ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร – ตอนที่ 9: กลิ่นฉุนที่น่าสะอิดสะเอียน

 มีแสงบางอย่างพุ่งมาและเฉี่ยวไหล่ของเคียร่าจนมีเลือดพุ่งกระจายออกมา ย้อมให้ทิวทัศน์ของฉันย้อมเป็นสีแดง เพราะไหล่ที่โดนบาดนั้นอยู่ตรงใบหน้าของฉัน

และทำได้แค่อ้าปากค้างทำหน้าเหวออยู่แบบนั้น โดยไม่ได้สังเกตเลย ว่าสีหน้าของเคียร่านั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด

 

“อึก!”

 

‘เคียร่า!’

 

ฉันแผดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจปนร้อนรน อะไร? แสงเมื่อกี้มันอะไร? ทำไมเคียร่าถึงมีแผล? แล้วกลิ่นเวทมนตร์เมื่อกี้คืออะไร

ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวโดยที่เราทั้งคู่นั้นล้มลงนอนไปกับพื้น สิ่งที่ดึงสติฉันกลับมาได้คือเคียร่าที่พยายามลุกขึ้นทั้ง ๆ ที่สีหน้ายังคงเจ็บปวด

แล้วยกมือขึ้นมาป้องฉัน…กำลังปกป้องฉันอยู่เหรอ?

แล้วพวกเราก็จ้องไปที่ที่มาของแสงในทันที ก็พบกับร่างของมนุษย์…ผู้ชายสามคน และมีมังกรอีกหนึ่งตัว…ซึ่งเห็นภาพนั้นแล้วฉันได้แต่เบิกตากว้าง

เป็นมังกรยืนสี่ขาตัวเล็ก…เล็กกว่าฉันอีก แต่ดูท่านั่นคงโตเต็มวัยแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใด…ปลอกคอที่มีอัญมณีส่องแสงอยู่ พร้อมกับโซ่ที่หนาและใหญ่จนเกิดเสียงเสียดสีกันเวลาเดิน

อย่างกับว่า…เป็นแค่สัตว์เลี้ยง ไม่สิ สัตว์ที่ถูกใช้งานเลย มังกรตัวอื่นในกองคาราวานนั้นดูสะอาดสะอ้าน ยิ้มแย้มแจ่มใสดูแล้วมีความสุข

แต่มังกรตัวนี้ไม่ สัมผัสได้ถึงความเศร้าและทุกข์ทรมานทันที จนเผลอส่งเสียงขู่ต่อภาพนั้น และวิต่อมาก็มีเท้าข้างหนึ่งเตะเข้าที่ท้องของมังกรตัวนั้น

 

“เฮ้ย บอกว่าให้ใช้เวทจับไม่ใช่เหรอวะ!? ไหงถึงใช้เวทโจมตีละถ้าเป้าหมายตายขึ้นมาจะทำยังไง!!”

 

“กรร!!”

 

ฉันส่งเสียงขู่ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หงุดหงิด ทำไมการเห็นมังกรทำร้ายถึงได้รู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ รู้สึกเลือดในตัวกำลังเดือดพล่าน เกลียด อยากจะ…

 

“ทำอะไรของพวกคุณน่ะ!!”

 

ในตอนที่รู้สึกว่าสติกำลังจะหลุดลอยออกไปไกลราวกับไม่สามารถควบคุมได้ เคียร่าก็ตะคอกขึ้นมาเสียงดังจนดึงสติของฉันไปด้วย…อะไรน่ะ เมื่อกี้ฉันกำลังคิดว่า…

อยากจะฉีกพวกเขาเหรอ? เมื่อนึกได้แบบนั้นก็รู้สึกสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย กลัว ฉันกลัวความคิดที่ผุดขึ้นมาของตนเองเหลือเกิน

เหมือนนั่นไม่ใช่ตัวฉันเลย แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…กลิ่นเลือดของเคียร่ากลับรู้สึกหอมหวานขนาดนี้ ไม่ ไม่มีทาง ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่มีทาง…

 

“ชิ เด็กนี่น่ารำคาญจริง เฮ้ย แล้วทำไงกับเด็กวะ”

 

“จับไปด้วยนั่นแหละ ถ้าปล่อยมันไปเดี๋ยวเรื่องจะถึงหูไอ้บิลลี่เข้า พวกเราโดนตามล่าแน่”

 

พอมาตอนนี้ฉันก็โดนจู่โจมด้วยความสับสน ว่าพวกเขามาโจมตีเราทำไม? แถมยังที่ว่าจับไปนั่นอีกหมายความว่าไง? แต่ดูจากมังกรที่ถูกพามาด้วยแล้วคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

แต่ในระหว่างที่ฉันสับสน เคียร่ากลับลุกขึ้นอย่างมั่นคงและหยิบมีดเล็กสำหรับเข้าป่าออกมา เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้จะกล้าหยิบของมีคมออกมาชี้ใส่คนอื่น

อยากจะบอกว่าสมกับเป็นเคียร่า…แต่นี่ไม่ใช่เวลามาชม เพราะเธอกำลังทำเพื่อปกป้องฉันที่กำลังสับสนอยู่ต่างหาก ในระหว่างที่พวกเราล้มเมื่อกี้ทั้งสี่รวมถึงมังกรอีกตัว ก็ปิดทางหนีพวกเราอย่างรวดเร็ว

มีชายคนหนึ่งกระชากโซ่ที่ล่ามคอของมังกรตัวนั้นอย่างแรง มันก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาก่อนจะมีแสงก่อขึ้นที่คอ พร้อมกับกลิ่นจาง ๆ แบบเดิมกับก่อนหน้านี้

หนนี้มันเล็งไปที่ตัวเคียร่าฉันจึงดึงสติตัวเองให้พุ่งเข้าไปผลักตัวเธอออก และก็พอดีกับที่มีแสงสีเขียวเหมือนตัวของมังกรออกมาจากปาก

จากทิศทางที่ถูกปล่อยมามันจะพุ่งเข้าที่ท้องฉันอย่างจัง จึงได้แต่หลับตารอรับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

แต่แล้ว…

 

“อ๊ะ ปล่อยริเกลนะ!”

 

แสงนั่นแตกออกและกลายเป็นตาข่ายทำจากเถาวัลย์มาคลุมตัวฉันไว้ ต่อให้ออกแรงพยายามให้ขาดมันก็เหนียวทนทานจนน่าเหลือเชื่อ

แย่แล้ว ฉันโดนจำกัดการเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์ เหลือเพียงเคียร่าคนเดียวกับมีดเล็ก ๆ ในมือ สถานการณ์เลวร้ายขั้นสุดเพราะว่าอีกสามคนมีอาวุธครบมือ

แถมยังเป็นผู้ชายตัวโตอีก ถึงกระนั้นเคียร่าก็ไม่แสดงความกลัวออกมาเล็กน้อย ยิ่งทำให้คนที่ล้อมเราเอาไว้นั้นแสยะยิ้มอย่างสนุกสนาน ราวกับกำลังหยอกล้อเหยื่อเล่นอยู่

และหนึ่งในนั้นอยู่ก็เดินเข้ามาหาฉัน เคียร่าตอบสนองภาพนั้นอย่างรวดเร็วและทำท่าจะฟันมือที่ยื่นมาทางฉัน โดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย

มีดนั่นจึงเฉือนมือของชายคนนั้นที่ประมาทเธอเกินไป

 

“อ๊าก นังเด็กนี่!”

 

นั่นทำให้เขาโมโหและพยายามต่อยเคียร่า แต่เธอหลบมันได้แบบฉิวเฉียดก่อนจะก้มลงอย่างรวดเร็ว และออกแรงสุดเพื่อผลักขาเขาให้ล้มลง

ชายคนนั้นจึงลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็ว สุดยอดเลย แต่ในขณะที่ฉันกำลังชื่นชมฝีมือของเคียร่าอยู่นั้นก็มีอีกคนเข้ามาจากด้านหลัง

 

‘เคียร่าระวัง!’

 

ฉันส่งเสียงร้องออกไปเตือนเคียร่า ซึ่งมันได้ผลเธอรีบหันมาทางฉัน และเจอเข้ากับคนนั้นพอดี…และเพราะพวกนั้นระวังไม่ให้พวกเราบาดเจ็บด้วยหรือเปล่านะ จึงไม่มีใครชักดาบที่เอวออกมาเลยสักคน

แต่พยายามล็อกตัวพวกเราเอาไว้มากกว่า ในระยะนั้นเคียร่าไม่มีทางหลบได้แน่นอน แต่เธอได้เปรียบตรงที่…ในมือเธอมีมีด

 

“อึก!”

 

เคียร่าใช้มีดเล่มนั้นแทงลึกเข้าไปตรงบริเวณไหล่ รู้สึกได้เลยจากสีหน้าของเธอ ว่าวิที่เลือดของชายคนนั้นไหลออกมา เคียร่าเองก็หวาดกลัวเหมือนกัน

จนไม่แน่ใจว่าที่สั่นอยู่เป็นเพราะอีกคนพยายามต่อต้าน หรือเป็นมือของเคียร่าที่กำลังสั่นอยู่กันแน่  จริงสิพวกนั้นมี 3 คนกับอีก 1 ตัว แล้วอีกคนล่ะ?

 

“จะมากไปแล้วนะนังเด็กนี่ เฮ้ย ยิงมันดิ!”

 

คำพูดของอีกคนซึ่งจูงมังกรเอาไว้พูดขึ้นทำให้พวกเราสะดุ้งและหันไปมอง เขาสั่งการมังกรโดยการใช้เท้าเตะเช่นเดิมนั่นเอง

กลิ่นฉุนแทรกเข้ามาในจมูกของฉันอีกครั้ง แรงจนแทบอ้วกฉันจำได้…เป็นแสงที่บาดไหล่ของเคียร่านั่นเอง เหมือนว่าเธอเองก็รู้ตัว จึงพยายามดึงมีดออกแต่ก็ติดแน่น

ในตอนที่รู้ว่าเอาออกไม่ทันจึงตัดสินใจปล่อยมือ แต่อีกฝ่ายก็ยิ้มกว้างและจับมือของเธอเอาไว้แน่น แย่แล้ว

 

“หึ ทำได้แสบนักนะ นังเด็กนี่”

 

และแสงก็ออกมาจากปากของมังกร พุ่งตรงใส่ร่างของเคียร่าโดยไม่กลายเป็นตาข่าย…และทะลุหัวไหล่ขวาของเธอก่อนจะหายไป

 

“อะ…อา”

 

ไม่มีเสียง ดูจากสภาพเธอคงเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก และก่อนที่จะได้ทำอะไรชายที่ล้มแล้วพึ่งตื่นก็หยิบดาบออกมาทั้งปลอก

และใช้ปลอกดาบทุบเข้าที่หัวของเธออย่างแรง จนดวงตาของเคียร่าสั่นสะเทือนก่อนจะหลุดลอยออกไปและหลับตาลง เธอหมดสติไปแล้วนั่นเอง

ว่าแล้วร่างเล็ก ๆ ของเธอก็ล้มลงไปกองอยู่กับพื้น พร้อมทั้งใบหน้าที่เจ็บปวดและลมหายใจที่โรยริน รอบตัวของเธอถูกย้อมไปด้วยสีแดงจากไหล่ของเธอ

เลือด…เลือดไหลออกมาเต็มไปหมด ไม่ ไม่เอาน่า เด็กตัวเล็กแค่นี้กับเลือดที่ไหลออกมามากขนาดนั้น…นี่มันอันตรายแล้วนะ นี่!

ฉันดิ้นแรงขึ้นเพราะรู้สึกร้อนใจที่เห็นสภาพแบบนั้นของเคียร่า หัวที่โดนทุบก็มีเลือดซึมออกมาเช่นกัน กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งจนอยากจะอ้วกกระตุ้นให้เลือดในตัวเดือดพล่าน

ฉันร้องโวยวายออกมาเสียงดังราวกับคำราม แต่พวกนั้นก็ไม่มีท่าทีกลัวทั้งยังเดินมาหาฉันอย่างรำคาญ และเอาตาข่ายออกพร้อมกับรีบรุมจับตัวฉันไว้

ล็อกปากจนร้องเสียงดังไม่ได้ ล็อกปีกจนไม่อาจกางออกเพื่อบิน ล็อกขาหน้าเพื่อไม่ให้อาละวาด ฉันโดนควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ

 

“อา…สภาพแบบนี้เก็บไปก็ภาระเปล่าแฮะ”

 

มีชายพูดขึ้นแบบนั้นพร้อมทั้งใช้เท้าเตะเข้าที่ท้องของเคียร่า ทำให้ฉันเบิกตากว้างและอาละวาดหนักกว่าเดิม อย่าทำแบบนั้นกับเคียร่านะ! หยุดได้แล้ว!!

แต่การดิ้นรนของฉันไร้ประโยชน์ รังแต่จะทำให้รู้สึกเจ็บปวดจุดที่โดนล็อกเท่านั้น แต่ก็ไม่หยุด พวกมันทำร้ายเคียร่า พวกมันทำร้ายมังกร หงุดหงิด อยากจะฉีกทิ้ง…อยากจะให้กลิ่นคาวที่คลุ้งอยู่นี่กลายเป็นพวกมัน

ฉันคิดแบบนั้นพร้อมทั้งส่งเสียงขู่ทุกคนด้วยดวงตาแดงก่ำ รู้สึก ได้กลิ่นฉุนลอยออกมาจากตัวเอง…

 

‘อย่านะ เจ้าหนู’

 

ในตอนนั้นเองเสียงของดีอาร์ก็ลอยเข้ามาในหัว ดึงสติที่กำลังหลุดลอยไปของตัวเองกลับมาอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็เกิดลมพัดอย่างแรงจนหญ้าปลิวไปมาอย่างแรง

ผืนป่าส่องแสงสีเขียวสดไปทั่วทุกบริเวณพร้อมกับหญ้าสีเขียวและดอกไม้ที่ผลิบานอย่างรวดเร็วไม่เข้ากับภาพของปลายฤดูใบไม้ร่วง

พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยซึ่งเคยได้ยิน

 

“ข้าละสายตาเพียงครู่เดียว พวกเจ้ากล้าทำกับคนของข้าถึงเพียงนี้เลยรึ”

 

คุณโรเวิร์ตที่แต่งตัวเหมือนพึ่งออกไปข้างนอกมานั้นส่งสายตามองชายที่ทำร้ายพวกเราด้วยแววตานิ่งเรียบ น้ำเสียงก็เย็นยะเยือกอย่างน่ากลัว

พร้อมทั้งจับดีอาร์ซึ่งกำลังรวบรวมลมเอาไว้บนกลางระหว่างเขาทั้งสองข้าง ไม่ต้องเสียเวลาดมกลิ่นเลยด้วยซ้ำ แค่มองตาเปล่าก็รู้ได้เลยว่านั่นคือเวทมนตร์ของดีอาร์

(เครดิตผู้ออกแบบ : Kola-rabbit )

“แย่ละ เจ้าเมืองมา!”

 

“แค่มังกรก็ยังดี หนีเร็ว!!”

 

พวกนั้นพยายามอุ้มตัวฉันและหนีไป แต่คุณโรเวิร์ตก็ไม่ขยับเขยื้อน ไม่แม้แต่จะร้อนรนพลางชุดมือขึ้นและสั่ง

 

“จับพวกนั้นไว้ซะ”

 

ว่าจบ ก็มีเถาวัลย์พุ่งขึ้นมาจับขาของชายทั้งสามเอาไว้ จนไม่อาจหนีได้ สุดยอดเวทมนตร์นี่สุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ…อะนี่ไม่ใช่เวลามาห่วงเรื่องนั้นนะ!

 

ฉันที่โดนปล่อยมือจนล้มลงกับพื้นนั้นพยายามตะเกียกตะกายไปหาเคียร่าอย่างยากลำบาก เพราะว่าโดนล็อกตัวเอาไว้จนแทบจะขยับไม่ได้ แต่ในที่สุดก็คลานมาถึงจุดที่เธอล้มอยู่

ลมหายใจแผ่วเบาแถมยังมีสีหน้าทรมาน ไม่นะ อย่านะ อย่ามาแยกเคียร่าไปจากฉันนะ ไม่เอา…

 

“บาดเจ็บหนักขนาดนี้เลยรึ ดีอาร์พอช่วยได้หรือเปล่า”

 

‘ไม่มากนักหรอก’

 

ทั้งคู่เดินเข้ามาดูอาการของเคียร่า และเวทมนตร์ที่รวบรวมเอาไว้ก็ถูกปล่อยมาที่เธอ ก่อนที่จะมีไม้เลื้อยเล็กๆ สีเขียวเกาะตามตัวของเธอไปจนถึงบาดแผล

พร้อมทั้งภาพน่าฉงนอย่างมีดอกไม้บานขึ้นตรงจุดที่มีแผล และหยุดเลือดเอาไว้ ต่อมาเจ้าตัวก็ผ่อนลมหายใจเบาลงราวกับว่าหายทรมาน

เหมือนว่าเธอจะปลอดภัยแล้วสินะ แต่จากคำพูดของพวกคุณโรเวิร์ตน่าจะยังวางใจไม่ได้ต้องให้ถึงมือหมอ แต่ก็นะ…ถึงจะไม่ได้ทำอะไร

แต่การดิ้นไปมาแล้วก็แผดเสียงร้องก็ทำให้เหนื่อยเหลือเกิน ภาพตรงหน้าค่อย ๆ …เลือนรางและมืดดับไป 

พร้อมทั้งกลิ่นคาวเลือดที่จางลงจนแทบไม่ได้กลิ่น แต่ฉันก็ยังจำได้…จำฝังลึกเอาไว้ในหัวใจ กลิ่นฉุนอันน่าสะอิดสะเอียนนี่ ฉันเกลียดมันเหลือเกิน

 

 

 

 

 

 

 

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

Comment

Options

not work with dark mode
Reset