ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 561 เตรียมจับคน

หลินอิ่งขมวดคิ้วนิด มองหน้าจ้าวหลินเอ๋อร์

บอกตรงๆ ว่า เขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้หญิงเลย

เขาไม่เคยมีความรู้สึกใดๆกับจ้าวหลินเอ๋อร์

ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจ้าวหลินเอ๋อร์มองว่านอกจากเขาแล้วไม่มีใครควรคู่หล่อน

หลินอิ่งถามไปว่า “เธอคิดจะเสนอเงื่อนไขอะไร?”

“ขอให้คุณรับปากฉัน ตระกูลจ้าวเราก็จะยกเลิกพันธสัญญาแต่งงานของเรา”

“ฉันคิดจะให้มีใครสักคน เป็นเพื่อนไปเที่ยวทะเลกุหลาบกับฉันสักเที่ยว และฉันหวังว่า คนคนนั้นคือคุณ”

“เพียงเสียเวลาของคุณสักครึ่งเดือน แล้วแต่คุณจะสามารถเจียดเวลาออกมาได้เมื่อไหร่ ฉันพร้อมที่จะรอ”

“ฉันอยากขอให้ได้สมปรารถนาเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ต่อไป ฉันก็จะไม่วุ่นวายกับคุณอีก”

“ดีมั้ย?”

จ้าวหลิงเอ๋อร์เอ่ยถามอย่างจริงจังด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง

“เป็นเพื่อนเที่ยวทะเลกุหลาบกับคุณ?”หลินอิ่งคิ้วขมวดเล็กน้อย ให้ข้องใจกับความปรารถนาเล็กๆ นี้ของจ้าวหลินเอ๋อร์

เขารู้จักทะเลกุหลาบดี

นั้นคือแหล่งท่องเที่ยวในมหาสมุทรที่คาบเกี่ยวระหว่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคนอร์ดิก มีสถานที่ท่องเที่ยวตามบริเวณชายฝั่งของประเทศที่เจริญแล้วอยู่มากมาย

ทะเลกุหลาบนั้น เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเหมาะสำหรับการไปฮันนี่มูนของคู่สมรสใหม่ล้วนๆ

“โอเคมั้ยคะ?” จ้าวหลินเอ๋อร์มองหลินอิ่งด้วยสายตาเปี่ยมล้นของการรอคอย

“ถ้าคุณตกลง ฉันก็จะช่วยพูดกับท่านปู่กับท่านย่า ให้ยกเลิกพันธสัญญาแต่งงานของพวกเราตระกูลฉีกับตระกูลจ้าวอย่างสันติ”

จ้าวหลินเอ๋อร์บอกอีกว่า “ต่อไปฉันก็จะไม่ไปรบกวนคุณอีก”

“ฉันยินดีที่จะเกลี้ยกล่อมท่านปู่ ท่านย่า โน้มน้าวพี่ชายของฉัน คุณพ่อฉัน ทุกคนในบ้านตระกูลจ้าว ทุ่มเทพลังเท่าที่มีของฉันทั้งหมด ช่วยเหลือคุณ สนับสนุนการชิงชัยกับบ้านตระกูลสวี”

“ฉัน มีเพียงเรื่องเดียวเท่านี้ที่ขอ”

จ้าวหลินเอ๋อร์รวบรวมความกล้าทั้งหมด ด้วยขอบตาที่เอ่อชื้น พูดจบในรวดเดียว

ในขณะนั้น คนตระกูลจ้าวที่อยู่ในห้องโถง ตกอยู่ในความเงียบกันหมด

แม้กระทั่งท่านผู้เฒ่าทั้งสามที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พนักสูง ก็ดูขรึมเงียบ

ฉีเวิ่นติ่งมองไปที่จ้าวหลินเอ๋อร์ ให้รู้สึกมีอะไรสะดุดในใจ

ช่างกล้าถ่อมลดตัวลงจริงๆ

“เฮ้อ”จ้าวเทียนสงถอนหายใจยาว “หลินอิ่ง คำพูดของหลานข้า ยืนยันได้”

ฝ่ายแม่เฒ่าตระกูลจ้าวมีสีหน้าแสดงออกถึงความระอาใจ ส่ายหน้าไปมา

สองผู้เฒ่าตระกูลจ้าวออกเสียงแล้ว ด้วยความห่วงหวงหลินเอ๋อร์หลานแก้วสุดที่รัก

“อิ่งเอ๋อ ในเมื่อคนตระกูลจ้าว และหนูหลินเอ๋อร์ พูดมาอย่างนี้ และพร้อมจะยกเลิกพันธสัญญาแล้ว เจ้าก็ยอมรับเถอะ อย่าได้ปฏิเสธกันอีกเลย”ฉีเวิ่นติ่งกล่าวอย่างจริงจัง

เขาก็เริ่มรู้สึกสะกดความสงสารไม่ได้แล้ว

หลินอิ่งนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ตอบว่า “ก็ได้”

“ไว้แล้วผมจะจัดแบ่งเวลาออกมาให้”

“ตกลง”จ้าวหลินเอ๋อร์ผงกหัวด้วยสายตาที่ดีใจออกให้เห็น แล้วก้มหน้าลงเหมือนว้าวุ่นใจกับอะไรบางอย่าง

“ถ้าอย่างนั้น คุณปู่ครับ ผมจะไปรอที่ห้องรับรองด้านข้าง คุณปู่กับท่านยายจ้าวและท่านปู่จ้าวจัดการขั้นตอนการยกเลิกพันธสัญญาการแต่งงานให้เรียบร้อยแล้วกัน”หลินอิ่งพูดอย่างเป็นทางการ

“อือม์ “ฉีเวิ่นติ่งผงกหัว

มันเป็นสัญญาที่พวกเขาทำด้วยกันไว้ในหลายปีก่อนนั้น ก็เป็นที่ควรจะถูกต้องที่สุด ที่จะร่างใหม่อย่างเป็นทางการด้วยกัน สิ่งที่เป็นไปจะได้ถูกต้องครองธรรม

หลินอิ่งหันตัวกลับก้าวออกประตู เดินไปยังโถงรับแขกสำรองด้านข้างในบ้านตระกูลจ้าว

มองตามหลังหลินอิ่งที่เดินไป

จ้าวหลินเอ๋อร์เม้มขบริมฝีปาก ภายในใจรู้สึกอ้างว้างแต่ก็เหมือนกับได้รับอะไรที่อยากได้แล้ว มันสับสนอลวนไปหมด

“เฮ้ออ..!ไม่ต้องดูแล้ว หนูหลินเอ๋อร์ กลับไปพักผ่อนเถอะ”แม่เฒ่าตระกูลจ้าวพูดอย่างหงุดหงิด

“เฉียนเอ๋อ เธอไปคุยกับไอ้หนุ่มหลินอิ่งนั่น ไปบอกเขาเลยว่าคำพูดพวกเราตระกูลจ้าวชัดเจน และจะให้การสนับสนุนเค้าเต็มที่”จ้าวเทียนสงพูดเสียงขรึม สั่งจ้าวเฉิงเฉียนที่อยู่ในโถงใหญ่

ห้านาทีต่อมา

ภายในโถงรับแขกด้านข้างบ้านตระกูลจ้าว

หลินอิ่งนั่งสงบเงียบที่โต๊ะน้ำชา จ้าวเฉิงเฉียนนั่งคอยดูแลจัดน้ำชาอยู่ข้างๆ

ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไรกัน

จ้าวเฉิงเฉียนใช้สายตาที่ขรึมเข้มมองไปยังหลินอิ่ง ให้รู้สึกว่า มองไม่เห็นการแสดงออกในแนวอารมณ์ใดๆ เลย

เขานั่งทอดสายตาลงพื้น ไม่รู้นั่งคิดนึกอะไร

พฤติกรรมของหลินอิ่ง ก็ไม่ได้เกินเลยจากการคาดเดาของจ้าวเฉิงเฉียน

เขามองออกได้อย่างชัดเจนในบุคลิกการวางตัวของหลินอิ่ง ประมาณได้ว่าในประเทศหลุงคงไม่มีใครที่จะทำให้ผู้ชายคนนี้จะก้มหัวยอมให้ได้

กลับกลายเป็นว่าน้องสาวบ้านเราคนนี้ สิ่งที่ทำไปในวันนี้ ช่างเหนือคาดเดาได้จริงๆ

น้องสาวแท้ๆ ที่ชื่อจ้าวหลินเอ๋อร์ของเราคนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาอาจหาญทระนงดั่งธิดาฟ้า วันนี้กลับลดตัวอย่างราบคาบต่อหน้าผู้ชายคนนี้ มันช่างดูเหมือนด้อยค่าตัวเองลงต่ำจริงๆ

“เฮ้อ..”จ้าวเฉิงเฉียนอดไม่ได้ถอนใจออกมาเบาๆ ทุกอารมณ์ความรู้สึกปะปนอยู่ในใจ

หลินอิ่งจิบน้ำชาคำหนึ่ง มองหน้าจ้าวเฉิงเฉียน พูดว่า “คุณเป็นพี่ชายของจ้าวหลินเอ๋อร์ เดี๋ยวท่านกลับไป ช่วยโน้มน้าวคุณพ่อคุณดีๆ ในบางเรื่อง จำต้องเด็ดขาดก็ต้องเด็ดให้ขาด ผมไม่มีใจกับหล่อน หากแม้นจะให้ฝืนใจยอมรับ อยู่กินกันไป สุดท้าย ผลจะมีแต่ความโชคร้ายให้กับหล่อน”

“อือม์…คุณชายอิ่ง ที่ท่านพูดนั้นเป็นเรื่องที่จริงแท้”จ้าวเฉิงเฉียนผงกหัวอย่างเห็นด้วย

“กลับไปแล้ว ผมจะเตือนใจหล่อนให้ดี”

พักหนึ่ง จ้าวเฉิงเฉียนก็พูดขึ้นอีกว่า “คุณชายอิ่ง ท่านพอจะให้เราแลกเปลี่ยนรับรู้ความเคลื่อนไหวของตระกูลสวีบ้างได้ไหม ท่านปู่ของเรารับปากจะทำก็ต้องทำแน่นอน จะเป็นการช่วยท่านได้อีกส่วนหนึ่ง”

“การร่วมมือเป็นการภายในของพวกเราค่อยว่ากัน”

“ทางด้านบ้านตระกูลสวี ผมจะใช้อิทธิพลของตระกูลจ้าวที่มีในตี้จิง ช่วยคุณต้านเอาไว้”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างมั่นเหมาะ

“ไม่ต้อง”หลินอิ่งพูดตัดบท “ผมไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณตระกูลจ้าว”

“แต่ขณะเดียวกัน ผมก็จะขอให้สัญญากับตระกูลจ้าวของพวกท่านว่า ในภายหน้า ตระกูลจ้าวหากมีเรื่องเดือดร้อน ผมจะต้องมีส่วนในการช่วยเหลืออีกหนึ่งกำลัง”หลินอิ่งพูดเรียบๆ

พอได้ยินดังนั้น จ้าวเฉิงเฉียนให้สะดุดใจขึ้นมาในตอนแรก แต่ก็ตามด้วยผงกหัวอย่างเข้าใจ “คุณชายอิ่ง ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยว่าทำไมท่านก้าวขึ้นมาได้ถึงวันนี้ น้องสาวผมนี่ช่างตาแหลมนัก น่าเสียดายนะ คุณกับผมไม่สามารถเป็นครอบครัวเดียวกันได้”

“คำพูดของคุณ ผมจะนำไปบอกต่อให้ท่านผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเรา”

พูดจบ จ้าวเฉิงเฉียนเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมา ว่า “ถ้างั้น เรามาคุยเรื่องการร่วมมือในเชิงส่วนตัวกัน”

“นี่เป็นรายงานเกี่ยวกับสองผู้พิทักษ์ของกงจิ่ว เกี่ยวกับพิกัดที่เคลื่อนไหวประจำวันและที่อยู่ของพวกเขาในตี้จิง”พูดพลางจ้าวเฉิงเฉียนยื่นส่งกล่องดำเล็กๆ ให้ “คนสองคนนี้ ยังไม่รู้ตัวว่าผมกำลังติดตามเฝ้าดูพวกมันอยู่ จะจัดการยังไง ท่านพิจารณาดูเอาตามเห็นสมควรแล้วกัน”

หลินอิ่งเก็บกล่องดำนั้นไว้แล้วพูดว่า “ดีจริง คืนนี้ผมจะจัดเตรียมกำลัง จับคน คุณกำชับคนของคุณเฉยๆ ไว้อย่าทำให้พวกมันตื่น”

“อีกอย่าง ทางด้านชีซิงกรุ๊ป ผมไม่อยากให้คุณเข้าไปต่อกรด้วย”หลินอิ่งพูดจริงจัง “ถ้าคุณคิดจะเอาสามส่วนของเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง งั้นคุณก็จัดวางกำลังของแก๊งหยางเหมิน จัดการกวาดล้างสำนักยุทธ์เชียน แทนผม”

จ้าวเฉิงเฉียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า “ไม่มีปัญหา เพียงแต่คุณจัดการปูทางไว้ เราก็จะกวาดล้างพวกกลุ่มฝูซางของตี้จิงทั้งหมด”

หลินอิ่งพูดว่า “งั้นคุณคอยรอข่าวจากผม รอผมจับคนให้ได้พร้อมเอกสารรายงานในคืนนี้”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset