ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด ภาค 2 ตอนที่ 2

บทที่ 2 ครอบครัวของมินจุน (2)
Ink Stone_Y
“ผะ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร…”
“‘ไอ้ซังกะบ๊วย ไปให้พ้นเลย’ นี่คือคำที่นายพูดตอนที่ฉันกำลังจะจูบนายตอนตีห้าสามสิบห้านาทีไม่ผิดแน่ “
มินจุนอยากจะดึงลิ้นตัวเองทิ้งไปให้สิ้นซาก ถึงจะแถคำว่า ‘ไอ้ซังกะบ๊วย’ ได้ แต่คำว่า ‘ไปให้พ้น’ คงหนีไม่รอด
‘ไอ้ซังกะบ๊วย’ คือหนึ่งในคำหยาบทั้งหลายที่ยายชอบพูดและถ่ายทอดให้เขา พูดแบบนี้อาจจะนึกภาพไม่ออก แต่ยายของมินจุนเป็นถึงนางงามเกาหลีในยุค 70 ดังนั้น เมื่อคำหยาบพรั่งพรูออกมาจากปากของยายผู้มีใบหน้าอันงดงาม มินจุนจึงโตมาโดยเข้าใจว่ามันคือคำมาตรฐาน
หลังจากเข้าโรงเรียนประถม แม้มินจุนจะรู้แล้วว่าเด็กๆ ไม่ควรพูดคำหยาบ แต่เขาก็เลิกพูดไม่ได้เพราะติดปากไปแล้ว และยิ่งยากขึ้นอีกเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนปากจัดอย่างไดกิ ที่ผ่านมาเขาขัดเกลานิสัยไปได้มากพอสมควร แต่คำหยาบที่ฝังอยู่ลึกๆ ในใจก็มักจะหลุดออกมาตอนที่ขาดสติหรือตอนละเมอ ซึ่งคงรวมไปถึงเมื่อตอนเช้ามืดของวันนี้ด้วย
“มินจุน ได้ยินที่ถามแล้วก็ตอบด้วยสิ”
“มะ มันคือคำที่ยายผมพูดบ่อยๆ ผมก็ไม่รู้ความหมายเหมือนกันครับ ถึงสำเนียงจะดูแรงแต่ใช้บ่อยๆ เข้าก็เลยติดปาก…”
“นายหมายถึงคำว่า ‘ไอ้ซังกะบ๊วย’ หรือคำว่า ‘ไปให้พ้น’ ล่ะ“
“เอ่อ…ไอ้ซังกะบ๊วย…”
“ทีนี้นายก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่ารอยนิ้วที่ฉันฝากไว้บนคางของนายมันยังน้อยไปสำหรับคำที่นายบอกว่าพูดแล้วติดปาก”
“แน่นอนครับ มันสมควรมากๆ ตอนนี้ผมอยากเข้าไปดูโทมะกินข้าวแล้ว…”
“มินจุน”
“ครับ…?”
“ฉันคิดว่ามันเป็นคำพูดที่ไม่ควรออกมาจากปากคนเลี้ยงเด็ก เพราะงั้นฉันจะคอยจับตาดูนายนะ”
“ครับ ไม่ใช่แน่นอนครับ”
แม้จะเสียใจและไม่พอใจมากที่ไดกิพูดกับคนรักอย่างเขาเหมือนกำลังข่มขู่ลูกน้องที่ทรยศหนีไป แต่มินจุนก็ยิ้มเจื่อนๆ พลางพยักหน้า ขณะเดียวกันในใจก็กำลังหาทางย้อนคำพูดของอีกฝ่าย
‘ถ้าพูดขนาดนี้ แล้วคิดว่าที่นี่เป็นบ้านที่เหมาะกับการเลี้ยงเด็กรึไง ขนาดฉันบางทียังกลัวจนแข้งขาอ่อนเลย’
ไดกิหรี่ตาเพ่งมองไปที่มินจุน สายตาของเขาเย็นยะเยือกและคมกริบราวกับต้องการมองทะลุเข้าไปถึงความคิดในหัวของอีกฝ่าย เมื่อไม่เหลือที่ให้ถอยห่างจากไดกิซึ่งขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มินจุนจึงแนบศีรษะติดกับกำแพงแล้วหลับตาลงทั้งสองข้าง เขาปิดปากแน่นเพราะกลัวว่าไดกิจะแกล้งสอดนิ้วเข้าไปดึงลิ้นเขาออกมา
“มินจุน”
“อื้อ” มินจุนทำหน้าย่นเหมือนจะร้องไห้พลางตอบรับทั้งที่ยังปิดปากอยู่
“ยังไม่ได้มอร์นิ่งคิสเลยนะ”
มินจุนลืมตาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อมองไดกิ ทันทีที่รู้สึกถึงกลิ่นกายที่ชวนให้ใจเต้นกับสัมผัสจากริมฝีปากอันเร่าร้อนของอีกฝ่าย เขามองเห็นสันจมูกคมและดวงตาที่ปิดสนิททั้งสองข้างของไดกิอยู่ตรงหน้า ร่างกายของเขาค่อยๆ ละลายไปกับริมฝีปากของไดกิที่จุมพิตอย่างนุ่มนวล ริมฝีปากที่ปิดแน่นราวกับล็อกไว้ด้วยแม่กุญแจของมินจุนค่อยๆ เปิดออก เขาไล้ปลายลิ้นไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย
ตอนนั้นเองที่ไดกิขบลิ้นนุ่มๆ ของมินจุนอย่างรวดเร็วราวกับนกอินทรีที่กำลังโฉบเหยื่อ แล้วดูดอย่างเต็มแรงเหมือนตั้งใจจะดึงลิ้นให้หลุดออกมาจริงๆ
“อะ อุ๊บ…อุบ…อุ๊บบบบ”
แม้ว่ามินจุนจะตีไหล่ไดกิพร้อมกับตะโกนว่าผิดไปแล้ว แต่ก็มีเพียงเสียงร้องอู้อี้เท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาจากปากของเขา ไดกิไม่ได้โกหกเรื่องที่บอกว่าจะดึงลิ้นของมินจุน เขาจับไดกิไว้พักใหญ่ ร้องไห้และขอให้อีกฝ่ายยกโทษให้
“อุ๊บบบบ…”

* * *

มินจุนถูตัวให้โทมะที่กำลังเล่นน้ำและล้างหน้าให้เจ้าเป็ดน้อยอยู่ในอ่างอาบน้ำ พลางสำรวจดูร่างกายอันนุ่มนิ่มว่ามีแผลตรงไหนบ้างหรือไม่ ช่วงนี้โทมะมีพลังงานล้นเหลือ วิ่งเล่นไปนู่นมานี่จนมีรอยช้ำไปทั่ว เห็นทีไรก็ทำให้เขารู้สึกใจสลาย
มินจุนแค่สำรวจดูเผื่อไว้ แต่กลับมีรอยช้ำใหม่อยู่ที่ต้นขาของโทมะจริงๆ เป็นรอยแดงนิดหน่อยก็เห็นได้ชัดเพราะเป็นผิวเด็ก โทมะทำปากยื่นทันทีที่มินจุนเอามือไปแตะที่รอยช้ำ
“เจ็บเหรอ”
“นิดนุง”
“ทำไมถึงเป็นแผลได้ล่ะ”
“ไม่ยู้ แต่โทมะต้องเดินยาวังๆ”
“ใช่ ถูกต้องแล้ว โทมะต้องเดินระวังๆ นะ โถ โทมะของฉันฉลาดจังเลย”
มินจุนลูบผมเปียกๆ ของโทมะ อาจเพราะเพิ่งสระผมไป ผมหยักศกของเจ้าตัวเล็กจึงแนบลู่ไปกับศีรษะที่ได้รูปสวย
“หม่าม้าโดนป๊ะป๋าดุหยอ”
“ป๊ะป๋าน่ะเหรอ”
มินจุนทำปากยื่นเหมือนโทมะเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อเช้าที่ตัวเองเกือบถูกไดกิดึงลิ้น เขาพ่นลมออกมาทางจมูก อยากจะตอบโทมะว่าไม่ใช่ แต่ตัวเองก็ยังไม่หายงอนไดกิอยู่ดี
“ฮึ”
“ฮึ? หม่าม้า โทมะฮึแย้ว…โอ๊ะ ออกมาแย้ว”
โทมะเอนศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วหัวเราะออกมา มินจุนหันไปมองโทมะด้วยความตกใจ จึงได้เห็นว่าน้ำมูกใสๆ กำลังไหลลงมาถึงริมฝีปากของเด็กน้อย น้ำมูกไหลออกมาเพราะโทมะทำเสียง ฮึ ตามเขา มินจุนหัวเราะออกมาขณะที่เช็ดน้ำมูกให้โทมะ
“โทมะน้ำมูกไหลแล้ว”
“พอฮึก็ไหยออกมาเยย ตาหยกมั้ย”
เหมือนว่าโทมะจะชอบที่มินจุนหัวเราะ จึงจับหน้าของเขาแล้วทำท่าจะ ฮึ ออกมาอีกครั้ง มินจุนกอดโทมะแน่นโดยไม่สนว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเปียก
“หม่าม้าชอบโทมะที่สุดเลย”
“มากก่าป๊ะป๋าอีกหยอ”
“แน่อยู่แล้ว”
“โทมะก็เหมืองกัง”
ทั้งสองคนใช้เวลาร่วมกันตามประสาแม่ลูกไปสักพัก ตอนที่พวกเขากำลังหัวเราะร่า เคนตะก็เดินถือโทรศัพท์เข้ามา
“คุณมินจุนครับ คุณแม่วิดีโอคอลมาจากประเทศเกาหลีครับ”
“แม่โทรมาเหรอครับ”
“หม่าม้า อุนยายหยอ”
มินจุนยิ้มน้อยๆ พร้อมกับรับโทรศัพท์มาคุย
เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วมินจุนบอกคุณนายชาแอรยอน แม่ของเขาที่อยู่เกาหลีทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกว่าตัวเองเป็นเกย์และคนที่เขารักอยู่ตอนนี้เป็นหัวหน้ายากูซ่า หลังจากอยู่กับความเงียบชวนหยุดหายใจไปได้ห้านาทีพอดี แม่ก็ขอดูรูปของไดกิ แต่มินจุนบอกไปว่าไดกิเป็นคนไม่ถ่ายรูปและถ่ายรูปโทมะส่งไปให้แทน โดยพิมพ์ชื่อรูปเอาไว้ใต้รูปว่า ‘ลูกชายของไดกิ’
ผ่านไปไม่กี่วินาที แม่ของเขาก็พูดว่าพรุ่งนี้จะโทรมาใหม่แล้ววางสายไปเสียเฉยๆ ตลอดหลายเดือนหลังจากนั้น แอรยอนผู้ตกหลุมรักโทมะเข้าอย่างจังก็เอาแต่ถามหาโทมะโดยไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นเกย์เลย น่าแปลกที่โทมะก็ชอบแม่ของมินจุนด้วยเหมือนกัน
“หม่าม้า โทมะจะคุยกะอุนยาย”
“แป๊บนะ แม่ครับ”
‘แกหลบไปเลย ให้โทมะมาคุย’
“แม่อ่ะ อย่างน้อยก็ทักทายลูกชายหน่อย…”
‘โทมะ ยายเองนะลูก’
แอรยอนไม่ฟังที่มินจุนพูดสักนิด เธอไล่เขาแล้วเรียกหาโทมะ เจ้าตัวเล็กโผล่หน้าเข้าไปในจอแทบจะทันที
“อุนยาย โทมะอยู่นี่ อาบน้ำเฉ็ดแย้ว”
‘โถ เจ้าหมาน้อยของยาย อาบน้ำแล้วเหรอครับ’
“ใจ้ หม่าม้าฉะผมให้ด้วย”
‘เหรอลูก แหม น่ารักจริงๆ ว่าแต่เมื่อไหร่โทมะจะมาหายายล่ะ ยายอยากไปหาแต่ยุ่งมากๆ เลย ยายอยากให้โทมะมาหา’
“ได้เยย โทมะจะไปหานะ”
เนื่องจากคุยกันคนละภาษา มินจุนจึงช่วยเป็นล่ามให้อยู่ข้างๆ เพื่อให้ทั้งคู่สื่อสารกันได้ มินจุนแปลด้วยสำเนียงและท่าทางที่ใกล้เคียงที่สุดเพราะแม่ของเขาขู่ไว้ว่าถ้าพูดโกหกแม้แต่นิดเดียวไม่รอดแน่
“อุนยาย บ๊ะบาย”
‘จ้ะๆ นอนเถอะเจ้าหมาน้อย’
“อุนยายก็นอนๆ น้า”
โทมะคุยเสร็จก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปรอบอ่างอาบน้ำ ตอนนั้นมินจุนจึงได้มองหน้าแม่ตัวเองเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบแบบสั้นๆ
‘โกรธอะไรของแก’
“โกรธที่ไหนล่ะ”
‘นี่กล้าทำหน้าหน้าอวดดีแบบนี้คุยกับแม่เหรอ แกอยากตายมากสินะ’
“แม่ โทมะฟังอยู่นะ พูดอะไรเนี่ย”
‘โทมะจะเข้าใจภาษาเกาหลีที่ฉันพูดได้ยังไง เลิกพูดไร้สาระแล้วหาโอกาสมาหาฉันทีซิ’
“คือ…จะไปได้ยังไง ไดกิก็มีตารางงานของเขา…”
‘ไม่ต้องพูดมาก มาเสียก่อนที่ฉันจะฉีกปากแก’
มินจุนถอนหายใจยาว บ่นพึมพำขณะมองโทรศัพท์ที่เพิ่งดับลงด้วยสายตาที่อ่อนล้าราวกับเพิ่งผ่านลมมรสุมมา
“ก็บอกแล้วว่าผมว่าง ปัญหาอยู่ที่ไดกิต่างหาก แม่นี่ไม่รู้อะไรแล้วยัง…”
“ไม่รู้อะไรเหรอ”
ไดกิมายืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
“มาแล้วเหรอครับบอส”
“ป๊ะป๋ามาแย้วหยอ โทมะคุยทอฉับกะอุนยายโด้ย”
ไดกิปราดตามองมินจุนที่กำลังทำหน้าบึ้งแล้วเบนสายตาไปหาเคนตะ
“ไปอาบน้ำให้โทมะหน่อย”
“ครับบอส”
“ส่วนมินจุน มาคุยกับฉันหน่อย”
“ฮึ จะดึงลิ้นกันอีกรึไง”
“มินจุน ถ้ายังเป็นแบบนี้ฉันจะไปถามครูภาษาเกาหลีด้วยตัวเองเรื่องคำที่นายพูดกับฉัน”
“ผมจะตามไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
มินจุนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะรู้ดีว่า ‘ไอ้ซังกะบ๊วย’ เป็นคำที่หยาบแค่ไหน ทันใดนั้นเองโทมะก็ร้องเรียกไดกิเสียงดัง
“ป๊ะป๋า อย่าตีหม่าม้านะ โทมะจาโฮกใส่เยย”
“โถ ลูกน้อยของฉัน”
หลังจากวางสายจากแอรยอน บางครั้งมินจุนก็จะแกล้งเลียนแบบเธอ เขาส่งสายตาหวานเยิ้มปานน้ำผึ้งไปให้โทมะด้วยความซาบซึ้งใจ ไดกิหันมองโทมะกับมินจุนสลับกันไปมาพร้อมกับส่ายหัวแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ มินจุนขยิบตาให้โทมะหนึ่งทีก่อนจะเดินตามไดกิไป

มินจุนเม้มปากแน่นพลางจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังของไดกิตลอดทางเดิน แม้เขาจะชอบจูบที่รุนแรง แต่เขาก็ไม่ขอยอมรับจูบที่น่ากลัว เมื่อเดินนำมินจุนไปจนถึงห้องนอน ไดกิก็หันหลังกลับมาจ้องหน้าเขา มินจุนต่อสู้ด้วยการจ้องอีกฝ่ายกลับไป แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาก็หลบสายตามองลงไปที่พรม
“ยังงอนอยู่เหรอ”
“อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กสิครับ”
“งั้นนายก็อย่าทำตัวแบบนี้ มันทำให้ฉันสับสนว่านี่ฉันมีลูกสองคนรึเปล่า”
“ว่าไงนะ”
มินจุนเงยหน้าขึ้นมาถามเสียงดัง เขาคิดว่าไดกิคงกำลังทำหน้าดุ แต่อีกฝ่ายกลับมีสีหน้าที่อ่อนลงมาก เขาจึงวางใจและเขม่นมองไดกิอย่างเต็มที่
“จ้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไม่งั้น…”
“ไม่งั้นจะทำไมครับ”
“จะลอกคราบนายซะ”
แม้ไดกิจะพูดสิ่งที่ควรกระซิบเบาๆ อย่างเร่าร้อนออกมาได้อย่างป่าเถื่อนเช่นนี้ แต่ก็ทำให้มินจุนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เรื่องนี้เป็นปัญหามาโดยตลอด ถึงจะอยากโมโหใส่ไดกิ แต่มินจุนกลับอ่อนเปลี้ยเป็นสาหร่ายต้มทุกทีที่ได้ยินไดกิพูดอะไรแบบนี้
มินจุนผ่อนสายตาที่เคยเขม่นมองไดกิเพราะตอนนี้คงตอบโต้อะไรไม่ได้ ไดกิเห็นมินจุนเป็นแบบนั้นแล้วก็กลั้นขำไว้ได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นหยิบตั๋วออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อยื่นให้มินจุน
“รับไปสิ”
“อะไรเหรอครับ”
“ไม่มีตารึไง มองดูก็รู้แล้ว”
“พูดแบบนี้กลัวคนเขาไม่รู้ว่าเป็นยากูซ่าเหรอครับ แค่มองก็รู้แล้วว่าใช่”
มินจุนบ่นพึมพำแล้วคว้าสิ่งที่ไดกิยื่นมาให้ ทันทีที่เหลือบตามอง เขาก็รู้สึกตื่นเต้น มองสลับไปมาระหว่างไดกิกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขา เพราะไม่ว่าจะมองยังไงก็เห็นเป็นตั๋วเครื่องบิน
“นะ นี่มันอะไรครับ”
“ฉันจะลองหาเวลาให้ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
มินจุนกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอแล้วตรวจดูตั๋วเครื่องบิน มันคือตั๋วเครื่องบินไปประเทศเกาหลีใต้ สิ่งนี้ทำให้น้ำตาของมินจุนล้นเอ่อขึ้นมา เขาโผตัวเข้าหาไดกิ

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด
Score 8.9
Status: Ongoing
อ่านตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติดเรื่องย่อ อุตส่าห์วาดฝันชีวิตในต่างแดนไว้อย่างดี แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย! มินจุน หนุ่มน้อยสัญชาติเกาหลีวัย 22 ปี ดั้นด้นจากบ้านเกิดมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ทว่าเขาดันถูกคนรักที่เพิ่งคบกันเมื่อหกเดือนก่อนหลอกรีดไถเงินไปจนหมด แถมยังโดนเอาชื่อไปใช้กู้เงินนอกระบบอีก และถึงจะอยากหนีกลับเกาหลีมากแค่ไหน พาสปอร์ตก็ถูกยึดไปแล้ว! ขณะที่สิ้นหวังว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี จู่ๆ ฟ้าก็ประทานขบวนรถเบนซ์สีดำเรียงแถวหน้ากระดานมาจอดตรงหน้า มินจุนผงะ ถอยกรูดไปชิดกำแพงอัตโนมัติด้วยความตื่นกลัว …จากนั้นก็มีเด็กชายตัวน้อยวิ่งลงจากรถเบนซ์เข้ามากอดเขาโดยไม่ทันตั้งตัว “หม่าม้า!” ‘อะไรนะ หม่าม้า? ใครกัน? ฉันเหรอ!?’ “ฉันจะให้นายมาเป็นแม่ชั่วคราวของลูกชายฉัน” เจ้าพ่อยากูซ่าอย่าง ไดกิ พูดไปควงปืนไป แบบนี้… เขาคนเดียวจะไปสู้ไหวเหรอ!? แต่ผู้ชายหล่อบาดใจแถมอันตรายนิดๆ นี่มันสเป็คเขาเลยนี่นา… ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองจีบยากูซ่าสักครั้งก่อนตายก็แล้วกัน!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset