ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 554 ถึงเวลาต้องจัดระเบียบใหม่แล้ว

“เอื้อก อ้าก”

เชี่ยจุนตะโกนร้องอย่างเจ็บปวด มองเย่เฮยด้วยความตะลึง แล้วก็มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง บอดี้การ์ดของหลินอิ่ง มีฝีมือร้ายกาจถึงขนาดนี้?

คนของตัวเองชักปืนออกมาแล้ว แต่กลับยังลงมือเร็วสู้คนอื่นไม่ได้?

นี่มันโหดเกินไปแล้ว?

“ปล่อยตัวพี่เชี่ย”

“แม่งเอ้ย พี่เชี่ยยังกล้าลงมือ? เชื่อไหมว่าฉันให้แกสองคนตายอยู่ที่นี่วันนี้?”

วินาทีที่เชี่ยจุนถูกเย่เฮยจับไว้ ลูกน้องของเชี่ยจุนที่อยู่น้องร้านก็เริ่มเคลื่อนไหว แต่ละคนสีหน้าโมโห ท่าทางพร้อมชักปืนสู้ตลอด

ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างรถ ต่างก็พอกันล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ยิ่งมีชายฉกรรจ์ร่างใหญ่อีกหลายคน หยิบถุงกระบอกปืนออกมาจากท้ายรถถือไว้ในมือ

“ฉันขอถามอีกรอบ ว่าลูกพี่นายคือใคร?”

หลินอิ่งจ้องเชี่ยจุนด้วยแววตาเย็นชา ถามอย่างเย็นชา

เชี่ยจุนมองดูสายตาอันเย็นชาของหลินอิ่ง หน้าผากท่วมหัวอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจก็เริ่มสั่น

ชายหนุ่มลึกลับตรงหน้าคนนี้ แสดงออกมาใจเย็นหนักแน่นเกินไปแล้ว ไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

นอกประตูคนมากมายขนาดนี้ มือปืนหลายสิบคนเตรียมพร้อม และยังมีคนที่ถือปืนยาว

หลินอิ่งยังรักษาความสงบนิ่งได้ขนาดนี้?

ความนิ่งขนาดนี้ ไม่ใช่การแสดงออกมาแน่นอน

“แก แกเป็นใคร? บอกชื่อมา” เชี่ยจุนพูดอย่างเย็นชา “ฉันขอบอกแก ตอนนี้ฉันแค่ออกคำสั่ง พวกแกสองคนก็ต้องตาย……”

เพี๊ยะ

คำพูดของเชี่ยจุนยังพูดไม่จบ เย่เฮยก็ตบไปที่หน้าของเขาอย่างแรง ตบจนเขากระอักเลือด

“คุณหลินถามแก แกไม่ได้ยินหรือไง?” เย่เฮยพูดอย่างเย็นชา

ในตัวของเขาแปร่งประกายแรงสังหารอันน่ากลัว เหมือนกันหุ่นยนต์ฆ่าคนที่ไร้ความรู้สึก

“แก แม้งเอ้ย ยังกล้าทำร้ายพี่เชี่ย?” เปาต๋าพูดอย่างทั้งโกรธทั้งตกใจ ชี้นิ้วไปที่หวงชิงซาน “ไอ้แก่หวง คนนี้เป็นเพื่อนแกใช่ไหม? แกรู้ไหมว่าเพื่อนแกก่อเรื่องใหญ่แค่ไหน? พี่เชี่ยแกก็กล้าลงมือ?”

“แกรีบให้เพื่อนของแกคุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้ บางทีอาจจะไม่ต้องตายก็ได้ เรียกคนที่บ้านไอ้เด็กนี่มาจัดการ”

หวงชิงซานไม่ได้สนใจเปาต๋า บนใบหน้าก็ไม่มีอารมณ์ความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

“ไอ้แก่หวง แกก็หูหนวกแล้วใช่ไหม?” เปาต๋าตะโกนด่าหวงชิงซาน

ปัง

คำพูดเพิ่งพูดจบ หวงชิงซานก็เดินเข้าไปถีบเปาต๋าคุกเข่าลง หัวเขากระแทกลงพื้นอย่างแรง จนเลือดซึมออกมา

หวงชิงซานก่อนหน้านี้ต่อหน้าเปาต๋าไม่ลงมือ นั่นเพราะว่าตั้งใจไม่ยุ่งเกี่ยวทางโลกแล้ว เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น และไม่กล้าแสดงวิชากังฟู

แต่วันนี้ ตอบตกลงออกไปทำงานให้หลินอิ่งแล้ว ก็ไม่มีข้อห้ามอะไรแล้ว

“เอื้อก ไอ้แซ่หวง แก”

เปาต๋าปวดจนตัวสั่นไปทั้งร่าง กระตุกไม่หยุด สีหน้าไม่อยากเชื่อ

ตอนนี้ ในใจเขารู้สึกว่า โลกทั้งใบเหมือนเปลี่ยนไปหมดแล้ว

ทำไมก่อนหน้านี้ที่อดทนทำตามทุกอย่าง หวงชิงซนที่ทำตัวต่ำต้อยต่อหน้าเขา ถึงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมขนาดนี้ ลงมือหนักขนาดนี้ แม้แต่เขายังกล้าทำร้าย? ถีบทีเดียวก็ทำให้ร่างกายท่อนล่างเขาชาไปหมด?

“พูดมากอีก พวกแกได้ตายหมดแน่”

หวงชิงซานพูดไปสองคำอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงอันแกชรานั้น เต็มไปด้วยแรงสังหาร

คราวนี้ ทุกคนต่างก็เงียบไม่กล้าพูด

ไอ้แก่หวงที่แก่ชราคนนี้ ราศีที่แปร่งประกายออกมานั้นเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว ยืนอยู่ตรงนั้น ให้ความกดดันในใจอย่างมหาศาลแต่ชายหนุ่มนักเลงกลุ่มนั้น

พวกเขาไม่สงสัย พูดมากอีกคำเดียว หวงชิงซานต้องทำให้พวกเขาตายแน่

นี่เป็นราศีของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า คำพูดเดียว เหมือนดั่งฟ้าแลบเข้าที่หัวใจของพวกเขา ไม่กล้าสงสัย

“ฉัน…….พวกแกอย่าทำเกินไปนะ ฉันไม่สนว่าพวกเธอจะเป็นคนโหดมาจากไหน ในดินแดนตี้จิงแห่งนี้ทางที่ดีก็ให้ฉันเบาๆหน่อยนะ” เชี่ยจุนพูดอย่างเคร่งขรึม

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ลูกน้องของฉันที่อยู่ข้างนอกต้องซ้อมพวกแกจนพิการแน่”

“อีกอย่าง ฉันบอกแกก็ได้ พี่ใหญ่ฉันคือซื่อไท่

เชี่ยจุนบอกชื่อออกมาด้วยความมั่นใจ

“ซื่อไท่?” หลินอิ่งขมวดคิ้ว มองไปที่เชี่ยจุน

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ของฉันก็คือหัวหน้าใหญ่ในเขตเมืองเก่า ซื่อไท่” เชี่ยจุนพูดอย่างมั่นใจ “ดูท่าแล้วแกคงเคยได้ยินใช่ไหม? คิดให้ดีนะ ว่าคนนี้แกกล้ามีเรื่องกับเขาไหม”

เขาพบว่าหลินอิ่งเหมือนเคยได้ยินชื่อเสียงของซื่อไท่ ในใจก็มีความมั่นใจขึ้นมาอย่างเต็มที่

เพราะว่า ในเขตเมืองเก่าของตี้จิง ซื่อไท่เป็นถึงผู้นำคนแรกในโลกแห่งความมืด

ซื่อไท่ไม่เพียงแค่มีอำนาจในเขตเมืองเก่า ยังเป็นมีอำนาจในแวดวงตี้จิงทั้งหมด คนในวงการเรียกลูกน้องของหัวหน้าใหญ่เขตจงเทียนหยูจื๋อเฉิงว่านักฆ่าราชาทั้งสี่ แต่ละคนต่างก็หัวหน้าที่มีอำนาจใหญ่โตในตี้จิง ซื่อไท่ก็คือหนึ่งในนั้น

“ไอ้หนุ่ม แกกลัวแล้วใช่ไหม? ไม่ว่าแกมีที่มาใหญ่แค่ไหน ในเขตเมืองเก่าก็ระวังหน่อย ลูกพี่ฉันซื่อไท่ เป็นถึงคนสนิทของหัวหน้าหยู หัวหน้าหยูเขตจงเทียนนั่นเป็นพี่ใหญ่ฉัน อยู่ในตี้จิงนี้ เกรงว่าคงไม่มีคนไม่รู้จักมั้ง? นั่นมันหัวหน้าใหญ่ที่ติดตามตระกูลฉี”

เชี่ยจุนพูดอย่างมั่นใจ รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้หลินอิ่งหวั่นไหวได้

หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย พูดเสียงเรียบ “ซื่อไท่ใช่ไหม? ได้เลย ฉันให้ลูกพี่นายมาจัดการนาย”

เขาจำชื่อของซื่อไท่ได้ หนึ่งในคนสนิททั้งสี่ที่อยู่ข้างกายหยูจื๋อเฉิง แต่ไม่ได้ไปทำงานให้เขาบ่อยเหมือนถังฮุยและถูซาน

ตอนแรก จี้ฉงซานก่อเรื่องที่ตี้จิง ตอนที่จับตัวหยูจื๋อเฉิง ส่งโลงศพมาให้เขาโลงหนึ่ง คนที่นอนบาดเจ็บอยู่ข้างในก็คือซื่อไท่ ยังเคยเจอหน้ากับเขาแล้ว

ซื่อไท่ดูแล้วก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดอะไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงสอนลูกน้องไร้ประโยชน์กลุ่มนี้ออกมาได้ยังไง หรืออาจจะต้องจัดระเบียบใหม่แล้ว

คิดไปแล้ว หลินอิ่งก็หยิบมือถือล็อกรหัสมากดเบอร์โทรออก

“ท่านอิ่ง ท่านมีอะไรต้องการสั่งครับ?” ในโทรศัพท์ เป็นเสียงอันหนักแน่นและตื่นเต้น

“ซื่อไท่ คุณมีลูกน้องคนหนึ่งชื่อเชี่ยจุนใช่ไหม?”

“ท่านอิ่ง ใช่ครับ ผมมีลูกน้องชื่อนี้” ซื่อไท่พูดอย่างตื่นเต้น และระมัดระวัง

“คุณรีบมาที่ร้านอาหารจ้วยเจียงซานในซอยหยกมณีเดี๋ยวนี้”

สั่งเรียบร้อยแล้ว หลินอิ่งก็วางสาย

ถ้าหากไม่ใช่คนของซื่อไท่ เขาจะจัดการก่อนแล้วค่อยพูด

แต่เพราะว่าเป็นลูกน้องของซื่อไท่ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ซื่อไท่มาจัดการด้วยตัวเอง เขาก็ต้องจัดระเบียบดีๆแล้ว

“อะไรนะ? แกยังรู้จักพี่ใหญ่ฉัน?” เชี่ยจุนตกใจ มองหลินอิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ

“แกยังกล้ามาขู่ฉัน? แกคิดว่าแกเป็นใคร ในเขตเมืองเก่ามีใครกล้าพูดจาแบบนี้กับพี่ใหญ่ของฉัน? แกคิดว่าแค่โทรศัพท์ก็จะขู่ฉันได้เหรอ?” เชี่ยจุนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเย็นชา คิดเพียงว่าหลินอิ่งแสดงละครเท่านั้น

“แสดงเก่งจริงนัก โทรศัพท์สายเดียวก็เรียกคนใหญ่โตอย่างลูกพี่ซื่อมาได้? ยังกล้าวางสายลูกพี่ซื่อก่อนอีก?”

“แม่งเอ้ย พี่เชี่ย ผมทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว ไอ้หนุ่มนี่อวดดีนัก พี่เชี่ย พี่ยังทนได้อีก? อย่างมากก็จัดการตรงนี้เลย ใช้ปืนยิงมันทิ้งเลย”

คราวนี้ ลูกน้องของเชี่ยจุนทุกคนต่างพากันตะโกนอย่างอวดดี ดูเหมือนทนกันไม่ไหวแล้ว

ติ๊ดติ๊ด

เวลานี้ มือถือในกระเป๋าของเชี่ยจุนดังขึ้น

เชี่ยจุนดูเบอร์โทรศัพท์ที่แสดง จากนั้นก็มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว รับโทรศัพท์ขึ้นมา ด้วยมือสั่น

“ซื่อ ลูกพี่ซื่อ พี่…….พี่หาผมมีเรื่องอะไรครับ?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset