ตอนที่ 155 ฆาตกรที่ไร้เหตุผล

ตอนที่ 155 ฆาตกรที่ไร้เหตุผล
หลังจากได้ทราบทางลัดที่แยกตัวออกมาจากถนนเส้นหลักจากคำบอกเล่าของคนขับรถม้า
แล้ว รถม้าก็เปลี่ยนไปใช้เส้นทางลัดทันที แม้ว่าเส้นทางลัดนี้จะไม่ได้เดินทางสะดวกเหมือนกับเส้
นทางหลัก แต่หลังจากต้าหนิวลงมาจากรถม้าและเก็บกวาดก้อนหินใหญ่ที่ขวางทางออกไปแล้ว
คนขับรถม้าก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
โชคดีที่มู่อี้เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทาง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่ามีม้าเร็วกำลังไล่ล่าตามหาร
ถม้าของพวกเขาบนถนนเส้นหลัก การตัดสินใจของเขาครั้งนี้ช่วยลดปัญหาให้เขาได้อย่างถูกที่ถูก
เวลา
อีกหลายวันหลังจากนั้นรถม้าก็ไม่ได้ผ่านเมืองใหญ่สักเมืองเดียวเลย ดังนั้นมู่อี้จึงไม่รู้เลยว่ารู
ปเหมือนของเขาถูกติดประกาศจับอยู่ที่ทุกๆเมืองใหญ่และยังมีคำอธิบายที่บ่งบอกถึงลักษณะขอ
งมู่อี้และต้าหนิวอีกด้วย
ถ้าหากมู่อี้ได้เห็นเขาคงรู้ได้ทันทีว่าข่าวเรื่องกุญแขได้ถูกกระจายออกไปแล้ว จนมีใครหลายๆ
คนสามารถเชื่อมโยงมู่อี้เข้ากับคดีฆาตกรรมบุตรชายของขุนนางใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆแต่ผู้คนในเมืองลั่วหยางต่างก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ทั้งหมด ด้วยข่าวลือที่ขวี่หยางกระจายออกมาในตอนนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นความจริงหรือไม่แต่พวก
เขาก็เลือกที่จะคิดว่ามู่อี้คือฆาตกรผู้ลึกลับคนนี้เอาไว้ก่อน เพราะทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่พวกเขาต้อง
การก็มีเพียงแค่แพะรับบาปเท่านั้น
“ท่านนักพรตเต๋า ด้านหน้าพวกเรามีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง คืนนี้พวกเราพักที่นั่นดีไหมขอ
รับ?”
ในตอนบ่ายเมื่อรถม้าเดินทางมาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง หลี่เหล่าฉือก็เปิดผ้าม่านของรถม้า
และถามมู่อี้ที่อยู่ข้างในทันที
หลังจากเดินทางมาด้วยกันมู่อี้ก็ไม่ได้ปกปิดตัวตนของเขาอีกต่อไปและเปลี่ยนกลับมาใส่ผ้า
คลุมของนักพรตลัทธิเต๋าอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้พูดคุยกันเขาก็ได้ทราบชื่อของคนขับรถม้าผู้
นี้นั่นก็คือ หลี่เหล่าฉือ (เหล่าฉือแปลว่าคนที่ซื่อสัตย์) แน่นอนว่านี่ย่อมไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของอีกฝ่าย
แน่นอน แต่เพราะว่าเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์เกินไปดังนั้นจึงได้ชื่อว่า หลี่เหล่าฉือ และนับจากนั้นมา
เขาก็ใช้ชื่อนี้แทนชื่อของตนเองมาโดยตลอด
“ได้สิ ” มู่อี้พยักหน้า แม้ว่าหลี่เหล่าจือไม่เคยพูดถึงการทานอาหารหรือนอนหลับในช่วงหลาย
วันที่ผ่านมาเลยแต่เขาก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก แม้ว่ามู่อี้จะทำสมาธิและหยดเลื
อดลงไปบนต้นไผ่แห่งชีวิตตลอดทั้งคืนแต่หลี่เหล่าจือนั้นต้องเร่งรีบเดินทางตลอดทั้งวันและในเว
ลากลางคืนเขาก็ไม่พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดูเหมือนว่าคงต้องให้เขาพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว
เมื่อได้ยินคำตอบของมู่อี้ สายตาของหลี่เหล่าจือก็ดูมีความสุขขึ้นมาทันที หากเป็นตัวเขาเอง
คงลังเลที่จะเข้าพักในโรงเตี๊ยมแบบนี้แน่นอน แต่มูอี้เป็นคนเช่ารถม้าของเขา ซึ่งมันรวมไปถึงค่าอา
หารและค่าที่พักของเขาตลอดการเดินทางครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นค่าใช้จ่ายทุกๆอย่างนั้นมู่อี้จะต้
องเป็นคนออก
ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังจะเริ่มมืดแต่ประตูของหมู่บ้านกลับถูกปิดไปแล้ว แม้แต่ผู้คนที่เดินทางผ่า
นไปมาก็ไม่อาจมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในหมู่บ้าน สถานการณ์ดูแปลกประหลาดไปเล็กน้อย
และเมืองนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมอยู่เลยซึ่งดูผิดปกติอย่างยิ่ง
แต่หลี่เหล่าจือก็ไปเคาะประตูของบ้านตระกูลใหญ่หลังหนึ่งและบอกความต้องการของตนเอง
ออกไป
บ้านตระกูลใหญ่นั้นย่อมปฏิเสธคำขอของเขาในทันที แต่หลังจากมู่อี้ยื่นตั๋วเงินให้กับอีกฝ่าย
คนในบ้านตระกูลใหญ่ก็ดูเหมือนจะคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็ยอมให้กลุ่มของมู่อี้เข้ามาพัก
ภายในบ้านได้หนึ่งคืน
แต่พวกเขาจะต้องรีบออกไปก่อนฟ้าสาง
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าสถานการณ์มันดูแปลกประหลาดไปเล็กน้อย แต่มู่อี้ก็ยอมรับข้อตกลงขอ
งอีกฝ่าย เหตุผลหลักก็คือน้ำที่เก็บเอาไว้ในรถม้าได้หมดไปแล้วซึ่งเขาต้องหามาเติมอย่างเร่งด่วน
จากนั้นพ่อบ้านของบ้านหลังนี้ก็เดินนำพวกเขามาที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่แยกออกมาจากบ้านต
ระกูลใหญ่ อย่างน้อยเมื่อมอบเงินให้กับพ่อบ้านคนนี้เขาก็เตรียมอาหารและน้ำดื่มให้กับทุกๆคน
แต่เขาก็อธิบายอีกครั้งหนึ่งว่า ในคืนนี้ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดและต้องรีบเดินทางออกไปก่อนฟ้า
สาง
“ที่นี่ช่างแปลกประหลาดจริงๆ” หลังจากพ่อบ้านคนนั้นกลับไปหลี่เหล่าฉือก็อดบ่นขึ้นมาไม่ได้
มู่อี้เพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไร ไม่ว่าสถานการณ์จะแปลกประหลาดหรือไม่
นั้น พวกเขาก็ต้องรีบเดินทางออกไปก่อนฟ้าสางวันพรุ่งนี้และจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับที่นี่อีก
ในตอนกลางคืนหลังจากหลี่เหล่าจือหลับไปแล้วนั้น มู่อี้ก็เริ่มหยดเลือดของเขาลงไปบนต้นไผ่
แห่งชีวิตอีกครั้ง แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแต่มูอี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว อย่างน้อยที่สุดต้าหนิวก็ยัง
อยู่กับเขา ถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมันสามารถปกป้องเขาได้แน่นอน
หลังจากหยดเลือดมาตลอดหลายวันนี้มู่อี้ก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าลมหายใจของเนี่ยนหนิว
เอ้อร์แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆและพลังของนางจะยกระดับขึ้นทันทีที่ต้นไผ่แห่งชีวิตได้กลายเป็น
อาวุธวิญญาณสำเร็จแล้ว
เห็นได้ชัดว่าการสะสมพลังของนางมาถึงจุดสูงสุดแล้วและบางทีนางอาจจะสามารถยกระดับ
พลังของตนเองขึ้นมาได้ตลอดเวลาแต่ในคืนนี้ดูเหมือนว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์จะยกระดับพลังของตน
เองล้มเหลว
“เร็วเข้า เร็วเข้า อยู่ในนี้แหละ”
“ล้อมเอาไว้เร็วเข้า อย่าให้ฆาตกรหนีไปได้!”
ในตอนเช้าก่อนฟ้าสางนั้น ก็มีเสียงที่วุ่นวายดังมาจากภายนอก อย่างน้อยที่สุดมู่อี้ก็รับรู้ได้ว่า
มีคนมากกว่า 20 คนที่รวมตัวกันอยู่ข้างนอก
“ท่านนักพรตเต๋า เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
เสียงที่วุ่นวายนั้นทำให้หลี่เหล่าฉือตื่นขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้นมาจากเตียงและถามมู่อี้ด้วยความ
สงสัย
ในตอนนี้พื้นที่รอบๆบ้านนั้นสว่างไสวไปด้วยคบเพลิงที่ถูกจุดขึ้นมาและแสงสว่างนั้นก็ลอดผ่า
นหน้าต่างเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าของหลี่เหล่าฉือที่กำลังตกตะลึง
“ไม่แน่ใจ ออกไปดูกันเถอะ ” มู่อี้ส่ายศีรษะและลุกออกจากเตียงไปทันที โชคดีที่การหยดเลื
อดของเขาสำเร็จแล้วไม่อย่างนั้นแล้วหลี่เหล่าฉือและต้าหนิวคงไม่อาจรับมือกับสถานการณ์ที่เกิด
ขึ้นข้างนอกได้แน่นอน
มู่อี้เปิดประตูแล้วเดินนำออกไปทันที เขาเห็นผู้คนมากมายที่รวมตัวกันอยู่บริเวณลานหน้าบ้า
นตระกูลใหญ่
เป็นหญิงชราผมสีขาวเงินที่ถือไม้เท้าอยู่ในมือของนางและพ่อบ้านที่พาพวกเขามาที่นี่เมื่อคืนนี้
ที่ยืนอยู่บริเวณลานหน้าบ้านตระกูลใหญ่ด้วยเช่นกัน
นอกจากสมาชิกในตระกูลไม่กี่คนแล้วคนที่เหลือต่างก็เป็นคนรับใช้ทั้งนั้น ในตอนนี้พวกเขาต่า
งก็หน้าซีด ถืออาวุธต่างๆเอาไว้ในมือไม่ว่าจะเป็น ไม้กวาด คราด หรือแม้แต่บางคนก็ถือบัวรดน้ำ
เอาไว้ในมือ ทำให้ดูน่าตลกอย่างยิ่ง
แต่มู่อี้กลับหัวเราะไม่ออก
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกท่านหรือขอรับ?”
หลังจากมู่อี้ออกมา ทุกๆคนที่อยู่ในลานหน้าบ้านก็จ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ดูกังวล แต่ก็
ไม่มีใครกล้าขยับหรือส่งเสียงอะไรออกมาเลย สายตาของทุกคนมีเพียงแค่ความหวาดกลัวเท่านั้น
“นักพรตเต๋าผู้นี้ ข้าเห็นเจ้าเดินทางเข้ามาที่นี่จึงเมตตาให้เจ้าพักอยู่ที่นี่สักคืนหนึ่ง แต่ทำไมเจ้า
ถึงต้องสังหารลูกสะใภ้ของข้าด้วย?” หญิงชราจ้องมองมาที่มู่อี้พร้อมกับพูดออกมาด้วยความโศก
เศร้าและความโกรธ
เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงชรามู่อี้ก็ตกตะลึงไปทันที
แม้ว่าเขาจะได้ยินว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นแต่ก็ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาคือฆาตกร
“ผิดคนแล้ว” นี่คือความคิดแรกของมู่อี้ที่เข้ามาในสมองของเขา
“ท่านหญิงชราขอรับ ข้าจะไปสังหารลูกสะใภ้ของท่านได้อย่างไรกันในเมื่อเมื่อคืนนี้ข้าไม่ได้
ออกจากบ้านหลังนั้นเลย? ท่านตัดสินคนผิดหรือไม่ขอรับ?” มู่อี้พยายามอธิบาย
“สุ่ยเชียง เจ้าเห็นเขาใช้ไหม?” หญิงชราหันหน้าไปมองหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ
นางในตอนนี้
“เจ้าค่ะ นายหญิง!”
หญิงสาวที่มีนามว่าสุ่ยเซียงคุกเข่าลงบนพื้นทันทีจากนั้นนางก็พูดออกไปว่า “เรียนนายหญิง
เป็นชายผู้นี้แหละที่เข้ามาที่ห้องของฮูหยินเมื่อคืนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามร้องขออะไรบางอ
ย่างจากฮูหยินและมีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ฮูหยินต่อต้านอย่างสุดชีวิตจนท้ายที่สุดนั้นหยินก็ตัด
สินใจกัดลิ้นฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตนเองเจ้าค่ะ”
เมื่อหญิงสาวคนนั้นพูดจบน้ำตาของนางก็ไหลออกมาทันที
หลังจากมู่อี้ได้ยินคำพูดของนาง สายตาของเขาก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที
เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่การเข้าใจผิดกันเท่านั้น แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจใส่
ร้ายเขาและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นกลุ่มคนที่มีเพียงคนแก่และคนที่อ่อนแอ มู่อี้ก็รู้สึกโศกเศร้าขึ้นมาในใจ
“ฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้นของตัวเองความคิดนี้ไม่ดูโง่ไปหน่อยหรอ ดูเหมือนพวกท่านจะแน่
ใจเหลือเกินนะว่าเป็นข้าที่ลงมือกระทำโดยที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย?” มู่อี้แสยะยิ้มออกมาและจ้อ
งมองไปที่ทุกๆคน คนเหล่านั้นต่างก็หลบสายตาของเขาไม่มีใครกล้าจ้องมองกลับมาเลย
“เจ้าเป็นนักพรตเต๋กล้าทำเรื่องสกปรกเช่นนี้ได้ยังไงกัน คอยดูเถอะเจ้าจะต้องโดนสวรรค์
ลงทัณฑ์แน่นอน” หญิงชราจ้องมองมาที่มู่อี้ด้วยความโกรธ
“สวรรค์ลงทัณฑ์อย่างนั้นหรือ เรื่องแบบนั้นข้าย่อมยอมรับได้ แต่ไม่ใช่การใส่ร้ายจากพวกท่า
นแน่นอน” น้ำเสียงของมูอี้เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านหลังของเขานั้นหลี่เหล่าฉือก็รู้สึกหวาดกลัวด้วยเช่นกัน เมื่อคืนเขาเหนื่อยมากจนหลับลึก
และไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เขาก็เข้าใจมู่อี้เป็นอย่างดี มู่อี้ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้แน่นอน
มีเพียงต้าหนิวที่ยังคงอยู่ในบ้านเท่านั้น ความจริงแล้วตราบใดที่มู่อี้ไม่พูดอะไรหน้าที่ขอ
งมันก็มีเพียงแค่ดูแลต้นไผ่แห่งชีวิตให้ดีที่สุดเท่านั้น
“นายหญิงขอรับ อย่าไปเสียเวลาพูดคุยกับคนอกตัญญูแบบนี้เลย ข้าส่งคนไปแจ้งเรื่องนี้กับ
เจ้าหน้าที่ทางการแล้ว พวกเราก็แค่จับตัวเขาเอาไว้ให้ได้พอถึงตอนเข้าเจ้าหน้าที่ทางการก็ส่งค
นมาตรวจสอบเรื่องนี้เองขอรับ” พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาในตอนนี้
ความจริงแล้วเมื่อคืนนี้เขาเป็นคนรับเงินของมู่อี้เองและพากลุ่มของมู่อี้เข้ามาในบ้านหลังนี้
มู่อี้จ้องมองไปที่พ่อบ้านคนนี้และเริ่มคิดว่าเป้าหมายของคนเหล่านี้คืออะไรกันแน่
ถ้าต้องการเงินจากเขาจริงๆทำไมต้องทำเรื่องใหญ่เช่นนี้ด้วย? อีกฝ่ายยังต้องการจับตัวเขาส่ง
เจ้าหน้าที่ทางการด้วยงั้นหรือ? เห็นได้ชัดว่านี่คงไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินแล้ว
ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินประเด็นหลักก็น่าจะเกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่เป็นผู้เสียชีวิต อาจเป็นการ
ฆาตกรรม? แต่จากที่หญิงสาวที่มีนามว่าสุ่ยเซียงพูดออกมานั้น หญิงสาวที่เสียชีวิตนั้นกัดลิ้นของ
นางเพื่อฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายเช่นนี้ไม่อาจทำได้ง่ายๆเว้นแต่ว่านางจะต้องการฆ่าตัวตายจริงๆ
เป็นการฆ่าตัวตายจริงๆหรือ? แต่เพื่ออะไรล่ะ? และถ้าหากมันเป็นการฆ่าตัวตาย ทำไมถึงมา
เกี่ยวข้องกับเขาด้วย?
ดังนั้นในตอนนี้มู่อี้จึงไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เว้นแต่ว่าเขาจะได้เห็นศพของหญิ
งสาวที่กัดลิ้นฆ่าตัวตาย เขาถึงจะมีข้อมูลเพิ่มขึ้นมาบ้างและอาจจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่
อีกฝ่ายคงไม่เปิดโอกาสให้เขาทำแบบนั้นแน่นอน
“นักพรตเต๋าน้อย จงยอมมอบตัวซะแล้วข้าจะให้ความเมตตากับเจ้าบ้าง มิฉะนั้นแล้วหากเจ้า
ขัดขืนเจ้าก็ต้องเจ็บตัวแน่นอน” หญิงชราจ้องมองมาที่มู่อี้ในตอนนี้
“ข้าดูเป็นคนโง่มากนักหรือไง? หรือไม่ก็พวกเจ้าใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัขจนสมองไม่อาจแยกแยะเหตุ
ผลอะไรได้อีกแล้ว?” คำพูดของมู่อี้ในตอนนี้ทำให้ทุกๆคนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆและเมื่อหญิงช
ราได้ยินคำพูดของมู่อี้นางก็รู้สึกโกรธจนตัวสั่นทันที
นางฟาดไม้เท้าของตนเองไปในอากาศและมืออีกข้างหนึ่งของนางก็ชี้มาที่มู่อี้ “ดูเหมือนว่าเจ้า
จะไม่รู้สินะว่าตอนนี้เจ้าควรทำตัวเช่นไร ในมื่อเจ้าไม่ยอมจำนน เช่นนั้นแล้วทุกๆคนจงไปจับตัว
นักพร้ตเต๋าผู้นี้เอาไว้ จับเป็นหรือตายก็ได้ทั้งนั้น”
เห็นได้ชัดว่าหญิงชราโกรธมากแล้วจริงๆ
“รับทราบขอรับ นายหญิง”
บางทีอาจเป็นเพราะว่ามู่อี้ยังอายุน้อยทุกๆคนจึงคิดว่าเขาไม่ได้มีพลังมากสักเท่าไหร่ ดังนั้น
หลังจากได้ยินคำพูดของหญิงชรา คนในตระกูลหลายๆคนก็นำอาวุธของตนเองอย่างขวาน ดาบ
และมีดสั้นออกมาพร้อมกับพุ่งเข้ามาหามู่อี้อย่างรวดเร็วทันที
หลี่เหล่าฉือที่อยู่ด้านหลังรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในตอนนี้ แม้แต่หญิงรับใช้ของบ้านหลังนี้เขาก็
ไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน
มู่อี้จ้องมองทุกๆคนที่ตรงเข้ามาจับตัวเขาด้วยสีหน้าที่ดูเฉยเมย เขาไม่ได้ต้องการสังหารคนก
ลุ่มนี้เลยด้วยซ้ำ ความจริงแล้วหลังจากที่เขาสังหารคนธรรมดาไปเป็นจำนวนมากเมื่อหลา
ยวันก่อนเขาก็รู้ดีว่าจิตใจของตนเองไม่มั่นคงอีกต่อไป ดังนั้นช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมาเขาจึงพยา
ยามทำให้จิตใจของตนเองกลับมามั่นคงอีกครั้งหนึ่ง
ในตอนนี้ตราบใดที่เขาต้องการเขาสามารถฆ่าทุกๆคนได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ไม่อยากทำ
ให้จิตใจของตนเองรู้สึกไม่มั่นคงอีกครั้งเพราะเรื่องเล็กๆแบบนี้ จิตใจของเขาเพิ่งจะกลับมามั่นคง
หนักแน่นเหมือนเดิมได้ไม่นานนักและอีกอย่างเขาก็ไม่ได้ชอบสังหารผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ
แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้สังหารคนกลุ่มนี้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมจำนน และเขาก็อยาก
เห็นว่าอีกฝ่ายจะลงมือเช่นไร

Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ

Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ

天咒
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพเด็กชายกำพร้าชื่อมู่ยี่ได้รับการช่วยเหลือจากนักบวชเต๋าผู้เดินทางเฒ่า พวกเขาเดินทางไปทั่วโลกโดย 'หลอกลวง' ผู้คนโดย 'ไล่ผี' และ 'สังหารปีศาจ' นั่นคือจนกว่านักบวชเต๋าผู้เฒ่าจะเสียชีวิตและมู่ยี่ถูกบังคับให้ตระหนักว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เห็น เขาได้รับการบอกเล่าเรื่องราวของกองทัพผี ฝูงซอมบี้ ปีศาจที่น่าสยดสยอง และที่แย่ที่สุดคือผู้ปลูกฝังที่ควบคุมพวกเขา มู่ยี่เริ่มก้าวแรกเพื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุดของโลกใหม่ที่มืดมิดและโหดร้าย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset