ตอนที่ 4 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน

เล่มที่ 1 ตอนที่ 4 เคะเพื่อนบ้านกับเมะที่เก็บได้จากข้างถนน 04

หลังจากที่จัดการพาเว่ยหมิ่นเข้าบ้านตนเอง หร่านซวี่จือก็ยิ่งปวดหัว ตอนนี้เกิดเรื่องระหว่างไป๋เสี่ยวอวิ๋นกับเว่ยหมิ่น ระดับความสุขเหนือศีรษะของเว่ยหมิ่นก็ติดลบหนักเข้าไปอีก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เดาว่าคงจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว
หร่านซวี่จือรีบยื่นแก้วชาไปบนโต๊ะน้ำชาด้านหน้าเว่ยหมิ่นแล้วพูดขึ้นว่า “ดื่มอะไรหน่อยนะ เมื่อครู่ทะเลาะกันตั้งนาน”
เว่ยหมิ่นเอามือวางบนหัวเข่าพร้อมกับกล่าวว่า “ตอนนี้นายคงจะดีใจมากสินะ? ”
หร่านซวี่จือ “หืม???”
“ทำไมฉันต้องดีใจด้วย? ” หร่านซวี่จือนั่งอยู่บนโซฟาอีกหนึ่งตัว และตอนนี้เขากำลังชำระล้างข้อหาของตนเอง “นายกำลังเข้าใจอะไรฉันผิดหรือเปล่า? แม้ฉันจะเป็นเกย์ แต่ไม่มีทางลงมือกับเพื่อนหรอก อีกอย่าง หากนายชอบไป๋เสี่ยวอวิ๋นจริง ก็ไม่ควรปิดบังเรื่องของตนเองกับเขา”
“ได้ข่าวว่านายสูญเสียความทรงจำใช่ไหม? นายตั้งใจจะทำอย่างไรต่อไป? หรือจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต? ” หร่านซวี่จือกล่าว
แต่เว่ยหมิ่นไม่ตอบ
ตอนนอนช่วงกลางคืน หร่านซวี่จือปูผ้าห่มบนโซฟาให้พระเอก ปรากฏว่าตอนเช้ามืดกลับถูกเว่ยหมิ่นเขย่าจนตื่น
“เกิดอะไรขึ้นๆ ? ” หร่านซวี่จือนึกว่าแผ่นดินไหวเพราะเขากลิ้งหลุนๆ จนเกือบตกเตียง
เว่ยหมิ่นยืนตรงหน้าเตียงเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ขอโทษที ฉันนอนไม่หลับ”
“คุณชาย นี่นายยังมีโรคติดเตียงอีกด้วยหรือ? ” หร่านซวี่จือเกาศีรษะด้านหลัง “แล้วตอนที่นายอยู่บ้านไป๋เสี่ยวอวิ๋นนอนกันอย่างไร? นายนอนบนเตียง เขานอนบนโซฟา? ”
เว่ยหมิ่นพยักหน้า
“นายคงไม่คิดให้ฉันไปนอนโซฟาด้วยหรอกนะ? ” หร่านซวี่จือหงุดหงิดแล้วเสยผมด้านหน้าของตนเองขึ้นไป เขามีอารมณ์โมโหเวลาตื่นนอนอย่างหนัก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คือยังเป็นช่วงเช้ามืด แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเว่ยหมิ่น แต่เขาก็ไม่มีความอดทนในการรับมือ “ฉันจะนอน นายจะนอนที่ไหนก็เรื่องของนาย ฉันไม่ชอบนอนโซฟา”
เว่ยหมิ่นเห็นหร่านซวี่จือทำท่าไม่สนใจไยดีเขาทำให้รู้สึกโมโหจนแทบอยากอัดคน แต่เมื่อนึกถึงว่ากำลังอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ก็รู้สึกจนปัญญา
หร่านซวี่จือนอนไม่หลับ เขาปรายตามองเว่ยหมิ่นทุกๆ สามถึงห้านาที เมื่อเห็นเว่ยหมิ่นนั่งบนโซฟาท่าทางน่าสงสาร ราวกับแม่บ้านที่ถูกสามีทำร้ายด้วยความรุนแรง
“ก็ได้! ” หร่านซวี่จือสุดจะทน เขาลงจากเตียงแล้วคว้าแขนของเว่ยหมิ่นทันใดและก็ผลักเขาขึ้นเตียง “ขึ้นไป! ”
เว่ยหมิ่นตกใจ ชายหนุ่มมองดูหร่านซวี่จือที่มุดขึ้นเตียงมาพร้อมกัน พลันหน้ามืดมนไปครึ่งหนึ่งแล้วลุกขึ้นนั่งเพราะกำลังคิดว่าอยากลงจากเตียง
หร่านซวี่จือยื่นแขนไปขวางเขาไว้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งอย่างมาก “เลือกเอา จะนอนหรือไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไป ฉันไม่ได้ว่างมากพอที่จะเสียเวลากับนายนะ”
จากนั้น เขาก็โละกองผ้าห่มมาคลุมตัวเว่ยหมิ่นแล้วกอดเว่ยหมิ่นไว้พร้อมกับผ้าห่ม ใช้ขาสองข้างหนีบเขาไว้แล้วหลับโดยไม่สนใจใครอีก
เว่ยหมิ่นเองก็แข็งเกร็งไปทั้งตัว มองดูใบหน้าของหร่านซวี่จือที่อยู่ใกล้แค่คืบ พยายามควบคุมตนเองอย่างมากที่จะไม่อัดเขาสักที ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ยอมแพ้ไม่ต่อต้านและกล่อมตนเองให้หลับ
วันรุ่งขึ้น ไป๋เสี่ยวอวิ๋นมาขอโทษเว่ยหมิ่นเองและบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเขาใจร้อนไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจ
“เอาล่ะ พวกนายสองผัวเมียไปคุยกันเองดีๆ ต่อไปก็อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากแบบนี้” หร่านซวี่จือสวมเสื้อกล้ามตัวใหญ่และกางเกงลายดอกไม้อย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ คีบรองเท้าแตะยืนพิงริมประตู คาบบุหรี่ไว้ในปาก ไว้หนวดเคราครึ้ม แล้วกล่าวกับทั้งสองอย่างเหี่ยวเฉา
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นหน้าแดง “สองผัวเมียอะไรกัน อาซวี่นายอย่าพูดไปเรื่อยสิ! ”
เว่ยหมิ่นกลับไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพียงแค่กะพริบตามองหร่านซวี่จือ
หลังจากคืนดีกับไป๋เสี่ยวอวิ๋น แถบความคืบหน้าเหนือศีรษะของเว่ยหมิ่นก็อยู่ที่สิบสามเปอร์เซ็นต์ เมื่อครู่ตอนเอ่ยว่าพวกเขาคือสองผัวเมีย ก็เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เห็นทีถ้าจะเพิ่มระดับความสุข ก็คงต้องลงมือกับไป๋เสี่ยวอวิ๋นเห็นจะได้
ตั้งแต่เว่ยหมิ่นมาเริ่มทำงานที่บาร์เหล้า ไป๋เสี่ยวอวิ๋นเองก็ต้องแอบเว่ยหมิ่นมาที่บาร์ทุกวัน นั่งอยู่ตรงบาร์ข้างหน้าหร่านซวี่จือ พลางแกล้งทำเป็นพูดคุยกับหร่านซวี่จือแล้วแอบมองเว่ยหมิน ขอเพียงมี 0 คนไหนไปเกาะแกะ นิ้วมือของเขาก็จะสั่นเทาเล็กน้อย
“เสี่ยวไป๋อวิ๋น” หร่านซวี่จือระอา “นายชอบเขามากขนาดนั้น ก็ลองดูสักตั้งสิ ไม่อย่างนั้นเกิดถูกคนอื่นแย่งไปแล้วอย่ามาร้องไห้ฟูมฟายกับฉันนะ ก่อนหน้านี้ช่วงมหาวิทยาลัย นายก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยไม่ใช่หรือไง? ”
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นมีบุคลิกนิสัยที่ทั้งเก็บซ่อนความรู้สึกและรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่เพียบพร้อมอย่างเว่ยหมิ่น แม้จะชอบแต่ก็ไม่กล้าเดินหน้าออกมาหนึ่งก้าว หากว่าไป๋เสี่ยวอวิ๋นผ่านด่านนี้ไม่ได้ เกรงว่าสองคนนี้คงต้องคาราคาซังกันเช่นนี้ไปอีกหลายปี
หร่านซวี่จือเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่เฮงซวยแบบนี้ต่อไปอีกแม้แต่ปีเดียว เขาต้องคิดหาหนทางช่วยพระเอกให้ได้ แต่ความประทับใจที่เว่ยหมิ่นมีต่อเขานั้นต่ำเกินไป การสั่งห้ามอย่างเข้มงวดที่จะไม่ให้ตนเองปรากฏตัวพร้อมกับไป๋เสี่ยวอวิ๋นนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

วิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก

Status: Ongoing
อ่านนิยายวิธีเปลี่ยนคนที่เกลียดตัวเองให้กลายเป็นคนคลั่งรัก เรื่องย่อ ‘หร่านซวี่จือ’ คือผู้ดูแลอวกาศมิติในโลกต่างๆ หน้าที่ของเขาคือการปรับเปลี่ยนมิติอันแสนวุ่นวายให้สงบลง โดยที่หากเขาสามารถทำให้ ‘ตัวเอก’ ในแต่ละโลกพึงพอใจ พร้อมกับบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ งานของเขาก็จะสำเร็จลุล่วง! ต่อให้ต้องรับบท เพื่อนข้างบ้าน สุดยอดซูเปอร์โมเดล โอเมก้าในวันสิ้นโลก ฯลฯ หรืออะไรที่ยากกว่านั้นก็ไม่หวั่น! ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นงานที่ง่ายแสนง่ายแท้ๆ… แต่… ก็ไม่รู้ว่าตอนไหนเหมือนกัน ที่ตัวเอกพวกนี้ ‘เกลียดเขา’ เข้ากระดูก!? เมื่องานที่วาดฝัน พังลงไม่เป็นท่า ตัวละครก็เอาแต่ใจ ระบบก็พึ่งพาไม่ได้ แถมหัวหน้างานยังพูดไม่รู้เรื่องอีก! เขาสู้ชีวิตขนาดนี้ แต่ทำไมชีวิตต้องสู้กลับด้วยนะ! ระบบ: ยังพอจะมีหนทางอยู่ อย่างเช่น…คุณไม่ลองทำให้ตัวเอกในแต่ละโลก ชอบคุณก่อนล่ะ? หร่านซวี่จือ: …นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหม?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset