บทที่ 104คุณก็มีวันแบบนี้ด้วยหรือ?
“แก! ฉินฝู้กุ้ย เเกพูดมั่ว! ฉันไม่ได้ทำ!”ซูนเหิงเล่นลิ้นทานที เขาไม่ยอมชื่อเสียที่ร้ายไม่ดีขนาดนี่อยู่บนหัวของเขา
“จุ๊ๆ หน้าซื่อใจคด ในลับหลังเป็นคนแบบนี้เองเหรอ”
“ยังจะเล่นลิ้นอีก ถ้าแกไม่ได้ทำให้เจ้านายฉินโกรธ คุณเจ้านายฉินทำไมต้องตีแกแบบนี้ ทั้งๆที่จะทำให้ตระกูลซูนขุ่นเคือง?”
ซูนเหิงยิ่งอธิบายยิ่งแย่ ภาพลักษณ์นี้ที่แย่แบบนี้แก้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คือพวกสื่อที่ดังๆมากเผยแพร่ และเมืองชิงหยูนทั้งเมืองก็จะรู้เรื่อง “รุ่งโรจน์”ของเขา!
ซูนเหิงและจางจี้หนิงมองไปทางรอบๆ เห็นผู้ดูหลายคนมองด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาก็อยากจะฝังหัวของพวกเขาในดินทันทีเลย
“หลินอิ่ง! แกยังกล้ามาดูที่นี่อีก?แกยังกล้าหัวเราะอีก?” ในทันใดซูนเหิงก็เห็นหลินอิ่งที่อยู่ในฝูงชนและมองตัวเขาด้วยสายตาเย็นช้า ไอ้ขยะนี้รนหาที่ตายจริงๆ!
“หลินอิ่ง แกกล้าที่จะหัวเราะอีก? ฉันจะฆ่าแกในเวลาที่ไม่นานต่อมา และฆ่าครอบครัวเเกและครอบครัวของจางฉีโม่! ไอ้ขยะ แกมาเร็วๆสิ คุกเข่าทันที!” จางจี้หนิงโกรธแบบหมดปัญญาและเมื่อที่เห็นหลินอิ่งก็ระบายความโกรธใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง คุกคามและด่าอย่างไม่หยุด
รนหาที่ตายจริงๆ ไอ้ขยะหนึ่งก็ยังกล้ามาดูพวกเขาหน้าหาย?
คู่สมรสซูนเหิงจ้องมองไปที่หลินอิ่งอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าในหมู่ผู้ชม พวกเขาทำได้เพียงแยกหลินอิ่งออกมาเพื่อคุกคาม และพวกเขาเตรียมจะเอาหน้าคืนมาหน่อย
หลินอิ่งมองไปที่ทั้งสองด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
บัง!
บัง!
ทันทีที่คู่สมรสซูนเหิงพูดจบ ฉินฝู้กุ้ยก็ตบหน้าสองครั้งของพวกเขา เขาตบมันจนจะจบและตบไปประมาณสองนาทีเต็มถึงจะปล่อย ปากของพวกเขาก็บวม
“แกทั้งสองคนยังกล้าข่มขู่แขกของฉันที่นี่อีก! แกรู้ไหมว่าแขกของฉินหยุนโล๋คือพ่อแม่ของฉัน คือพระเจ้า!”ฉินฝู้กุ้ยกล่าวอย่างจริงจัง “ทุกคนครับ ขอให้แค่พวกคุณมีค่าใช้จ่ายในฉินหยุนโล๋ของผม ก็ไม่มีใครกล้าคุกคามพวกคุณ ถ้าซูนเหิงอยากจะเล่นลูกไม้ พวกคุณก็ตบเขาได้เลย ถ้ามีเรื่อง อะไร ผมจะรับผิดชอบเอง!”
หลังจากพูดจบ ฉินฝู้กุ้ยก็หยิบสัญญาที่หนาๆ และโยนไปที่หน้าซูนเหิงและพูดอย่างเย็นชา ว่า “อย่าพูดว่าฉันปรักปรำแก นี่คือบันทึกทั้งหมดที่แกใช้อะไรกินอะไรอยู่ที่ฉัน! มีลายเซ็นของแกอยู่ด้วย!”
“แกนี้วางแผนหลอกให้ฉัน!” ใบหน้าของซูนเหิงซีด ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมมือทางธุรกิจกับฉินฝู้กุ้ย เคยเซ็นสัญญาและทิ้งลายเซ็น นี่เป็นการวางแผนหลอกจริงๆ!
“ฉันวางแผนหลอกให้แก?”ฉินฝู้กุ้ยพูดด้วยสีหน้าขี้เล่น “ฉันมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าแกมีประวัติการกินฟรีและเล่นสาวฟรีในฉินหยุนโล๋หลายปีที่ผ่านมา คุณแขกทุกคนครับ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณสนใจที่จะชื่นชมหนังตัวจริงของคุณชายซูนหรือเปล่าครับ ผมมีหนังหลายหนังเลย! แต่ว่า เขาเป็นแค่ไม้จิ้มฟันอันเล็กๆ ผมกลัวว่ามันจะเปื้อนตาแขกทุกคน ฮ่าๆ !”
เมื่อฉินฝู้กุ้ยกล่าวคำพูดที่อันธพาล คนดูทั้งหมดก็หัวเราะและชี้ไปที่คู่สมรสซูนเหิง
ใบหน้าของซูนเหิงแดงด้วยความอายและซีด เขามาเล่นสาวบ่อยๆที่ฉินหยุนโล๋ก็จริง แต่เขาไม่ได้คิดว่า ความเป็นเรื่องส่วนตัวที่น้อยเนื้อต่ำใจที่สุด ฉินฝู้กุ้ยจะพูดออกมาโดยที่พูดต่อหน้าหลายคน นี่เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้ชายจริงๆ!
“ฉินฟู่กุ้ย แกเลวทรามจริงๆ!เเกนี่กำลังพูดใส่ร้ายฉัน!” ซูนเหิงพูดอย่างไม่สมัครใจ “แกทำเช่นนี้ได้สิ่งดีอะไรต่อแก?”
“ได้สิ่งดีอะไร?ติดเงินก็ต้องคืนเงิน สัจธรรมความถูกต้องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้!”
ในเวลานี้ เจียงฉีสวมชุดสูทสีดำที่ดีและเดินไปหาคู่สมรสซูนเหิงด้วยรอยยิ้ม
“คุณชายซูนครับ เเกไม่เคยคิดเลยป่ะ แกจะมีวันแบบนี้ด้วย?” ในใจของเจียงฉีรู้สึกมีความสุขมาก เขารอวันนี้มานานเกินไปแล้ว!
“เจียงฉี? ทำไมแกอยู่ในฉินหยุนโล๋?”สีหน้าซูนเหิงเต็มไปด้วยความตกใจ มองไปที่เจียงฉีและฉินฝู้กุ้ย สมองของเขาจะระเบิดแล้ว!
มันเป็นไปได้ไง? ทำไมเจียงฉีได้อยู่กับฉินฝู้กุ้ยด้วยกัน? นี่เกิดอะไรขึ้น?
“ไอ้หมาหมวกเขียว แกพูดอะไรอยู่ แกอยากมาดูเรื่องหน้าแตกของฉันหรือ? แกมีคุณวุฒิอะไร?”ซูนเหิงตะโกนอย่างโกรธ หลายปีที่ผ่านมาเขาก็กดดันเจียงฉีอย่างบ้าคลั่ง เขาเลยไม่สนใจเจียงฉี “แกอย่าคิดว่าแกได้อยู่กับฉินฝู้กุ้ยแล้วก็ตามใจชอบต่อหน้าฉันได้? ไม่นานฉันก็จะตีแกกลับเป็นสภาพเดิม!”
“เฮอ ซูนเหิง แกยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้เหรอ?”เจียงฉียิ้มแบบเย็นช้า สีหน้าของเขาเย็นมาก ขึ้นไปก็เตะเขาและทำให้เขาตกบนพื้น พื้นรองเท้าเหยียบย่างบนใบหน้าของซูนเหิงอย่างแรง
เจียงฉีแทบจะใช้แรงทั้งหมดของตัวเอง พื้นรองเท้าเหยียบแรงอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ซูนเหิงอาเจียนเป็นเลือด
“ซูนเหิง แกไม่เคยคิดเลยเนอะ ว่าเมื่อตอนที่แกใช้พื้นรองเท้าเหยียบหน้าฉัน เคยคิดว่ามีวันนี้ไหม?” เจียงฉีพูดอย่างลืมตาอ้าปาก และความตกอับที่สะสมในใจหลายปีได้หมดไป
ในขนาดนี้ เจียงฉีระบายความโกรธที่สะสมหลายปีออกมา ในใจของเขาขอบคุณพระเจ้าประธานหลิน! ถ้าคุณประธานหลินไม่ช่วยเขา ทั้งชีวิตของเขาอาจจะอาศัยอยู่กระวนกระวายของตระกูลซูน และถอดหมวกเขียวที่อยู่บนหัวไม่ได้เลย!
“ฉินฝู้กุ้ย เจียงฉี พวกแกเลวทรามจริงๆ วางแผนหลอกกับฉัน!”ซูนเหิงพูดอย่างโกรธและตกใจ ในใจของเขาอาเจียนเป็นเลือดไม่หยุดเลย หลายสิบล้านที่เมื่อก่อนก็ถูกฉินฝู้กุ้ยกินไป และในตอนนี้ก็ต้องขายหน้าที่ใหญ่ขนาดนี้อีก!
เจียงฉีขำอย่างเย็นช้า ก้มหน้ามองไปที่วูนเหิง กล่าวว่า “คุณชายซูนเอย แกนี่เป็นผู้ดีมักวางมาตรหยิ่งยโส มักจะลือเรื่องในอดีตจริงๆ สิ่งที่ฉันทำก็เรียนมาจากแกไม่ใช่หรือ? ฉันก็แค่เรียนแล้วนำไปใช้ เรียนกับแกแค่นิดเดียว!”
“แกจัดการด้วยแก สั่งคนไปลักพาแม่ฉัน และแขวนฉันอยู่ที่บน30ชั้น!”เจียงฉีพูดอย่างรุนแรง “ตอนนั้น เรื่องที่แกใส่หมวกเขียวให้ฉัน ก็เป็นเรื่องที่แกสั่ง ถ้าเปรียบเทียบกับแกนี่ สิ่งที่ฉันทำ ยังสู้กับแกไม่ได้”
หน้าของซูนเหิงถูกรองเท้าหนังสีดำเหยียบอยู่บนพื้น จ้องตาอย่างรุนแรง เขาคิดว่าสมองของเขาคิดไม่ไหวแล้ว ทำไม? ไอ้หมาเจียงฉี ขี่บนหัวของเขาได้?
ทำไม ฉินฝู้กุ้ยถึงช่วยเจียงฉีได้? ทำไมต้องมาทำร้ายตระกูลซูนอย่างเดียว?
คนใหญ่คนโตที่ช่วยเจียงฉีในหลัง คือใคร?
“เฮอ ถ้าพวกแกมีแรงก็ทำตระกูลซูนให้ตายหมด ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะเอาคืนมาไม่ช้าก็เร็ว! ไอ้หมาหมวกเขียว ทั้งชีวิตของแกก็อยากคิดว่าจะเอาคืนได้!”ซูนเหิงพูดอย่างไม่เต็มใจ
ตาของเจียงฉีเหล่ พูดอย่างรุนแรงว่า “แกยังกล้าจะด่าฉันอีก เชื่อไหม ฉันจะใส่หมวกเขียวให้แกต่อหน้าผู้คนเลย!”
“หา? ไม่เอา! สามีคะ ช่วยฉันด้วย!”จางจี้หนิงกลัวมาก ทั้งตัวสั่นไปหมด และซ่อนหลังอย่างรวดเร็ว
เจียงฉีขำอย่างเย็นช้า ตกไปที่หน้าของจางจี้หนิง ทำให้เธอหมุนตัวและตกอยู่บนพื้น
“แกหนีทำไม ไอ้กะหรี่ดอกทอง คิดว่าฉันจะชอบคนแบบแก?”เจียงฉีพูดเสียงเย็นช้า “ก็ไม่ดูก่อนว่าหน้าตาแกที่เหมือนลิงที่คางแหลม ใช้แป้งหลายสิบชั้น เหมือนผีเลย! แกไปถามพวกแขกว่า แกให้กลับให้คนอื่น มีคนจะเอาแกไหม?”
“ฉินฝู้กุ้ย เชิญพวกเขาขึ้นไปดื่มชา วันนี้ต้องเอาหนึ่งร้อยล้านคืนมา!”เจียงฉีพูดด้วยเสียงที่เย็นช้าและโบกมือ
ดวงตาของคู่สมรสซูนเหิงเต็มไปด้วยความกลัว หลังจากที่ถูกตีที่รุนแรงแล้ว พวกเขาถูกตีโง่แล้ว ผมก็หลวม น้ำตาและน้ำมูกไหลด้วยกัน ทั้งตัวสั่นไปหมด
พวกเขาแค่คิดว่า เจียงฉีกับฉินฝู้กุ้ยเป็นปีศาจหรือเปล่า แกล้งคนแรงขนาดนี้
