ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 431

บทที่ 431

เฝิงหย่งก้างมีความกลัวเล็กน้อย แม้แต่คุณชายของตระกูลฉุงล้วนกล้าฆ่า ดังนั้นตระกูลเย่ที่เป็นตระกูลใหญ่ทั้งสี่เหมือนกัน ไป๋ยี่เฟยก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกเช่นกัน หากเป็นเช่นนี้มา เขาเป็นเหี้ยอะไรล่ะ!

“ท่านประธานกรรมการไป๋ พูดก็พูดเถอะ แต่ว่าดีเลวล้วนทำมาหาเลี้ยงชีพให้รอดไปวันๆในวงการธุรกิจอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องกำจัดให้สิ้นซากขนาดนี้ล่ะ?” ถึงเฝิงหย่งก้างจะยอมแพ้ขนาดไหน แต่หน้าก็ยังต้องรักษาไว้ล่ะ

ไป๋ยี่เฟยหัวเราะเย็นชา จากนั้นดุด่าอย่างเสียงดังหนึ่งที “แม่มึงเอ่ยงั้นมึงยังกล้าเตะต้องภรรยาของกูหรือ?”

เฝิงหย่งก้างสั่นระริก ตกใจไม่เบา ตอนนี้คือเสียใจภายหลังจนแทบตายแล้ว ถ้าหากรู้มาก่อนว่าไป๋ยี่เฟยยังจะกลับมา เขาไม่ว่ายังไงก็จะไม่กล้าเตะต้องหลี่เสว่เช่นกันล่ะ!

นึกถึงเมื่อคืนถูกไป๋ยี่เฟยตบหน้าไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกบนใบหน้าล้วนร้อนผ่าวอยู่ ในทันทีนั้น เฝิงหย่งก้างไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีแล้ว

ไป๋ยี่เฟย ฮึ เสียงเบาๆหนึ่งที “กูกล่าวเตือนมึง แตะต้องกูได้ แตะต้องภรรยากู งั้นก็รอโดนกูแกล้งเถอะ!”

เฝิงหย่งก้างยิ้มแห้งๆ ไม่ตอบ ในใจคิดไว้ว่า ไป๋ยี่เฟยมีความกล้าหาญอย่างแท้จริง ก็แหย่ไม่ง่ายเช่นกัน เขาก็หวาดกลัวจริงๆด้วย แต่ในที่สุดก็ยังรู้สึกว่าตระกูลเย่แข็งแกร่งกว่าไป๋ยี่เฟย ถึงยังไงนั่นก็เป็นตระกูลใหญ่แห่งหนึ่ง

“ไป๋ยี่เฟย กูล้วนให้สีหน้าดีๆกับมึงแล้ว มึงยังอยากจะเอายังไงหรือ?” เฝิงหย่งก้างนึกถึงจุดนี้แล้วก็ไม่กลัวเลย

“มึงคือเก่งมาก แต่กูก็ไม่เชื่อว่า มึงยังจะสามารถเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลเย่ได้ล่ะ?”

ไป๋ยี่เฟยเหยียดหยาม “ได้สิ งั้นมึงโทรหาเย่ฮวนตอนนี้เดี๋ยวนี้ กูจะดูว่า เขาปกป้องมึงหรือว่าจะพยายามไกล่เกลี่ยให้คู่กรณียุติข้อพิพาทซึ่งกันและกันล่ะ?”

“โทรก็โทร กลัวมึงหรือ!” เฝิงหย่งก้างพูดจบอย่างโอหัง หยิบมือถือขึ้นมาทันที โทรหาเย่ฮวน

ในใจเขามั่นใจในตนเองอย่างมาก เย่ฮวนเป็นลูกเขยของเขา อีกไม่นานลูกสาวของเขาก็จะจัดงานแต่งงานกับเย่ฮวนแล้ว อีกทั้งเป็นทายาทของตระกูลเย่ด้วย ยังจะกลัวไป๋ยี่เฟยคนนี้หรือ?

ผ่านไปไม่นาน สายติดแล้ว

“ฮัลโหล่ ลูกเขยหรือ!”

เฝิงหย่งก้างเปิดลำโพงออกอย่างไม่กลัวสักนิด

“พ่อตา มีเรื่องอะไรหรือ?”

เฝิงหย่งก้างแหกคอร้องบอกว่า “ลูกเขยอ่า นี่ผมเพิ่งจะได้รับทำโรงงานเครื่องประดับแห่งหนึ่งไม่ใช่หรือ? แต่ว่ามีคนพามาเฟียเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมาทุบโรงงาน แทบจะทำให้ผมโมโหจนตายจริงๆ เลย!”

“คนคนนั้นยังโอหังเป็นพิเศษ ไม่ได้เอาลูกเขยอย่างคุณวางไว้อยู่ในสายตาสักนิด ผมไม่มีวิธีใดจริงๆจึงโทรหาคุณ”

เย่ฮวนฟังแล้วน้ำเสียงเย็นชาลงทันที “ความกล้าหาญนี้ใครให้เขาล่ะ แม้แต่ตระกูลเย่ก็ยังกล้าล่วงเกินเช่นกันหรือ?”

“ใช่สิ ผมก็ว่าอยู่ แม่มึงเอ่ยโอหังเหลือเกิน ยังพูดว่าตระกูลฉุงตระกูลเย่ล้วนไม่กล้าแตะต้องเขาด้วย!” เฝิงหย่งก้างพูดอย่างโมโห

เย่ฮวนถามเสียงเย็นชาว่า “ใครหรือ?”

“ไป๋ยี่เฟย! ก็คือประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปคนนั้น!” เฝิงหย่งก้างพูดอย่างเหยียดหยาม

เสียงจบลง ในโทรศัพท์ฝั่งโน้นเงียบไปเลย

ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเฝิงหย่งก้างหัวเราะเย็นชา

เฝิงหย่งก้างรอไปสักพัก กำลังสงสัยงงงวยว่าเย่ฮวนทำไมไม่พูด เย่ฮวนก็ส่งเสียงมาเลย “คือเขาทุบโรงงานของคุณหรือ?”

“ใช่สิ ตอนนี้ยังทุบอยู่ เรียกยังไงก็ไม่ฟัง! แม่มึงเอ่ย!” เฝิงหย่งก้างจ้องมองโรงงานที่ถูกทุบมาพอสมควรหนึ่งทีโมโหอย่างมาก เครื่องจักรกับอัญมณีมากมายขนาดนี้ ทุบหมดเลย!

น้ำเสียงของเย่ฮวนยิ่งเย็นชากว่าก่อนหน้านั้น แต่เพิ่มความหวาดกลัวเล็กน้อย “ให้เขาทุบ เงินที่ขาดทุนไปผมชดเชยให้คุณ ทำให้เขาออกไป”

“อ่า?” เฝิงหย่งก้างอึ้งชะงัก ดูเหมือนไม่เข้าใจความหมายของเย่ฮวน

เย่ฮวนพูดอีกรอบหนึ่ง สุดท้ายกำชับว่า “ตอนนี้ดีที่สุดก็คืออย่าไปแส่หาเรื่องเขา”

เฝิงหย่งก้างอึ้งชะงักจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟย ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง พูดเอ่ยปากโดยตรงว่า “ท่านประธานกรรมการเย่ที่แท้กลัวผมขนาดนี้เลยหรือ?”

ในเวลานี้ยามนี้เย่ฮวนแทบอยากจะบีบคอพ่อตาคนนี้ให้ตายใจจะขาด แม่มึงเอ่ยโทรก็โทรเปิดลำโพงทำไมล่ะ?

เฝิงหย่งก้างเห็นสภาพไม่พอใจในทันที “กลัวเหี้ยอะไรหรือ? งั้นคือให้เกียรติมึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับมึง!”

เย่ฮวนกัดฟันเอ่ยปากพูดว่า “ไป๋ยี่เฟย เรื่องของครั้งที่แล้วจบลงเป็นเวลาชั่วคราวแล้ว ผมไม่ได้แส่หาเรื่องคุณ คุณก็อย่ามาแส่หาเรื่องผมเช่นกัน”

“ฮึ! ได้สิ งั้นตอนนี้ผมจะหาคนไปข่มขืนภรรยาคุณเดี๋ยวนี้เลย เรื่องนี้พวกเราก็แล้วกันไปล่ะ” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ

เย่ฮวนอึ้งชะงักเล็กน้อย “หมายความว่าอะไรหรือ?”

ไป๋ยี่เฟยโมโหพูดว่า “แม่มึงเอ่ยคุณถามพ่อตาของคุณ เขาทำอะไรไปล่ะ?”

ในโทรศัพท์เงียบไปสักพัก เฝิงหย่งก้างมีความชอบอะไรเขาก็เข้าใจเช่นกัน รวมกับคำพูดเมื่อกี้ของไป๋ยี่เฟยอีก เขาก็คาดเดาได้แล้ว เฝิงหย่งก้างย่อมต้องทำอะไรกับหลี่เสว่แล้วแน่นอน จึงจะแหย่ไป๋ยี่เฟยจนอารมณ์หุนหันพลันแล่นมาทุบโรงงานขนาดนี้

หลี่เสว่คือเส้นตายของไป๋ยี่เฟย เป็นเกล็ดใต้คอมังกร ใครๆก็แตะต้องไม่ได้เช่นกัน

เฝิงหย่งก้างได้ยินคำพูดนี้โต้ตอบทันที “กูทำอะไรไปล่ะ?”

“ทำอะไรไปหรือ?” ไป๋ยี่เฟยนึกถึงเรื่องนี้ล้วนโมโห ทนไม่ได้เตะไปหนึ่งที

“อ่า!” เฝิงหย่งก้างล้มลงอยู่ที่พื้นโดยตรง ร้องน่าเวทนาต่อๆกัน

ผู้จัดการใหญ่คนอื่นๆเห็นสภาพยังไม่เข้าใจว่าเฝิงหย่งก้างทำอะไรไป แต่เห็นไป๋ยี่เฟยแม้แต่เย่ฮวนก็ไม่กลัว ล้วนหวาดกลัวขึ้นมาทันที ยื่นอยู่ไกลๆ ไม่กล้าพูดคุย

ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป หยิบมือถือที่อยู่ในมือของเฝิงหย่งก้างขึ้นมา ทั้งยกเท้าเหยียบอยู่ที่บนท้องของเฝิงหย่งก้าง ด้วย “แม่มึงเอ่ย แม้แต่ภรรยาของกูมึงก็อยากจะนอนด้วย ยังบอกว่ามึงไม่ได้ทำอะไรหรือ?”

“ถ้าไม่ใช่เมื่อคืนกูจะต้องปลอบขวัญภรรยาของกู แม่มึงเอ่ย กูทำให้น้องชายของมึงพิการตั้งนานแล้ว!”

เฝิงหย่งก้างร้องน่าเวทนาหนึ่งทีอีกครั้ง เพราะว่าใต้เท้าของไป๋ยี่เฟยเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เหยียบเฝิงหย่งก้างอย่างรุนแรง

เมื่อกี้เฝิงหย่งก้างจำได้แค่ว่าจะสั่งสอนไป๋ยี่เฟยสักหน่อย ลืมเรื่องที่ทำกับหลี่เสว่เมื่อวานไปหมดเลย เขาแค่จำได้ว่าไป๋ยี่เฟยตบตีเขา ทุบโรงงานของเขา

ตอนนี้เขานึกขึ้นได้แล้ว แต่เขาไม่สำนึกแก้ไขสักนิด “แม่มึงเอ่ย กูยังทำไม่สำเร็จ…….”

ไป๋ยี่เฟยยกเท้า เหยียบลงไปอย่างรุนแรง “หุบปากไว้เถอะ!”

แม้เพียงคำพูดคำเดียวที่เหยียดหยามหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยล้วนไม่อยากจะฟัง

ในที่สุดเย่ฮวนที่อยู่ในโทรศัพท์ก็เอ่ยปากแล้ว “ไป๋ยี่เฟย ความโมโหคุณก็ระบายไปแล้ว โรงงานก็ทุบไปแล้วล่ะ สามารถปล่อยพ่อตาของผมไปแล้วล่ะ? ไม่งั้นผมยากที่จะอธิบายกับคู่หมั้นของผม”

“เกี่ยวอะไรกับผมด้วยล่ะ?” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา

เย่ฮวนกลัวว่าไป๋ยี่เฟยจะทำเรื่องที่เกินความรุนแรงไปอย่างมาก พูดทันทีว่า “ไป๋ยี่เฟยเรื่องนี้คือพ่อตาของผมไม่ถูก คุณพูดเถอะว่า คุณอยากจะให้ชดเชยอะไร ผมล้วนให้คุณได้ ถือว่าชดเชยความผิดให้คุณ”

“ชดเชยเหี้ยอะไร กูไม่สน!”

พูดจบ ไป๋ยี่เฟยวางสายโดยตรง

“เห็นหรือยัง แม้แต่เย่ฮวนก็ช่วยมึงไม่ได้!” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา

คราวนี้เฝิงหย่งก้างกลัวแล้วจริงๆ “ท่านประธานกรรมการไป๋ ท่าน…….อย่าโมโห ท่านอยากจะตบตี ตบตีต่อ ผมจะไม่โต้กลับอย่างเด็ดขาด ยังหวังว่าจะยั้งมือไว้ไมตรี…….”

“โรงงานอย่างนี้ของคุณยังจะเปิดต่อไปอีกหรือ? ฝันไปเถอะ!” ขณะที่พูด ไป๋ยี่เฟยถามไอ้หัวล้านหลิวอีกว่า “ทุบหมดหรือยัง?”

“ทุบหมดแล้ว ไม่มีชิ้นดีสักนิด”

เมื่อกี้ไอ้หัวล้านหลิวตื่นตะลึงกับความกล้าหาญของคนที่เรียกว่า เฝิงหย่งก้างคนนี้ ใครจะไม่รู้ว่าระดับการแคร์ภรรยาตนเองของไป๋ยี่เฟยหรือ? ถึงขนาดยังจะไปนอนกับภรรยาเขาด้วย!

และผู้จัดการใหญ่อื่นๆหลายคนนั้นมากน้อยล้วนรู้ความชอบของเฝิงหย่งก้าง แต่ใครก็นึกไม่ถึงว่าเขาถึงขนาดลงมือกับภรรยาของไป๋ยี่เฟย

ดูจากคำพูดเมื่อกี้อีก แม้แต่เย่ฮวนก็ไม่อยากไปแส่หาเรื่องกับไป๋ยี่เฟย ดังนั้นคราวนี้เฝิงหย่งก้างคือเตะแผ่นเหล็กแล้ว ยากที่จะจัดการได้!

ขณะที่คิด ผู้จัดการใหญ่หลายท่าน ต่างคนต่างมองกัน ล้วนมองเห็นนัยน์ตาของกันและกันเหมือนมีความหมายจะยกเลิกการร่วมงาน แต่ทุกคนล้วนรู้อยู่แก่ใจโดยไม่ต้องอธิบายออกมา

ไป๋ยี่เฟยระบายความโมโหจบ เรียกไอ้หัวล้านหลิว “ไปได้แล้ว”

ร้อยกว่าคน ฮูลาลา เดินออกไป

ผู้จัดการใหญ่หลายท่านเห็นสภาพต่างคนต่างทักทายตามธรรมเนียมไม่กี่คำ ก็ไปแล้วเช่นกัน

แต่พนักงานเหล่านั้น ล้วนอยู่ในมุม คำพูดเมื่อกี้ทุกคนก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เช่นกัน แต่รู้ว่าย่อมต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วง

เป็นพนักงานระดับล่าง สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงเพียงแค่เงินเดือนของตนเอง พวกเขาเพียงอยากจะเลี้ยงดูตนเองกับครอบครัวของตนเองให้รอด ดังนั้นเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา สิ่งที่พวกเขายิ่งเป็นห่วงก็คือ งานชิ้นนี้จะไม่ได้ทำแล้วใช่หรือไม่?

กว่าเฝิงหย่งก้างจะลุกขึ้นมาได้ หลังจากมองเห็นพนักงานที่อยู่รอบๆ โมโหร้องว่า “มองอะไรล่ะ ไสหัวออกไปให้หมด!”

พวกพนักงานเห็นสภาพ วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เฝิงหย่งก้างทั้งด่าทั้งบ่นอยู่ ในใจไม่สมัครใจ แต่ก็ไม่กล้าไปหาไป๋ยี่เฟยเช่นกัน

“แม่มึงเอ่ย! ซวยจริงๆ!”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset