ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 420

บทที่ 420

เอ๊ะ ไป๋หู่ล่ะ?

“ไป๋หู่อยู่ไหน?”ไป๋ยี่เฟยถามออกมา

เหลียงยู่ดื่มชาลงไปคำหนึ่ง”กลับไปแล้ว เขาไม่เป็นไร”

พอพูดเสร็จ อารมณ์ที่ตึงเครียดของไป๋ยี่เฟยก็ผ่อนคลายลง”รบกวนคุณส่งฉันออกไปเถอะ!ออกไปแล้วฉันเลี้ยงคุณอีกสองมื้อ”

“ไม่ได้”เหลียงยู่ส่ายหน้า ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะพูด ถอนหายใจออกมา”ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจ แถมยังรู้สึกว่าการที่อาจารย์รับคุณมาเป็นศิษย์ มันมหัศจรรย์จริงๆ”

“แต่ สถานการณ์ตอนนี้ของคุณ ไม่ต้องให้ฉันพูดมากกว่านี้ คุณต้องให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมา”

ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันแค่ปลอดภัยชั่วคราวเอง”มีไป๋หูาและสวีลั่งฝึกฝนฉันก็พอแล้ว”

“เวลาไม่รอคน”เหลียงยู่พูดอย่างราบเรียบ”อาจารย์สอนคุณหนึ่งเดือนกับพวกเขาสอนคุณหนึ่งเดือนมันแตกต่างกันมากเลยนะ”

ไป๋ยี่เฟยเงียบขรึม ผู้หญิงคนนั้นเก่งจริงๆ

“คุณพูดถูกหมด แต่ฉันจะกลับไป”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างดื้อ

เหลียงยู่ไม่มีปัญญา ลุกขึ้นมาพูดว่า”ได้ อยากกลับไปก็ได้ ต่อสู้ชนะฉัน ฉันจะส่งคุณลงไปเอง”

“โอเค!”ไป๋ยี่เฟยก็ลุกขึ้นมา เดินตามเหลียงยู่มาถึงนอกบ้านไม้

ทั้งสองคนยืนตรงข้ามกันในพื้นที่โล่ง ตรงกลางห่างกันประมาณ3เมตร ไม่ใกล้ไม่ไกล พอดีๆ

“มาเถอะ”เหลียงยู่ชูนิ้วใส่ไป๋ยี่เฟย

ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตัวเองถูกท้าทาย เขาฝึกฝนมากับไป๋หู่มาหลายดเดือนแล้ว รวมไปถึงประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเอง

เหลียงยู่เป็นผู้หญิง แม้ว่าเธอเป็นตำรวจ ก็คงรู้แต่วิธีการจับกุมเท่านั้น สำหรับการต่อสู้ฆ่าคนต้องไม่เข้าใจแน่นอน นี่ทำให้ไป๋ยี่เฟยยิ่งเชื่อว่า เขาสามารถสู้ชนะเหลียงยู่

แต่ตามความเป็นจริง เขาหน้าแตกแล้ว

ไป๋ยี่เฟยวิ่งเข้าไป กำลังคิดจะจับกุมเหลียงยู่เอาไว้ แต่เพิ่งได้ยกมือขึ้นมา ก็ถูกเหลียงยู่จับข้อมือเอาไว้ ไป๋ยี่เฟยอึ้งเล็กน้อย ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวกลับมา ก็ถูกเหลียงยู่สะบัดตัวออกไป

“บัง!”

ไป๋ยี่เฟยชนไปกับต้นไม้ แล้วก็หล่นลงมา

“อุ้ย……”

บาดแผลของเมื่อวานยังไม่หาย ตอนนี้ล้มลงอีกครั้ง แถมข้างหลังยังเป็นต้นไม้ด้วย ลำต้นแข็งและขรุขระ ยังเป็นกลมด้วย มันเจ็บมากมากกว่าการชนกับกำแพงหลายเท่า

เหลียงยู่เดินไปข้างๆไป๋ยี่เฟย”คุณแพ้แล้ว”

ไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ กัดฟันลุกขึ้นมา”ไม่ได้ เอาใหม่อีกครั้ง”

เหลียงยู่ตามใจเขา แต่ว่า ผลสุดท้ายมันก็เหมือนเดิม อ้อ ก็ไม่เหมือนนะ ไป๋ยี่เฟยล้มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ยิ่งเจ็บกว่าเดิม

“ยอมแพ้หรือยัง?”เหยียงยู่พูดขึ้นมาช้าๆ”ถ้าไม่ยอมแพ้อีก ฉันยังสงสัยว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า”

ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้หน้าด้านขนาดนั้น มีแต่ต้องพูดว่า”ฉันยอมแพ้”

เขาคาดไม่ถึงว่า ผู้หญิงน้อยอย่างเหลียงยู่ จะเก่งขนาดนี้ ไม่ต้องออกกระบวนท่าด้วยซ้ำ สะบัดคนออกไปได้ทันที

นี่ทำให้ไป๋ยี่เฟยเริ่มหวั่นไหวใจ ถ้าหากเขาก็เก่งขนาดนี้ งั้นเมื่อเผชิญกับคนของตระกูลฉุงและตระกูลเย่ ก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น

แต่เขายังอยากจะกลับมา อยากกลับไปดูหลี่เสว่

เหลียงยู่ดึงไป๋ยี่เฟยไว้ ปรบมือและพูดว่า”ดังนั้นคุณอยู่เฉยๆดีกว่า คุณ อ่อนหรือเกิน ไปกินข้าวเช้าเถอะ กินเสร็จรีบไปฝึกฝน”

ถูกดูถูกแล้ว

ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นไปกินข้าวเช้า แต่ยังคงไม่เต็มใจ”ไม่ ฉันไม่ได้ยอมรับว่าจะฝึกกับคุณ!”

“คุณแพ้แล้ว!คุณก็ไม่สามารถลงไปจากภูเขาได้ ลงไม่ได้คุณก็มีแต่ฝึกซ้อมอยู่ที่นี่”เหลียงยู่พูดอย่างมีเหตุมีผล

ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว”ทำไมคุณต้องมาฝึกซ้อมฉัน?ฝึกเสร็จแล้วคือจะให้ฉันทำอะไรหรือ?”

ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานมานานขนาดนี้ ก็รู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆหรอก อยู่ดีๆฝึกซ้อมเขาแบบนี้ แต่ไม่ต้องการค่าตอบแทนใดๆ เป็นไปได้ยังไงล่ะ?

ตามจริงเหลียงยู่ก็สงสัยมาก”ฉันก็ไม่รู้ ฉันก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่ ทำไมอาจารย์ถึงรับคุณเป็นศิษย์ล่ะ?คุณก็ไม่อะไรคุ้มที่จะทำให้อาจารย์รับคุณมาเป็นศิษย์หรอก?”

“แล้วอาจารย์คุณจะให้ฉันทำอะไร?”ไป๋ยี่เฟยถาม

เหลียงยู่แก้ไขว่า”ตอนนี้ก็เป็นอาจารย์ของคุณด้วย”

“ฉันไม่ได้ยอมรับ!”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างจนปัญญา”คุณพูดอยู่อย่างนั้นตลอด ฉันไม่อยากเป็นศิษย์ของเธอด้วยซ้ำ”

เหลียงยู่เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา”หลายๆคนอยากจะกราบขอเป็นศิษย์ของอาจารย์เธอยังไม่ยอมเลย คุณมีโอกาสนี้ ก็ควรที่จะแอบดีใจ ยังไม่ยอมอีก!”

พอพูดเสร็จ ยังไม่ทันรอให้ไป๋ยี่เฟยพูด ก็โบกมือไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเขาอีก ยังไงก็คือคำพูดเดียว”ยังไงคุณก็ต้องฝึกซ้อมอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน หนึ่งเดือนผ่านไปคุณถึงลงจากภูเขาไปได้”

“ถ้าคุณยังมีปัญหาอะไร รออาจารย์มาแล้วคุณถามเธอเองเถอะ!”

ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจว่าคนเขาเป็นใคร เขาอยากจะกลับบ้านอย่างเดียว”เธอมาเมื่อไหร่?”

“พรุ่งนี้”

ไป๋ยี่เฟยพูดพึมพำขึ้นมา”งั้นคุณฝึกซ้อมเถอะ!”

เหลียงยู่กะพริบตา”ทำไมต้องฝึกซ้อมอีกล่ะ?”

“ให้ฟรีๆ ไม่เอาก็เสียเปล่าสิ”ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ใช่คนโง่ ในเมื่อมีการฝึกอบรมที่เป็นทางการ แถมยังไม่ได้มีเงื่อนงำอีก แน่นอนต้องไม่พลาดโอกาสดีๆเช่นนี้สิ!

เหลียงยู่ขี้เกียจพูด ลงมือโดยตรง

“บัง!”

ไป๋ยี่เฟยยังไม่ทันได้รู้สึกตัว ก็ถูกเหลียงยู่โยนออกไปอีก

“ว่าแต่……คุณสามารถใช้วิธีฝึกซ้อมที่ละม่อมได้ไหม?”

เขากลัวว่าทนไม่ถึงผู้หญิงคนนั้นมา ก็ถูกเหลียงยู่โยนจนตายเสียก่อน

เหลียงยู่ส่ายหน้า”อาจารย์ฉันบอกแล้ว อยากจะมีร่างกายที่แข็งแรง ก็ต้องทนล้มได้”

แม่ง นี่มันคือเหตุอะไรเนี่ย?

ไป๋ยี่เฟยยังคิดไม่เข้าใจ เหลียงยู่ก็เดินมา และใช้แรงอีกครั้ง โยนไป๋ยี่เฟยออกไปอีก

“ป้าง!”

“บัง!”

“บูม!”

เวลาทั้งวัน ไป๋ยี่เฟยถูกโยนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่แรกเริ่มที่เจ็บปวดจนทนไม่ไหว จนถึงในที่สุด ชาไปโดยตรงเลย

……

ณ เวลาสิบโมงเช้า เปิดการประชุมผู้บริหารระดับสูงโดยตรงเวลา

ภายในห้องประชุม ทุกคนล้วนรู้ว่า วันนี้มีตำแหน่งสำคัญสองตำแหน่งเปลี่ยนคน หนึ่งเป็นผู้จัดการของฝ่ายบุคคล อีกตำแหน่งหนึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ของพวกเขา

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเมื่อวานตอนบ่ายก็มาแล้ว ดังนั้นทุกคนล้วนรู้จักแล้ว มีแต่ผู้จัดการใหญ่คนนี้ เพิ่งมาวันนี้

“ไม่ทราบว่าผู้จัดการใหญ่เป็นคนแบบไหน?ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง งั้นบริษัทก็เจ๋งแน่”

“ได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิง”

“อะไรนะ?ผู้หญิง?ผู้หญิงมาเป็นผู้จัดการใหญ่?มีประสบการณ์ไหม?”

“ไม่รู้สิ!”

ทุกคนซุบซิบกัน มีแค่หนิวจินเป็นคนเดียวที่มีสติอยู่ เพราะว่าเขาเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนของผู้จัดการใหญ่ แถมยังเป็นตัวตนที่แท้จริงที่สุด

เป็นตั้งภรรยาของประธานโหวจวี๋กรุ๊ป!

แต่เสียดาย เขาพูดออกมาไม่ได้

หวังเทาในฐานะที่เป็นรองประธานของบริษัทก็นั่งอยู่บนตำแหน่งของตัวเอง อยู่ที่ข้างๆของหลี่เสว่ เขาก็รู้สึกแปลกใจ”ฉันรู้สึกว่า ผู้จัดการใหญ่คนใหม่มา ต้องแสดงอำนาจบารมีแน่นอน เดี๋ยวทุกคนทำตัวให้ดีๆหน่อยนะ อย่าให้เธอจับโอกาสได้”

พอพูดเสร็จ ทุกคนล้วนพยักหน้าเห็นด้วย คำโบราณที่ว่าขี้ใหม่หมาหอม มันมีเหตุผลอยู่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset