ซ้อจำเป็น – ตอนที่ 0 บทนำ

บทนำ  

 

 

 

             ท่ามกลางเสียงหัวเราะของบรรดาอากงอาม่าสองครอบครัวใหญ่ ที่ต่างพากันมาเจอะเจอในวันสำคัญที่สุดเท่าที่สองครอบครัวนี้มีมา ญาติผู้ใหญ่นับสิบที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารกลมตัวใหญ่หนึ่งในนั้นกำลังหมุนแผ่นกระเบื้องใสที่ถูกวางด้วยอาหารมากมายราวกับกำลังเลี้ยงฉลองข่าวดีที่กำลังจะขึ้นในอีกไม่ช้า รอยยิ้มแห่งความสุขฉายแววไปทั่วห้องอาการสี่เหลี่ยมของภัตรคารหรูแห่งนี้ พนักงานเสิร์ฟของร้านเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารเรื่อย ๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะว่างเว้นช่วงจังหวะให้หายใจ   

 

 

 

              เสียงหัวเราะที่มีความสุข…  

 

 

 

              เสียงพูดคุยเจี๊ยวจ๊าวด้วยรอยยิ้ม…  

 

 

 

              ทุกคนมีความสุข…  

 

 

 

              แต่ผม ผม ผม ไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้นเลย…  

 

 

 

             “เฮีย ๆ ตักผัดโป๊ยเซียนให้หมวยหน่อย”  

 

 

 

             หมวยน้องสุดที่รักของผมยื่นหน้ากลม ๆ เข้ามาหาด้วยแววตาเป็นประกายเมื่อเห็นของโปรดตัวเองที่ถูกพนักงานยกมาเสิร์ฟไม่ถึงนาที ด้วยความที่จานโปรดของน้องสาวผมมันไกลกว่ามืออวบ ๆ นั้นจะยื่นถึง ผมเลยจำเป็นที่จะต้องเอื้อมตัวไปตักให้และดูเหมือนแขนผมนั้นก็จะสั้นไปหน่อยเช่นกันจึงทำให้ตัวผมนั้นเอื้อทตัวไปตักไม่ถึงเสียที  

 

 

 

             เสียงถอนหายใจเบา ๆ ของใครบางคนที่กำลังใช้แขนยาวของตัวเองคีบตะเกียบไปหยิบอาหารที่ผมปราถนา ร่างสูงกำยำหน้าตาคุ้นชินกันในสื่อออนไลน์ หากใครเดินผ่านมาเจอต้องถึงกับขอถ่ายรูปทั้งนั้น  

 

 

 

 เพราะอะไรนะหรือ…  

 

 

 

เพราะชายรูปงามมาดนิ่งคนนี้เป็นนักธุรกิจไฟแรงที่กำลังโด่งดังอยู่บนโลกโซเชี่ยวเพียงข้ามคืน ดีกรีเป็นถึงเจ้าของร้านอาหารทั่วประเทศไทยและขยายสาขาไปฝั่งผืนแผ่นดินใหญ่อย่างประเทศจีนเมื่อไม่นานานี้  

 

 

 

             ผมลอบมองคนที่กำลังตักผัดโป๊ยเซียนมาวางไว้ในถ้วยตรงหน้าผม สีหน้าไร้ซึ่งการแสดงความรู้สึกใด ๆ ของเขาทำให้ผมรู้สึกประหม่าไม่น้อย เมื่อน้องสาวผมเห็นอาหารจานโปรดวางลงก็รีบตักใส่จานตัวเองด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ซ่างต่างกับผมสิ้นเชิง   

 

 

 

ไม่มีความสุขแถมอึดอัดด้วย…  

 

 

 

             “ขอบคุณค่ะเฮียขุนศึก หมวยดีใจจังที่จะมีพี่เขยแบบเฮีย”  

 

 

 

             น้ำเสียงตื่นเต้นปนดีใจไปในขณะเดียวกันนั้นทำเอาผมหน้าซีดเกือบจะเป็นลม เมื่อน้องสาวสุดที่รักพูดประโยคนั้นออกมา ใครหนอใครทำไม่ถึงทำกับชีวิตคับฟ้าได้เพียงนี้ ผมนั่งน้ำตาตกในหยิบตะเกียบคีบเศษผักจากโป๊ยเซียนเข้าปากด้วยความอัดอั้นตันใจ เกิดมาอายุยี่สิบสามปีได้สามวันแถมพึ่งเรียนจบไม่กี่เดือนทำไมถึงต้องมาเจอเหตุการณ์บ้าบอคอแตกแบบนี้ด้วยละวะไอ้คับฟ้า  

 

 

 

              มึงกำลังจะหมั้นกับผู้ชาย….  

 

   

 

ผู้ชาย…  

 

 

 

             “ไม่ได้เจอกันนมนาน หลานชายลื่อนี่หล่อไม่เบาเลยนะฮุ่ยเหมย”  

 

 

 

             น้ำเสียงจังหวะการพูดของอาม่าผมพูดคล่องแคล่วที่ใครต่อใครไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าอาม่าของผมนั้นอายุแปดสิบเข้าให้แล้ว แต่ร่างกายยังแข็งแรงดีไม่มีตก เสียงหัวเราะชอบพอของอีกฝากฝั่งหนึ่งเมื่อได้ยินหลานชายตัวเองถูกชมกลางวงก็ถึงกับพูดประโยคถัดมาที่ทำเอาน้ำส้มที่อยู่ในปากแทบพุ่ง  

 

 

 

             “หล่อพอที่จะแต่งกับหลานชายลื่อแหละน่าเจียวฝาง”  

 

 

 

             อาม่าทั้งสองครอบครัวใหญ่พากันหัวเราะอย่างชอบคอ ส่วนคนอื่นก็พาลเป็นไปกับอาม่ากันหมด ตอนที่ผมโดยบอกว่าจะถูกหมั้นหมายกับหลานชายเพื่อนสนิทของอากงอาม่า ตอนแรกผมไม่เชื่อด้วยซ้ำ ใครจะเชื่อ เรื่องแบบนี้มันมีแต่ในนิยายเท่านั้น แต่พอมาถึงวันนี้ตัสวผมล่ะอยากจะลาออกจากการเป็นคับฟ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสีย  

 

 

 

             “หลังจากนี้ครอบครัวเราคงต้องมาเจอกันบ่อยขึ้นแล้วนะคะ”  

 

 

 

             ฝั่งแม่ของคนร่างสูงหน้านิ่งไร้ความรู้สึกจู่ ๆ ก็เอ่ยพูดขึ้นท่ามกลางโต๊ะใหญ๋ แล้วส่งสายตาเอ็นดูมายังผมอีกต่างหาก ความอึดอัดก่อตัวขึ้น แต่ถึงแม้จะอึดอัดอย่างไรคับฟ้าคนนี้มันก็ทำได้เพียงส่งยิ้มแบบประหม่าส่งให้หญิงสาวผู้แสยสวยตรงหน้านี้แทนและผมไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมคนข้างกายผมถึงหล่อเอาการ   

 

 

 

ก็แม่สวยขนาดนั้น…  

 

 

 

             “ยินดีเลยค่ะ จะว่าไปทางเราก็อดที่จะรอวันแต่งงานไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะคะ”  

 

 

 

             เสียงม๊าของผมเอ่ยพูดออกมาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนแถมสีหน้าดูมีความสุขมากเสียอีก หากประโยคที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นหันมาสังเกตผมสักนิดก็คงจะได้เห็นแววตาเศร้าโศกของผู้ชายคนนี้ไม่น้อย  

 

 

 

  ผมที่ควรจะมีความสุขในช่วงหลังเรียนจบ…   

 

   

 

ผมที่ควรจะได้เที่ยวพักผ่อนแบบเพื่อนคนอื่น…  

 

   

 

 แต่ทุกอย่างกลับพังเมื่อผมดันมานั่งฟังว่าตัวเองกำลังจะถูกให้หมั้นกับผู้ชาย…   

 

   

 

           บ้า บ้ากันไปใหญ่!…  

 

 

 

             “คราวนี้เห็นหลานชายเป็นฝั่งเป็นฝา ไอ้คนอย่างอั้วก็ตายตาหลับแล้วล่ะ”  

 

 

 

             อากงที่นั่งข้างอาม่ายกแก้วขึ้นจิบน้ำชาอย่างเชื่องช้า โดยมีป๊าผมคอยเอื้อมมือคว้าแก้วใบเล็กลงมาวางบนโต๊ะให้อากงอย่างรู้หน้าที่  

 

 

 

เมื่ออากงเอ่ยพูดออกมาก็พาลทำให้ผมนึกคำพูดของม๊าเสียไม่ได้ คำเล่าม๊าของจุดเริ่มต้นการหมั้นบ้าบอนี้มันเริ่มต้นจากที่อากงกับอามีเพื่อนสนิท แต่ไม่รู้เป็นโชคชะตาหรือเวรกรรมอะไรของผมที่ทำให้เพื่อนสนิททั้งคบกันเอง ด้วยความที่สนิทกันมากจนสัญญากันไว้ว่า หากใครได้หลานคนแรกจะต้องมาแต่งงานกับหลานคนแรกของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน   

 

   

 

และสุดท้ายความชิบหายก็มาจบลงที่คับฟ้าคนนี้ไง…  

 

 

 

             “ลื่อก็พูดไปน่า เกิดทั้งทีอยู่ให้มันได้อุ้มหลานก่อนสิวะ”  

 

 

 

             แก่แต่รูปแต่คำพูดยังเฟี้ยวฟ้าวของอากงบ้านนั้นยังใช้ศัทพ์วัยรุ่นทันสมัยอยู่เลย แต่ประโยคที่บอกว่ารอให้อุ้มหลานนี่มันหมายความว่ายังไง ความตกใจมีน้อยและผมก็รู้สึกได้ว่าทั้งผมกับคนตัวสูงข้างกายถึงกับสำลักเม็ดข้าวที่อยู่ในลำคออย่างพร้อมเพรียงกัน  

 

 

 

              มีหลาน…  

 

   

 

             ผู้ชายบนโลกไหนเขามีลูกได้ครับอากง…  

 

 

 

             “คับฟ้ารู้ไหมจ๊ะ ว่าที่เจ้าบ่าวหนูเขาพึ่งไปเอาโฉนดบ้านมาเมื่อวาน เตรียมเอาไว้เป็นเรือนหอให้คับฟ้าเลยนะ”  

 

 

 

ผมนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อทุกสายตาต่างจับจ้องมายังผม เว้นแต่คนข้างกายที่ยังคงนั่งก้มหน้ากินข้าวโดยไม่ใจใครนอกจากอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ผมยิ้มอย่างเจื่อน ๆ กลับไปให้ว่าที่แม่สามีของตัวเอง ผมจะทำอะไรได้ ตอนนี้คงต้องตามน้ำไปก่อนแล้วค่อยคิดจัดการเรื่องเลิกทีหลัง   

 

 

 

“หยกรอวันที่ซ้อจะมาเป็นพี่สะใภ้ไม่ไหวแล้วนะคะ”  

 

 

 

หญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหมวยน้องสาวผมก็โผล่หน้ามายิ้มให้แถมพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนจะหันไปคุยเล่นกับหมวยต่อ เมื่อทุกอย่างดูจะรุมเร้าเข้ามาจนไมเกรนตัวผมเริ่มพุ่งขึ้นสมอง จึงหันไปคีบขนมจีบกุ้งเข้าปากไปพร้อมกับน้ำตาที่ตกในเมื่อทุกคนต่างยินดีให้กับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า วันที่ผมจะถูกยกเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้านเพื่อนสนิทอากงอาม่า  

 

 

 

จากที่เป็นเฮียผมดันกลายเป็นซ้อซะงั้น….  

ซ้อจำเป็น

ซ้อจำเป็น

*ยังไม่ผ่านการพิสูจน์อักษร* ซ้อจำเป็น (Mpreg) ชีวิตที่ไม่มีสิทธิเลือกแม้กระทั้งคนที่อยากใช้ชีวิตคู่ด้วยตัวเอง ต้องถูกอากงอาม่าจับหมั้นกับหลานชายเพื่อนสนิทสมัยเรียน! แถมยังไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาด้วยซ้ำ! และสิ่งสำคัญที่สุด… ลูกบ้านอื่นมีแต่เขาอยากจะได้ลูกสะใภ้ แล้วเหตุไฉนบ้านไอ้คับฟ้าคนนี้ถึงอยากได้ลูกเขยแทนละว่ะ! เนื้อหา และ ภาพ บางตอนไม่เหมาะกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แต่หากรี้ดท่านใดต้องการเสพความบันเทิงนิยายเรื่องนี้ต่อควรใช้วิจารณญาณอย่างสูง!!!! เตือนแล้วนะ! อิ้อิ้ เรื่องนี้ฟรีไม่ติดเหรียญ ได้เวลาคืนกำไรให้กับลีดทุกคน ที่คอยซัพพอร์ตนักเขียนแมงหมี่หน้าใหม่คนนี้โดยตลอดมา อิ้อิ้ ลีดท่านใดสายชิว สายไม่รีบเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะทุกเรื่องไรต์ด้นสดทุกเรื่องเด้อโปรดเข้าใจนักเขียนสายชิวคนนี้ด้วยนะคะ งานแต่งเผื่อไม่มี มีแต่งานดองจ้า 5555555 ไม่เคยแต่งแนวนี้มาก่อน ฝากเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ ><

Comment

Options

not work with dark mode
Reset