ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 689 ตี้จิงสั่นสะเทือน

ตระกูลกงซุนแห่งตี้จิงกำลังประชุมหารือร่วมกัน

ส่วนในคฤหาสน์ตระกูลจ้าว ตอนนี้สว่างไสว

แม่เฒ่าและคุณท่านตระกูลจ้าว นั่งตำแหน่งหัวหน้า

ถัดไปคือกลุ่มผู้มีอำนาจตระกูลจ้าว ตลอดจนจ้าวเฉิงเฉียนและจ้าวหลินเอ๋อร์ที่เป็นรุ่นน้องที่โปรดปราน

“การเรียกประชุมที่อาคารเทียนหลงในวันพรุ่งนี้ เพื่อวางโครงการเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงใหม่ พวกคุณได้ข่าวแล้วใช่ไหม?นิ่งไท่จี๋กับฉีเวิ่นติ่งแจ้งฉันแล้ว ว่าต้องการให้ตระกูลจ้าวสนับสนุนอย่างเต็มที่”คุณท่านตระกูลจ้าวพูดขึ้นช้าๆ

“พวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?”

ความวุ่นวายที่หลินสวนถูก่อในตี้จิงนั้นใหญ่หลวงจริงๆ สั่นสะเทือนไปทั้งตี้จิง

ตระกูลชั้นสูงในตี้จิงทุกตระกูล ตลอดจนกลุ่มนายทุนบางส่วน ตอนนี้ล้วนกำลังปรึกษาหารือกัน ว่าจะรับมือกับการประชุมที่อาคารเทียนหลงในวันพรุ่งนี้ยังไง

รู้หรือไม่ว่าโครงการเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง เกี่ยวข้องกับอำนาจของตระกูลชั้นสูงในตี้จิงจำนวนมาก

หลินสวนถูอะไรนั่นมาถึงก็เสนอเงื่อนไขที่สูงมาก ต้องการเป็นใหญ่ในเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงเพียงคนเดียว

ทุกคนในแต่ละวงการของตี้จิง ต่างไม่สบายใจกันทั้งนั้น

เพียงแต่พวกเขาก็กลัวบารมีของคนผู้นี้เช่นกัน

เพราะหลินสวนถูมีชื่อเสียงเป็นผู้เหยียบย่ำคุณชายอิ่งแห่งตี้จิง แถมยังแสดงตัวว่าเป็นผู้อาวุโสเบื้องหลังตระกูลของคุณชายอิ่ง

จนถึงตอนนี้ คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงยังไม่มีการตอบโต้ใดๆ

ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร

หารู้ไม่ว่าคนที่แม้แต่คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงก็จัดการไม่ได้ ยังจะมีใครกล้าสู้ด้วย?

“คุณปู่ ผมว่าเรื่องนี้ตระกูลจ้าวของเราต้องออกหน้า เพราะเรามีความร่วมมืออันลึกซึ้งกับหลินอิ่งในเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง หลักการน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า คนแก่อย่างปู่น่าจะเข้าใจ”จ้าวเฉิงเฉียนเงียบอยู่นาน จากนั้นก็แสดงความเห็นตัวเองออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

หลินอิ่งจู่ๆ ก็ขาดการติดต่อ สำหรับจ้าวเฉิงเฉียนนั้นในใจค่อนข้างรู้สึกซับซ้อน ทั้งรู้สึกเสียดาย และตกตะลึง

เพราะหลินอิ่งเป็นคนด้านนอกที่ช่วนเขาได้มาก

และที่หลินอิ่งเป็นคนของตระกูลหลินแห่งลังยา ก็ทำให้จ้าวเฉิงเฉียนอึ้งมากเช่นกัน

จ้าวเฉิงเฉียนอยากรู้ที่มาที่ไปของหลินอิ่งในแวดวงลึกลับมาตลอด คิดยังไงก็คิดไม่ออกที่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในแวดวงลึกลับอย่างตระกูลหลินแห่งลังยา

มิน่าล่ะไม่ว่าหลินอิ่งจะทำอะไรก็ดูมีความมั่นใจ

ถ้าเป็นยามสงบ จ้าวเฉิงเฉียนไม่มีทางไปตีเสมอตระกูลหลินแห่งลังยาแน่นอน

แต่ระหว่างหลินอิ่งกับเขานั้นมีผมประโยชน์ที่เชื่อมโยงกัน

จ้าวเฉิงเฉียนมีส่วนในโครงการเมืองเทคโนโลยีเทียนหลงไม่น้อย

อีกทั้งเรื่องที่จ้าวเฉิงเฉียนวางแผนมุ่งร้ายตระกูลเผยแห่งจี้โจว

ส่วนสำคัญที่สุดของแผนการใหญ่นี้ หนีไม่พ้นความช่วยเหลือของหลินอิ่ง

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือในใจของจ้าวเฉิงเฉียน หลินอิ่งคือตำนานที่ไม่เคยพ่ายแพ้

เขาไม่เชื่อว่าหลินอิ่งจะผ่านภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ได้ และไม่เชื่อว่าหลินสวนถูจะสามารถเหยียบย่ำหลินอิ่งได้

ดังนั้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เขาต้องสนับสนุนหลินอิ่งอย่างเต็มที่!

ถ้ามองจากมุมอื่น นี่คือเสน่ห์เฉพาะตัวของหลินอิ่

แม้แต่คนเก่งอย่างจ้าวเฉิงเฉียน ภายในใจก็ยังนับถือหลินอิ่ง

“เฉิงเฉียน ความคิดเห็นของคุณมันเกินไปแล้ว!น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอะไรกัน?แม้ตระกูลจ้าวของจะมีความร่วมมือกับหลินอิ่ง แต่ยังไม่ต้องถึงขั้นไปตายเป็นเพื่อนเขา!”ผู้ผู้อาวุโสตระกูลจ้าวคนหนึ่งพูดเสียงเย็นชา

“ทิศทางลมในตี้จิงตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่ยุคของคุณชายอิ่งอีกแล้ว”

“หลินอิ่งแสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว ว่าเป็นคนที่กู่ไม่กลับแล้ว ทำตระกูลจ้าวต้องไปช่วยเขา?ไปรับน้ำใจจากเขางั้นเหรอ?”

“อืม”คุณท่านตระกูลจ้าวพยักหน้าเบาๆ อย่างเห็นด้วยสุดๆ “ตัวตนของหลินอิ่งถูกเปิดเผยแล้ว ว่าเป็นลูกหลานตระกูลหลินแห่งลังยา คนที่ลงมือกับเขาตอนนี้ คือคนที่หนุนหลังเขา”

“หมายความว่า ตระกูลหลินแห่งลังยาออกหน้า ว่าหลินอิ่งเป็นคนที่สูญเสียอำนาจ เขาก็ไม่สำคัญแล้ว”

คุณท่านตระกูลจ้าวพูดอย่างค่อนข้างดูถูก

“คุณท่านฉลาดจริงๆ “ผู้อาวุโสตระกูลจ้าวคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความจริงจัง”หลินอิ่งในตอนนี้ แม้แต่คนเบื้องหลังก็ไม่สนับสนุนเขา เขายังมีสิทธิ์อะไรดูแลเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง?”

“ไม่คิดหน่อยเหรอ ว่าตระกูลหลินแห่งลังยานั้นระดับไหน?คนในโลกธรรมอาจไม่เข้าใจ แต่ หลายคนที่นั่งอยู่ยังไม่เข้าใจว่าตระกูลหลินนั้นมีความสำคัญขนาดไหนเหรอ?”

“จะทำให้ทั้งตระกูลหลินขุ่นเคือง เพียงเพราะคนที่ถูกตระกูลหลินตัดหางปล่อยวัด อย่างหลินอิ่งงั้นเหรอ?นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่มีแต่คนโง่ทำหรอกเหรอ?”

เมื่อได้ยินผู้อาวุโสตระกูลจ้าวพูด

จ้าวหลินเอ๋อร์หน้าเริ่มแดง อยากพูดหักล้าง แต่จ้าวเฉิงเฉียนตบไหล่เธอเบาๆ เป็นการบอกให้เธอใจเย็นๆ

“คุณปู่ ส่วนตัวผมไม่คิดว่าหลินอิ่งจะแพ้ ถึงแม้หลินสวนถูจะเก่ง แต่ก็ยังเหยียบหลินอิ่งไม่ตาย”จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเฉียบขาด”ถ้าครั้งนี้พวกเรายอมอยู่ฝ่ายหลินอิ่ง สิ่งตอบแทนที่จะได้รับต่อจากนี้นั้นไม่จำกัด……”

“พอได้แล้ว!เฉิงเฉียน แกไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว”แม่เฒ่าตระกูลจ้าวพูดขัดอย่างเหลืออด”ต่อให้แกบอกจะพังฟ้า ฉันกับปู่แกก็ไม่เห็นด้วยยอมช่วยหลินอิ่งหรอกนะ”

“ยิ่งเรื่องนี้หลินอิ่งควรหรือไม่ควรได้รับความช่วยเหลือยิ่งไม่ต้องพูดถึง ก่อนหน้านี้หลินอิ่งปฏิเสธหลินเอ๋อร์ที่บ้านตระกูลจ้าวด้วยท่าทีอวดดีขนาดนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะสนับสนุนเขา!”แม่เฒ่าตระกูลจ้าวพูดอย่างผูกใจเจ็บ

“อีกอย่าง ตระกูลจ้าวของเราเป็นตระกูลชั้นสูงในโลกธรรม ไม่อาจมีปัญหากับตระกูลระดับนั้นอย่างตระกูลหลินแห่งลังยา ไม่งั้นได้เกิดภัยพิบัติแน่”

“คืนนี้ปรึกษากันดีกว่า ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองกับหลินสวนถู ตัวแทนตระกูลหลินในตี้จิงยังไงในอนาคต……”

แม่เฒ่าตระกูลจ้าววางแนวทางไว้ พูดอย่างเป็นจังหวะ ไม่ให้คนอื่นมีช่องทางอื่นอีก

จ้าวเฉิงเฉียนถอนหายใจเบาๆ ไม่พูดอะไรอีก

ใช่ สถานการณ์ตอนนี้ นอกจากคนบ้าก็ไม่มีใครสนับสนุนหลินอิ่งต่อต้านตระกูลหลิน

คนส่วนมากล้วนรอหัวเราะเยาะหลินอิ่ง คิดว่าการโฆษกตระกูลหลินของหลินอิ่งนั้นถูกแทนที่แล้ว ของตระกูลหลิน เป็นแค่ลูกที่ถูกทอดทิ้งไม่มีค่า……

……

วันที่สอง ณ อาคารเทียนหลง

เป็นฉากความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง มีขบวนรถหรูจำนวนมาก ตัวแทนจากตระกูลชั้นสูงทุกหนแห่งทยอยเข้ามา

ภาพเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นที่อาคารเทียนหลงครั้งหนึ่ง

เพียงแค่ครั้งนั้นเป็นตอนที่หลินอิ่งกำจัดตระกูลสวี

แต่ครั้งนี้กลับเป็นคนอื่นที่มากำจัดหลินอิ่ง

ตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง ตระกูลฉี ตระกูลจ้าว ตระกูลกงซุน ตระกูลซือหม่า ตระกูลหลี่ ตระกูลซ่ง……

ตัวแทนจากตระกูลต่างๆ มาถึงอาคารเทียนหลงแล้ว

หลินสวนถูยืนมือไขว้หลังมองผู้คนที่คับคั่ง พลางยิ้มเยาะจากบนยอดตึก สายตาเผยความพึงพอใจ

และในขณะเดียวกัน

ณ สนามบินนานาชาติตี้จิง

มีชายสวมเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบๆ คนหนึ่ง มือจูงสาวสวยอารมณ์ดี ค่อยๆ เดินออกมาจากสนามบิน ขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังอาคารเทียนหลง

หลินอิ่งกับจางฉีโม่ กลับมาถึงตี้จิงแล้ว……

หลินอิ่งที่นั่งตรงเบาะหลัง มีสายตาที่สงบที่ลึกซึ้ง มุมปากเผยความเท่

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตี้จิง หลินอิ่งได้รับข้อความจากนิ่งซวนแล้วเมื่อคืน

ทุกการกระทำของหลินสวนถู กำเริบเสิบสานกว่าที่หลินอิ่งคิดไว้มาก

วันนี้ไม่จัดการคนผู้นี้ วันข้างหน้าเขาก็ไม่ต้องยืนหยัดอยู่บนโลกนี้แล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset