ตอนที่ 2 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน

เล่มที่ 1 ตอนที่ 2 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน 02

ระหว่างนั้น เว่ยหมิ่นไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่ไป๋เสี่ยวอวิ๋นเห็นเว่ยหมิ่นจากไป เขาก็ฟุบกับโต๊ะแล้วถอนหายใจ
“ผมเดาว่า” หร่านซวี่จือยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “นายกำลังแอบชอบชายแท้อยู่ใช่ไหม? คนเมื่อครู่น่ะ? ”
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นครุ่นคิดแล้วตอบว่า “ก่อนหน้านี้ฉันบอกกับนายแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาคือคนที่ฉันเก็บมาจากข้างทาง ฉันรู้สึกว่าสถานะของเขาไม่ธรรมดา คนทั่วไปอย่างฉันก็ไม่ควรใกล้ชิดกับเขาจะดีกว่า”
“จะคิดแบบนี้ก็ไม่ได้” หร่านซวี่จือค่อยๆ จูงใจเป็นลำดับ “ตอนนี้มันยุคไหนกันแล้ว? ความรักนั้นอิสระ หากนายชอบจริงก็ให้จีบ เผลอๆ คนคนนั้นอาจจะคิดแบบเดียวกับนายก็ได้? ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? ” ไป๋เสี่ยวอวิ๋นโมโห “ฉันหน้าตาธรรมดา ไม่เหมือนนายสักหน่อยที่น่าหลงใหล”
หร่านซวี่จือยื่นแก้วเหล้าให้เขา “เราไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ในสังคมเรา 0 เยอะ 1 น้อย นายก็รู้ หากนายยอมเป็น 1 ก็คงกลายเป็นคนน่าหลงใหลเช่นกัน”
“อะไรคือ 0 เยอะ 1 น้อย? ” ใบหน้าดุร้ายของเว่ยหมิ่นโผล่มาจากความมืดอย่างกะทันหัน
“ไม่มีอะไรครับ” หร่านซวี่จือหัวเราะแบบเก้ๆ กังๆ
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรืออย่างไร หร่านซวี่จือมักจะรู้สึกว่าสายตาที่เว่ยหมิ่นจ้องมองเขานั้นออกจะน่ากลัวเล็กน้อย เห็นทีระดับความประทับใจที่ติดลบหนึ่งหมื่นเปอร์เซ็นต์ในตอนเริ่มจะไม่ใช่เรื่องโกหกเสียแล้ว
หลังจากนั้นไป๋เสี่ยวอวิ๋นก็ไม่ได้มาที่นี่อีกหลายวัน บางครั้งในขณะที่หร่านซวี่จือนอนขี้เกียจอยู่ที่บ้าน ไป๋เสี่ยวอวิ๋นก็จะเอาของกินมาส่งให้บ้างเป็นครั้งคราว
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นนั้นเป็นต้นแบบของพ่อบ้านที่ดี เขาตระเตรียมทุกสิ่งอย่างในบ้าน ส่วนหร่านซวี่จืออยู่บ้านมักจะกินมื้ออดมื้อเพราะเขาขี้เกียจเข้าครัวเองจึงเกิดความอิจฉาเว่ยหมิ่นเล็กน้อย
ระบบ: “คุณรัน ต้องการเปิดใช้งานโหมดบ้านอัตโนมัติไหมครับ? ”
หร่านซวี่จือ: “ยังมีโหมดเจ๋งๆ แบบนี้ด้วยหรือ? เปิดอย่างไร? ”
ระบบ: “ต้องใช้หนึ่งร้อยแต้มครับ”
หร่านซวี่จือ: “แล้วแต้มของฉันมีเท่าไหร่? ”
ระบบ: “ศูนย์”
หร่านซวี่จือ: “…ทำอย่างไรถึงจะได้แต้มสะสม? ”
ระบบ: “เมื่อคุณรันทำภารกิจให้คืบหน้าจนบรรลุเป้าหมายแล้ว กระผมก็จะทำการสะสมแต้มให้คุณ”
เนื้อเรื่องหลักกำลังจะเริ่มในเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยเเบ่งเบาภาระในชีวิตให้ไป๋เสี่ยวอวิ๋น เว่ยหมิ่นเองก็คิดหาวิธีด้วยการหางานทำและปิดบังไป๋เสี่ยวอวิ๋น กระนั้น ในฐานะคุณชายลูกเศรษฐีอย่างเว่ยหมิ่นผู้ซึ่งไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน หลังจากช่วงทดลองงานไม่กี่วัน ทุกสถานที่ที่เขาสมัครไปล้วนปฏิเสธเว่ยหมิ่นทั้งหมด
ท้ายสุดเว่ยหมิ่นก็นึกถึงหร่านซวี่จือ หร่านซวี่จือนับว่าเป็นเพื่อนฝูงที่สนิทมากคนหนึ่งของไป๋เสี่ยวอวิ๋น แม้ว่าจะเกลียดเขา แต่หร่านซวี่จือก็คือคนที่น่าจะช่วยเหลือเขาได้ในตอนนี้
หร่านซวี่จือคาบบุหรี่ไว้ในปาก เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มเมื่อมองดูเว่ยหมิ่น จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “นายอยากทำงานที่บาร์เหล้า? ไม่กลัวไป๋เสี่ยวอวิ๋นรู้เข้าหรือไง? ”
“ฉันทำงานตอนกลางวันได้ กลางวันเขาเองก็ทำงาน ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางรู้หรอก” เว่ยหมิ่นยืนอยู่ตรงหน้าหร่านซวี่จือ รูปร่างของเขาสูงหนึ่งเมตรเก้าสิบเซนติเมตรทำให้พลังความน่าเกรงขามนั้นสูงจนน่าตกใจ
“นายห้ามเสี่ยวไป๋อวิ๋นมาบาร์เกย์แต่นายกลับวิ่งมาทำงานในบาร์เสียเอง ไม่รู้สึกว่าว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองหรือ? ” หร่านซวี่จือพ่นควันบุหรี่
เว่ยหมิ่นไม่พูดไม่จาแต่กลับใช้สายตาจ้องมองหร่านซวี่จือ พอมองแล้วกลับเห็นความน่าเอ็นดูอย่างน่าประหลาดทำให้หร่านซวี่จือทนใจแข็งไม่ไหว
หร่านซวี่จือตบหลังศีรษะและกล่าวว่า “ก็ได้ ฉันจะไปพูดกับเจ้านายให้เอง”
ช่วงนี้พนักงานในบาร์นั้นไม่เพียงพอและคนใหม่ที่มาต้องได้รับการฝึกฝน เจ้าของบาร์จึงจัดแจงเปลี่ยนเวลาให้หร่านซวี่จือมาอยู่ช่วงกะกลางวันเพื่อที่จะได้ช่วยฝึกคนใหม่ด้วย
สมแล้วที่เว่ยหมิ่นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายเศรษฐีผู้ที่มือไม่เคยโดนน้ำมาก่อน หลังจากที่มองดูเขาทำแก้วแตกเป็นใบที่ยี่สิบแปด ช่วงจังหวะที่หร่านซวี่จือกำลังคิดว่าเจ้านายคงอยากจะฆ่าเขาเต็มทนก็รีบพุ่งตัวไปรับแก้วใบสุดท้ายไว้ทัน
“หรือไม่นายลองเปลี่ยนหน้าที่ดีกว่า” หร่านซวี่จือนั่งลงไปเก็บเศษแก้วบนพื้น “ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป แก้วในร้านคงไม่พอให้นายทำแตก”
หนนี้เว่ยหมิ่นไม่ได้พูดแต่กลับนั่งเงียบอยู่อีกทาง และขยับนิ้วมือไปมาบนพื้นอย่างเชื่องช้า
ขณะที่หร่านซวี่จือกำลังคิดเรื่องภารกิจ พอได้สติอีกที ก็เห็นพื้นตรงหน้าก็ปรากฏเลือดหยดไหลเป็นทาง
เว่ยหมิ่นขมวดคิ้ว ย่นหน้าผากและมองดูเลือดบนมือของตนเองที่กำลังไหลไม่หยุด
เพราะเมื่อครู่เว่ยหมิ่นเหม่อลอย เขาไม่ทันระวังจึงถูกเศษแก้วบาดมือ
“บ้าจริง เกิดอะไรขึ้นกับนาย? ” หร่านซวี่จือเงยหน้ามองทันใด ใกล้ๆ นั้นก็ไม่มีกระดาษทิชชู ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็กำลังยุ่งกับงานของตนเองจึงไม่ได้สังเกตทางนี้ จึงอ้าปากแล้วอมนิ้วของเว่ยหมิ่นเข้าไปในปาก
“นายทำอะไรน่ะ! ” เว่ยหมิ่นตัวแข็งทื่อและรีบชักนิ้วออกมา เขามองหร่านซวี่จือย่างตกอกตกใจ ราวกับสาวพรหมจรรย์ที่ถูกคนขืนใจ
“….” หร่านซวี่จืองงยิ่งกว่าเว่ยหมิ่นแล้วมองเขาด้วยใบหน้ามืดมนที่มีเครื่องหมายคำถาม “จะทำอะไรได้ นายอยากใช้เลือดล้างพื้นหรือไง? ”
“แบบนี้มันสกปรกนายรู้หรือเปล่า!” รอยขมวดคิ้วเป็นปมแน่นของเว่ยหมิ่นแทบจะหนีบยุงให้ตายคาที่ได้หนึ่งตัว ราวกับว่าคนที่เลียนิ้วเขาคืออสุรกายสมุทรตัวมหึมา
หร่านซวี่จือ “…” ล้อเล่นกันหรือเปล่า ฉันไม่รังเกียจมือของนาย นายกลับรังเกียจน้ำลายของฉันเนี่ยนะ???

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

Status: Ongoing
อ่านนิยายวิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก เรื่องย่อ ‘หร่านซวี่จือ’ คือผู้ดูแลอวกาศมิติในโลกต่างๆ หน้าที่ของเขาคือการปรับเปลี่ยนมิติอันแสนวุ่นวายให้สงบลง โดยที่หากเขาสามารถทำให้ ‘ตัวเอก’ ในแต่ละโลกพึงพอใจ พร้อมกับบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ งานของเขาก็จะสำเร็จลุล่วง! ต่อให้ต้องรับบท เพื่อนข้างบ้าน สุดยอดซูเปอร์โมเดล โอเมก้าในวันสิ้นโลก ฯลฯ หรืออะไรที่ยากกว่านั้นก็ไม่หวั่น! ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นงานที่ง่ายแสนง่ายแท้ๆ… แต่… ก็ไม่รู้ว่าตอนไหนเหมือนกัน ที่ตัวเอกพวกนี้ ‘เกลียดเขา’ เข้ากระดูก!? เมื่องานที่วาดฝัน พังลงไม่เป็นท่า ตัวละครก็เอาแต่ใจ ระบบก็พึ่งพาไม่ได้ แถมหัวหน้างานยังพูดไม่รู้เรื่องอีก! เขาสู้ชีวิตขนาดนี้ แต่ทำไมชีวิตต้องสู้กลับด้วยนะ! ระบบ: ยังพอจะมีหนทางอยู่ อย่างเช่น…คุณไม่ลองทำให้ตัวเอกในแต่ละโลก ชอบคุณก่อนล่ะ? หร่านซวี่จือ: …นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหม?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset