ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 601 งานประชุมสุดยอดเทียนหลง

“คุณมุซาชิ ลูกน้องสองคนนั้นของหลินอิ่ง คุณคิดจะจัดการยังไงหรอครับ?” สวีไป๋เห้อถาม

“ฆ่าทิ้งซะ ก็แค่สองคนที่ไม่มีค่าอะไร” มุซาชิ จูโตะตอบกลับอย่างเฉยเมย

สวีไป๋เห้อพูดขึ้น “คุณมุซาชิ สองคนนั้นยังมีประโยชน์ เอาเป็นว่าคุณปล่อยสองคนนั้นให้เป็นหน้าที่ของผมจัดการเองดีกว่า”

“อ๋อ?” มุซาชิ จูโตะหรี่ตาลงมองสวีไป๋เห้อ “คุณมีความคิดสกปรกๆ อะไรอีก?”

สวีไป๋เห้อตอบกลับ “เจ้าสองคนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนสนิทของ หลินอิ่ง แต่ในเมืองตี้จินดินแดนสีเทานี้ก็ยังนับว่าเป็นคนที่มีกำลังอำนาจไม่น้อยเลย”

“คุณปล่อยสองคนนี้ให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ อีกไม่นานผมก็จะสามารถผนวกเมืองเก่าได้แล้ว หรือแม้กระทั่งในงานประชุมสุดยอดเทียน ผมยังสามารถที่จะตะเพิดพวกเขาออกไปด้วย เพื่อใช้ในการสยบพวกผู้มีอำนาจทางการเงินที่คิดจะสนับสนุนหลินอิ่งได้อีกด้วย” สวีไป๋เห้อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“งั้นก็ได้ อย่างนั้นก็ปล่อยให้คุณเป็นคนจัดการแล้วกัน” มุซาชิ จูโตะตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

ในสายตาของเขาแล้ว คนธรรมดาอย่างซื่อไท่และถูซาน ก็เป็นเพียงพวกคนอ่อนแอที่ไม่ต่างจากมดเลย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความสนใจมาตั้งแต่แรกแล้ว

“ผมจะไปจัดเตรียมการดำเนินการ หลังจากที่คุณกลับไปแล้ว แจ้งให้ยอดฝีมือในตระกูลของคุณแล้วก็หัวหน้ายามของชีซิงกรุ๊ปให้มาหาผมโดยด่วน” มุซาชิ จูโตะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วสั่งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ครับ!ขอให้คุณมุซาชิได้รับชัยชนะ” สวีไป๋เห้อพูดอย่างประจบประแจงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข

จากการคาดการณ์ของสวีไป๋เห้อ ครั้งนี้จะต้องสามารถทำให้ หลินอิ่งสะดุดล้มได้อย่างแน่นอน

และเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้สถานการณ์ทั้งหมดพลิกกลับมาได้อีกครั้ง

อีกอย่างคือมีทั้งมุซาชิ จูโตะที่เป็นถึงยอดฝีมือสะท้านโลก เหล่ายอดฝีมือที่คุณท่านไปเชิญออกมาจากเขา รวมทั้งหัวหน้ายามชีซิงกรุ๊ป อีกด้วย และยิ่งบวกกับแผนการแสนจะรอบคอบแล้ว มีหรือที่หลินอิ่งจะสามารถรับมือได้?

……

ในวันถัดมา

ณ ตี้จิง เมืองเทียนหลง

เมืองใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีการจัดเคลียร์เมืองทั้งหมด ตามถนนหนทางไร้ซึ่งผู้คนสัญจร

ซึ่งมาสาเหตุเพราะว่าวันนี้จะมีการเปิดประชุมสุดยอดเทียนหลงเกิดขึ้น

นี่ถือเป็นโครงการที่ผู้คนทั้งตี้จิงต่างให้ความสนใจอย่างมาก

เพราะดูเหมือนว่าเหล่ากลุ่มผู้ทรงอิทธิพลทั้งหมดในตี้จิงจะมาเข้าร่วมการประชุมนี้

และแน่นอนว่าสำหรับตัวแทนการประชุมในครั้งนี้อย่างน้อยต้องเป็นตระกูลใหญ่ระดับสองของตี้จิง

สำหรับคนร่ำรวยหรือผู้ที่มีอิทธิพลธรรมดาทั่วไปนั้น ไม่มีคุณสมบัติที่จะสามารถไปปรากฏตัวบนถนนของเทียนหลงด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ตามท้องถนนทั่วทุกทิศทางของตัวเมืองต่างๆ นั้นพลุกพล่านไปด้วยขบวนรถหรูหราระดับโลกกำลังเคลื่อนขบวนไปตามถนน ซึ่งดึงดูดสายตาของผู้ที่พบเห็นจำนวนไม่ถ้วน

สามารถบอกได้เลยว่ารถหรูรุ่นอัลลิมิเต็ดเอดิชั่นที่มีชื่อเสียงในตี้จิง กำลังเคลื่อนขบวนอยู่ตรงหน้า บรรยากาศดูน่าทึ่งอย่างมาก

เมืองใหญ่ต่างๆ ทุกขบวนรถ ทั้งหมดล้วนมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน

ซึ่งนั่นก็คือเมืองเทียนหลง

ในขณะเดียวกัน ณ เขตจงเทียน ใต้อาคารดวงดาว

รถสีดำคันหรูจำนวนมากมาย กำลังจอดเรียงรายกันอยู่บริเวณริมถนนอย่างเคร่งขรึม

บริเวณข้างๆ รถมีเหล่าบอดี้การ์ดที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบและสุขุม

ภายในตึก หลินอิ่งกำลังเดินออกมาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก

ข้างๆ ของเขาตามาด้วยนิ่งซวนและหยูจื๋อเฉิง

ส่วนเย่เฮย หรงหยังและคนอื่นๆ ได้มายืนรออยู่ข้างรถตั้งนานแล้ว

“ท่านอิ่ง”

“ท่านอิ่ง”

เหล่าบอดี้การ์ดที่ตั้งแถวรออยู่กล่าวทักทายอย่างเคารพอย่างพร้อมเพรียง

“ประธานหลิน ทีมงานมากันครบแล้วครับ พร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อเลยครับ” ฮาเดสที่ยืนอยู่ข้างรถกล่าวรายงานขึ้นมา

“ออกเดินทางเถอะ”

หลินอิ่งตอบกลับอย่างเรียบเฉย

หลังจากที่ฮาเดสเปิดประตูรถออก หลินอิ่งก็นั่งลงยังที่นั่งหลัง ส่วน นิ่งซวนก็นั่งลงยังที่นั่งข้างคนขับ

ในขณะที่หยูจื๋อเฉิงขึ้นไปนั่งลงบนรถอีกคันหนึ่ง แล้วตามหลังขบวนรถไป

เพียงไม่นานขบวนรถก็เริ่มขยับ ขบวนรถค่อยๆ ขับตามกันไป มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองเทียนหลงอย่างใจเย็น

“ประธานหลินครับ เมื่อสักครู่นี้ทั้งคนจากคระกูลจ้าว และคนจากตระกูลกงซุนล้วนโทรมาหาแล้วครับ” นิ่งซวนหันข้างพร้อมกล่าวรายงานด้วยใบหน้าจริงจั “พวกเขาบอกได้ถึงเมืองเทียนหลงกันแล้ว เหลือเพียงรอให้คุณไปถึงที่นั่นครับ”

หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อยด้วยดวงตาที่ลึกล้ำและถามว่า “แล้วคนตระกูลสวีล่ะ?”

“ได้ยินมาว่าคุณท่านของตระกูลสวีเดินทางไปด้วยตัวเองเลยครับ ขบวนรถของตระกูลสวีตอนนี้อยู่ระหว่างทางไปยังเมืองเทียนหลงแล้วครับ” นิ่งซวนกล่าวอย่างเคร่งขรึมการหลินอิ่งกระตุกรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมาตรงมุมปาก

ที่แท้ตระกูลสวียังไม่ยอมตายใจสินะ มาจนถึงขั้นนี้ ยังคิดจะให้คุณท่านของตระกูลตัวเองออกมาอีก ช่างไม่กลัวว่าตัวเองจะเสียชื่ออย่างที่สุดเลยจริงๆ

และก็เป็นไปแบบนี้ จนกระทั่งรถเคลื่อนไปได้กว่าสิบนาที

มาถึงอุโมงค์ที่ทอดยาวและเปลี่ยวร้าง บริเวณโดยรอบไร้รถราสัญจร

และขับไปได้เพียงครึ่งทางผ่านอุโมงค์ ตรงบริเวณด้านหน้าของพวกเขาก็มีรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันมาจอดขวางทางเอาไว้ ราวกับว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นขวางทางเอาไว้

“ประธานหลิน ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ปกตินะครับ ข้างหน้ามีรถหลายคันชนกันจนบังทางเอาไว้หมดแล้ว แต่ดูไม่เหมือนอุบัติเหตุเลยครับ เหมือนมีคนจงใจมากกว่า” ฮาเดสเหยียบเบรกหยุดรถ ใบหน้าเต้มไปด้วยความระแวดระวังพร้อมกับหันมากล่าวรายงาน

“คุณหลิน ดูเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง มีรถใหญ่สองสามคันข้างหน้าคุณชนและถูกขวาง ไม่เหมือนอุบัติเหตุ มันเหมือนฝีมือมนุษย์” ฮาเดสหยุดรถ สีหน้าตื่นตัว แล้วหันกลับมา มุ่งหน้าไปรายงานตัว

“หืม?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองอย่างเย็นชา

ตูม!

ทันใดนั้น รถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันที่จอดอยู่ข้างหน้าก็ระเบิดขึ้น คลื่นเพลิงลุกลามไปทั่วทั้งอุโมงค์ในทันที พร้อมกับผลกระทบอันรุนแรงก็แผ่กระจายไปทั่ว

“ออกไป!”

เพียงชั่วพริบตา หลินอิ่งก็สามารถตอบสนองได้ทันที เขาเตะประตูออก ก่อนจะคว้าตัวนิ่งซวนแล้วกระโดดหนีออกมาจากบริเวณนั้นโดยทันที

และในเวลาเดียวกัน เหล่าชายชุดสูทที่อยู่ในรถที่ตามหลังมาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกันจากเสียงเตือนภัยจากรถที่พังยับเยินพลางหลบหนีอย่างรวดเร็ว

บูม บูม บูม!

คลื่นไฟลุกลามไปตลอดทาง พร้อมกับแรงแผดเผาที่ทำให้รถหรูสีดำหลายคันระเบิดกระเด็นออกไป และกระแทกลงมาตามริมถนนแตกเป็นเสี่ยงๆ สถานการณ์ยิ่งใหญ่อย่างมาก!

“เฮือก!”

“อ๊า!”

ชายในชุดสูทหลายคนกรีดร้องออกมา ถึงแม้พวกเขาจะหลบหนีตั้งแต่แรกที่รู้ตัว พวกเขาก็ถูกคลื่นไฟคลอบไว้จนตายคาที่ไปหลายคน

ภายในอุโมงค์มีควันดำหนาทึบแผ่ขยายไปทั่ว

ร่างของหลินอิ่ง กระเด็นลอยห่างจากที่เกิดเหตุไปกว่าสิบเมตร เขาหันไปมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา

ข้างๆ เขา นิ่งซวนมีความหวาดกลัวไม่น้อย เขาหายใจหอบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงงัน

“นี่มันฝีมือใครกัน!กล้าดียังไงถึงมาซุ่มโจมตีประธานหลินแห่งตี้จิงแบบนี้!” นิ่งซวนตื่นตกใจ ตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงซะแล้ว ถึงได้มาระเบิดหมู่ที่นี่?ประธานหลิน จะให้ผมโทรไปหาสำนักงานเมือง

หรือเปล่าครับ?” นิ่งซวนถาม

“ไม่ต้องหรอก ยังไงก็ไม่ทัน”

หลินอิ่งจ้องเขม็งไปยังกลุ่มควันดำภายในอุโมงค์ แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

“ประธานหลิน……”

“ท่านอิ่ง คุณโอเคไหมครับ”

“คุณหลิน…”

หลังจากการระเบิด เหล่าบอดี้การ์ดต่างก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับวิ่งเข้าไปล้อมรอบหลินอิ่งเอาไว้

บอดี้การ์ดในชุดสูทที่ขับรถตามหลังกลุ่มนี้มีหลายคนที่เป็นยอดฝีมือในกลุ่มขององครักษ์มังกรดำ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือเก่าแก่ทั้งนั้น

ภายใต้ความพรวดพราดนี้ ถึงแม้ว่าการระเบิดจะทำให้มีคนตายไปหลายคน และอีกส่วนมากที่ต่อให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

ในความเร่งรีบแม้ว่าหลายคนจะถูกฆ่าโดยผลพวงของการระเบิด ส่วนใหญ่เสียชีวิต แต่ชีวิตของพวกเขาได้รับการช่วยชีวิต

“ผมไม่เป็นไร พวกคุณรีบถอยไปเถอะ” หลินอิ่งพูดอย่างเฉยเมย

เมื่อได้ยินแบบนี้ เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ข้างกายเขา ต่างก็แสดงสีหน้าผ่าเผย พร้อมกับถอยออกไปตามคำสั่ง

“คุณก็คือหลินอิ่ง?คุณน่ะหรอคนที่ฆ่ากงจิ่วศิษย์น้องของผม?” ’

จู่ๆ เสียงแปลกๆ ที่น่าสะพรึงก็ดังก้องออกมาจากอุโมงค์

ทันใดนั้น เสียงแปลกๆ เสียงที่น่าสะพรึงกลัว ดังก้องมาจากอุโมงค์

ภายใต้ควันดำหนาทึบตรงทางเข้าอุโมงค์ เงาร่างสีดำที่ถือดาบซามูไรก็ค่อยๆ เดินออกมาทีละคน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset