ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 620 ไปเรียกตัวเจ้าเด็กนั่นกลับตระกูลหลิน

เมื่อพูดจบประโยคนี้ แม่เฒ่าตระกูลหลินก็กวาดมองผู้คนในงานด้วยใบหน้าที่ไปพอใจ

ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา คนที่มีวัยวุฒิและเป็นผู้อวุโสมากที่สุดก็คือแม่เฒ่าตระกูลหลินคนนี้

ยังไง แม่เฒ่าตระกูลหลินเป็นภรรยาของบรรพบุรุษของตระกูลหลิน

ถ้าหากเทียบตามลำดับยากแล้ว คุณแม่ของหลินอิ่ง หลินซูชิง ก็คือหลานสาวแท้ๆ ของเธอ

“เอ่อ……แม่เฒ่า แล้วสิ่งที่ท่านเฉินเฟิงจากหุบเขาเฉินเฟิงได้ถามนั้น ท่านคิดว่าจัดการอย่างไรดี ?” ชายในชุดราชวงศ์ถังที่อยู่ในห้องโถงกล่าวถามอย่างระมัดระวัง

แม่เฒ่าหรี่ตาเล็กลงพลางตอบกลับ:”หลินเฉียน เธอตรวจสอบชัดเจนแล้วหรือยัง?ลูกศิษย์ของท่านเฉินเฟิงคนนั้นตายในมือของหลินอิ่งเจ้าเด็กไม่เอาไหนคนนั้นหรือเปล่า ?มีความเป็นไปได้นี่มันคืออะไร?”

หลินเฉียนนิ่งเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง:”เรียนแม่เฒ่า ตามที่หลานได้ตรวจสอบตามการรายงานทางอินเทอร์เน็ตแล้ว เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ……”

“หลินอิ่งเจ้าเด็กคนนั้น ซึ่งเป็นตัวแทนของตระกูลฉี ได้ทำการต่อสู้กับตระกูลสวีในตี้จิงอย่าเอาเป็นเอาตายครับ” หลินเฉียนค่อยๆ พูดต่อ “ตระกูลสวีตอนนั้นเพราะทนต่อแรงกดดันไม่ไหว จึงไปยังแวดวงลึกลับเพื่อเชิญศิษย์ของท่านเฉินเฟิง เหอซานจินออกมาช่วยต่อสู้ แต่สุดท้ายเหอซานจินกลับพ่ายแพ้ตายในมือของหลินอิ่ง”

“ในเวลานี้ หลินอิ่งในตี้จิงได้เป็นดั่งราชาแห่งตี้จิง ตระกูลสวีแห่งตี้จิงก็ถูกเขากำจัดจนราบคาบ ส่วนอีกสี่ตระกูลใหญ่ก็ตกอยู่ในการดูแลควบคุมของเขา และเหมือนจะกลายเป็นเจ้าพ่อตี้จิงไปแล้ว”

“ฮือ?” แม่เฒ่าตระกูลหลินแสดงท่าทีสนใจขึ้นมาพร้อมดวงตาลุกวาว “ดูแล้ว หลินอิ่งเจ้าเด็กเสเพลคนนี้จะสุดยอดไม่เบาเลยนะ อายุยังหนุ่มแค่นี้สามารถประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้เลยหรือ?”

“ลูกศิษย์ของท่านเฉินเฟิงต่อให้ด้อยแค่ไหน ก็น่าจะมีพลังความแข.แกร่งระดับ รายการแห่งดิน แต่กลับถูกหลินอิ่งจัดการได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยงั้นหรอ?”

แม่เฒ่าตระกูลหลินเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่พลางพูดต่อ “ฉันเองก็เคยได้ยินมาว่า ตี้จิงแห่งโลกธรรมนั้นมีห้าตระกูลใหญ่ที่เป็นรากฐานอันหยั่งลึกแข็งแกร่ง และมีความสมบูรณ์ด้านทรัพย์สินอย่างมาก ถึงแม้จะบอกว่ามีความด้อยกว่าตระกูลหลินของเราไปไม่น้อย แต่การที่หลินอิ่งเจ้าเด็กอายุน้อยคนนั้นสามารถกำจัดได้ ในนั้นมีเรื่องแปลกประหลาดอะไรใช่หรือเปล่า ?”

ห้าตระกูลใหญ่แห่งตี้จิง ถึงแม้จะเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในโลกธรรม แต่เมื่อเทียบกับตระกูลหลินแห่งเมืองลังยาที่อยู่ในแวดวงลึกลับแห่งนี้แล้วยังถือว่าด้อยกว่าอย่างไกลโขเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างไรนั่นก็ดำรงอยู่ในแดนสุดโลกธรรม ส่วนหลินอิ่งยังเป็นเพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ กลับสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างราบคาบ และกลายเป็นและตั้งตนเป็นเจ้าพ่อตี้จิง?

ดูท่าแล้ว เจ้าเด็กนี่จะเป็นเทพเจ้าในหมู่คน

สิ่งนี้ทำให้ในใจของแม่เฒ่าตระกูลหลินเกิดความสนใจขึ้นมา

“มีเรื่องประหลาดบางอย่างครับ” หลินเฉียนตอบกลับอย่างนอบน้อม “แม่เฒ่า ตามที่หลานได้รู้มา ในตอนนั้นหลังจากที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉีหลินอิ่งและคุณป้าซูชิง ก็ได้หายเข้ากลีบเมฆไปนานถึงสิบกว่าปี ซึ่งได้ข่าวมาง่าไปซ่อนตัวอยู่ที่เมืองชิงหยูนของมณฑลตุงไห่”

“เมื่อหลายปีก่อนคุณป้าซูชิงเพราะว่าป่วยหนักจึงได้จากโลกนี้ไป ส่วนหลินอิ่ง ยังคงอาศัยอยู่ในสถานที่เล็กในมณฑลตุงไห่ ก่อนจะแต่งเข้าเป็นลูกเขยของตระกูลเล็กๆ หนึ่ง”

“หลังจากนั้น ตระกูลฉีได้พบกับการสังหารหมู่ หลินอิ่งจึงกลับไปยังตี้จิงด้วยความแข็งแกร่ง พร้อมกับฟื้นอำนาจให้กับตระกูลฉีอีกครั้ง ไม่ใช่เพียงแค่ทำลายฝ่ายตรงข้าม แต่ยังทำเรื่องสำคัญอีกหลายอย่าง ในตอนนี้ก็ยิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า นำพาตระกูลฉีขึ้นู่ดินแดนสูงสุดแห่งตี้จิง”

แม่เฒ่าฟังอย่างถี่ถ้วน พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าเผยให้ถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน

“ซูชิงยัยเด็กคนนั้น ในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็จะแต่งงานกับเจ้าเด็กตระกูลฉีคนนั้น เขามีชื่อว่าฉีเหอถู?เอ๊ะ”

“ในโลกธรรมตระกูลฉีถึงแม้จะมีความรุ่งเรืองและร่ำรวยมหาศาล แต่มีดีอะไรที่สามารถมาเทียบเท่ากับความสูงส่งของตระกูลหลินแห่งเมืองลังยาได้เล่า?ซูชิงเจ้าเด็กไม่รู้ความ ทำลายขนบธรรมเนียมของตระกูล แล้วยังตัดความสัมพันธ์กับตระกูลหลินอีก และไม่ยอมติดต่ออะไรอีกเลย”

“พูดไปก็น่าขำ ซูชิงเจ้าเด็กนั่นไม่เคยดูแคลนที่ว่าตระกูลฉีเป็นเพียงตระกูลใหญ่ในโลกธรรม แต่สุดท้ายกลับถูกฉีเหอถูดูแคลนว่าไม่มีพื้นฐานครอบครัว แล้วไล่ออกจากตระกูลฉีไป?เหอะๆ”

แม่เฒ่าตระกูลหลินส่ายหน้าหัวเราะเยาะ สีหน้ามีความใพอใจเล็กน้อย

เรื่องนี้ในตอนนั้น ที่หลินซูชิงผู้เป็นแม่ของหลินอิ่ง แต่งงานกับฉีเหอถูคนตระกูลฉีแห่งตี้จิงในโลกธรรม

ในเวลานั้นคนตระกูลหลินแห่งเมืองลังยาดูว่านี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของตระกูลอีกด้วย

ตระกูลหลินทุกคนคิดว่านี่เป็นเรื่องน่าละอาย และพยายามต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้อย่างรุนแรง

แต่แล้ว หลินซูชิงกลับไม่ฟังคำโน้มน้าว ยอมตัดขาดกับตระกูลตัวเอง เพื่อที่จะแต่งงานกับฉีเหอถู

มางด้านหลินซูชิงที่เป็นเพราะวิวาทกับตระกูลหลิน จึงยอมตัดความสัมพันธ์ ฐานะเบื้องหลังของตัวเองจึงไม่เคยได้บอกกับใครได้รู้เลย แล้วพยายามปิดบังตัวตน แม้แต่ฉีเหอถูเองก็ยังไม่รู้เลยว่าหลินซูชิงจะมีฐานะเบื้องหลังที่น่าทึ่งขนาดนี้ จนเกิดความดูถูกที่ตัวตนของหลินซูชิงไม่มีอำนาจใดๆ จึงไปแต่งงานกับหญิงสาวตระกูลดังแทน

ต่อมา คนของตระกูลหลินแห่งเมืองลังยารู้ข่าวว่าหลินซูชิงถูกตระกูลฉีขับไล่ออกไป ทั้งยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงยิ่งทำให้เกิดความโกรธมากยิ่งขึ้น จึงได้ปกปิดข่าวคราวทุกอย่างเอาไว้เพราะกลัวว่าจะทำให้เสียชื่อตระกูลหลินไป

สำหรับแม่เฒ่าตระกูลหลิน หลินซูชิงผู้เป็นแม่ของหลินอิ่งนั้น เธอก็ทำเหมือนกับไม่เคยมีหลานสาวคนนี้มาก่อน

จนกระทั่งช่วงนี้ที่หลินอิ่งได้ทำเรื่องน่าทึ่งมากมายในตี้จิง จนไปดึงดูดความสนใจของคนตระกูลหลินเข้า

“เรื่องของซูชิงในตอนนั้น ทำให้พวกเราตระกูลหลินต้องอับอายขายหน้า ถ้าเกิดว่าพวกเราไม่ได้ปกปิดข่าวนั้นไว้อย่างรวดเร็ว เกรงว่าหากกระจายออกไปในแวดวงลึกลับ ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะตระกูลหลินของเราอย่างไร”

“แม่เฒ่า ซูชิงได้ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลหลินของเราไปหลายสิบปีแล้ว ผมว่าเรื่องนี้พวกเราตระกูลหลินไม่จำเป็นต้องไปช่วยเหลืออะไร และไม่มีเหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือด้วย”

ยังมีคนตระกูลหลินอีกหลายคนที่เมื่อพูดถึงหลินซูชิงผู้เป็นแม่ของหลินอิ่งแล้ว ยังคงมีความรู้สึกไม่พอใจ หรือดูถูกอยู่ไม่น้อย

เพราะว่าหลินซูชิงแต่งงานกับคนของตระกูลฉีแห่งโลกธรรม ทั้งยังถูกเขาขับไล่ออกจากตระกูลฉี อีก จึงถือเป็นการทำลายเกียรติยศอย่างมาก !

“อืม” แม่เฒ่าตระกูลหลินหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างสบายๆ “ซูชิงก็ได้จากไปแล้ว คนตายเรื่องก็จบ เรื่องราวในตอนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดมากอีก”

“แต่ว่าลูกชายคนนี้ของซูชิง ไม่ธรรมดาเลยนะ ทั้งยังมีกิริยาเหมือนคนตระกูลหลินอีก” แม่เฒ่าตระกูลหลินพูดอย่างครุ่นคิด “ในเมื่อเจ้าเด็กนั่นมีชื่อเสียงโลดแล่นอยู่ในตี้จิงแล้ว อย่างนั้นก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว”

“เอาอย่างนี้แล้วกัน หลินเฉียน เธอไปจัดเตรียมคนให้ลงเขา ไปที่ตี้จิงเพื่อเชิญหลินอิ่งเจ้าเด็กคนนั้นกลับมายังตระกูลหลิน แล้วบอกเรื่องแม่ของเขาให้ฟังด้วย”

“ห๊า?” หลินเฉียนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ร้อมถามกลับอย่างสงสัย “แม่เฒ่า นี่ท่านได้ตัดสินใจไว้นานแล้วหรอครับ?”

“แม่เฒ่า ไม่ใช่หรอก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะละเลยไปได้ ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินแห่งเมืองลังยาของพวกเราจะให้คนเข้ามาแบบลวกๆ ได้อย่างไร?เรื่องแบบนี้จะจัดเตรียมแบบเรียบง่ายได้อย่างไรกัน?”

“แม่เฒ่า ตอนนั้นหลินซูชิงดึงดันที่จะแต่งงานไปกับคนตระกูลฉี จนตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเราตระกูลหลิน ถือเป็นการไม่ให้เกียรติแก่ธรรมเนียมตระกูล!สวะวงศ์ตระกูลแบบนี้ พวกเราตระกูลหลินจะให้ลูกชายของเธอกลับเข้าสู่ตระกูลได้อย่างไรกันครับ ?”

“ถูกต้องแล้ว แม่เฒ่า ท่านต้องไตร่ตรองให้ลึกซึ้งก่อน หลินซูชิงตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลหลิน ลูกชายของเธอ ยังจะมีคุณสมบัติอะไรในการกลับมาอีก เขามีเกียรติอะไรกัน? หลินอิ่งอะไรคนนั้นที่ประสบความสำเร็จเพียงน้อยนิดในตี้จิงแห่งโลกธรรม สำหรับพวกเราตระกูลหลินแห่งเมืองลังยาแล้วนับว่าเป็นอะไรได้?ก็แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น!”

เมื่อแม่เฒ่าพูดประโยคนี้ออกมา ที่แสดงว่าต้องการเรียกตัวหลินอิ่งกลับสู่ตระกูลหลิน

คนตระกูลหลินที่อยู่ตรงนั้นต่างก็คัดค้านขึ้นมา สำหรับแม่ของหลินอิ่งแล้วพวกเขานั้นยังคงมีความดูถูกดูแคลน และไม่ชอบอย่างมาก

แม่เฒ่าตระกูลหลินขมวดคิ้วพร้อมกับครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง:”ซูชิงเจ้าเด็กคนนั้น ในเมื่อให้ลูกชายแซ่หลิน อย่างนั้นพูดได้ชัดเจนแล้วว่าในใจของเธอนั้นนึกเสียดาย เพียงแต่ว่าไม่มีหน้าที่จะกลับมายังตระกูลหลิน ฉันว่าหลินอิ่งคนนั้น ก็นับว่าเป็นคนมีความสามารถ คู่ควรกับฐานะตระกูลหลินของพวกเรา เรียกตัวเขามาตระกูลหลิน ฉันจะทดสอบเขาก่อน ดูสิว่าจะมีความเก่งกาจขนาดไหน”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset