล้ายืนกรานรับผิดชอบทันทีเช่นกัน เธอไม่ใช่คนโง่
ตัวหงซิ่วเองตกใจไม่น้อยทันทีที่ได้เห็นตัวเลขค่าเสียหาย รวมๆแล้วเกือบพันล้านหยวน เธอไม่กล้าควักเงินขนาดนั้นออกมาได้เลย
เธอไม่กล้าตัดสินใจโดยผลีผลาม จึงพูดกับหยางหมิงและคนอื่นๆว่า
“ตัวเลขที่แต่ละบริษัทต้องการ ทางเราจะนำไปพิจารณาตามความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ ตราบเท่าที่ราคานี้สมเหตุสมผลพอ ทางเราจะออกบิลจ่ายให้ทีหลัง ฉันจะให้คำตอบภายในสามวัน”
ทันทีที่หยางหมิงและคนอื่นๆจากออกไป หงซิ่วก็รีบถ่ายตัวเลขดังกล่าวของแต่ละแพลตฟอร์มที่เรียกร้องมาส่งให้จ้าวเฉียน
ไม่นานเกินรอ จ้าวเฉียนก็เป็นฝ่ายโทรมาหาเธอแทน
“ฮาโหล หงซิ่ว ฉันอนุมัติให้จ่ายเงินเต็มจำนวน”
หงซิ่วตะลึงแทบลืมหายใจไปชั่วขณะ เธอรีบตอบกลับไปทันทีว่า
“ประธานจ้าว แต่…แต่ทั้งหมดตั้ง600ล้าน คุณแน่ใจแล้วเหรอค่ะ?”
“แน่นอน ผมบอกคุณไปแล้ว ทุกอย่างผมจัดการเอง 600ล้านแลกกับตัวทำกำไรที่แพลตฟอร์มอื่นใช้ทั้งเวลาและเงินจำนวนมากในการปั้นให้ดัง ผมว่าคุ้มที่จะจ่าย หลังจากนี้คุณไปบอกกับพวกเขาได้เลย ทางเราสามมารถจ่ายให้ตามข้อเรียกร้อง และพวกเขาจะต้องลงนามเซ็นสัญญาโดยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับสตีมเมอร์ของเราอีกต่อไป ในอนาคต หากสืบทราบได้ว่าพวกเขามีการข่มขู่ หรือรบกวนสิทธิ์ส่วนบุคคล จนส่งผลกระทบต่อการทำงานของสตีมเมอร์เหล่านั้นในอนาคต พวกเขาจะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นจำนวนสามเท่าที่เคยเรียกร้องมา”
หงซิ้วตกใจเกินบรรยายได้แล้ว เธอทราบดีว่าจ้าวเฉียนรวยมาก แต่กลับไม่นึกเลยว่า เขาจะรวยได้ขนาดนี้ เงินจำนวนหกร้อยล้าน เขาพูดออกมาราวกับเป็นค่าขนมเล็กน้อย น้ำเสียงเรียบนิ่งสุขุมดังเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
“ประธานจ้าว ดิฉันทราบค่ะว่าหลังจากนี้ควรทำยังไง ฉันจะต่อรองราคากับพวกเขาอีกครั้ง เพื่อให้ทางเราเสียหายน้อยที่สุด”
“ไม่จำเป็น อย่าได้มีข้อโต้แย่งใดๆเด็ดขาด รีบโทรไปบอกพวกนั้นทันทีว่าทางเราพร้อมใจเต็มจำนวนที่เรียกร้อง เขียนเสือต้องให้วัวกลัว การจะทำธุรกิจต้องสร้างบารมีให้คู่แข่งกลัวเกรง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องต่อราคา”
หงซิ่วไม่รู้จะพูดออะไรแล้วจริงๆ แต่สิ่งที่เธออยากรู้คือ แท้จริงแล้วเงินในตัวจ้าวเฉียนมีเท่าไหร่กันแน่? เขากล้าทุ่มทุนขนาดนี้ได้ยังไง?
แต่ถึงแบบนั้น หงซิ่วก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามจ้าวเฉียนไปมากกว่านี้ เขาพูดย้ำอยู่เสมอว่า ไม่อนุญาตให้เธอเปิดเผยตัวตนของเขา ดังนั้นนี่ต้องมีเหตุผล
“เข้าใจแล้วค่ะ! ฉันทราบค่ะว่าควรทำอย่างไรต่อจากนี้ หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นจะรีบรายงานประธานจ้าวทันที!”
“อืม ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”
ทันทีที่วางสายไป หงซิ่วก็ติดต่อไปหาทั้งสามแพลตฟอร์มทันทีพร้อมประกาศว่า ทางเธอพร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชยทั้งหมดเต็มจำนวน
หยางหมิงและอีกสองคนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้างกันไปครู่ใหย่ จากนี้ไปเทียนซูวจะต้องครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อหาวิธีเลี่ยงค่าเสียหายจำนวนกว่า600ล้านไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมผลกลับกลายเป็นแบบนี้ได้?
ไม่มีแพลตฟอร์มใดกล้าตอบรับในทันที พวกเขาแต่ละบริษัทรีบเรียกประชุมหารือเป็นการด่วน เพื่อหาแนวทางสำหรับมาตรการรับมือ ถึงขั้นที่ว่าต้องเรียกCEOของแต่ละแพลตฟอร์มชุมสายหากันโดยตรง
หยางหมิงเสนอไปว่า ให้ขึ้นราคาต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเทียนซูวจะไม่สามารถจ่ายได้ไหว
แต่ทางเฉินโหย่วฉี CEOของหลงย่าและเหลียงอวี้ CEOของสวอนกลับไม่เห็นด้วย ทางศาลจะต้องเข้ามาควบคุมเรื่องค่าชดใช้ในจุดนี้ให้อิงกับตามหลักความเป็นจริงอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาควรต้องเรียกร้องค่าเสียหายในราคาที่สมเหตุสมผล มิฉะนั้นทางศาลจะเอนเอียงไปทางเทียนซูวแน่นอน
หยางหมิงเอ่ยถามเจือน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
“แล้วพวกคุณจะให้ทำยังไง? ถ้าสปอนเซอร์ฉีกสัญญาขึ้นมา มูลค่าที่ต้องชดใช้มันมากกว่าหลายร้อนล้านเชียวนะ!”
เฉินโหย่วฉีครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนเอ่ยตอบไปว่า
“ตอนนี้ผมยังไม่สามารถให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ ทางเราจะขอประชุมกันโดยส่วนตัวอีกทีหนึ่ง แล้วจะมาหารือกันใหม่อีกครั้ง”
เหลียงอวี้พยักหน้าพร้อมกล่าวเสริมว่า
“ทางเราเองก็ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเช่นกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการรับมือ ถ้างั้นนายน้อยหยาง การประชุมดังกล่าวก็ให้จบลงแต่เพียงเท่านี้ล่ะกัน ฉันขอตัวไปแจ้งกับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก่อน”
จากนั้นเหลียงอวี้ก็กดสิ้นสุดวีดีโอคอลทันที ขณะที่เฉินโหย่วฉีเองก็ออกไปตามในไม่ช้า
หยางหมิอดสบถขึ้นไม่ได้ว่า
“ไอ้ตาแก่สองคนนี้ มันจะต้องกลับลำไปประณีประนอมกับเทียนซูวแน่นอน!”
สิ่งที่หยางหมิงกำลังหวาดกลัวที่สุดอาจจะเกิดขึ้นนำไม่ช้า สวอนเป็นแพลตฟอร์มของบริษัท ฟูจิโมริ กรุ๊ปโดยตรง และบริษัทฟูจิโมริ กรุ๊ปเองก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับที่สองของแพลตฟอร์มหลงย่า กล่าวได้ว่าเบื้องหลังของแพลตฟอร์มของหงส์และมังกรมีบริษัทฟูจิโมริคอยหนุนหลังอยู่
บริษัทฟูจิโมริ กรุ๊ป มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปราบปรามคู่แข่งโดยการสร้างมิตรกับคู่แข่ง เงินทุนของบริษัทนี้สูงมากจนสามารถเข้าสุ้หุ้นส่วนของคู่แข่งได้ และนำไปบริหารต่อ ตอนที่รู้ว่าสวอนมีคู่แข่งเป็นหลงย่า ทางบริษัทฟูจิโมริ กรุ๊ปได้แก้ปัญหาโดยการเข้าซื้อหุ้นของแพลตฟอร์มหลงย่าในทันที
 แล้วนี่มันสื่อถึงอะไร?
หากบริษัทฟูจิโมริ กรุ๊ป เล็งเห็นแนวโน้มการพัฒนาของแพลตฟอร์มเทียนซูวที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในสักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องเข้าร่วมมือกับเทียนซูวแน่นอน ทั้งแพลตฟอร์มสวอน, หลงย่าและเทียนซูวจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วเฟยอวี่ที่อยู่ตัวคนเดียวในตอนนั้นจะไปเหลืออะไร?
หยางหมิงขนลุกซู่วทันทีที่นึกแบบนั้นได้ หากปล่อยไว้แบบนั้นไม่ได้การณ์ ผลลัพธ์ที่ได้มันน่าสยดสยองเกินไป!
คิดได้แบบนั้น หยางหมิงจึงรีบโทรหาพ่อของเขาทันที และขอให้หย่งเฉิงช่วยติดต่อกับCEOของฟูจิโมริ กรุ๊ปเป็นการด่วน เพื่อหาทางแก้ปัญหา แพลตฟอร์มเฟยอวี่เป็นหนึ่งในแหล่งทำเงินหลักของเฟยอวี่ กรุ๊ป ซึ่งคิดเป็น30%จากกำไรทั้งหมด โดยธรรมชาติแล้วหยางเฉิงไม่ปล่อยให้สามแพลตฟอร์มยักใหญ่นั้นรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแน่นอน เขาจึงรีบโทรไปหาหม่าเติง CEOฟูจิโมริ กรุ๊ปทันที และเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายออกมารับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
แต่อย่างไร เฟยอวี่ กรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทเล็กๆในสายตาของฟูจิโมริ กรุ๊ป โดยทั่วไปแล้วหม่าเติงไม่จำเป็นต้องให้หน้าหยางเฉิงหรือต้องเกรงใจเป็นพิเศษ เขากล่าปฏิเสธตอบมาทันทีและบอกว่าช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่ง
หยางเฉิงรู้สึกไม่พอใจในท่าทีของหม่าเติงเช่นกัน เขาคนนี้ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเลยแม้แต่น้อย แล้วนี่จะทำยังไง? ถ้าฟูจิโมริต้องการที่จะเข้าลงทุนในเทียนซูว ทั้งสวอน, หลงย่า และเทียนซูว สามแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ร่วมมือกัน แล้วเฟยอวี่ยังจะเหลือที่ว่างอะไรอีกในอุตสาหกรรมแห่งนี้?
หยางเฉิงตระหนักดีว่า ตนไม่สามารถอยู่เฉยๆรอความตายได้ เขาต้องการไปหาหงซิ่วเป็นการด่วน เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาความร่วมมือ
แต่จ้าวเฉียนกำชับไว้แล้วอย่างดีกับหงซิ่ว ให้ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาขอความร่วมมือหรือร่วมทุนด้วย ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธหยางเฉิงไปตามตรง
หยางเฉิงไม่ตัดใจยอมแพ้ เขาใจปล้ำเสนอราคาหนึ่งพันล้านหยวนเพื่อเข้าถือหุ้น51%ในแพลตฟอร์มเทียนซูว
หงซิ่วยิ้มและตอบไปว่า
“ทางเรามีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่ขายหุ้นค่ะ ต่อให้จะเป็นหนึ่งพันล้านหยวนก็ตาม”
ในแง่การพัฒนาของแพลตฟอร์มเทียนซูว หยางเฉิงทราบดีว่าราคาแค่พันล้านยังน้อยเกินไป ที่เขาให้ราคาแบบนี้ไปก็เพื่อทดสอบจิตวิทยาของหงซิ่ว รู้อยู่แล้วว่าราคาต่ำขนาดนี้ไม่สามารถซื้อใจเธอได้
“เอาแบบนี้ดีกว่าครับ ให้ทางคุณเสนอราคามาเลยดีกว่า ตราบใดที่ไม่เฟ้อเกินมูลค่าแท้จริง ผมจะยอมจ่ายทันทีโดยไม่มีข้อต่อรองใดๆ”
หงซิ่วส่ายหัวและตอบไปว่า
“คุณหยาง ทางเราไม่ขายหุ้นจริงๆคะ”
หยางเฉิงยังคงหัวแข็งไม่ยอมแพ้ และเสนอไปว่า ทางเราจะขอแค่หุ้นบางส่วนก็ยังดีและให้สัญญาไว้ว่าจะไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในของแพลตฟอร์มเทียนซูวแน่นอน ขอแค่มีเงินปันผลในช่วงปลายปีก็เป็นพอ
หงซิ่วยังคงส่ายหัวดังเดิมพร้อมปฏิเสธไปอย่างแน่วแน่ จนท้ายที่สุดหยางเฉิงก็เริ่มมีน้ำโหแล้วเช่นกัน
“คุณหงครับ ผมคิดว่าคุณจะเป็นอัจฉริยะในด้านธุรกิจ ตอนนี้ผมกำลังใช้ไม้อ่อนเพื่อเจรจากับคุณอย่างมีเหตุมีผล อย่าคิดว่าทางผมไม่กล้าลงมือลับหลัง ถ้ายังบีบกันอยู่แบบนี้ทางผมก็คงไม่มีทางเลือกแล้วเหมือนกัน คุณควรทราบดีว่าผมมีเส้นสายมากพอที่จะทำอะไรบางอย่างกับเทียนซูวได้”
เบื้องหลังยังมีจ้าวเฉียนคอยสนับสนุน หงซิ่วไม่กลัวเกรงผู้ใดทั้งสิ้น สามารถหยิบจ่ายเงินจำนวนหกร้อยล้านออกมาได้โดยไม่คิดด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าคนประเภทนี้อย่างเขาจะต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ดังนั้น…เส้นสายของจ้าวเฉียนเองก็ไม่ควรด้อยไปกว่าหยางเฉิงเช่นกัน
“ถ้าคุณหยางพูดถึงขนาดนี้ ฉันคิดว่าพวกเราคงไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกันอีกแล้ว คุณหยางมีทั้งความอดทนและเด็ดขาด ถ้างั้นฉันขอถามหน่อยค่ะ ถ้าคุณถูกข่มขู่จนต้องยอมจำนนต่ออีกฝ่ายกับแค่คำสองคำ คุณคงก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้จริงไหม?”
หยางเฉิงแสยะยิ้มเย็นให้ แววตาคู่นั้นของเขาดูเยือกเย็นไม่ต่าง เขาพยักหน้ามอบแก่เธอพร้อมลุกขึ้นและจากออกไปโดยตรง
หงซิ่วรีบโทรหาจ้าวเฉียนและรายงานสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง
จ้าวเฉียนยิ้มชมเชยว่า
“ทำได้ดีมาก แม้ว่าเราต้องขายหุ้นจริงๆ แต่เราไม่มีวันขายให้พวกเฟยอวี่เด็ดขาด ถ้าผมเดาไม่ผิด ต่อไปพวกฟูจิโมริ กรุ๊ปจะต้องส่งคนมาเจรจาเรื่องการลงทุนกับคุณต่อแน่นอน จำเอาไว้ให้ดี จงสร้างความลำบากใจให้พวกนั้น และพยายามเรียกร้องผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าข้อเสนอไหนเป็นประโยชน์ต่อเรา และพวกเขาเองก็เห็นชอบ คุณส่งพวกเขามาคุยกับผมได้เลย”
“เข้าใจแล้ว”
จ้าวเฉียนวางสายพร้อมคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ
ตราบใดที่พวกฟูจิโมริ กรุ๊ปเข้ามาลงทุน เฟยอวี่ กรุ๊ปไม่เหลือที่ยืนหยัดแน่นอน

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset