ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 577 ข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียว

“ฮาฮาฮาฮา ยอมให้จับโดยไม่ต่อสู้?”กงจิ่วหัวเราะอย่างเย็นชา “หลินอิ่ง แกคิดว่าแกเอาฉันอยู่แล้วเหรอ?”

“แกกลัวปู่ของแกไร้ยาช่วยชีวิต แกไม่กล้าฆ่าฉันมั้ง? ไม่กล้าฆ่าฉัน แล้วแกมั่นใจแค่ไหนที่จะจับฉันได้?”กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา

เวลาประลองการต่อสู้ ข้อห้ามที่หนักที่สุดก็คือห่วงหน้าพะวงหลัง

กงจิ่วรู้สึกเองว่า จับจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของหลินอิ่งไว้แล้ว

หลินอิ่งไม่กล้าลงมือกับเขา ถ้าอย่างนั้น กำลังสู้รบก็ต้องลดไปกว่าครึ่ง

เขากงจิ่ว ไม่แน่ว่าจะไม่สามารถหนีตายไม่ได้

หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย มองกงจิ่วอย่างเย็นชา

คนต้าเหอคนนี้ ทำอะไรเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว น่าเกลียดชังยิ่งนัก

“แกคิดว่าแกมียาแก้พิษคนเดียวเหรอ สำนักยุทธเชียน ก็ไม่ได้มีแกกงจิ่วแค่คนเดียว”

“เหอะเหอะเหอะ ว่าไปแล้ว หลินอิ่ง แกก็ลังเลแล้วซิ?”กงจิ่วพูดอย่างสีหน้าหยอกล้อ “แกยังไม่ยอมลงมือสักที ก็เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ยาถอนพิษไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าหากแกอยากได้ยาถอนพิษ ก็ทำตามที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ ถอนตัวออกจากตี้จิงโดยดี”กงจิ่วพูดอย่างได้ใจ “จะใช้ไม้แข็ง แกสู้ฉันไม่ได้หรอก อย่างมากก็แค่พ่ายแพ้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย”

กงจิ่วกำจุดอ่อนไว้ หรี่ตามองหลินอิ่ง

เขาคิดเองว่า ถูกแล้วที่ก่อนหน้านี้ทำงานไว้อย่างมั่นคง

หากไม่ใช่วางยาให้ปู่ของหลินอิ่ง สู้กันเผชิญหน้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินอิ่ง

ถึงจะคำนวณผลงานการสู้รบของหลินอิ่งทุกอย่างแล้ว ประเมินความสามารถของหลินอิ่ง จนสุดท้าย ก็ยังคงประเมินเด็กหนุ่มโหดที่ไร้ชื่อเสียงในแวดวงลึกลับคนนี้ต่ำเกินไป

“เหอะ”

มุมปากหลินอิ่งมีแววแห่งความโหดเหี้ยม

ชิ้ว

วินาทีต่อมา ร่างของหลินอิ่งก็ก้าวออกไปสิบกว่าเมตร มาถึงข้างกายกงจิ่ว ยกฝ่ามือฟาดลงไป ลมแรงกระหน่ำพัดขึ้น และระเบิดคลื่นเสียงออกมา สะเทือนหูคนทำให้เจ็บปวด

เคี้ยง

กงจิ่วชักมีดออกมาทันใด มีดลายเบญจมาศสาดส่องแสงเจิดจ้า ฟาดฟันลงไป รับกับฝ่ามืออันแรงกล้าของหลินอิ่ง

ฝ่ามือและมีดกระทบกัน เกิดคลื่นเสียงดังกึกก้อง ใบมีดลายเบญจมาศสั่นเครือ เสมือนทนรับกำลังแรงอันมหาศาล จนกระทั่งใบมีดแตกเป็นรอยร้าว

ติ้งติ้งติ้งติ้งติ้ง

กระแสอากาศอย่างหนึ่งทะลุผ่านมีดลายเบญจมาศ ใบมีดเหมือนดั่งถูกตัดออก แตกกระจายออกไป กลายเป็นผงเหล็กร่วงลงกับพื้น

“นี่”

กงจิ่วสีหน้าหวาดผวา มองหลินอิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ

มีดพกพาของเขา ทำมาจากวัสดุเทคโนโลยีที่ละเอียดที่สุด ระหว่างการวิจัย แม้แต่รถถังทับก็ไม่เสีย

คาดไม่ถึง จะถูกหลินอิ่งฝ่ามือเดียวแตกอย่างละเอียด?

ฮวั้ก

หลินอิ่งพลิกฝ่ามือ ทักษะฝ่ามืออันดุเดือดฆ่าฟันไปอย่างไม่สิ้นสุด หมุนเป็นเสียงลมกระโชก

ปัง ปัง ปัง

กงจิ่วยังคงฝืนรับ หมุนกำลังภายในทั้งร่าง ใช้ฝ่ามือทนรับฝ่ามือหลินอิ่ง

ฝ่ามือกระทบกันทุกครั้ง ล้วนทำให้เกิดคลื่นเสียงดังกึกก้อง ต้นไม้ใบหญ้าทั่วแปดทิศต่างสั่นไหว ฝุ่นฟุ้งกระจาย การสู้รบที่น่ากลัวอย่างมาก

กงจิ่วถูกหลินอิ่งบีบถอยหลังไปเรื่อยๆ

“พู๊ด”

หลังจากท่วงท่าอันแข็งแกร่งของหลินอิ่ง กดทับกงจิ่วจนกระอักเลือกออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกกำลังภายในสะเทือนจนเหมือนกระดูกทั่วร่างกระจายออกจากกันแล้ว แม้แต่จะใช้ท่าการต่อสู้ยังคดเคี้ยวไปมา ท่าทางอย่างกับยืนไม่นิ่ง

สามสิบท่าผ่านไป

กงจิ่วถูกหลินอิ่งหนึ่งฝ่ามือสะเทือนถอยหลัง ลื่นออกไปตามดินโคลนหลายสิบเมตร ร่างเตี้ยเล็กอยู่ข้างแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว เลือดอาบทั่วร่าง ดูแล้วน่ารันทดอย่างที่สุด

“แคกแคก……ฝ่ามือที่ร้ายกาจจริงๆ”

กงจิ่วไอเป็นเลือดออกมาสองครั้ง มองหลินอิ่งด้วยสายตาโหดเหี้ยม กระดูกทั่วร่างสะเทือนดังคักคัก เกิดเสียงดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง

หลินอิ่งขมวดคิ้ว จ้องมองกงจิ่ว

ฆ่ากงจิ่วไม่ยาก แต่จะจับเป็นมันค่อนข้างจัดการยาก

เมื่อครู่ เขาตั้งใจออมแรงไว้ อยากใช้กำลังภายในเชื่อมระโยงไปกระดูกเอ็นเลือดเนื้อทั่วร่างของกงจิ่ว ทำลายวิชาการต่อสู้ของคนต้าเหอคนนี้ ให้เขาไม่มีโอกาสฆ่าตัวตาย

แต่ว่า เกินความคาดการณ์ กงจิ่วกลับสามารถรับวิชาการต่อสู้ที่หายสาบสูญไปแล้วได้ ย่อยสลายกำลังภายในที่เขาส่งเข้าร่างกายได้

ทั้งนี้เห็นได้ว่า วิถีทางการต่อสู้ของสำนักยุทธเชียนประเทศต้าเหอ แปลกประหลาดมาก

“หลินอิ่ง แกยังอยากจะจับเป็นฉันเหรอ? แกฝันไปเถอะ”

กงจิ่วหัวเราะอย่างชั่วร้าย หมุนตัวกระโดดชิ้ว ร่างทั้งคนกลายเป็นเงาดำกระโจนเข้าสู่แม่น้ำอันไหลเชี่ยว

เวลาเดียวกัน มีแสงอันเจิดจ้าน่ากลัวพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขา

หลินอิ่งกำลังจะไล่ตาม กลางอากาศ ลูกดอกหกเหลี่ยมลอยอยู่กลางท้องฟ้าสาดลงมาดั่งสายฝน ล้วนเป็นอาวุธลับที่น่ากลัวทั้งนั้น

เขาโบกมือ เหมือนดั่งแม่ทัพเหวี่ยงแส้ สะเทือนลมแรงออกไป ลูกดอกอาบพิษแต่ละดอก เปรี้ยงปั้งแตกละเอียดเป็นผงเถ้า ร่วงลงบนพื้น

เวลานี้ ร่างของกงจิ่ว อยู่บนผิวแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว เหมือนดั่งแมลงปอเดินอยู่บนผิวน้ำหนีไปแล้ว

ฮวั๊กฮวั๊กฮวั๊ก

ที่ไม่ไกลนัก มีเรือสำราญขนาดกลางลำหนึ่ง แล่นมาบนแม่น้ำ ซัดจนเป็นคลื่นน้ำขึ้นมา

ปังปังปังปังปัง

ตามมาด้วย บนเรือสำราญที่แล่นมาซัดสาดกระสุนรอบด้านดุจสายฝนไปที่ตัวหลินอิ่งข้างแม่น้ำ

คนต้าเหอในชุดดำใส่แว่นกันแดดสีดำสิบกว่าคน แบกอาวุธปืนใหญ่ กราดยิงตำแหน่งหลินอิ่งข้างแม่น้ำ ยิงจนดินโคลนฟุ้งกระจาย น้ำสาดกระจายทุกทิศ พลังกระสุนอันน่ากลัว

เห็นได้ชัด กงจิ่วเตรียมเรือเร็วไว้ก่อนแล้ว เพื่อมารับช่วยเหลือคนของเขา

ระหว่างช่วงเวลาที่หลินอิ่งถูกขัดขวางไว้ กงจิ่วก็ข้ามแม่น้ำไปไกลหลายร้อยเมตร กระโดดขึ้นเรือเร็วลำนั้น

“เหอะเหอะเหอะ หลินอิ่ง ฉันยอมรับว่าฉันประเมินแกต่ำไป พูดถึงวิชาการต่อสู้ ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก เรื่องแผนการ แกยังห่างจากฉันเยอะ”

“คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้แกตายอย่างอนาถในตี้จิง”

เรือเร็วลำนั้นสะบัดท้ายเรือ จนเกิดคลื่นน้ำซัดขึ้นหนีไปแล้ว บนเรือ ส่งเสียงอันชั่วร้ายโหดเหี้ยมของกงจิ่วออมา

หลังจากร่างของหลินอิ่งที่เคลื่อนไหวสักพัก ปลอดภัยไร้บาดแผล เหยียบปลอกกระสุนบนพื้น ยื่นมือปัดฝุ่นบนไหล่

ได้ยินเสียงที่แว่วมาของกงจิ่ว มุมปากเขายิ้มอย่างเย็นชา ในสายตาเย็นชาจนทำให้คนสิ้นหวัง

วิชาตัวเบาของกงจิ่วยอดเยี่ยมจริง ถึงขั้นข้ามแม่น้ำด้วยอ้อลำเดียวได้

แต่ว่า ลำพังแค่นี้ ก็อยากหนีไปภายใต้สายตาเขา?

หลินอิ่งก้าวเท้าออกไป เหยียบอยู่บนแม่น้ำ

ปัง

ทันใดนั้น แม่น้ำระเบิด คลื่นซัดขึ้นสูงเป็นสิบฟุต

จากนั้น เห็นเพียงร่างเดินบนคลื่น เร็วดุจสายฟ้าแล่นไปทางเรือเร็วที่กงจิ่วอยู่

ตลอดทางนี้ เหยียบจนคลื่นซัดกระจาย แน่น้ำไหลทวน อลังการเหมือนดั่งเรือรบแล่นผ่าน

“อ้าก นี่มัน? ท่านผู้นำ คนประเทศหลุงคนนั้นตามมาแล้ว”

“ทำไมถึงมีคนน่ากลัวขนาดนี้?”

คนต้าเหอหลายคนเรือเร็ว ตกใจจนตะลึงตาค้าง ร้องออกมาด้วยเสียงตกใจ

ทุกคนบนเรือ ล้วนสีหน้าหวาดกลัว ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

พฤติกรรมของหลินอิ่ง เกินขอบเขตความรู้ของคนปกติทั่วไปแล้ว

ถึงแม้พวกเขาจะมาจากอำนาจมืดอย่างสำนักยุทธเชียน เห็นยอดฝีมือหลบกระสุนจนชินแล้ว แต่ไม่เคยเห็นคนแข็งแกร่งน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

“เป็นไปได้ยังไง”

กงจิ่วหันไปเห็นคลื่นมโหฬารพันลึกที่ถูกซัดขึ้นมา และร่างที่กำลังไล่ตามมา ก็ตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ดวงตาเขาหดลง จ้องหลินอิ่งที่ไล่ตามมาด้วยท่าทางโหดร้ายตาไม่กะพริบ สีหน้าไม่สามารถใจเย็นได้อีกแล้ว แววตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset