ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 371 คุณฉู่ในเตียนหนาน

ได้ยินมาว่า ฮาเดสตบที่หน้าเลี่ยวยุ่นเฟยจนปากบวม บีบคอของเขาแน่น ให้เขาน้ำลายฟูมปาก จนพูดไม่ออก

“ประธานหลิน ควรจะจัดการอย่างไรกับไอ้พวกนี้ดี?”ฮาเดสถาม

“ไม่ต้องให้ถึงตาย สอนพวกเขาให้รู้ว่าควรเคารพผู้อื่นอย่างไรก็พอ”หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย

ฮาเดสพยักหน้า คว้าเลี่ยวยุ่นเฟยมุ่งไปยังแม่น้ำข้างถนนแล้วกดหัวลงไป เพื่อที่จะทำให้เขามีสติ

หลินอิ่งมองไปยังฉู่เสี่ยวฝัน ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ตัวสั่น ตอนนี้ยังไม่คลายจากความตื่นตระหนกตกใจ

“ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องกลัว”หลินอิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม“เสี่ยวฝัน หนูจำเบอร์โทรศัพท์ของพ่อแม่ได้หรือเปล่า?”

“ผม ผมลืมเบอร์โทรศัพท์ของพ่อแม่ของผมแล้ว……”ฉู่เสี่ยวฝันลังเล ท่าทางประหม่ามาก

ติ๊ดๆ

ในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์ของหลินอิ่งดังขึ้น

“ ประธานหลิน ที่คุณให้ผมตรวจสอบบริษัทเฟยเหาในเมืองก่าง ได้ข้อมูลมาแล้ว เจ้าของบริษัทบริษัทเฟยเหาชื่อว่าเลี่ยวจ้งชิว เขายังถือว่ามีอันดับในแวดวงมหาเศรษฐีในเมืองก่าง มีทรัพย์สินนับพันล้าน เป็นหนึ่งในรายชื่อมหาเศรษฐีของเมืองก่าง”อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ คริสพูดด้วยน้ำเสียงที่ถ่อมตน

“ธุรกิจหลักของเลี่ยวจ้งชิวคืออสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม”คริสพูดอย่างเคร่งขรึม“ถึงแม้ว่าลูกน้องจะทำงานอยู่ในลาตินกรุ๊ป แต่ว่ามีอิทธิพลจำกัด ถ้าอยากจะโค่นเลี่ยวจ้งชิวนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา”

ถึงแม้ว่าคริสจะไม่สามารถควบคุมลาตินกรุ๊ปในเมืองก่างได้ ยังไงก็ตามในนามตัวแทนของลาตินกรุ๊ปในเอเชีย ตัวตนนี้สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง และเขาอยู่ในเมืองก่างก็มีอำนาจและทรัพยากร ทุกฝ่ายทุกด้านก็ต้องให้เกียรติเขา

หลินอิ่งกำลังจะพูด เสียงบีบแตรสองครั้ง รถไมบัคสีดำหลายคันขับมาจากระยะไกล เสียงแตรดังขึ้น

เขาวางสายโทรศัพท์ แล้วหันไปมอง

จากรถไมบัคสีดำ มีบอดี้การ์ดชุดดำหลายนายเดินลงมาด้วยท่าทางที่เย็นชา และผู้เฒ่าในชุดสูทที่เหมือนพ่อบ้าน

“คุณชายน้อย ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี้ได้ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ผู้เฒ่าที่สวมชุดสูทเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ดูกังวล จับมือของฉู่เสี่ยวฝัน

“คุณผู้นี้ คุณคือ?”ผู้เฒ่าที่สวมชุดสูทดูระแวดระวัง มองไปที่หลินอิ่งอย่างลังเล

“ลุงฝู เมื่อตะกี้ผมหลงทาง ตอนที่ผมเดินมาถึงที่นี่ก็มีรถกำลังจะชนผม พี่ชายคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตผมไว้”ฉู่เสี่ยวฝันกล่าว

ผู้เฒ่าที่สวมชุดสูทสีดำพยักหน้า ดึงฉู่เสี่ยวฝันไปข้างหลังและมองไปยังหลินอิ่ง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณผู้ชาย ขอบคุณคุณมากที่ช่วยเหลือคุณชายน้อยของเรา รอให้จัดการเรื่องนี้เสร็จ ฉันค่อยมาคุยกับคุณดีๆอีกครั้ง”

พูดจบ ผู้เฒ่าที่สวมชุดสูทสีดำมองไปยังกลุ่มเลี่ยวยุ่นเฟยด้วยใบหน้าที่เย็นชาแล้วโบกมือ

“เอาไอ้พวกโง่ๆที่มาซิ่งรถพวกนี้ จับมันมาให้หมด!”

กลุ่มบอดี้การ์ดที่ลุงฝูพามาก็พุ่งเข้าไปชกต่อยและเตะ พวกอันธพาลที่ถูกต่อยเพียงสองสามครั้งก็ขยับไม่ได้จนน่าสงสาร

ฮาเดสคว้าเลี่ยวยุ่นเฟยที่ถูกชกต่อยเพื่อสั่งสอน เมื่อเห็นอย่างนี้ ก็หยุดลง แล้วหันไปมองหลินอิ่งเพื่อขอความคิดเห็น

หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย “เอาคนพวกนี้ส่งให้พวกเขาจัดการ”

ดูเหมือนว่าภูมิหลังของครอบครัวฉู่เสี่ยวฝันจะไม่ธรรมดา เมื่อคนในบ้านของเขาอยู่ที่นี่แล้ว ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการเองก็แล้วกัน

ฮาเดสเตะเลี่ยวยุ่นเฟยและล้มราวกับหมาที่กินขี้ และล้มอยู่กลางถนนถูกบอดี้การ์ดชุดดำสองคนจับไว้และเริ่มต่อยตีอย่างรุนแรงอีกครั้ง

พ่อบ้านลุงฝูเหลือบไปมองฮาเดสและหลินอิ่ง ด้วยใบหน้าที่น่าสงสัย จากการกระทำของฮาเดส เขาดูออกว่าหลินอิ่งไม่ใช่คนธรรมดา

มองดูลูกคนรวยกลุ่มนี้ หลังจากดื่มเหล้าเมายาในปาร์ตี้แล้วยังมาซิ่งรถกัน ในสถานการณ์แบบนี้จะเบรคอยู่ได้อย่างไร ดูเหมือนว่า คุณชายน้อยจะพบกับผู้มีพระคุณ!

“แม่งเอ้ย พวกนายเป็นคนที่ไหน? พ่อของฉันคือเลี่ยวจ้งชิว! พวกนายอยากตายใช่ไหม?”เลี่ยวยุ่นเฟยคำรามอย่างไม่พอใจ

“ดี! ลูกชายของเลี่ยวจ้งชิว? กล้าที่จะขับรถมาชนลูกชายฉัน?”

รถลินคอล์นคันหนึ่งขับเข้ามา บอดี้การ์ดเปิดประตูรถ ชายวัยกลางคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเดินลงมาจากรถ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

“คุณฉู่”

ทันทีที่ชายวัยกลางมาถึง บอดี้การ์ดชุดดำทั้งหมดก้มหัวด้วยความเคารพทันที

“มัดพวกเขาไว้ให้หมด!”คุณฉู่พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง “โทรไปหาเลี่ยวจ้งชิว เรียกเขามารับคนด้วยตัวเอง!”

หลังจากที่สั่งเสร็จ คุณฉู่พูดอย่างโมโหกับพ่อบ้านลุงฝู “พวกนายไร้ประโยชน์จริงๆ? แม้แต่เสี่ยวฝันก็ยังดูไม่อยู่?”

“ต้องขอโทษคุณฉู่ด้วย เป็นความผิดของผมเอง ที่ทำให้คุณชายน้อยต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้”ลุงงูอธิบายด้วยความละอายใจ

“พ่อ ไม่ต้องโทษลุงฝูแล้ว เป็นผมเองที่ไม่ให้พวกเขาตามมา ผมเพิ่งมาเมืองก่าง เห็นวิวแม่น้ำของที่นี่สวยมาก ก็เลยอยากไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำคนเดียว จากนั้นเดินไปเดินมาก็หลงทางแล้ว”ฉู่เสี่ยวฝันก้มหน้าแล้วพูด

คุณฉู่มองไปที่ฉู่เสี่ยวฝันด้วยสายตาที่รักและเอ็นดู ลูบหัวแล้วพูดว่า นายชอบวิวแม่น้ำ คราวหน้าพ่อพานายไปดู”

หลังจากที่พูดจบ คุณฉู่ก็หันไปมองยังหลินอิ่ง ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณ ฉันชื่อฉู่สงซาน ขอบคุณคุณที่ช่วยลูกชายของผมไว้ ผมติดหนี้บุญคุณคุณ นี่เป็นนามบัตรของผม ถ้าหากว่ามีอะไรต้องการ เชิญโทรหาผมได้ตลอด”

“ถ้าว่าคุณว่าง คืนนี้ไปกินข้าวด้วยกัน”

ในขณะที่พูด ฉู่สงซานยืนนานบัตรให้ด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งคำเชิญชวน

หลินอิ่งรับนำบัตรมาแล้วพูดว่า “ เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องเลี้ยงข้าวหรอก ผมยังมีธุระ”

“ออ ถ้าคุณยังมีธุระ งั้นก็ไม่บังคับแล้ว ไว้ครั้งหน้าถ้าคุณมีเวลา” ฉู่สงซานพยักหน้า “ไม่ทราบว่าคุณนามสกุลอะไร?”

หลินอิ่งกล่าว “แซ่หลิน”

“คุณหลิน สามารถทิ้งเบอร์โทรไว้ได้มั้ย? ผมต้องตอบแทนผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตในครั้งนี้”ฉู่สยงซาวพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

“คุณฉู่ เกรงใจเกินไปแล้ว”หลินอิ่งกล่าวปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง

“งั้นก็ได้ คุณหลิน ที่อยู่ของผมอยู่ที่เขตเซียงเจียงของกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่ภาคเตียนหนาน ถ้าหากว่ามีอะไรจำเป็น เชิญมาหาผมที่บริษัทได้เสมอ”ฉู่สงซานพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลินอิ่งพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก

ในเวลานี้ รถลินคอล์นที่เสริมความยาวย้อนยุคสีดำสองสามคันขับมาจากระยะไกล เป็นคนที่คริสส่งมารับเครื่อง

หลินอิ่งและฮาเดส หันหลังแล้วเดินจากไป

“พี่ชาย ลาก่อน”ฉู่เสี่ยวฝันยิ้มแล้วโบกมือน้อยๆของเขา

หลินอิ่งหันหัวกลับมา ยิ้มแล้วโบกมือให้ฉู่เสี่ยวฝัน จากนั้นก็เดินขึ้นรถไปกับฮาเดส

ฉู่สงซานมองดูหลินอิ่งที่นั่งรถแล้วจากไปด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม และก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“คุณฉู่ คุณหลินคนนี้ไม่ธรรมดา วันนี้คุณชายน้อยได้พบกับผู้ที่มีสถานะสูงส่ง”ลุงฝูยืนอยู่ข้างๆแล้วพูด

“ฉันรู้” ฉู่สงซานพูดอย่างเคร่งขรึม“คุณหลินคนนี้ในตัวของเขามีออร่าชนิดหนึ่งที่ไม่ธรรมดา และไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขายังรู้ว่ามีตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน แต่ว่า เขาไม่ได้พูดถึงชั้นนี้ เราก็ไม่ต้องไปเอ่ยถึง”

“ฉันพาเสี่ยวฝันกลับบ้านก่อน ลุงฝู นายจัดการมือของไอ้โง่นี้ข้างหนึ่ง แล้วอยู่ตรงนี้รอเลี่ยวจ้งชิวมา ทำการต้อนรับเขาดีๆล่ะ”ฉู่สงซานพูดอย่างเย็นชา จากนั้นจูงมือของเสี่ยวฝันแล้วเดินขึ้นรถไป

“ครับ?” ลุงฝูพยักหน้าด้วยความเคารพ จากนั้น มองไปยังกลุ่มของเลี่ยวยุ่นเฟยอย่างเย็นชา

ในอีกด้านหนึ่ง ฮาเดสขับรถไปยังหยู้ติ่งเฉิง หลินอิ่งนั่งอยู่ด้านหลังคนขับ หลับตาลงเพื่อพักผ่อน

“ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานยังได้ก่อตั้งกรุ๊ปในเมืองก่าง?” หลินอิ่งครุ่นคิดแล้วพูดเองว่า“ในเมืองก่างนี้ ยังซ่อนบุคคลที่มีพรสวรรค์ที่ยังถูกไม่ค้นพบไว้”

ปกติแล้วตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานเป็นคนที่ทำอะไรถ่อมตนอยู่แล้ว ไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับตระกูลทั้งห้าแห่งตี้จิง แต่ว่า อำนาจไม่เคยอยู่ใต้ตระกูลทั้งห้าแห่งตี้จิง

ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานอยู่ในแวดวงผู้ลึกลับ เป็นที่รู้จักในนามตระกูลราชาแห่งยา ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศหลุง และเขตตะวันออกเฉียงใต้ อิทธิพลนั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลทั้งห้าแห่งตี้จิง

ไม่คิดว่าฉู่เสี่ยวฝันที่เขาเคยช่วยไว้ จะมีภูมิหลังที่ใหญ่โตเช่นนี้ เลี่ยวจ้งชิวเป็นเศรษฐีท้องถิ่นในเมื่องก่าง เมื่อเทียบกับตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน ก็คือความแตกต่างก็เหมือนมดกับช้าง ลูกชายของเขาสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงไว้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset