ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 105

“สอบผ่านทั้ง 3 อาชีพ ด้วยคะแนนเต็ม 100% งั้นหรอ”

แอนทาเรียมองดูเด็กหนุ่มด้วยร้อยยิ้มที่เยาะเย้ย

 

“การสอบผ่านหนึ่งอาชีพด้วยคะแนน 100% นั้นท้าทายอย่างยิ่งสำหรับเด็กนักเรียนทุกคนและมันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเราที่จะได้เด็กฝึกหัดที่มีความสามารถขนาดนั้น แต่ถ้าสามารถสอบผ่านทั้งหมดโดยไม่มีการผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ฮ่าๆ การที่จะทำข้อสอบเพียงอาชีพเดียวก็ยากพออยู่แล้ว อย่ามั่นใจในตัวเองขนาดที่จะสามารถทำข้อสอบทั้ง 3 ด้วยคะแนนที่เต็ม 100% เลย”

 

แอนทาเรีย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจเจสัน

 

“แล้วถ้าผมทำได้ละ”

 

เจสันพูดออกมาอย่างมั่นใจและเด็ดเดี่ยว

 

เซรอนมองเจสันด้วยความตกตะลึง

 

เจสันดูมั่นใจมากจากภายนอก แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายในของเจสันคิดอย่างไร และถ้าพวกเขารู้ว่าเจสันมีความมั่นใจจากภายเท่ากับภายนอกที่แสดงออกมา ทุกคนจะเข้าใจเจสันมีจิตที่ไม่ปกติ ในตอนนี้แม้แต่ทิลล์เองก็มองเจสันเป็นคนงี่เง่าคนหนึ่ง

 

ในขณะที่เจสันไม่สนใจใครของจ้องเขม็นไปที่แอนทาเรีย เธอได้มองเห็นความทะเยอทะยาน ความมุ่งมั่น และความมั่นใจในสายตาของเจสันทำให้ความโกรธเคืองของเธอหายไปเพราะเห็นได้ชัดว่าเจสันเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้

 

“เอาละถ้าอย่างนั้น หากเธอสามารถสอบผ่านทั้ง 3 อาชีพด้วยคะแนนเต็ม 100% ได้ ฉันจะมอบหนังสือแห่งประสบการณ์ให้กับเธอ ภายในหนังสือเล่มนี้มีสูตรทั้งหมดเกี่ยวกับการปรุงยา จากประสบการณ์ที่ฉันได้ค้นพบมาทั้งชีวิตของฉัน รวมถึงประสบการณ์ในการทำเบียร์ของฉันด้วย ฮ่าๆ “

 

เจสันตั้งใจฟังแต่ก็ไม่แน่ใจว่าหนังสือประสบการณ์ที่เธอได้กล่าวถึงนั้นเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุดต่างตกตะลึงและได้ซุบซิบกัน

 

เจสันก็ไม่รู้ว่าสูตรปรุงยาต่างๆ นั้นมีราคาแพงมาก และเจสันจะได้รู้ว่ารางวัลที่เธอจะมอบให้นั้นมีมูลค่ากว่า 2-3 พันล้านเครดิต

 

มีช่างฝีมือไม่มากที่จะขายประสบการณืที่ตัวเองสั่งสมมา และถึงมีมันก็มีราคาที่แพงมาก และราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นในการประมูล การได้รับประสบการณ์โดยตรงจากช่างฝีมือระดับสูง เป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากการทดลองเองนั้นมีอันตรายหากเกิดความผิดพลาด

 

เจสันรู้แค่ว่า น้ำยาที่ทำให้เป็นอัมพาตนั้นไม่ได้มีราคาที่แพงมากเป็นเพราะวัสดุในการทำ แต่เนื่องจากราคาขายนั้นจะสร้างกำไรได้มากกว่าต้นทุนถึง 20 เท่า น้ำยารีเอเจนต์เหล่านี้มีราคาแพงเนื่องจากมีราคาสูงในเรื่องของการปรุงและโอกาสที่จะผิดพลาดในการปรุงยา และวัสดุที่หาได้ยาก

 

แอนทาเรียมองเจสันด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ แต่เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเนื่องจากเห็นว่าเจสันไม่ได้มีความพอใจกับรางวัลที่เธอเสนอให้มากนัก เพราะเธอไม่รู้ว่า เจสันนั้นไม่รู้ว่ามูลค่าของหนังสือประสบการณ์ขั้น 4 นั้นมีค่ามากมาย เธอคิดว่าเจสันอาจจะเยาะย้ยเธอทำให้เธอโกรธจัด

 

ทำให้เธอพูดในสิ่งที่เจสันไม่ได้คิดจะร้องขอ ในขณะที่เจสันกำลัง งงกับหนังสือแห่งประสบการณ์ว่าคืออะไร

 

“นอกจากนี้ ฉันจะให้โอกาสเธอในการในการพบเจอช่างและขอในสิ่งที่เธอต้องการ ในหอคอยช่างฝีมือ ที่อยู่ในเมืองไซโร”

 

เมื่อเธอสังเกตในสิ่งที่เธอพูด มันก็สายเกินไปที่จะกลับคำ ทำให้เธอพูดเสริม

 

“แต่สิ่งนี้จะอยู่ภายใตเงื่อนไขว่าเธอจะต้องสอบทั้ง 3 อาชีพในคะแนน 100% เท่านั้น”

 

เมื่อแอนเทาเรียได้พูดสิ่งนี้ ความอยากรู้ของเจสันก็ผุดเข้ามา

 

‘การขอในสิ่งที่ต้องการภายในหอคอยช่างฝีมือ อาจจะหมายถึงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแท่นรวบรวมมานาที่บ้านหรือการสร้างอาวุธมานาหรือแม้แต่อาวุธวิญญาณ หรือแม้แต่ยาสูตรลับที่หาได้ยาก จากช่างฝีมือระดับสูง !!’

 

เจสันรู้ว่าที่หอคอยช่างฝีมือในเมืองไซโร มีช่างตีเหล็กระดับ 5 ซึ่งกล่าวกันว่ากำลังจะเข้าสู่ระดับที่ 6 ด้วยเหตุนี้เขาจะสามารถสร้างอาวุธระดับ 3 หรืออาวุธมานาหรือวิญญาณได้

 

สิ่งที่แอนทาเรียได้พูดออกไป มันอาจจะทำให้เจสันขอบางอย่างจากช่างตีเหล็กระดับ 5 ได้ หรือที่แย่กว่านั้นคือการขอเป็นลูกศิษย์ และแอนทาเรียได้เพียงแต่ตบตัวเองเพราะความโง่ที่พูดออกไป

 

แต่สิ่งที่พูดไปนั้นจะทำลายชื่อเสียงของหอคอยช่างฝีมือถ้าเธอกลับคำพูด ในขณะที่เธอได้เป็นตัวแทนของหอคอยช่างฝีมือ

 

‘อั้ยยยยยยย ฉันนี้มันโง่จริงๆ ‘

 

เธอคิดและเจสันยิ้มออกมาเบาๆ ขณะที่กำลังถามกับตัวเองว่าเขาจะขออะไรในหอคอยช่างฝีมือ แต่อย่างไรก็ตามมันยากมากที่จะสามารถทำข้อสอบให้เต็ม 100% ได้ แม้ว่าจะทำเพียง 2 อาชีพก็อยากมากแล้ว และเจสันก็อยากถามในสิ่งนี้ จนกระทั่งทุกคนได้เงียบลงไปอีกครั้ง และแอนทาเรียก็พยายามที่จะไม่สนใจเจสันอีก

 

เธอหันไปและแตะหน้าจอโฮโลแกรม ในขณะที่หน้าจอโฮโลแกรมปรากฏขึ้นและมันแสดงถึงตารางข้อมูลของผู้เข้าสอบ หลังจากล็อกอินเข้าระบบ การสอบก็จะเริ่มขึ้นทันทีโดยไม่เสียเวลา

 

เจสันป้อนข้อมูลของตัวเองตอนจะไปดูไฟล์แรกเกี่ยวกับการจารึกและอักษรรูน ผ่านไปไม่กี่นาที แอนทาเรียได้มองดูแถวของนักเรียนและเธอได้เห็นสีหน้าของเด็กๆ ที่กำลังสิ้นหวังบางคน

 

ในความคิดของเธอ คำถามนั้นไม่ได้ยากขนาดนั้น มีเพียงบางข้อเท่านั้นที่ยากมาก รวมถึงคำถามเชิงลึกในบางข้อ การเรียนรู้สำหรับการสอบพื้นฐานนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน แต่เมื่อพิจารณาระยะเวลาใน 1 สัปดาห์ เธอหวังว่าจะได้เห็นต้นกล้าต้นใหม่ที่กำลังจะเติบโต

 

ในบรรดาเด็กนักเรียนที่กำลังขมวดคิ้วด้วยความเครียด เธอได้เห็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจของเธอแทบจะปลื้มปิติและอยากจะหัวเราะออกมา เจสันเด็กหนุ่มผมดำกำลังขมวดคิ้วอยู่ ทำให้เธอแทบอยากจะหัวเราะออกมา

 

แต่เมื่อสังเกตเจสันด้วยมานาในการขยายการมองเห็น เธอสังเกตเห็นว่าเจสันไม่ได้มีเหงืออกจากการวิตกหรือแสดงอาการที่เคร่งเครียดออกมาแม้แต่น้อย ทำให้เธอเกิดความสงสัย

 

เมื่อได้เห็นเจสันที่กำลังเขียนคำตอบอย่างสม่ำเสมอ เธอคิดว่าเจสันกำลังเดาคำตอบเรื่อยเปื่อย

 

การเขียนคำตอบของเจสันเร็วเกินไปที่เด็กนักเรียนที่มีเวลาในการอ่านเพียง 1 สัปดาห์จะสามารถจดจำทุกอย่างได้ และเธอก็หมดความสนใจในตัวเจสันจนระยะเวลาผ่านไปสักครู่

 

อาจจะกล่าวได้ว่าแอนทาเรียผิดหวัง เพราะเธอหวังที่จะพบเพชรที่ซ่อนในโคลนตม แต่เมื่อพิจารณาเธอถูกบังคับให้มาทำหน้าที่วิทยากรให้กับโรงเรียนในเครือที่อ่อนแอที่สุด เธอก้ไม่เต็มใจตั้งแต่แรกแล้วแต่เจสันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยจากความทะเยอทะยานของเขา

 

เธอจะไม่รู้สึกเสียดาย หากจะต้องมอบหนังสือแห่งประสบการณ์ให้กับเจสัน นอกจากนี้การส่งไฟล์ดังกล่าวไปยังอัจฉริยะท่สามารถทำคะแนนเต็มจากการทำข้อสอบทั้งสามได้ ภายในระยะเวลาในการอ่านเพียง 1 สัปดาห์ มันเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากสำหรับเธอที่จะมอบหนังสือให้

 

หากความเชี่ยวชาญของเจสันนั้นดีมากและยังสามารถผ่านการทดสอบความถนัดในการเล่นแร่แปรธาตุได้ เธอจะขอให้เจสันเป็นศิษย์ของเธอในทันที และด้วยวิธีเธอจะกลายเป็นอาขารย์ของอัจฉริยะและมีชื่อเสียง

 

เธอนั้นใฝ่ฝันมานานหลายปี เช่นเดียวกับช่างฝีมือคนอื่นๆ ที่จะได้ลูกศิษย์ที่เป็นอัจริยะและสามารถสานต่อความสามารถและความรู้ได้ ถ้ามันเกิดขึ้นเหล่าช่างฝีมือต่างๆ จะหลอกล่อเด็กอัจฉริยะด้วยการให้สิ่งต่างๆ เพื่อดึงมาเป็นลูกศิษย์ของตน

 

แอนทาเรียได้เคยเห็นกรณีแบบเจสันแต่เธอก็ผิดหวังเสมอเวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมง และนั่งเรียนส่วนใหญ่ยังคงนั่งสอบด้วยสีหน้าที่หมดหวัง บางคนก็ร้องไห้ออกมาเพราะไม่สามารถตอบคำถามส่วนใหญ่ได้

 

และเมื่อช่างฝีมือที่มาเป็นวิทยากรทั้ง 3 ได้เห็นสีหน้าที่ผิดหวังของเด็กนักเรียนทั้งหลาย จิตใจของพวกเขาก็แตกสลายด้วยความผิดหวัง

 

นักเรียนที่เลือกการสอบความถนัดของอาชีพเดียวได้สอบเสร็จและออกไปก่อนหน้าแล้วและมันไม่ยากเลยที่จะดูว่าพวกเขาสอบผ่านหรือไม่ จากอารมณ์ที่พวกเขาทำเสร็จ เจสันยังคงเขียนคำตอบได้อย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าความเร็วในการเขียนจะไม่ได้ตกลงไปเลยตั้งแต่ต้น

 

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ผ่านไป 6 ชั่วโมง เจสันก็ได้ส่งข้อสอบ และ AI จะสามารถตรวจได้ภายใน 5 นาที และเจัสนได้ตัดสินที่ใจที่จะมองดูปฏิกิริยาของนักเล่นแร่แปรธาตุระดับ 4 หลังจากผ่านไป 5 นาที เจสันก็ได้รับการแจ้งเตือนของคะแนน และมองไปที่แอนทาเรียน

 

คะแนนและข้อสอบของทุกคนจะถูกส่งไปที่หัวหน้าวิทยากร นั้นก็คือแอนทาเรีย

 

ก่อนหน้านี้แอนทาเรียไม่ได้มองการแจ้งเตือนใดๆ เพื่อพบว่าข้อความที่ส่งมาล้วนเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง และหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนในครั้งนี้ เธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังมองเธอ แต่เะอไม่้รู้ว่าใคร มันน่าอึดอัดที่ไม่รู้ว่าใครกำลังมอง

 

เมื่อหันไปรอบๆ เธอเห็นเจสันที่กำลังมองมาที่เธอ และเมื่อสบตากันเจสันยื้มและเคาะนิ้วไปที่สร้อยข้อมือควอนตัม แอนทาเรียมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี และเธอรีบเปิดการแจ้งเตือนทันที และเธอได้มองเห็นในสิ่งที่เธอเฝ้ารอมาตลอดมันน่ายินดีและไม่น่าพอใจในเวลาเดียวกัน

 

 

เจสัน สเตล่า: ม.4 ห้อง:54 อันดับ:224

ข้อสอบพื้นฐาน-การเล่นแร่แปรธาตุ→ 100%

ข้อสอบฝึกหัดช่างตีเหล็กขั้นพื้นฐาน→ 100%

ข้อสอบฝึกหัดพื้นฐาน-รูนมาสเตอร์→ 100%

 

เธออ้าปากค้าง

 

“อะไรหน่ะ !!!”

 

เธออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว และทำให้เด็กคนอื่นๆ ได้จ้องมองมาที่เธอ เจสันชอบใจในปฏิกิริยาของเธอเมื่อเขาสอบผ่าน 100% ในทุกข้อสอบ และเจสันก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจดวงตาที่เร่าร้อนของแอนทาเรีย

 

 

แอนทาเรียที่กำลังมองดูเด็กหนุ่มอายุ 14 ปี ในขณะที่คิดว่าเป็นไปได้อย่างในที่จะเรียนรู้ใน 3 อาชีพ ภายในเวลาสัปดาห์เดียว และสามารถทำข้อสอบได้ถึง 100%

 

และน้อกจากนี้เจสันยังใช้เวลาในการสอบ ในแต่ละข้อสอบน้อยกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เธอได้แสกนแกนมานาของเจสันและเธอก็ตกตะลึงมากกว่าการได้เห็นช่างฝีมือระดับ 5

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้าจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset