ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL – ตอนที่ 15

“เฮ้ นายว่าฝ่าบาทเอียนแปลกไปไหม?”

นักเรียนชายคนหนึ่งกระทุ้งข้อศอกใส่เพื่อนของเขาที่เป็นเบต้าเหมือนกัน

“หะ? ก็ปกตินี่ ท่านก็ยังหล่อเหมือนเดิม?”

“ต-แต่ท่านยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดมา 5 นาทีแล้วนะ…”

“หืมม”

เพื่อนของเขาทำเพียงลากเสียงตอบกลับมา

เขาเกาศีรษะ คนพวกนี้มัวแต่หลงเสน่ห์เจ้าชายจนลืมมองความผิดปกติไปเลยหรือนี่…

‘เพราะงี้เขาถึงได้เรียกว่า ความงดงามนั้นเป็นบาปสินะ’

แกร่ก! โพเดียมเริ่มมีรอยร้าว

ความจริงแล้วไนติงเกลก็อยากใช้สกิลแถ LV 100 ของเธอในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อไปเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้แค่จะทรงตัวอยู่ด้วยมือสองข้างก็จะตายอยู่แล้วอ่ะนะ…

เธอจึงได้แต่ปั้นหน้าให้ดูดีที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจแทน 

[สกิล ‘นั่นมัน UFO!!’ LV 5 เปิดใช้งาน]

‘เดี๋ยวนะ เทคนิคในตำนานของฉันก็เอามาเป็นสกิลด้วยหรอ…’

ต้องขอบคุณความหล่อวัวตายควายล้มของเจ้าชาย ที่ปกติเพียงแค่มองก็เหมือนจะเห็นออร่า ‘พี่หล่อ พี่รวย’ เรืองแสงออกมาอยู่แล้ว และด้วยการผสมผสานเข้ากับสกิลของไนติงเกล ทำให้ออร่าของเจ้าชายแข็งแกร่งขึ้นไปอีก!

“น-นี่นายไม่คิดว่าพระองค์ทรงแปลกไปจริง ๆ หรอ?”

“หืมม จะว่าแปลกก็คงแปลกอยู่หรอก อา… ดูรัศมีความศักดิ์สิทธิ์ที่โผล่มาด้านหลังของท่านสิ!”

“หา!? พูดบ้าอะไ– …โอ้ จริงด้วย”

เบต้าหนุ่มหยุดพูดแล้วจ้องไปที่รัชทายาทอย่างพินิศ และเขาก็พบเรื่องน่าทึ่งเข้า

ภาพลวงตาของมงกุฏกับผ้าคลุมที่โผล่มาเสมอ เปลี่ยนกลายเป็นวงแหวนกับปีกแทน!

“จ-เจ้าชายกลายเป็น…นางฟ้า!”

โอ้ ว้าว อา!

เสียงของฝูงชนดังขึ้นมาเป็นระยะ ทั้งหมดต้องขอบคุณสกิลของเธอ+เบ้าหน้าของเจ้าชาย ที่ทำให้กุมหัวใจของหนุ่มสาวน้อยใหญ่ไว้อยู่หมัด!

หลังจากวันนั้นก็ได้มีข่าวลือออกมาประมาณว่า ‘องค์ชายรัชทายาทจงใจยื้อเวลากล่าวสุนทรพจน์ เพื่อปลอบประโลมจิตวิญญาณของผู้คน’ ทำให้ความนิยมของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างงง ๆ

โชคดีที่สกิลภาพลวงตาถูกใช้ร่วมกับสกิล ‘การเชื่อมต่อระยะไกล’ ซึ่งเป็นผลงานของนายเอกผู้มากความสามารถ ทำให้หนูทดลอ– อะแฮ่ม! เป้าหมายอย่างไนติงเกลไม่ต้องเสียพลังเวทย์เลยสักนิด

ไม่เหมือนกับสกิลแรงโน้มถ่วงที่เธอต้องเป็นคนรับช่วงต่อเองเพราะอีกฝ่ายแบกพร้อมกันสองสกิลไม่ไหว

แกร่ก กึก! 

แต่ตอนนี้ดูท่าโพเดียมน่าจะไม่ไหวแล้ว…

********************************

ตึก ๆ ๆ

เสียงฝีเท้าดังก้องกังวาลไปทั่วห้องโถงที่เงียบสงัดไร้ผู้คน

เธอสาวเท้าเดินไปอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง

สถานที่ที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปนั้น เป็นเขตหวงห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครก็มิอาจย่างกรายเข้ามาได้

เพราะงั้นในบริเวณนี้จึงมีเพียงเสียงฝีเท้าและเสียงหัวใจเต้นของเธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น

ตึก ๆ ๆ

ที่สุดปลายทางของโถงทางเดินคือประตูสีน้ำเงินที่สลักด้วยลวดลายดอกไม้งดงาม ในที่สุดเธอก็หยุดฝีเท้าลงที่หน้าประตูบานนั้น

เด็กสาวหยุดจัดระเบียบทรงผมเล็กน้อยก่อนจะผลักประตูเข้าไป

“อรุณสวัสดิ์เพคะ ฝ่าบาท”

“…”

เธอกล่าวทักทายผู้ที่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบงันโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ

แต่แทนที่เธอจะโมโหกับกิริยาหยาบคายของเขา เด็กสาวกลับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนผู้นั้นแทน แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเธอเลยก็ตาม

“ครั้งนี้เองก็เอาแต่จ้องไปด้านนอกอีกแล้วนะเพคะ”

เด็กสาวถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นเส้นผมสีน้ำเงินและใบหน้าน่ารักแบบสาวน้อย

เธอคือพระราชธิดาองค์เล็กสุดของราชวงศ์ไวน์เบิร์ก ‘อิซาเบล ไวน์เบิร์ก’ นั่นเอง

ณ บัดนี้ ‘เจ้าหญิงอิซาเบล’ ไม่มีอยู่อีกแล้ว เหลือเพียง ‘อิซซี่’ สาวน้อยในห้วงความรักแต่เพียงเท่านั้น

อิซาเบลเดินเข้ามาใกล้ชายที่เอาแต่จ้องหน้าต่าง และมองใบหน้าด้านข้างของเขาอย่างรักไคร่

“เอาแต่เงียบอีกแล้วนะเพคะ…อา แต่ท่านที่เป็นแบบนี้เองก็น่ารักไม่หยอก”

“…”

เจ้าหญิงหัวเราะคิกคักสมกับอายุของเธอ ผิดกับชายหนุ่มที่อายุไม่ต่างกันมาก แต่ทำตัวไม่หยี่ระต่อสิ่งใด เขาทำเพียงมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับหุ่นกระบอกที่ไร้ชีวิต

“แต่อย่างไร…หม่อมฉันก็ยังชอบท่านที่หัวเราะมากกว่าอยู่ดีเพคะ”

เธอไม่แม้แต่จะอยากรู้ว่าเขากำลังมองไปยังที่แห่งใดและไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง เพราะตราบใดที่ชายคนนี้ยังอยู่ที่นี่ เธอก็สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ตลอดเวลา

สาวน้อยเอื้อมมือไปปัดเส้นผมของอีกฝ่ายผ่านรวงแก้มซีดขาวอย่างเบาบาง 

“ตำนานนั้นกล่าวว่า เรือนผมของราชวงศ์นั้นจะส่องประกายยามต้องแสงตะวัน…”

แสงอาทิตย์ที่สะท้อนเข้ากับเส้นผมสีน้ำเงิน ก่อให้เกิดเป็นประกายขึ้นคล้ายกับแดดที่สะท้อนบนผิวน้ำ

ตอนนี้ข้อพิสูจน์ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเธอแล้ว อิซาเบลในเงามืดสางเส้นผมที่ดูราวกับใยไหมศักดิ์สิทธิ์ พลางรำลึกถึงอดีตไปด้วย

“จำได้ไหมเพคะ ตอนสมัยที่หม่อมฉันยังเล็ก หม่อมฉันมักจะขอเล่นผมท่านอยู่เสมอเลย…ตอนนั้นท่านพี่หญิงก็อยู่ด้วย”

กึก

นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อย ยามที่เธอกล่าวถึงอีกบุคคล แต่เด็กสาวไม่ได้สนใจ 

เธอกำลังนึกถึงความทรงจำล้ำค่า สมัยที่พวกเขาสามคนยังนั่งเล่นกันอย่างมีความสุข

“หม่อมฉันชอบเวลาที่พวกเราสามคนได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ เพคะ”

“…”

ดวงตาสีดำสนิทของชายหนุ่มลุ่มลึกลง

“น่าเสียดายที่ครั้งนี้หม่อมฉันไม่สามารถดึงนางเข้ามาได้ แต่ว่าครั้งต่อไป…”

และทันใดนั้นก่อนที่เธอจะพูดจบ เสียงอะไรบางอย่างที่คล้ายกับกระจกแตกก็ดังขึ้น

เพล้ง!

“!”

ก่อนที่จะได้ทันตั้งตัวรอยแตกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่บานประตู และจากนั้นก็มันกระจายไปทั่วห้องเสมือนโรคติดต่อ 

แคร่ก ๆ!

ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา แต่อิซาเบลกลับมีสีหน้าประหลาดใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ราวกับว่าแค่ถูกเด็กซนมาเคาะประตูบ้านเล่น

แต่แน่นอน ว่าในใจก็ไม่ได้เยือกเย็นเหมือนที่แสดงออก เธอเองก็เสียดายเวลาที่อุตส่าห์ตกแต่งที่นี่ขึ้นมาให้เหมือนสถานที่จริงที่สุดเช่นกัน

“ดูเหมือนที่แห่งนี้จะถูกค้นพบแล้วสินะเพคะ…เฮ้อ ช่างเถอะ อย่างไรเสียยามเมื่อท่านจากไปมันก็จะพังลงอยู่ดี”

หลังจากเกิดเรื่องทั้งหมด เด็กสาวก็เพิ่งจะปล่อยมือออกจากเส้นผมของเขา

“หม่อมฉันจะรอวันที่พวกเราสามคนได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะเพคะ ——”

เพล้ง!

ภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็นก็คือ รอยยิ้มดั่งดอกไม้แรกแย้มของอีกฝ่าย ซึ่งขัดกับสภาพแวดล้อมที่พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

โดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไป แต่สุดท้ายก็สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า…

***************************************

เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกที ก็พบว่าตัวเองกลับมาที่โลกความเป็นจริงแล้ว 

“…”

ภาพรอยยิ้มของเด็กสาวเมื่อครู่ยังตราตรึงอยู่ในสมองของเขา ต่อให้พยายามสะบัดออกไปเท่าไหร่ก็ไม่อาจลืมได้

“หม่อมฉันจะรอวันที่พวกเราสามคนได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะเพคะ เสด็จพี่”

“…อิซซี่–”

ปัง! 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเปิดประตูดังสนั่นราวกับลูกกระสุน จนเขาอดยกหัวขึ้นมามองไม่ได้ 

และแล้วชายหนุ่มก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสองคน กับคนไม่รู้จักอีกหนึ่งโผล่หัวเข้ามา

“ว้าว ฝ่าบาทยังอยู่ในห้องน้ำจริง ๆ ด้วย! ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังหาไม่เจอเลยแท้ ๆ!”

“…”

เอียน ไวนเบิร์ก ตื่นขึ้นมาในห้องน้ำบนโลกความจริง พร้อมกับถูกคนสามคนล้อมเอาไว้…

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBLณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset