ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 369

บทที่ 369

ตัดสินใจแน่วแน่ หูเทียนจิ่นแค่นเสียงเย็นชา “พวกแกเข้ามาพร้อมกันเลยเถอะ! ดูว่าเป็นพิษของฉันที่เก่งกาจ หรือว่าพวกแกที่เก่งกาจ”

ฉินหัวกับสาวสวยสุดลงมือในพริบตา ไป๋หู่ที่อยู่อีกด้านก็พุ่งเข้าไปเช่นกัน

หูเทียนจิ่นเห็นพวกเขาตกหลุมพราง ก็ยิ้มเย็น สาดผงพิษออกไปทีหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งออกด้านข้างอย่างรวดเร็ว โจมตีไป๋ยี่เฟย

เดิมทีไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจ จู่ๆ กลับได้ยินเสียงของสวีลั่ง

“ระวัง!”

เห็นมือหูเทียนจิ่นจวนจะแตะถูกไป๋ยี่เฟย สวีลั่งก็อาศัยตอนที่ทุกคนคิดไม่ถึงปรากฏตัวอยู่ข้างกายไป๋ยี่เฟยอย่างรวดเร็ว ใช้มีดโค้งของตัวเองต้านไว้ โจมตีจุดตายของหูเทียนจิ่น และเพราะพละกำลังของหูเทียนจิ่น จึงถอยหลังไปหลายก้าว

หูเทียนจิ่นคิดไม่ถึงว่าสวีลั่งจะลงมือ ฝ่ามือข้างหนึ่งถูกมีดโค้งเฉือนจนเกิดเป็นแผลยาวรอยหนึ่ง!

“หมายความว่ายังไง?”

สวีลั่งคิดจะรามือแล้วไม่ใช่หรือ?

อู๋ปิ้งมองสวีลั่งอย่างตกตะลึง “รุ่นพี่?”

สวีลั่งยืนอยู่ด้านหน้าไป๋ยี่เฟย กล่าวเสียงเรียบ “ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”

“หรือคุณไม่สนใจน้องสาวแล้ว?” อู๋ปิ้งถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

สวีลั่งแววตาดำมืด “เธอไม่มีทางตำหนิฉัน”

“เพราะอะไร?” อู๋ปิ้งไม่เข้าใจ

สวีลั่งยิ้ม “เพราะว่า เขาคือเพื่อนของฉัน

อู๋ปิ้งมองไปทางไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยกลับไม่ได้แปลกใจมากเท่าไหร่นัก ราวกับคิดได้แต่แรกแล้วว่าสวีลั่งจะเป็นเช่นนี้

สวีลั่งกล่าวอีกว่า “ฉันอยู่มาครึ่งชีวิตแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฉันเป็นนักฆ่า ข้างกายก็ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครปฏิบัติกับฉันอย่างจริงใจสักคน เพราะพวกเขาล้วนหวาดกลัวฉัน”

“ฉันเป็นนักฆ่า ไม่มีความรู้สึก เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ฆ่าคน นี่คือฉันที่อยู่ในสายตาของทุกคน!”

“แต่ฉัน เป็นมนุษย์?”

“ในที่สุดก็มีคนเห็นฉันเป็นมนุษย์ เป็นเพื่อน นี่คือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของฉัน และเป็นความหมายในการมีชีวิตอยู่ของฉัน”

อู๋ปิ้งหลับตา ราวกับเข้าใจ “งั้นก็ขอให้รุ่นพี่มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี”

ไป๋ยี่เฟยคิดไม่ถึงว่าสวีลั่งจะพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมา ปกติเขาพูดน้อย ราวกับคนที่ไม่ชอบพูดจา คิดดูแล้วในใจคงจะมีคำพูดมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดให้ใครฟังสินะ?

โชคดี เขามองคนไม่ผิด

หูเทียนจิ่นแค่นเสียงเย็นชา “ไอ้โง่!”

เขาเหยียดหยามคนที่ถูกความรู้สึกชักจูงที่สุด เพียงถูกคนผูกมัดไว้เรื่อยๆ ท้ายที่สุดก็จะสูญเสียทุกอย่างไม่อาจฟื้นคืนได้ตลอดไป!

แต่หูเทียนจิ่นไม่ได้รู้จักตัวเองดีด้วยซ้ำ เขาจะรู้ได้อย่างไร? เพียงแต่ทุกคนต่างยืนอยู่ในมุมคิดถึงแต่ปัญหาของตัวเองเท่านั้น!

สาวสวยสุดมองสวีลั่งเต็มสองตา ไม่ได้พูดอะไร

ฉินหัวเบิกบานใจอยู่บ้าง ไป๋ยี่เฟยมีเพื่อนเช่นนี้อยู่ข้างกาย เขาก็มีเกราะคุ้มภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่งแล้ว

ตอนที่ทุกคนกำลังเพ่งความสนใจไปที่สวีลั่ง หูเทียนจิ่นก็คิดจะหนีไป

เขารู้ ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสแล้ว อู๋ปิ้งอย่างมากสุดก็แค่คอยสกัดสวีลั่ง แต่ยังมีไป๋หู่ ฉินหัว กับสาวสวยสุดอยู่อีก สามคน เขารับมือไม่ไหว

“จับเขาไว้!”

ไป๋ยี่เฟยเป็นคนแรกที่พบว่าเขากำลังจะหนี

เห็นเช่นนี้ คนทั้งหลายก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เตรียมจะเข้าไปจับหูเทียนจิ่น

แต่เวลานี้เอง ตรงจุดไกลๆ จู่ๆ ก็มีรถแวนสีดำคันหนึ่งขับเข้ามา รถแวนจอดห่างจากพวกเขาไปประมาณห้าสิบเมตร

พวกไป๋ยี่เฟยพากันระแวดระวังขึ้นมา ส่วนหูเทียนจิ่นเองก็ลืมที่จะหนีเช่นกัน

เวลานี้ จู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งลงมาจากรถ โยนของบางอย่างมาทางพวกเขา

“แย่แล้ว! รีบหลบเร็ว!”

ไป๋หู่ตะโกนเสียงดัง

เพิ่งจะสิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง “ตู้ม” เปลวไฟมหึมาพวยพุ่งขึ้นฟ้า

ขณะเดียวกัน อู๋ปิ้งก็โผเข้าหาสวีลั่ง ล้มลงไปบนพื้นหญ้าข้างทาง

ฉินหัวกับไป๋หู่เพื่อปกป้องไป๋ยี่เฟยจึงโผเข้าหาพื้นหญ้าพร้อมกัน

ส่วนหูเทียนจิ่นกับสาวสวยสุดยังไม่ทันได้หลบ ก็มีเสียงระเบิดตามมาติดๆ กัน จึงถูกระเบิดด้วยกันท่ามกลางเปลวไฟ

……

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เปลวไฟค่อยๆ เบาลง

รถแวนคันนั้นได้หายไปแล้ว

บนพื้นหญ้าข้างทางมีคนห้าคนหมอบอยู่ หนึ่งในนั้นอาการสาหัส ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ที่อยู่ใต้ร่างเขา คือคนที่ถูกเขาพยายามปกป้องไว้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

“รุ่นน้อง!”

สวีลั่งแกะอู๋ปิ้งออกจากตัวอย่างยากลำบาก พอยกมือขึ้นมาก็เต็มไปด้วยเลือด “รุ่นน้อง?”

อู๋ปิ้งลืมตาขึ้นเล็กน้อย “รุ่นพี่……แค่กๆ ……”

“อย่าเพิ่งพูด ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล” ในน้ำเสียงของสวีลั่งเจือแววลนลานอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ในสมองเขายังเป็นชั่วเวลาที่เกิดระเบิดขึ้นเมื่อกี้ ฉากที่อู๋ปิ้งโผเข้ามาโดยไม่สนใจตัวเอง ราวกับเขาได้เห็นวันเวลาที่เคยฝึกร่วมกันกับรุ่นน้องในตอนเป็นเด็กอีกครั้ง

อู๋ปิ้งหลับตา กล่าวเสียงค่อยว่า “รุ่นพี่ จงมีชีวิต……อยู่ต่อไปให้ดี……”

พอพูดประโยคนี้จบ มือของอู๋ปิ้งก็ตกลง ดวงตาปิดสนิท

สวีลั่งเบิกตามองเขา นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

อีกด้านหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยถูกไป๋หู่กับฉินหัวปกป้องไว้พร้อมกัน จึงไม่ได้ถูกระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ ไป๋หู่มีแผลไฟไหม้เล็กน้อย แต่ฉินหัว สาหัสที่สุดในบรรดาพวกเขาสามคน

“พี่……”

ไป๋ยี่เฟยกอดฉินหัวไว้ในอ้อมแขน มือเต็มไปด้วยเลือด เขาไม่รู้ว่าฉินหัวบาดเจ็บตรงไหน แต่ไป๋ยี่เฟยที่มือเต็มไปด้วยเลือด ตื่นตระหนกอย่างมาก

“ไป๋หู่ เร็ว เรียกรถพยาบาล”

ไป๋หู่หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที โทรหาหนิววั่ง

ฉินหัวหลับตา สลบไปแล้ว

มือไป๋ยี่เฟยเริ่มสั่น เขาปลดเสื้อผ้าฉินหัวออกโดยไม่รู้ตัว คิดจะดูว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนกันแน่ แต่ว่า มือเขาสั่นจนแกะกระดุมไม่ออกแม้แต่เม็ดเดียว

ไป๋หู่ที่มองอยู่อีกด้าน เงียบไม่ได้พูดอะไร

รถพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็ว ไป๋หู่กับไป๋ยี่เฟยพาฉินหัวขึ้นเตียงรถพยาบาล

เวลานี้ ไป๋ยี่เฟยถึงเห็นว่า อู๋ปิ้งตายอยู่ในอ้อมแขนของสวีลั่ง แต่สวีลั่งราวกับคนไร้จิตวิญญาณไปแล้ว

ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป ก้มตัวลง ตบไปที่บ่าของสวีลั่ง ไม่ได้พูดอะไร

……

ณ ประตูห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชน

ไป๋ยี่เฟยทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เขายืนอยู่ตรงนั้น จ้องไปที่ประตูห้องผ่าตัดอยู่ตลอดเวลา กลัวเหลือเกินว่าจะพลาดอะไรไป

เพียงไม่นาน โจวฉวี่เอ๋อกับหลี่เสว่ที่ได้รับข่าวก็มาถึง

“เกิดอะไรขึ้น?” โจวฉวี่เอ๋อตาแดง ร้อนใจอย่างมาก

ไป๋ยี่เฟยได้สติ อ้าปาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

“คุณพูดมาสิ” โจวฉวี่เอ๋อร้อนใจแล้ว “ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? ทำไมเขาถึงอยู่ด้วยกันกับคุณได้? ทำไมเขาถึงอยู่ข้างใน? พูดสิ!”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset