ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL – ตอนที่ 4

การอาบน้ำเต็มไปด้วยความยากลำบาก เธอต้องใช้คนรับใช้ถึงสี่คนด้วยกันในการช่วยอาบ การกระจุกอยู่ด้วยกันของคนห้าคน ทำให้ห้องน้ำที่ใหญ่กว่าห้องเก่าของไนติงเกลดูเล็กลงทันตา

‘การอาบน้ำของผู้พิการเนี่ยมันไม่ง่ายเลยจริง ๆ’

เธอรู้สึกชื่นชมลุยซาร์มากขึ้นไปอีก แต่แน่นอนว่าไม่ได้พูดมันออกมาหรอกนะ เพราะตอนนี้ต้องคีพลุคเป็นคุณหนูผู้เย็นชาอยู่ยังไงล่ะ

หลังจากขัดสีฉวีวันเสร็จ พวกเมดก็พากันยกเด็กสาวออกมาวางไว้บนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง

และทันใดนั้น พวกสาว ๆ ก็พลันมีบรรยากาศหนักอึ้ง ประหนึ่งกำลังอยู่ในสนามรบเสียอย่างนั้น ลุยซาร์หันไปพยักหน้าให้สาวรับใช้ที่อยู่ใกล้ที่สุด 

อะไร? พวกเธอส่งสัญญาณอะไรกัน??

“วันนี้จะทำทรงผมเช่นไรดีเจ้าคะ?”

‘มีกลิ่นตุ ๆ แฮะ’

“…ขอแบบปกติ”

“แล้วเครื่องสำอางล่ะเจ้าคะ คุณหนูอยากแต่งแบบไหน”

“แบบปกติ”

“แล้วเครื่องประดับล่ะเจ้าคะ?”

‘…’

ไนติงเกลกัดฟัน ถ้าเกิดป้าถามมากกว่านี้ ฉันจะร้องไห้แล้วจริง ๆ ด้วยนะ…

บทฉันต้องพูดน้อยสิ! หล่อนจะมาถามเป็นเจ้าหนูจำไมอะไรเยอะแยะ!

“เอาแบบปกติให้หมดทุกอย่าง”

เด็กสาวหลับตาลง ก่อนจะคว้าแปรงมาหวีผมเองอย่างชำนาญ เธอจำได้ว่ามีประโยคหนึ่งในนิยาย ที่กล่าวไว้ว่าไนติงเกลชอบทำผมด้วยตัวเอง เพราะงั้นเมื่อพวกเมดถามถึงเรื่องทรงผม เธอจึงไปไม่เป็นเล็กน้อย

‘ดูเหมือนว่าพวกเธอจะต้องการให้เจ้านายดูงดงามที่สุดในวันนี้ เป็นเพราะว่าเรากำลังจะได้เจอกับเจ้าชายงั้นหรอ?’

ดูเหมือนข้อสันนิธานจะถูกต้อง เพราะเพียงไม่นานลุยซาร์ก็ทนกับท่าทีสบายใจเฉิบของเจ้านายไม่ไหว เธอจึงพูดขึ้น

“แต่วันนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่คุณหนูจะได้พบฝ่าบาทเลยนะเจ้าคะ”

‘ใช่จริงด้วย’ 

แต่ขอโทษนะ ถึงพวกเธอจะทำให้ฉันสวยเริ่ดแค่ไหน ก็ไม่ช่วยให้หมอนั่นหันมาสนใจได้หรอก เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่พระนางจะได้พบกันครั้งแรกยังไงล่ะ

ไนติงเกลส่ายหน้า ด้วยดวงตาที่ไม่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งใด มือข้างที่จับหวียังคงขยับขึ้นลงไปตามแรงโน้มถ่วงของเส้นผม

เมื่อเหล่าเมดเห็นท่าทีเช่นนั้น พวกเธอก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วทำตามหน้าที่ของตัวเองต่อไป

*******************************************************************

ใช้เวลาถึง 40 นาที ในการแต่งตัว แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ(ของพวกเมด)

ตอนนี้ไนติงเกลถูกย้ายมาวางอยู่บนรถเข็นแล้ว ชุดนักเรียนที่สั่งทำพิเศษเป็นสีไข่มุกนั้นเข้ากันได้ดีมากกับผมของเธอ

ถึงแม้จะอดบ่นไม่ได้ว่า คนแต่งมันเป็นอะไรกับสีขาวนักหนา แต่เมื่อชื่นชมตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกสักพัก ไนติงเกลก็อดพยักหน้าไม่ได้

‘ยัยนี่เหมาะกับสีนี้จริง ๆ นั่นแหละ’

ก่อนที่จะหลงตัวเองไปมากกว่านี้ ก็ถูกเมดคู่ใจ คุณป้าลุยซาร์ก็กระชากออกมาในโลกความเป็นจริงเสียก่อน

“คุณหนูไนติงเกล นายท่านเชิญให้ไปทานอาหารเช้าเจ้าค่ะ”

“…ท่านพ่อ?”

เมื่อเอ่ยถึงเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ เด็กสาวก็เผลอถามออกมาอย่างลืมตัว ไม่สิ…นี่มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติจากร่างกาย …ดูเหมือนไนติงเกลตัวจริงก็คงตกใจเหมือนกัน

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ไอ้หมอนั่นเชิญลูกสาวไปทานอาหารเช้าเนี่ยนะ?’

ดยุคฟอร์ซ พ่อของนางร้ายในเรื่อง ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รักครอบครัวม้ากกกกกกมาก ร้อยวันพันไปไม่เคยสนใจใยดี แต่พอมาวันนี้กลับเชิญไปร่วมโต๊ะด้วยเนี่ยนะ!?

‘อยากปฏิเสธโว้ยยยยย!!’

“ใช่เจ้าค่ะ …คุณหนูต้องการให้ดิฉันปฏิเสธหรือไม่เจ้าคะ”

หัวหน้าเมดมองด้วยความเห็นใจ ก่อนจะเพิ่มประโยคหลังมาให้ ซึ่งเธอก็ทำได้แต่ถอนหายใจกลับไป ปฏิเสธคำเชิญดยุคเนี่ยนะ? ไม่มีคนสติดีคนไหนเขาทำกันหรอก

“…ไม่ต้อง บอกท่านว่าฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เมื่อลุยซาร์จากไป เธอก็มาครุ่นคิดถึงตัวละครอย่าง ดยุคฟอร์ซ แล้วก็พบเรื่องอันน่าตกตะลึง!

‘ในนิยายไม่มีการพูดถึงพ่อของไนติงเกลเลยนี่หว่า!?’

ไม่มีฉากไหนในนิยายที่บรรยายถึงตัวละครดยุคฟอร์ซเลยแม้แต่น้อย! แล้วความทรงจำที่ว่าเขาเป็นคนเย็นชาต่อครอบครัวมาจากไหนล่ะ??

“อย่าบอกนะว่าเป็นเธออีกแล้วน่ะ…”

เธอถามภาพสะท้อนในกระจกเงา แต่ก็มีเพียงใบหน้าเหยเกของตัวเองสะท้อนกลับมาเท่านั้น

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBLณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset