ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร – ตอนที่ 53: ภาค 3 กำเนิดสงครามแห่งความละโมบ กรีดวอร์ ตอนที่ 1 การพบพานหลังการเริ่มต้น

แย่ แย่สุด ๆ สถานการณ์ตอนนี้แย่มาก ฉันนั่งอยู่ที่สวนของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง โดยหรี่ตาลงเล็กพร้อมทั้งส่งเสียงออกจากลำคอเบา ๆ ไม่นานนัก ประตูของคฤหาสน์ก็เปิดออก พร้อมทั้งร่างของคนสวมเกราะทั้งตัวจนแยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง ตรงมาทางฉัน

 

“เรียบร้อย ไปที่ต่อไปกันเถอะ”

 

‘เข้าใจแล้ว~’

 

ฉันขานรับเสียงพูดของเคียร่าที่ก้องออกมาจากในชุดเกราะอย่างเรียบเฉย พร้อมทั้งย่อตัวนอนลงให้หลังขนาบกับพื้น โดยมีเสียงเกราะเสียดสีกันไปมา ไม่นานนักเคียร่าก็กระโดดขึ้นมาบนอานด้านหลัง และคุมบังเหียนให้ออกบิน

ถึงแม้จะมีปีกและสามารถโบยบินได้อย่างอิสระบนฟ้า แต่ฉันก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บินสูงมากเกินไป อย่างน้อยก็ห้ามสูงกว่าภูเขาที่ล้อมรอบประเทศเอาไว้ สาเหตุหนึ่งก็เพราะป้องกันข่าวหลุด ตอนนี้เรื่องของฉันยังถูกปิดกับประเทศอื่น ๆ อยู่ จึงไม่อยากให้สิ่งที่เหมือนไพ่ตายหลุดออกไป…

ในตอนนี้ความสูงที่ฉันบินอยู่ก็คือเหนือกำแพงเมืองไม่มากนัก พร้อมทั้งเคียร่าที่อยู่บนหลังก็โปรยกระดาษลงไปด้านล่างทั่วทั้งเมือง นั่นคือกระดาษที่เขียนข่าวเรื่องสงครามกับฟัวกรา ที่ทางราชาประกาศสงครามเมื่อวานนั่นเอง

พอพวกเราที่อยู่ในการประชุมครั้งนั้นได้รับเรื่อง ก็ตรงดิ่งไปบอกดาริกก่อนเป็นคนแรก แล้วพักอยู่ที่นั่นคืนหนึ่ง ก่อนจะต้องมากระจายข่าวให้ทั่วทั้งประเทศในวันนี้…

 

“เดี๋ยววันนี้เราจะส่งอีกประมาณ 3 เมือง แล้วพักอยู่ที่ โมร่า จนถึงพรุ่งนี้เช้านะ น่าจะได้ไปเวเรียเป็นที่สุดท้าย…ไม่เป็นไรใช่ไหมริเกล”

 

‘ฉันไม่มีปัญหา!’

 

เคียร่าถามฉันด้วยความเป็นห่วงที่ต้องบินตลอด ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความเร็วเอื่อย ๆ แบบนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว จะให้บินทั้งประเทศในวันเดียวเลยก็ยังไหว…มั้งนะ ถ้าตัวเปล่าน่าจะได้แหละ แต่เกราะแบบนี้คงๆ ไม่ไหวอย่างที่เคียร่าพูด

 

‘แต่เธอต่างหากน่าเป็นห่วง เคียร่า’

 

ฉันส่งเสียงร้องออกไปอ่อน ๆ เพื่อบ่งบอกว่ากำลังเป็นห่วง เธอเองก็น่าจะรู้ได้ว่าฉันพยายามบอกอะไร จึงหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางเอามือที่ใส่เกราะเอาไว้มาลูบปีกฉัน

 

“ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่มีริเกลอยู่ด้วย ฉันก็ไหวอยู่แล้ว”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็รู้สึกร่าเริงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก พร้อมทั้งร่างที่บินเคลื่อนผ่านกำแพงเมืองมาแล้ว เคียร่าจึงสะบัดบังเหียนเบา ๆ เป็นการบอกให้เพิ่มความเร็ว ฉันจึงสยายปีกกว้างอีกครั้งแล้วกระพือออกแรง เปลี่ยนจากการกางเพื่อร่อนเป็นการพุ่งออกไปด้านหน้าเล็กน้อย

รวมพลังเวทเอาไว้ที่หลังควบคุมแรงลมให้เคียร่าไม่ตกลงไปเพราะการเคลื่อนที่กลางอากาศ แล้วก็มุ่งหน้าไปยังเมืองต่อถัดไป งานแค่นี้น่ะง่ายนิดเดียว!

 

อา!!! เบื่ออออ และแล้ว ก็กลับมาอยู่สภาพเดิม…สภาพที่ฉันกำลังนั่งรอเคียร่าซึ่งเข้าไปคุยด้านในอยู่ ทำไมแต่ละที่มันนานนักนะ! มันควรจะมีแค่เคียร่าเดินเข้าไป

อ๊ะ ประเทศเราประกาศสงครามนะ ราชาให้ทุกคนเตรียมรับมือกับทุกสถานการณ์ แล้วก็กลับออกมาไม่ใช่เหรอ?!! ทำไมทุกที่ถึงกินเวลาเป็นชั่วโมงได้ล่ะเนี่ย น่าเบื่ออออออ

ถึงจะบ่นยังไงก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะถ้าฉันดิ้นงอแงตามปกติล่ะก็ คนรอบข้างได้แตกตื่นกันกระเจิงแน่ ไม่สิ แค่พวกเราบินเข้ามาอยู่ตรงนี้ก็ได้การต้อนรับเป็นทหารที่พร้อมสู้ทุกที่เลยนี่นะ

ตอนนี้เลยทำได้แค่นั่งสงบเสงี่ยม…แก้มป่อง ส่ายหางไปมาแบบเชื่องช้าอย่างไม่สบายใจ ปีกก็ดุกดิกจะกางก็ไม่กาง ทั้งยังส่งเสียงร้องครวญครางเบา ๆ ออกมาจากลำคอด้วย นี่คือสิ่งที่ฉันเป็นเวลารู้สึกไม่สบายใจ แผ่นคล้ายครีมตรงปากกับหงอนบนหัวก็ดูเหมือนจะตอบรับอารมณ์ของฉัน พวกมันลู่ลงต่ำทั้งหมด

เดินทางไปทั่วทั้งประเทศภายใน 2 วันคงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าต้องทำแบบนี้บ่อย ๆ ล่ะก็…แง๊!! น่าเบื่ออ่าาา

 

‘แกร็ก’

 

ในตอนที่กำลังหมอบลงด้วยความเบื่อหน่าย เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พร้อมทั้งร่างของฉันที่เด้งขึ้นมาทันที เคียร่าออกมาแล้ว! และพวกเราก็วนอยู่แบบนี้ต่อไป…

เช้าวันต่อมาพวกเราทั้งคู่ก็มุ่งหน้าแจ้งข่าวต่ออย่างราบรื่น จนถึงช่วงเย็นในที่สุดก็ถึงที่สุดท้าย หมู่บ้านเวเรีย บ้านเกิดของพวกเรานั่นเอง

 

“ว้าว…เปลี่ยนไปเยอะเลยนะเนี่ย”

 

‘อื้อ จริงด้วย!’

 

เคียร่าพึมพำออกมาแบบนั้นพร้อมทั้งกระโดดลงจากหลังอานด้านหลัง ฉันจึงส่งเสียงตอบพร้อมทั้งส่ายหางอย่างร่าเริง หมู่บ้านที่พวกเราจากมานั้นดูมีสิ่งปลูกสร้างเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คงเป็นผลพ่วงมาจากการสร้างโบสถ์ขนาดกลางในหมู่บ้าน จากเมื่อก่อนที่ไม่มีรั้วด้วยซ้ำก็มีกำแพงขึ้นมาสูงเหนือหัวผู้ใหญ่ไปอีก ถึงจะยังดูเล็กมากสำหรับฉันก็เถอะ

 

“งั้นฉันไปหาคุณโรเวิร์ตก่อนนะ คืนนี้เราน่าจะพักกันที่นี่แหละ”

 

เธอพูดแบบนั้นแล้วโดดลงหลังฉันตรงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าทันที ในที่สุดก็ที่สุดท้ายแล้ว…จะได้ผ่านช่วงน่าเบื่อนี่ไปซะที

หลังคิดแบบนั้นจบฉันที่อยู่ด้านหน้าบ้านหลังใหญ่ก็มองไปรอบ ๆ ถึงแม้หมู่บ้านจะดูใหญ่ขึ้น แต่ตรงด้านหน้าบ้านโรเวิร์ตก็ไม่มีที่พอให้ฉันนอนอยู่ดี จึงต้องเดินออกมานิดหน่อย…ก็เลยมาลงเอยที่ด้านหลังบ้านของโรเวิร์ต ที่มีลานกว้างไว้ฝึกซึ่งติดกับป่า ในตอนนี้มันกลายเป็นจุดที่อยู่นอกกำแพงหมู่บ้านไปแล้ว

ที่พักสำหรับมังกรทำให้ใหญ่ขึ้นกว่านี้ไม่ได้รึไงนะ ถ้ากว้างกว่านี้อีกสักหน่อยก็คงเข้าไปนอนในนั้นได้แล้วแท้ ๆ เชียว เฮ้อ…บ่นไปก็เท่านั้น เดิมทีเขาคงไม่คิดว่าจะมีมังกรแบบฉันมาอยู่ด้วยหรอก ที่พักนั้นก็ทำขึ้นมาสำหรับดีอาร์ คืนนี้คงต้องนอนกลางแจ้งแหง ๆ

 

“เอ๊ะ นั่นรึว่า…ริเกล?”

 

เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคย ไม่สิ ต้องใช้คำว่าไม่ได้ยินมานานมากกว่า ฉันก็หัวตั้งและมองไปตามเสียงทันที

 

‘อ๊ะ พ่อเคียร่านี่นา!!’

 

เมื่อเห็นร่างเจ้าของเสียง ฉันก็ไม่รอช้าที่จะส่งเสียงร้องเรียกออกมาอย่างร่าเริง ก่อนลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปออดอ้อนทันที เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อยในตอนแรกแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าฉันไม่มีประสงค์ร้าย จึงอ้าแขนรับหัวของฉันที่ก้มลงดันตัวเขา

 

“นี่ตัวโตขนาดนี้เลยเหรอ แล้วอยู่นี่ได้ไงเนี่ย เคียร่าล่ะ? อยู่ด้วยกันรึเปล่า”

 

‘อื้อ! อยู่สิ! ฉันกับเคียร่าอยู่ด้วยกันตลอดนั่นแหละ’

 

“ฮะ ๆ ไม่รู้เรื่องเลยแฮะ…”

 

เขาหัวเราะออกมาอย่างลำบากใจพร้อมกับมือที่ลูบฉันไม่หยุด ไม่ได้เจอกันนานมากเลยดูเหมือนว่าจะสบายดีสินะ จากด้านหลังที่สะพายตะกร้าอยู่คงกำลังกลับจากเก็บของป่า นี่เข้าป่าคนเดียวเหรอ? ปกติจะเข้ากับแม่นี่นา มันอันตรายนะ

พอรู้สึกแบบนั้นก็ส่งเสียงร้องด้วยความเป็นห่วงออกไป ซึ่งพ่อเคียร่าก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจความหมาย แล้วในตอนนั้นเอง อีกฝั่งของกำแพงทางบ้านหลังใหญ่ก็มีคนเรียกอีก

 

“มีอะไรรึเปล่าริเกล ถึงได้ร้องเสียงดัง”

 

“เสียงนั่น…เคียร่าเหรอ!!”

 

“เอ๊ะ…อยู่กับใครด้วยน่ะ”

 

หลังจากคุณพ่อตะโกนเรียกไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เจอลูกสาว คุณลูกก็ส่งเสียงตอบกลับมาราวกับว่าจำไม่ได้ซะงั้น โธ่ ไม่ร้องนะ เขาทำท่าหงอยลงไปทันทีที่เคียร่าจำเสียงไม่ได้ ก็แหม…ไม่ได้เจอกันนานเลยนี่นา ไม่แปลกหรอกมั้ง

ว่าแล้วฉันก็ส่งเสียงร้องเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเป่าหางโอบตัวเขาเป็นการปลอบใจ และฉันก็ยกคอขึ้นหันไปมองอีกฝั่งของกำแพง แล้วส่งสัญญาณบอกว่าไม่เป็นอะไร เคียร่าทำท่างงอยู่เล็กน้อยแต่ก็เดินกลับเข้าไปในอาคารอีกครั้ง

คงจะออกมาทั้งที่ยังคุยงานอยู่ล่ะมั้ง ถึงได้ถอดหมวกช่วงหัวออก ทั้งที่ปกติจะใส่อยู่ตลอดเวลาแท้ ๆ

 

“เอาเถอะ…ยังไงก็แวะไปหาที่บ้านด้วยล่ะ แม่เองก็ต้องดีใจมากแน่ จะบอกให้เตรียมงานต้อนรับไว้ให้นะ”

 

‘อื้อ! เข้าใจแล้ว!’

 

ถึงแม้เขาจะดูไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพยายามสื่อเลยแม้แต่น้อย แต่ก็เดินแยกไปพลางโบกมือลา ฉันเองก็ส่ายหางพึบพับเป็นการตอบกลับอย่างว่าง่าย แล้วนั่งรอเคียร่าต่อไป อย่างน้อยรอบนี้ก็ไม่น่าเบื่อเท่าเมืองก่อนแหละนะ ทนอีกนิดแล้วกัน…

ผ่านไปไม่นานนัก เคียร่าก็คุยงานเสร็จเร็วกว่าที่อื่นมาก แล้วเดินออกมาหาฉัน โดยกำแพงตรงนี้มีประตูเล็ก ๆ สำหรับเข้าออกเมืองได้อย่างสบาย ๆ อยู่ เหมือนว่าโรเวิร์ตจะทำไว้สำหรับใช้ส่วนตัว เป็นคนที่มักง่ายไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ

 

“เรื่องงานน่ะ ข้าไม่พิธีรีตองนักหรอก พวกเจ้าไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ พ่อกับแม่เองคงคิดถึงน่าดู”

 

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

 

“เรื่องเล็กน้อย…ระวังตัวด้วยนะ”

 

เมื่อโรเวิร์ตตักเตือนแบบนั้นพร้อมทั้งทำสีหน้าจริงจัง เคียร่าก็ทำได้เพียงฝืนยิ้มให้อย่างลำบากใจ เพราะว่าอีกฝ่ายคงพูดถึงเรื่องสงคราม ซึ่งพวกเราคงต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน จะให้บอกว่าไม่มีปัญหาก็คงไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะเจอกับอะไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สุดท้ายเธอเลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

แล้วขึ้นขี่ฉันควบไปทางบ้านของพวกเรา…ถือว่าโชคดีไหมนะ บ้านของพวกเราอยู่ใกล้กับกำแพง เลยมีระยะห่างของตัวบ้านกับกำแพงหมู่บ้านอยู่พอสมควร ซึ่งก็เพียงพอให้ฉันเข้าไปซุกตัวนอนอยู่ได้ รอดแล้วแฮะ นึกว่าจะต้องเข้าไปนอนในป่านอกกำแพงซะอีก

ในตอนนี้เคียร่ากลับมาใส่ชุดเกราะเต็มยศอีกครั้ง แล้วเดินไปเคาะประตูบ้านที่พวกเราคุ้นเคย ไม่นานนักก็มีเสียงผู้หญิงขานรับจากด้านใน พร้อมทั้งประตูที่ถูกเปิดออก แม่ของเคียร่านั่นเอง

 

“ค่ะ..ใครเหรอคะ”

 

‘หุ…’

 

ไม่ไหวแล้ว จะกลั้นขำไม่อยู่แล้ว เหมือนกรรมตามสนองเลย เมื่อกี้เคียร่าจำเสียงพ่อไม่ได้ คราวนี้เป็นแม่ที่จำเคียร่าไม่ได้ ถึงจะเป็นเพราะว่าชุดมันปิดทั้งตัวเลยก็เถอะ

แล้วสายตาของคุณแม่ก็หันมามองที่ฉัน ซึ่งตัวสั่นอยู่เพราะว่ากลั้นขำ แล้วก็นึกบางอย่างออกทันที…

 

“นั่นเหรอริเกล…งั้นก็แสดงว่า!!”

 

“ฮะ ๆ ตกใจไหมล่ะ พอใส่ชุดแบบนี้แล้วก็ดูไม่ออกเลยเนอะ”

 

ถึงกระนั้นน้ำเสียงของคุณลูกก็ยังคงสดใสและซุกซนเล็กน้อย พร้อมทั้งใช้สองมือถอดหมวกของตัวเองออกมา แล้วส่งยิ้มไปให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งตอนนี้ส่วนสูงของเคียร่าเยอะกว่าเล็กน้อย

แม่ของเคียร่าที่เห็นแบบนั้นถึงน่าจะรู้จากพ่อแล้วว่าพวกเรามา แต่ก็น้ำตาคลอเบ้าก่อนจะโผเข้ากอดเคียร่า โดยไม่สนใจชุดเกราะหนาเตอะที่ขวางกั้นร่างของทั้งคู่เอาไว้ เคียร่าเองก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและมีความสุข พลางสวมกอดเธอกลับด้วยความคิดถึง

ส่วนพ่อที่เดินออกมาดูสถานการณ์ก็เข้าร่วมแจมด้วย…

 

‘นี่! อย่าลืมฉันสิ!!’

 

ฉันส่งเสียงร้องในลำคอเบา ๆ พร้อมทั้งก้มหัวเข้าไปแทรกพวกเขาเล็กน้อย จนเกิดเสียงหัวเราะที่คุ้นเคย…บรรยากาศที่น่าคิดถึงหวนกลับเข้ามาอีกครั้งจนรู้สึกผ่อนคลาย ราวกับว่าที่บินมาตลอดทั้งวันนั้นเป็นเรื่องโกหกเลย

 

“เข้ามาสิ แม่เตรียมของที่ลูกชอบไว้เพียบเลย”

 

“เอ๊ะ แม่รู้ได้ไงน่ะว่าพวกเรากลับมาแล้ว”

 

พ่อกับแม่หันไปมองหน้ากันอีกครั้งแล้วยิ้มหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน แล้วความจริงก็เปิดเผยอีกครั้งว่าเสียงในตอนนั้นคือพ่อ เปิดมาตอนแรกแม่ก็จำเคียร่าไม่ได้ด้วยสิ ถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกันเนอะ

งานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่เทียบไม่ติดกับงานวันปีใหม่ของโรงเรียนถูกจัดขึ้นในบ้านหลังเก่า ๆ นี่ ถึงแม้ฉันจะเข้าไปอยู่ด้านในไม่ได้ก็เถอะ แต่ก็ก้มหัวลงมามองเข้าไปเห็นด้านในได้อยู่ น่าเสียได้ที่เอาเข้าไปได้แค่ปลายจมูกนิดหน่อย…

วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเคียร่าที่ต่างไปจากเวลาอยู่กับพวกเจ้าชาย ไม่เหมือนรอยยิ้มที่อ่านจดหมายของแฟร์ มันให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่าทุกรอยยิ้มที่ผ่านมา แน่นอนว่าฉันเองก็เช่นกัน

แต่ก็น่าเสียดาย…ที่บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ทำให้ยิ่งพูดยากไปอีก ว่าตอนนี้นั้น…สงครามกำลังดำเนินอยู่

 

————————– ———————–

(มุมนักเขียน)

 

กลับมาแล้วววว รอบนี้หายไปนานของจริงเลยยย นานไหมนะ? นานแหละเนอะ (ฮา) อย่างน้อยก็น่าจะนานที่สุดเท่าที่ทางนี้เคยเว้นช่วงแล้วมั้งคะ รู้สึกคันไม้คันมือมากเลย แต่เอาเข้าจริงก็เป็นเพราะติดงาน…แล้วก็ติดเกมด้วย!! (อีกแล้ว)

สุดท้ายก็ครึ่งๆ นั่นแหละค่ะ (ฮา) งานในโลกจริงก็ส่วนนึง สอบก็เพิ่งจบไป เกมใหม่ก็เพิ่งโดนป้ายยา มีเล่นเกมนี่แหละค่ะที่ติดได้ไม่นานก็รู้สึกอยากเขียน เลยหยิบขึ้นมาปั่นต่อนี่แหละ (ฮา) แล้วก็ยิ่งน่าเศร้าไปอีกคือเกมใหม่ที่ติ่งมากๆ กำลังจะวางขาย…ผสมเข้ากับเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเรียนต่อ

อาจจะมีอะไรที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับทางนี้พอควรออกมาให้ได้เห็นกันนะคะ คนที่อ่านแมวดุ้นอาจจะได้เห็นชื่อเราไปโผล่ในอีกหมวดนะคะ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นอาจจะไม่ได้เห็น แต่เราก็น่าจะเอาลงเพจด้วย(NobYK) แต่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ทางนี้อยากทดลองเล่นๆ ด้วย ซึ่งมีคนป้ายยามาสำหรับเตรียมตัวเรียนต่อ (ฮา)

ยังไงก็เถอะ…ตอนนี้ตารางเวลาเราค่อนข้างรัดตัวมากเลยค่ะ ;-; มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำมาก ทั้งธุระจริงจัง แล้วก็อู้เปื่อยๆ เลยเป็นสาเหตุใหญ่ๆ ที่ทำให้เว้นช่วงไปนาน และตอนหลังจากนี้ก็เช่นกัน แต่ก็อย่างว่า จะพยายามไม่ให้หายไปนานมากเกินไปค่ะ เดี๋ยวจะลืมกันซะก่อน (ฮา)

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ และอ่านถึงตรงนี้นะคะ! เจอกันอีกทีที่โปเกม่อนลีคค่ะ— แค่กๆ (หยอกเล่นหน่า ฮา)

 

และสุดท้ายนี้ เรื่องราวของเคียร่ากับริเกลที่อยู่ท่ามกลางสงครามจะเป็นเช่นไร แล้วสัญญาที่เคยให้ไว้กับแฟร์จะสามารถทำให้เป็นจริงได้ไหมนั้น โปรดติดตามไปพร้อมกันได้ใน

 

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร ภาค 3 กำเนิดสงครามแห่งความละโมบ กรีดวอร์

 

 

 

 

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

ชีวิตใหม่ในดราโทก้า ดินแดนมังกร

Comment

Options

not work with dark mode
Reset