ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 973 ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว

หลี่เสว่พูดถูก แต่ว่าในใจของเขารู้สึกผิดมากจริงๆ

ไม่เพียงแต่รู้สึกผิดต่อหลิวเสี่ยวอิง ยังรู้สึกผิดต่อหลี่เสว่อีกด้วย

……

เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋ยี่เฟยแต่งตัวเสร็จก็ออกจากบ้านไป

หยุนอิงที่พึ่งตื่น บังเอิญเห็นไป๋ยี่เฟยออกจากบ้านไป เธอยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตา แต่เธอกลับเดินตามไป๋ยี่เฟยออกไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ไป๋ยี่เฟยตรงไปที่โรงแรมเทียนเป่ย

ไป๋ยี่เฟยขับรถไป มองดูหยุนอิงที่อยู่เบาะหลัง“ผมว่า คุณไม่ไปนอนดีๆ ตามผมมาทำไม?”

“แน่นอนว่าตามมาเที่ยวเล่นกับคุณไง!”หยุนอิงเกาะอยู่เบาะหลัง“ฉันอยู่ที่คฤหาสน์น่าเบื่อจะตาย!”

ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างรังเกียจ“คุณจะออกจากบ้านผมไม่มีความเห็น แต่คุณจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนได้ไหม?เป็นถึงผู้หญิง หน้าไม่ล้าง ฟันไม่แปลง ยังใส่รองเท้าแตะออกมาอีก คุณไม่อายเหรอ?”

หยุนอิงเปลี่ยนสีหน้าทันที เธอถลึงตาท้ายทอยของไป๋ยี่เฟยแล้วพูดว่า“ฉันจะเป็นยังไงมันเรื่องอะไรของคุณห้ะ!ขับรถของคุณไปเถอะ!”

“ผมไม่ใช่คนขับรถของคุณ!”ไป๋ยี่เฟยทำเสียงหึแล้วพูดว่า“อย่าบังอาจสั่งผมนะ!”

……

ที่ไป๋ยี่เฟยเดินทางมาที่โรงแรมเทียนเป่ยเป็นเพราะจะมาพบพ่อแม่ของหลิวเสี่ยวอิง

พ่อแม่ของหลิวเสี่ยวอิงมาร่วมงานกับเฟยเสว่กรุ๊ปในนามของบริษัท หวังโหลวบอกว่าพวกเขาจัดห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทของโรงแรมเทียนเป่ยไว้ให้

หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยลงจากรถก็ไม่ได้สนใจหยุนอิง แต่เดินตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุด

หยุนอิงเดินตามอย่างเหนียวแน่น

ในลิฟต์ ไป๋ยี่เฟยยืนชิดอยู่ด้านซ้าย หยุนอิงอยู่ด้านขวา แกทั้งเพราะว่าเธอเป็นคนเข้ามาทีหลัง ตำแหน่งจึงอยู่ข้างหน้า เท่ากับว่าหันหลังให้กับไป๋ยี่เฟย

ไป๋ยี่เฟยจึงจ้องแผ่นหลังของหยุนอิงแล้วครุ่นคิด:จุดอ่อนของเธออยู่ที่ไหนกันนะ?

ไม่ใช่ลำคอ และไม่ใช่ขมับเหมือนกัน มันอยู่ไหนกันนะ?

สายตาของไป๋ยี่เฟยมองประเมินร่างกายของหยุนอิง เห็นเอวเล็กคอดของเธอ ก็ครุ่นคิดในใจว่า:ไม่ได้อยู่ที่เอวหรอกมั้ง?

จากนั้นไป๋ยี่เฟยจึงจับจ้องไปที่เอวของเธอ ในขณะเดียวกัน มือของเขาก็แอบรวบรวมพลัง

แต่ในเวลานี้เอง เสียงดัง“ติ้ง” ลิฟต์มาถึงแล้ว

วินาทีต่อมา ไป๋ยี่เฟยถูกหยุนอิงถีบออกจากลิฟต์

หยุนอิงเดินออกมา ชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยแล้วด่ากราดว่า“ไป๋ยี่เฟย อย่างแม่งคิดว่าเรามีความสัมพันธ์ร่วมมือกันอยู่ แล้วฉันจะไม่กล้าฆ่าคุณนะ คราวหน้าแม่งลองดูอีกครั้งสิ ฉันฆ่าคุณแน่!”

ไป๋ยี่เฟยยืนยืดตัวตรง ไม่พูดอะไร เพียงแต่รู้สึกเสียดายในใจเล็กน้อย ตกลงหมิงเหมินของผู้หญิงคนนี้อยู่ไหนกันแน่?

……

ไป๋ยี่เฟยมาถึงห้องพักของพ่อแม่หลิวเสี่ยวอิง เขาเคาะประตู

ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนมาเปิดประตู

หลังจากที่เขาเห็นคนที่มาเปิดประตู ก็ทำให้เขาถึงกับผงะไปเลย

เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา คือหลิวเสี่ยวอิง

หลิวเสี่ยวอิงผอมลงกว่าตอนที่เขาออกจากหลันเต่ามาก สีหน้าก็ซีดเซียวเล็กน้อย ดูไปแล้วเหมือนช่วงนี้จะใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขเท่าไรนัก

หลังจากที่หลิวเสี่ยวอิงเห็นไป๋ยี่เฟย เธอถึงกับตกตะลึง

ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงของอู๋หยุนดังลอดเข้ามาจากในห้อง“เสี่ยวอิง ใครเหรอ?”

หลิวเสี่ยวอิงได้สติกลับมา เธอพูดอย่างเรียบเฉยว่า“เคาะประตูผิดน่ะค่ะ”

หลังจากที่พูดจบเธอก็กำลังจะปิดประตู

ไป๋ยี่เฟยรู้สึกกระวนกระวาย เขารีบใช้มือกดไปที่ประตูที่กำลังจะปิดลง“เสี่ยวอิง”

สีหน้าท่าทางของหลิวเสี่ยวอิงรู้สับสับสนวุ่นวายขึ้นมา เธอก้มศีรษะ ไม่กล้ามองสบตาไป๋ยี่เฟย“ขอโทษนะคะ คุณจำคนผิดแล้วค่ะ”

พอได้ยินประโยคนี้แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที เขาใช้แรงที่มือ ผลักประตูออกไปอย่างแรง จ้องมองไปที่หลิวเสี่ยวอิงอย่างตาไม่กะพริบ“คุณเป็นอะไรกันแน่?พูดกับผมดีๆไม่ได้เหรอ?”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”

พึ่งพูดจบ อู๋หยุนผู้ซึ่งเป็นแม่ของหลิวเสี่ยวอิงก็เดินมา

หลังจากที่อู๋หยุนเห็นไป๋ยี่เฟยแล้ว สีหน้าของเธอก็ขรึมทันที เธอชี้พลางด่ากราดไปที่ไป๋ยี่เฟย“เป็นแกได้ยังไง?แกยังกล้ากลับมาหาเสี่ยวอิงอีกเหรอ?ไอ้คนหน้าด้านไม่รู้จักอาย ตัวเองมีลูกมีเมียแล้ว ยังมีหน้ามายุ่งกับเสี่ยวอิงของพวกเราอีก?”

“รีบไสหัวไปเลยนะ!”

อู๋หยุนที่พูดไปด้วยจะปิดประตูไปด้วย

ไป๋ยี่เฟยกลับกดประตูห้องพักไว้ไม่ปล่อย เขาพูดอย่างจริงจังว่า“คุณป้าครับ ขอไม่พูดเรื่องพวกนี้ก่อนนะครับ ตอนนี้ผมแค่อยากรู้ว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ตกลงในใจของเสี่ยวอิงคิดยังไงกันแน่?”

อู๋หยุนกลับไม่สนใจคำพูดของไป๋ยี่เฟย ได้เพียงแต่พยายามไล่เขาออกไป“แกรีบไสหัวไปซะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

แต่แรงของไป๋ยี่เฟยเยอะมาก อู๋หยุนไม่สามารถผลักไสเขาออกไปได้ เธอจึงยกมือขึ้นอย่างไม่รู้ตัว อยากจะตบตีไป๋ยี่เฟย แต่มือของเธอหยุดกลางอากาศ นึกถึงภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลันเต่า จึงวางมือลง

เธอถลึงตามองไปที่ไป๋ยี่เฟย“ตกลงแกจะไปไหม?ถ้าไม่รีบไปฉันจะแจ้งความเดี๋ยวนี้แหละ!”

ไป๋ยี่เฟยอ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เวลานี้ หลิวเสี่ยวอิงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“พอแล้ว!”

ไป๋ยี่เฟยกับอู๋หยุนที่กำลังฉุดกระชากกันอยู่หยุดลงในทันที

หลิวเสี่ยวอิงเงยหน้ามองไป๋ยี่เฟย ด้วยสายตาที่เย็นชา เธอพูดด้วยนัยน์ตาของเธอไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย“ไป๋ยี่เฟย คุณไปเถอะ”

“นับจากวันนี้ไป เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว ถือซะว่าไม่เคยรู้จักฉันแล้วกัน”

สมองของไป๋ยี่เฟยเสียงดังวิ้ง จากนั้นก็ว่างเปล่าในทันที

แรงที่มือของเขาตกลงมาในทันที

ต่อมา เสียงของประตูก็ถูกปิดดังปั้ง ทำให้เขาถูกทิ้งไว้ข้างนอกโดยปริยาย

ไป๋ยี่เฟยมองประตูที่อยู่ด้านหน้า ตกตะลึงอยู่นาน ความอารมณ์ความรู้สึกของเขาทั้งหนักหน่วงและซับซ้อน

ตรงมุมของกำแพงที่อยู่ไม่ไกล หยุนอิงพิงอยู่ตรงนั้นดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอยังถามอย่างติดตลกว่า“ให้ฉันช่วยไหม?”

“ไม่จำเป็น”ไป๋ยี่เฟยหันหลังไป เดินไปด้วยพลางตอบกลับอย่างเฉยเมย

ปฏิกิริยาของหลิวเสี่ยวอิงในวันนี้ ไป๋ยี่เฟยไม่เคยคาดถึงมาก่อน

เขาหวนนึกถึงอดีตที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา นึกถึงเรื่องที่เธอเคยช่วยเขาขวางลูกเตะจากหงจุนในตอนนั้น จนทำให้เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

ยังนึกถึงเธอต้องทนทุกข์กับความรักที่ไม่สมหวัง ต้องแบกรับความเจ็บปวดรวดร้าวทุกอย่าง

หัวใจของไป๋ยี่เฟยรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย

เขาเดินมาที่ลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดพอดี

แต่แล้วในลิฟต์มีคนเดินออกมาสองคน

คนหนึ่งสวมชุดสูท เป็นชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตากรอบสี่เหลี่ยม อีกคนหนึ่งก็คือพานปู้ถิง

พานปู้ถิงยืนมือออกไปขวางประตูลิฟต์ไว้ อย่างประจบประแจงชายวัยกลาง เขาให้ชายวัยกลางคนเดินออกจากลิฟต์ก่อน

เพียงแต่ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นไป๋ยี่เฟย ร่างกายของเขาก็อดตกตะลึงไปไม่ได้ ใบหน้าเยินยอประจบประแจงของเขาหายไปในทันที เขายืนตัวตรงแล้วชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยแล้วถามเสียงดัง“ไป๋ยี่เฟย?นายมาทำอะไรที่นี่?”

ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจพานปู้ถิง แต่จ้องมองไปที่ชายวัยกลางคน

หลังจากที่ชายวัยกลางคนได้ยินพานปู้ถิงพูด สีหน้าของเขาก็ตึงเครียด แล้วมองไปที่ไป๋ยี่เฟย เขาถามด้วยเสียงขรึมว่า“นายคือไป๋ยี่เฟยใช่ไหม?”

เวลานี้เอง ไป๋ยี่เฟยเองก็คาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้ในทันที เขาจึงพยักหน้ายอมรับแล้วพูดทักทาย“สวัสดีครับคุณลุง”

สีหน้าของชายวัยกลางคนเคร่งขรึม เขาทำเสียงหึเบาๆแล้วพูดว่า“ถ้านายเป็นคนอื่น นายคงตายไปนานแล้ว”

ชายวัยกลางคนที่ผู้รับผิดชอบที่บริษัทเป็นคนส่งมาที่เมืองเทียนเป่ยให้มาทำความร่วมมือกับเฟยเสว่กรุ๊ป และเถ้าแก่ตัวจริงของเฟยเสว่กรุ๊ปก็คือไป๋ยี่เฟยนั่นเอง การร่วมมือนี้ต้องดำเนินการต่อไป แน่นอนว่าเขาไม่สามารถขัดแย้งกับไป๋ยี่เฟยได้

คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ก็คือหลิวโก๋จงผู้ซึ่งเป็นพ่อของหลิวเสี่ยวอิง

แต่พอหลิวโก๋จงพูดออกมาแบบนั้น จู่ๆหยุนอิงที่อยู่ด้านหลังของไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะพลางพูดขึ้นมาว่า“เกรงว่าคุณจะทำไม่ได้!”

แต่แล้วหลิวโก๋จงไม่ได้ใส่ใจหยุนอิง เขาได้เพียงแต่จ้องมองไป๋ยี่เฟยแล้วพูดอย่างเย็นชา“ห้ามนายเกาะแกะกับลูกสาวฉันอีก ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”

หลังจากพูดจบ หลิวโก๋จงก็เดินตรงไปข้างหน้าทันที

พานปู้ถิงที่อยู่ข้างๆรีบเดินตามไป แต่ในตอนที่เขาเดินมาถึงข้างไป๋ยี่เฟย เขาก็หัวเราะไป๋ยี่เฟยอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า“ยังดีที่ฉันเคยสืบเรื่องนายมาแล้ว รู้ว่านายมีลูกมีเมียแล้ว”

“ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เสี่ยวอิงอาจจะถูกนายหลอกลวงทำร้ายจิตใจ!”

เขาไม่เพียงแต่พูดให้ไป๋ยี่เฟยฟัง ยังพูดให้หลิวโก๋จงฟังด้วย เขาพูดต่ออีกว่า“นายหาคนข่มขู่ฉันแล้วยังไงล่ะ?เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันต้องบอกคุณลุงคุณป้าอยู่แล้ว นายคิดเหรอว่าฉันจะกลัวนาย?”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset