ตอนที่ 10 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน

เล่มที่ 1 ตอนที่ 10 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน 10

หลังจากที่พูดจบเว่ยหมิ่นก็ตัดสาย หร่านซวี่จือมองโทรศัพท์ด้วยความสงสัยและโมโห นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันบินมาตั้งไกล กลับไม่ถามไถ่อะไรสักคำแถมยังตัดสายไปแบบนี้อีก!
หร่านซวี่จือโมโห เขาหิ้วกระเป๋าสัมภาระแล้วเดินออกมาจากสนามบิน เมื่อมาถึงโถงในสนามบิน ทันใดนั้นก็มีภาพใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
เสียงที่ดังกึกก้องนั้นทำเอาหร่านซวี่จือสะดุ้งตกใจเพราะเขานึกว่ามีระเบิดเกิดขึ้นที่สนามบิน แต่ปรากฏว่าเป็นเพียงควันกระสุนสีชมพู
ถัดจากนั้นจอฉายภาพขนาดใหญ่ในสนามบินก็ดับมืดลง จากนั้นบนหน้าจอนั้นก็ปรากฏใบหน้าขนาดใหญ่ของเว่ยหมิ่น
คนนับพันนับหมื่นในสนามบินพากันหันไปมอง
หร่านซวี่จือ “???”
โอ้โห เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง
เว่ยหมิ่นในจอเงินนั้นเหมือนกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน สองมือประสานกัน ท่าทางของเขาดูขึงขังและมองมาที่จออย่างจริงจัง เอ่ยปากช้าๆ ว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน สวัสดียามบ่าย”
การกล่าวเปิดงานนี้ หร่านซวี่จือแทบจะนึกว่าเว่ยหมิ่นกำลังประกาศไฟลต์บินแทนพนักงานในสนามบิน
แต่ว่าเขารู้ว่าคงไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายแบบนั้น
หร่านซวี่จือ: “บ้าจริง สองสามสาม หัวใจฉันเต้นเร็วมากเลย นี่ฉันป่วยหรือเปล่านะ? ”
ระบบ: “พูดตามความจริง กระผมเองก็ซาบซึ้งเหมือนกันครับ”
“ขออภัยที่รบกวนเวลาของทุกท่าน กระผม เว่ยหมิ่น อยากใช้พื้นที่ในการพูดคุยเล็กน้อย” เว่ยหมิ่นชะงักเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นว่า “หนึ่งปีก่อน ผมเกิดอุบัติเหตุและสูญเสียความทรงจำ จนถึงตอนนี้เพิ่งจะได้ความทรงจำกลับคืนมา ระหว่างนั้นเกิดเรื่องราวขึ้นและได้พบเจอคนมากมาย”
“หนึ่งปีที่สูญเสียความทรงจำไปนั้น มีบุคคุลหนึ่งชื่อว่าไป๋เสี่ยวอวิ๋นได้รับเลี้ยงผมไว้ทำให้ผมมีที่ยืนและผมอยากจะบอกว่า ผมรู้สึกขอบคุณเขามาก”
กล่าวขอบคุณไป๋เสี่ยวอวิ๋นจริงด้วย แม้ว่าหร่านซวี่จือจะรู้ว่านี่คือเรื่องที่อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้วแต่ในใจก็แอบเศร้าอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
พูดตามความเป็นจริง เพราะเหตุผลเรื่องงาน เว่ยหมิ่นจึงเข้าออกบ้านหร่านซวี่จือบ่อยพอสมควร เพราะอย่างไรก็อยู่ข้างบ้านกันและไม่ได้ห่างไกลกันมาก เวลาที่อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนาน แม้จะไม่ได้มีความรู้สึกต่อกันเกิดขึ้น แต่อย่างน้อยก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว
เว่ยหมิ่นนิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ “แต่ว่า ผมยังต้องขอบคุณคนอีกคนหนึ่ง”
“ในช่วงแรกผมเกลียดเขามาก แต่ต่อมาผมพบว่าคนคนนี้ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง สองปีก่อนผมยังเด็กจึงเย่อหยิ่งจองหองและทำเรื่องที่ไม่สมควรกับเขาไว้มาก แต่เขาก็ดีกับผมมาโดยตลอด” เว่ยหมิ่นมองมาด้านหน้าด้วยความจริงจัง
“หลังจากที่กลับมา ผมพยายามเร่งรีบในการจัดการเรื่องราวทั้งหมดให้เสร็จสิ้น จนในที่สุดตอนนี้ก็มีเวลา และผมเองก็คาดเดาไว้อยู่แล้วว่าวันนี้เขาต้องมา ดังนั้น วันนี้ ณ ที่แห่งนี้ ผมมีบางคำที่อยากจะบอกกับเขา” พอสิ้นเสียงเว่ยหมิ่น หน้าจอเงินก็ดับมืดไป
ผ่านไปไม่กี่วินาที หลังจากควันกระสุนเมื่อครู่ที่ปล่อยออกมาจนหมด ท่ามกลางหมอกควันสลัว มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มควันอย่างช้าๆ ซึ่งเขาก็คือเว่ยหมิ่นนั่นเอง
แต่หร่านซวี่จือกลับรู้สึกขี้ขลาดจนอยากจะหนี
เว่ยหมิ่นค่อยๆ เดินมาข้างหน้าเขาพร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เชิดคางขึ้นแล้วเอ่ย “หร่านซวี่จือ นายยินดีจะคบกับฉันไหม? ”
หือๆๆ!! นี่มันเหมือนกันฉากขอแต่งงานอย่างไรอย่างนั้น! อย่าทำให้มันมากเกินไปแบบนี้สิ! อาการเขินอายของเขาจะกำเริบอีกแล้ว!
หร่านซวี่จือหน้าแดงแทบแย่ เขารีบโบกมือ “ไม่ๆๆ …”
พอหมอกควันจางหาย หร่านซวี่จือพบว่ารอบข้างมีคนมามุงกันเป็นวงใหญ่ ในนั้นมีไป๋เสี่ยวอวิ๋นด้วยและเขาเองก็ยังหน้าแดงด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นเจ้าคนทรยศ!!!
การปฏิเสธติดๆ กันของหร่านซวี่จือทำเอาระดับความสุขของเว่ยหมิ่นลดฮวบลงและมีท่าทีสลดราวกับถูกทอดทิ้ง หร่านซวี่จือรู้สึกว่าหากตนเองยังพูดมากกว่านี้ก็คงจะได้เห็นพระเอกทำท่าเหมือนสุนัขที่หูห้อยตกลงมา
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นตะโกนอยู่ด้านข้างว่า “อาซวี่! หากนายตอบรับล่ะก็! เว่ยหมิ่นสามารถช่วยให้นายได้อยู่ในบ้านพักสองหมื่นตารางเมตรได้นะ! ”
หร่านซวี่จือ “!”
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นก็พูดขึ้นอีกว่า “ในทุกฤดูร้อนก็จะได้สัมผัสกับชายหาดส่วนตัว! ”
หร่านซวี่จือ “!! ”
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นก็ยังพูดขึ้นอีกว่า “มีกินมีใช้ไม่ขาดมือตลอดชีวิต! ”
หร่านซวี่จือ “!!! ”
เว่ยหมิ่นราวกับได้สติกลับคืนมา จึงรีบเอ่ย “ใช่ ฉันยังสามารถพานายไปกินกุ้งมังกรน้อยหม่าล่าทุกวันได้ด้วยนะ! ”
กุ้งมังกรน้อย!!!
หร่านซวี่จือกุมมือของเว่ยหมิ่นอย่างลึกซึ้ง “ตกลง เราคบกันนะ? ”
ระบบ: “…คุณรัน ผมนี่ยอมคุณจริงๆ เลย”
หร่านซวี่จือ: “นายไม่ต้องยุ่ง! ”
หลังจากที่หร่านซวี่จือตอบรับเว่ยหมิ่น ในที่สุดเว่ยหมิ่นก็เผยรอยยิ้มออกมา ระดับความสุขเหนือศีรษะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ระบบ: “ยินดีกับคุณรันที่บรรลุภารกิจครับ ระดับประเมินผลคือบี แต้มสะสมหนึ่งพัน ดำเนินการกลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริง กรุณาเตรียมตัวให้ดี”
หร่านซวี่จือ: “หือ! เดี๋ยวก่อน! ทำไมกะทันหันแบบนี้!!! ให้ฉันอยู่ต่ออีกสักเดือนสิ! กุ้งมังกรน้อยของฉัน…”
ในสมองมีเสียงดัง “ตึ้ด” และหมวกกันน็อกโดยสารในห้องแคปซูลถูกผู้ช่วยปลดลงมาทันใด
ขณะที่เพิ่งหลุดออกจากโลกฐานข้อมูล หร่านซวี่จือนั้นเจ็บปวดศีรษะอย่างรุนแรง เขากำลังกุมศีรษะเพื่อให้อาการปวดค่อยๆ ทุเลา แต่ในใจนั้นยังเต็มไปด้วยความอาลัย
“ลำบากหัวหน้ารันแล้วค่ะ” ผู้ช่วยอลิซาเบธเผยรอยยิ้มสวยสง่าแล้วพยุงหร่านซวี่จือลุกขึ้นจากห้องแคปซูล
หร่านซวี่จือใช้มือปาดเหงื่อบนเส้นผมแล้วถามว่า “ใช้เวลาไปนานเท่าไหร่? ”
“สองชั่วโมงสี่สิบนาทีค่ะ” อลิซาเบธกล่าว
“หัวหน้ารันคะ หัวหน้าสถานีมอร์ริสขอเข้าพบค่ะ” ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพูดกับหร่านซวี่จือ
หร่านซวี่จือเอ่ยว่า “อนุญาต”

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

Status: Ongoing
อ่านนิยายวิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก เรื่องย่อ ‘หร่านซวี่จือ’ คือผู้ดูแลอวกาศมิติในโลกต่างๆ หน้าที่ของเขาคือการปรับเปลี่ยนมิติอันแสนวุ่นวายให้สงบลง โดยที่หากเขาสามารถทำให้ ‘ตัวเอก’ ในแต่ละโลกพึงพอใจ พร้อมกับบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ งานของเขาก็จะสำเร็จลุล่วง! ต่อให้ต้องรับบท เพื่อนข้างบ้าน สุดยอดซูเปอร์โมเดล โอเมก้าในวันสิ้นโลก ฯลฯ หรืออะไรที่ยากกว่านั้นก็ไม่หวั่น! ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นงานที่ง่ายแสนง่ายแท้ๆ… แต่… ก็ไม่รู้ว่าตอนไหนเหมือนกัน ที่ตัวเอกพวกนี้ ‘เกลียดเขา’ เข้ากระดูก!? เมื่องานที่วาดฝัน พังลงไม่เป็นท่า ตัวละครก็เอาแต่ใจ ระบบก็พึ่งพาไม่ได้ แถมหัวหน้างานยังพูดไม่รู้เรื่องอีก! เขาสู้ชีวิตขนาดนี้ แต่ทำไมชีวิตต้องสู้กลับด้วยนะ! ระบบ: ยังพอจะมีหนทางอยู่ อย่างเช่น…คุณไม่ลองทำให้ตัวเอกในแต่ละโลก ชอบคุณก่อนล่ะ? หร่านซวี่จือ: …นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหม?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset