ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 347

บทที่ 347

“อะไร?”

หลี่ฝานจ้องมองตาโตไม่สามารถเชื่อถือได้

คนที่มีความหวังกลับผิดหวังอีกครั้ง

คนที่คอยเฝ้าดูต่างก็กุมที่อกของตัวเอง แม่มึง นี่มันยิ่งกลับไปกลับมา เป็นบททดสอบความสามารถในการรองรับของหัวใจจริง ๆ และเรื่องพวกนี้ในวันนี้ก็เป็นละครฉากใหญ่จริง ๆ

เวลานี้ ไป๋ยี่เฟยก็เอ่ยปากบอก: “ที่จริงแล้ว ผมเป็นคนแจ้งตำรวจเอง”

“อ๋า?”

ทุกคนงงงวย ไม่ใช่หลี่ฝานเป็นคนเรียกมาหรือ?

ไป๋ยี่เฟยอธิบายว่า: “ผมไม่ทราบว่าเขาไปเอาความมั่นใจในตัวเองนั้นมาจากไหน แต่ทว่าผมเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมาก อย่างไรก็ตามในมือนั้นก็มีหลักฐานอยู่ตั้งมากมาย อีกอย่างคือผมได้มอบให้ฉินหัวเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหัวหน้าฉินจะต้องจัดการเป็นอย่างดี”

ฉินหัว ตอบรับว่า: “ไม่ผิด ผมได้รับแจ้งว่า มียี่สิบสามสิบธุรกิจต้องสงสัยว่ามีส่วนในการทำบัญชีเท็จ เลี่ยงภาษี……แถมยังมีหลักฐานที่แน่นอน ดังนั้น รู้ตัวเองหน่อย ลุกขึ้นมาเอง”

ผู้จัดการใหญ่ยี่สิบแปดธุรกิจหวาดกลัวเป็นนกกระทา ไม่ใครสักคนที่จะกล้าส่งเสียงออกมา และก็ไม่มีใครกล้าที่จะยืนขึ้นเป็นคนแรก

ฉินหัวเห็นไม่มีคนขยับตัว ก็หยิบใบรายชื่อออกมา อ่านทีละคน

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ หน้าตาทั้งหมดล้วนไม่เหลือแล้ว

หลี่ฝานมองคนพวกนั้นที่ถูกตำรวจใส่กุญแจมือ หวาดกลัวเป็นอย่างมาก รีบไถลไปที่ข้างหน้าไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย ฉันเป็นพี่ชายแกไง เห็นแก่ที่พวกเราเป็นญาติกัน ปล่อยฉันไปเถอะ?”

ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ก้มหัว มองเขาด้วยสายตาอันเย็นชา “ญาติ?”

“คุณได้นับว่าผมเป็นญาติไหม?”

“น้องสาวของผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในตอนที่ต้องการเงิน ได้นับว่าผมเป็นญาติคุณไหม?”

“ในตอนที่เสว่เอ๋อได้โครงการมา ได้นับว่าเธอเป็นญาติคุณไหม?”

“ตอนที่เสว่เอ๋อป่วย ได้นับว่าเธอเป็นญาติคุณไหม?”

“ร่วมมือกับคนนอก มุ่งเป้ามาที่โหวจวี๋ แม่มึงได้นับว่าผมเป็นญาติคุณไหม?”

เสียงตำหนิติดต่อกัน ทำให้หลี่ฝานแทบจะแทรกเข้าไปไม่ได้

“ตอนนี้อยากจะนับญาติกับผมแล้ว? คุณไม่อายหรอ?”

หลี่ฝานตอบอย่างอึดอัดใจ: “นั่นอะไร ก่อนหน้านั้นล้วนเป็นสถานการณ์บีบบังคับ ฉันก็ไม่ได้สมัครใจ แกก็……”

“ไม่ต้องพูดแล้ว”ไป๋ยี่เฟยว่าเสียงเย็น “โอกาสใช่ว่าผมไม่เคยให้คุณ แต่คุณเคยสนใจไหม? คุณทำเป็นแต่ไม่ไว้หน้าใครสักครั้ง”

“หัวหน้าฉินนำตัวไปเถอะ!”

พูดจบ ฉินหัวก็ใส่กุญแจมือหลี่ฝานด้วยตัวเอง

คนยี่สิบกว่าคนถูกนำตัวไปอย่างรวดเร็ว นั่งรถตำรวจเจ็ดคัน

ไป๋ยี่เฟยเดินไปที่แท่นอีกครั้ง บอกกับสวีจื้อว่า: “ผมเป็นตัวแทนของโหวจวี๋ จะรอผลของสหพันธ์ธุรกิจด้วยความจริงใจ”

“อีกอย่าง พรุ่งนี้ ที่โรงแรมเมืองเทียนเป่ย ฉลองครบรอบสิบปีโหวจวี๋กรุ๊ป ก็ขอเรียนเชิญที่ตรงนี้เลยเชิญทุกท่านเข้าร่วม ส่วนที่ว่าทุกท่านจะจะมาหรือไม่นั้น ก็ต้องแล้วแต่ทุกท่านแล้ว”

พูดจบ ไป๋ยี่เฟย ก็พาคนของตัวเองเดินจากไป

ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา

“ฉลองครบรอบ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉลองครบรอบของโหวจวี๋เหมือนว่าจะไม่ใช่พรุ่งนี้นิ?”

“ฉันก็จำได้ว่าไม่ใช่พรุ่งนี้”

“ไอหยา คุณจะไปสนใจทำไมว่าฉลองครบรอบเมื่อไหร่ ถึงอย่างไรพรุ่งนี้ก็ต้องไปอยู่แล้ว”

“ใช่ไหม? นี่ก็แค่ข้ออ้างที่จะให้ทุกคนไปรวมตัวกันเท่านั้น”

ในที่สุด การประชุมชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดถึงสถานการณ์ที่เรียกประชุมโดยสหพันธ์ธุรกิจก็จบลงแล้ว

……

หลังจากไป๋ยี่เฟยออกมา ก็สั่งให้กรรมการบริหารไปเตรียมงานฉลองครบรอบในวันพรุ่งนี้ สุดท้าย ก็เหลือแค่

ซูต้าหลิวกับไป๋ยี่เฟยสองคน

ซูต้าหลิวรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง “อย่างนั้น ผมสามารถไปได้หรือยัง?”

ไป๋ยี่เฟยยักคิ้วบอก: “คุณจะไปที่ไหน?”

“เอ่อ…..”ยังไม่พูด ซูต้าหลิวเขาจะไปไหนได้? ในเมืองเทียนเป่ย ล้วนหนีไม่รอดไปจากการควบคุมของโหวจวี๋กรุ๊ปใช่ไหม?

“งั้นอะไร? ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่งั้นคุณก็ชี้ทางให้?”

“งั้นต่อจากนี้ไปคุณก็ติดตามผมแล้วกัน อีกเดี๋ยวผมจะให้คุณไปทำเรื่องเรื่องหนึ่ง นับว่าเป็นการดูความบริสุทธิ์ใจก่อน”

“ขอแค่ประธานไป๋ไม่รังเกียจ ผมรับรองว่าจะบุกน้ำลุยไฟ แม้ตายหมื่นครั้งก็ไม่ปฏิเสธ!” ซูต้าหลิวหัวเรอะเหอๆบอก รีบพยักหน้าตามไป๋ยี่เฟยก้าวย่างไปทันที ขณะเดียวกันในใจก็ตื่นตระหนก นี่เพิ่งจะเริ่มต้นก็ต้องทำงานแล้ว?ทำอะไร? เขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับโหวจวี๋สักนิด! เดินไปเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็มาถึงที่ห้องส่วนตัวของโรงแรม

ซูต้าหลิวรีบมองคนด้านในให้ชัดเจน ก็เบิกตาโตทันที “คนงาม?”

“ทำไมถึงได้ถูกมัดล่ะ?”

เวลานี้ เย่อ้ายที่ถูกคนมัดที่คอมือไขว้หลังอย่างหนาแน่นอยู่บนโซฟา

เห็นไป๋ยี่เฟยเดินเข้ามา เย่อ้ายก็จ้องเขา “ไป๋ยี่เฟย ปล่อยฉัน! แกก็รู้ฐานะของฉัน ไม่ใช่ที่แกจะสามารถยุ่งได้ ไม่เช่นนั้น ถูกคนของเย่ซื่อรู้เข้า แกไม่มีทางมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขได้!”

ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ใส่ใจ “ตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว เพิ่มมาอีกหน่อยมีอะไรที่ต่างกัน?”

“นอกจากนี้ เป้าหมายแต่แรกของคุณก็คือโหวจวี๋ ผมเดาไม่ผิดใช่ไหมล่ะ? จงใจเข้าใกล้ผม มาสนิทสนมกับผม ยังมาเอาใจผม ท้ายที่สุดแล้ว ฉีกหน้า มุ่งเป้าไปที่โหวจวี๋โดยตรง”

“ที่น่าเสียดายก็คือ พวกคุณล้วนแต่คิดว่าผมเป็นเด็กวัยรุ่น คิดว่าผมรังแกง่าย ก็เลยประมาทศัตรู นี่เป็นข้อห้ามข้อใหญ่”

ด้วยเหตุนี้ เย่อ้ายที่ไม่พูดไม่จามานาน จึงบอกว่า: “ใช่ ฉันยอมรับ ฉันสู้กับแกไม่ได้ แต่ว่า ถึงในที่สุดโหวจวี๋กรุ๊ปจะเป็นแค่ผู้นำในเมืองเทียนเป่ย แต่ก็ไม่ใช่เป่ยไห่ ยิ่งไม่ใช่ทั้งประเทศ ดังนั้น แกสู้กับเย่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้หรอก”

ไป๋ยี่เฟยยักไหล่อย่างไม่สนใจ “สู้ได้หรือไม่นั้นเหมือนว่าจะไม่ใช่คุณที่จะตัดสินได้”

“คุณดู ตอนแรกเป็นหลิ่วซื่อกรุ๊ป ตอนนี้เป็นพวกคุณ ล้วนคิดว่าผมสู้ไม่ได้ แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ผมก็ชนะมาเหมือนกัน? ดังนั้น ต้องดูจนถึงผลสุดท้าย ถึงจะรู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วสู้ได้หรือไม่”

คำพูดของไป๋ยี่เฟยนั้นถูกต้องมาก ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนคิดว่าไป๋ยี่เฟยจบสิ้นแล้ว แต่ว่า เขาก็หลุดพ้นจากอันตราย ไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ช่วยให้โหวจวี๋กรุ๊ปรอดพ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

เท่านี้ก็บอกได้ว่า ไป๋ยี่เฟยคนนี้ความสามารถในการเรียนรู้และความเร็วในการเติบโตนั้นรวดเร็วมาก ใกล้จะถึงจุดที่ทำให้คนหวาดกลัว

“งั้นแกต้องการอย่างไร?”เย่อ้ายขบริมฝีปาก

“ไม่ได้อะไร ก็แค่ให้คุณ…..ผ่อนคลายผ่อนคลาย”พูดจบ ไป๋ยี่เฟยมองที่ซูต้าหลิว“นี่ถือว่าเป็นรางวัลที่คุณติดตามผม”

“อ๋า?”ซูต้าหลิวยังงงงวยอยู่

แต่เย่อ้ายกลับเข้าใจ ร้องตะโกนทันที “ไป๋ยี่เฟย! แกกล้า! ฉันจะฆ่าแก!”

ไป๋ยี่เฟยหัวเราะเสียงเย็น “ฆ่าผม? ตัวคุณเองยังยากที่จะรักษาไว้ แล้วจะฆ่าผมได้อย่างไร?”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset