ตอนที่ 519 ควบคุมความสามารถเทวะ

ตอนที่ 519 ควบคุมความสามารถเทวะ
เต๋าฟานจ้องมองศิษย์จากสถาบันดาบอสนีบาตคราม สีหน้าของเขา
ยิ่งมายิ่งเคร่งเครียด
“ศึกตั้งรับครั้งนี้ พวกเรายอมแพ้!” เต๋าฟานกล่าวออกด้วยสีหน้าเย็น
เยือก
“ยอมแพ้งั้นหรือ? เสียใจด้วยแล้ว พวกเราเพิ่งปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์
เสียใหม่ เจ้าไม่อาจหลบเลี่ยง! กระทั่งว่าเป็นศิษย์ของตระกูลหลง
และตระกูลหยาง ก็ไม่อาจหนีได้พ้น!” อาจารย์จากสถาบันดาบ
อสนีบาตครามหัวเราะดัง
เซียงเต๋าพยักหน้ารับเชื่องช้า “นี่เป็นกฎใหม่โดยจ้าวสํานักเพิ่งปรับ
เปลี่ยน ศิษย์ของทั้งตระกูลหลงและตระกูลหยาง เดิมคิดอยากถอน
ตัว ขณะนี้พวกเขาทั้งหมดต้องเข้าร่วม”
ชายหนุ่มจากสถาบันดาบอสนีบาตครามกล่าวเย้ยหยัน “ฉินหยุน เจ้า
คิดหรือว่าจะมีคนรับหากเจ้าใช้อุปกรณ์ลึกลํ้า เพื่อเป็นค่าหัวแก่บุตร
หลานตระกูลหลงและตระกูลหยาง? เป็ นเจ้าประเมินตระกูลหลง
และตระกูลหยางตํ่าเกินไปแล้ว!”
“ถูกต้องแล้ว ทั้งสองตระกูลล้วนมีคนของตนเองในหออาวุโส เจ้า
ช่างใสซื่อนัก!”
“วันนี้ไม่ว่าเจ้าเลือกเดินหนทางใด สถาบันเต๋าฟานของพวกเจ้า จะต้อง
ถูกโจมตีโดยพวกเรา และถูกยึดครองภายในเวลาหนึ่งก้านธูป พวก
เจ้ามีแต่ชะตาต้องพ่ายแพ้!”
เทียนรั่วเหลิงฟังคํากล่าวอีกฝ่ ายจนจบ สีหน้าขณะนี้หาได้เผยความ
หวาดกลัวใดออกไม่ นางเผยเสียงเย็น “พวกศิษย์ของตระกูลหลงและ
ตระกูลหยาง หากพวกมันไม่หวาดเกรงอันใด เหตุใดก่อนหน้านี้
เลือกถอนตัวจากการแข่งขันเสียเล่า?”
“เป็นข้าคิด ว่าเพราะสองผู้อาวุโสนั่นกดดันพวกเจ้าเสียมากกว่า ดังนั้น
พวกเจ้าจึงไม่กล้าก่อการต่อต้านศิษย์ของตระกูลหลงและตระกูล
หยาง!”
เย่ว์อู่หลันกล่าวเหยียดหยาม “กลุ่มคนที่ขลาดเขลา เพียงกล้าลงมือ
ต่อพวกเรา! รังแกผู้อ่อนแอ หวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง กระนั้นกลับยังมี
หน้ามาอวดดีที่ตรงนี้!”
สถาบันดาบอสนีบาตคราม เป็นสถาบันชั้นนํา ขณะนี้ถูกกล่าวเหยียด
หยามโดยสองหญิงสาว โทสะพวกเขาแทบทะลักล้น
ทางด้านผู้อื่น พวกเขาขณะนี้เร่งรีบออกจากสังเวียนค่ายอาคมวิญญาณ
ปล่อยให้ศิษย์ของทั้งสองสถาบันได้ปะทะกันเอง
“นําอาวุธออกมา!” เซียงเต๋ากล่าวตะโกน เขารับหน้าที่เป็นผู้จัดการ
ดูแลที่นี่ ดังนั้นเต๋าฟานจึงเกิดความวางใจ
ทั้งสองฝ่ายขณะนี้เผยอาวุธออก!
กระบี่เมฆนํ้าค้างแข็งเป็นสีขาวดั่งหิมะบริสุทธิ์ มันดึงดูดความสนใจยิ่ง
ตัวกระบี่ยาวกว่าหนึ่งเมตรแปดสิบ ขนาดความสูงเทียบได้กับตัว
เทียนรั่วเหลิง
เมื่อผู้อื่นได้เห็นกระบี่เล่มนี้ พวกเขาต่างถอนหายใจกล่าวชื่นชม เพราะ
พวกเขาทราบ ว่ามันถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและงดงามเพียงใด
กระบี่เพรียวยาวในมือของเย่ว์อู่หลัน ก็งดงามและวิจิตรไม่ต่างกัน
ผู้คนส่วนใหญ่ที่รับชมภายนอกสังเวียน ล้วนเป็นบุคคลเฒ่าชรา พวก
เขาอยู่ในหอขุนเขาดาบกระบี่มานานนับ ดังนั้นย่อมมีภูมิความรู้เรื่อง
อาวุธ
ในเวลานี้ พวกเขาได้เห็นกระบี่ในมือของเทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน
จึงทราบว่าเป็นอาวุธวิญญาณระดับราชันที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง
เพราะกระบี่ยาวและใหญ่ มันจึงง่ายแก่การแกะสลักอักขระบนพื้นผิว
ตัวกระบี
แม้ว่าสามารถพบเห็นได้เพียงเส้นสว่าง แต่หากมองให้ดี พวกเขาจะ
พบ ว่าเส้นเหล่านั้นผสานกลมกลืนเข้ากับตัวกระบี่เกิดเป็นลวดลาย
งดงาม
ด้วยสายลมเย็นเยือกพัดผ่าน ขณะนี้ราวกับพวกมันมีชีวิต
กระบี่วิญญาณระดับราชันทั้งสอง ถือเป็นสิ่งของคุณภาพสูงลํ้า!
มีแต่อาจารย์จารึกมากฝีมือ จึงสามารถขัดเกลาผังจารึกและตัวอุปกรณ์
ให้เกิดเป็นระดับสูงส่งเช่นนี้!
“กระบี่ยอดเยี่ยมนัก! ทําเอาข้าสงสัย ว่าอาจารย์จารึกใดเป็นผู้สร้าง
ขึ้น!” ด้วยฐานะผู้ใช้ดาบกระบี่ เสียงอุทานร้องชื่นชมอดไม่ได้จน
ต้องกล่าวออก
“กระบี่ดีแล้วอย่างไร? ท้ายที่สุดพวกมันก็ต้องพ่ายแพ้!” อาจารย์จาก
สถาบันดาบอสนีบาตครามเผยเสียงเหยียดหยันเจือปนขื่นขม
ศิษย์ทั้งสิบคนของสถาบันดาบอสนีบาตคราม ขณะนี้ต่างอิจฉากัน
ดวงตาร้อนผ่าว
แม้ดาบในมือพวกเขาก็เป็นอาวุธวิญญาณระดับราชัน ทว่าพวกมันยัง
ห่างไกลจากอาวุธของอีกฝ่ ายมากมายนัก
ด้วยค่ายอาคมที่ทํางาน หากมีการใช้อาวุธเต๋า หรืออาวุธลึกลํ้า ค่าย
อาคมย่อมต้องสัมผัสถึงได้
“นับจากนี้ไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนอาวุธ!” เซียงเต๋ากล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ผู้รับชมต่างเกิดความสงสัย ว่าผู้ใดกันมอบกระบี่ลํ้าค่าเหล่านั้นแก่
พวกนางทั้งสอง
เพราะพวกมันดูยังใหม่ยิ่ง ราวกับเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ด้วยซํ้า
สําหรับกระบี่ในมือฉินหยุน มันเป็นเพียงกระบี่ธรรมดา กระทั่งเส้น
สว่างยังไม่ปรากฏให้เห็น ทําเอาผู้อื่นไม่ทราบว่ามันเป็นอุปกรณ์
วิญญาณระดับใด
กระบี่นี้ ย่อมเป็นกระบี่วิญญาณระดับราชันที่ฉินหยุนสร้างขึ้น
ตัววัสดุของมันกล้าแกร่ง ประกอบด้วยอักขระดวงดาวอสนีบาต
แกะสลักไว้บนพื้นผิว อักขระดังกล่าว ฉินหยุนเพิ่งแกะสลักพวกมัน
เมื่อสองวันก่อน
หากกระบี่กระทบเข้ากับพลังที่รุนแรง มันจะสามารถดูดกลืนพลังอีก
ฝ่ าย และปลดปล่อยออกซึ่งแรงระเบิดสายฟ้าอสนีบาต
การศึกครั้งนี้หาได้ใช้เพียงกําลัง แต่ยังต้องใช้ความรํ่ารวยร่วมด้วย
ด้วยทรัพยากรที่เพียงพอ รวมกับความสามารถในการซื้อหาอาวุธที่ดี
มันจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมเมื่อคิดทําการป้องกันหรือโจมตี
“เริ่มได้!”
เซียงเต๋าร้องตะโกนดัง การบุกโจมตีและป้องกันรอบแรกได้เริ่มต้น
ขึ้นแล้ว
สิบคนจากสํานักดาบอสนีบาตคราม ฉับพลันเร่งรีบทะยานร่างเข้า
ปิ ดล้อมฉินหยุนและคณะ
“ให้ข้าใช้กําแพงนํ้าแข็ง!” เทียนรั่วเหลิงเร่งรีบปลดปล่อยพลังเยือก
แข็งออกมา ก่อเกิดซึ่งกําแพงนํ้าแข็งวงกลมล้อมพวกเขาทั้งสาม
เอาไว้ภายใน
กลุ่มคนจากสถาบันดาบอสนีบาตคราม ขณะนี้ฟันดาบในมือเข้าใส่
รุนแรง เสียงการปะทะกันครั้งแรกบังเกิดขึ้นแล้ว!
ครืน!
หลังถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง กําแพงนํ้าแข็งค่อยแตกออก!
“กําแพงพังแล้ว เตรียมตั้งรับ!”
ขณะเทียนรั่วเหลิงกล่าว นางถือกระบี่เมฆนํ้าค้างแข็งในแนวนอน
เข้าขวางดาบที่สับฟันเข้ามาจากหลายคน
ฉินหยุนและเย่ว์อู่หลัน ต่างกวัดแกว่งกระบี่ในมือ เข้าสกัดการโจมตี
ทั่วสารทิศ
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ภายในสังเวียน เสียงอาวุธกระทบกระทั่งกันดังไม่ขาด!
บรรดาผู้ที่มาจากสถาบันดาบอสนีบาตคราม ต่างต้องอึ้งทึ่งรุนแรง
นี่ก็เพราะ ดาบยาวในมือพวกเขาคล้ายพลังเกิดอาการสับสนไปชั่วครู่
ทันทีที่มันสัมผัสเข้ากับกระบี่หลิวจันทราของเย่ว์อู่หลัน กระทั่งพวก
เขาก็ยังเกิดอาการมึนงงไปวูบ
หากเย่ว์อู่หลันสามารถโจมตีสวนกลับ พวกเขาคงถูกสังหารไปนาน
แล้ว!
กระบี่ของฉินหยุนนับว่าประหลาดที่สุด เมื่อใดสัมผัส เมื่อนั้นจะมี
กระแสไฟฟ้าเคลื่อนผ่านตัวดาบถึงตัวผู้ใช้งาน ทําเอาทั้งร่างผู้ใช้ดาบ
เกิดอาการเหน็บชากันเป็นแถบ
กระบี่ยาวสีขาวนวลในมือเทียนรั่วเหลิง ก็ทําศิษย์หลายคนของสถาบัน
ดาบอสนีบาตครามเกิดความหวาดกลัวเกาะกุม
นี่ก็เพราะเมื่อใดที่อาวุธสัมผัสกัน ตัวดาบจะถูกผนึกด้วยก้อนนํ้าแข็ง
ทั้งพลังอํานาจโจมตีที่ใช้ออกยังถูกดูดกลืนไป
“พวกเจ้าสิบคนรุมล้อมโจมตีพวกเรา แต่แล้วยังวางท่าอวดดีหรือ?
ใช้จํานวนคนสะกดข่มรังแกผู้อื่น คิดว่ากําลังที่มากกว่าสามารถรังแก
ผู้อื่นได้หรือ? พวกเจ้าเคยชะโงกดูเงาตัวเองกันบ้างหรือไม่ ว่าตนเอง
มีความสามารถอันใดให้อวดดี?”
ฉินหยุนขณะนี้มีโทสะ เมื่อพบว่าอีกฝ่ ายโจมตีออกอย่างไร้ปรานีใด
กลุ่มคนสถาบันดาบอสนีบาตครามเหล่านี้ คิดอยากทําให้พวกเขาสิ้น
สภาพอย่างยิ่งยวด การกระทําของพวกเขา ทําให้การเคลื่อนไหวของ
ฉินหยุนยิ่งมายิ่งมีจิตสังหารแฝงรุนแรง
หากสามารถตอบโต้ ศิษย์สิบคนของสถาบันดาบอสนีบาตคราม คง
ตายตกกันหมดสิ้นไปนานแล้ว
แม้ฉินหยุนและคณะครอบครองอาวุธวิญญาณระดับราชันที่ดีในมือ
แต่ที่พวกเขากําลังเผชิญคือคนถึงสิบ!
นอกจากนี้ พวกเขายังได้แต่ต้องหลบเลี่ยงไปมา ไม่อาจทําการตอบ
โต้ใด เป็นฝ่ ายเสียเปรียบอย่างเต็มประตู!
“อึก!”
อย่างกะทันหัน ฉินหยุนส่งเสียงครางทุ้มลึกเมื่อโดนจ้วงแทง
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ทั้งสองขณะนี้ก็มีแผลดาบตามร่าง ปรากฏ
บาดแผลเลือดไหลออกหลายแห่ง
ทั้งสามได้แต่ต้องสกัดการโจมตีของคนถึงสิบ หากพวกเขาไม่ระวัง
ให้ดี เช่นนั้นจะถูกกระหนํ่าโจมตีอย่างหนักหน่วง
กระทั่งว่าพวกเขารวดเร็ว และพยายามหลบเลี่ยงการโจมตีของศัตรู
แต่ด้วยค่ายอาคมวิญญาณมีรัศมีเล็กแคบ ทําให้พวกเขาไม่อาจหนีทิ้ง
ระยะได้ไกล
คนทั้งสิบ เข้ารุมโจมตีสามคนอย่างไร้เมตตา พวกเขาหาได้ต้องกังวล
เรื่องถูกโจมตีตอบโต้ไม่ พวกเขาเพียงโจมตีออกอย่างไม่ต้องอื่นใด
ทั้งสิ้น
ครึ่งก้านธูปไหม้ไปแล้ว!
ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลัน ร่างกายขณะนี้เต็มไปด้วย
บาดแผลหลายสิบแห่ง ฉินหยุนถูกจ้วงแทงเข้าใส่มากที่สุด ร่างกาย
เขา มีแผลเลือดไหลมากถึงสี่แห่ง!
ชุดเกราะของพวกเขายังมีสภาพยํ่าแย่ ผู้คนของสถาบันดาบอสนีบาต
คราม ขณะนี้กระทั่งใช้งานพลังเต๋าแรกเริ่มที่แกร่งกล้า เพื่อจ้วงแทง
ให้ทะลุชุดเกราะของพวกเขา
“หากเป็นแบบนี้ต่อ พวกมันคงไม่อาจทนไหวต่อได้จนถึงช่วงเวลาที่
ก้านธูปไหม้หมด เมื่อนั้นพวกมันต้องพิกลพิการ! และบ่ายนี้ยังมีอีก
นัดหนึ่ง!”
ชายชราจากสถาบันดาบอสนีบาตครามหัวเราะออกชั่วร้าย
“พวกเราตัดสินใจ ที่จะเลือกโอกาสจากใบล่าค่าหัวของตระกูลหลง
และตระกูลหยาง!”
การแข่งขันบุกโจมตีและป้องกัน สังหารอีกฝ่ ายไม่สามารถทําได้ แต่
หากทําเพียงแค่ให้อีกฝ่ ายพิการ เช่นนั้นสามารถกระทํา
เต๋าฟานเผยสีหน้าดํามืด “การป้องกันที่ไม่อาจตอบโต้ ยิ่งไปกว่านั้น
พวกข้ามีกันเพียงสามคน ยอมแพ้ก็ไม่อาจให้ทํา เห็นได้ชัดว่าอย่างไร
ก็พ่ายแพ้! ไม่ว่าจะมองอย่างไร กฎพวกนี้ก็ตั้งขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้ง
พวกเรา!”
เต๋าฟานเผยเสียเย็นเยือก “หากฉินหยุนและคณะสามารถรอดพ้น
เดือนนี้ ผู้ที่โจมตีพวกเขา ไม่ว่ารายใดล้วนต้องมีจุดจบอันเลวร้าย!
พวกเจ้าตระเตรียมรับการล้างแค้นไว้เถอะ!”
“นี่จะให้ข้ากลัวอันใด? พวกมันอย่างไรแล้ววันนี้ก็ต้องพิการอย่างกู่
ไม่กลับ! ฮ่าฮ่า!” ชายชราจากสถาบันดาบอสนีบาตคราม ขณะนี้รู้สึก
อิ่มเอมใจอย่างยิ่ง
คนเพียงหนึ่ง ไม่มีทางตั้งรับฝูงหมาป่ าหิวโหย ฉินหยุนและคณะถูก
ปิ ดล้อมเอาไว้โดยคนถึงสิบ พวกเขาไม่อาจตอบโต้ เป็นไปไม่ได้ที่
จะไม่เกิดอาการบาดเจ็บ!
“พี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง อดทนไว้!”
ฉินหยุนเป็นกังวลพวกนางถึงที่สุด แม้ว่าตัวเขาจะบาดเจ็บหนักมาก
ที่สุดก็ตาม
กระบี่ที่พวกเขาทั้งสามใช้งาน มันมีผลกระทบสะท้อนกลับเมื่อทํา
การตั้งรับ ส่งดาบนั้นคืนสนองแก่ผู้โจมตี
หากไม่เช่นนั้น พวกเขาคงหมดสภาพกันไปนานแล้ว!
ฉินหยุนขณะนี้ค่อยทราบ ถึงความสําคัญของอุปกรณ์ป้องกัน
พวกเขาจําเป็นต้องมีชุดเกราะที่ดีกว่านี้ หากมีชุดเกราะที่แข็งแกร่ง
พวกเขาจะสามารถตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า
ฉินหยุนกล่าวโทษตนเอง เขาไม่ควรเร่งร้อนสร้างอาวุธขึ้น
พวกเขาไม่จําเป็นต้องต่อสู้จนชนะเลิศ ที่พวกเขาต้องการ ก็เพียงแค่
ยี่สิบอันดับแรก!
กลยุทธ์ของเต๋าฟานก่อนหน้านี้ คือหากพบเจอสถาบันระดับสูง พวก
เขาจะขอยอมแพ้
แต่ตอนนี้ การยอมแพ้ไม่อาจทําได้ เขาจึงได้แต่ต้องอดทนจนกระทั่ง
ก้านธูปไหม้จนสิ้น
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาตัดสินใจอันใดพลาด แต่กฎเกณฑ์กลับถูกเปลี่ยน
แปลงอย่างกะทันหัน เป็นพวกเขาไม่ได้เตรียมการเผื่อเอาไว้!
“พวกเราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไม่ได้ พวกเรายังมีการป้องกัน
ในช่วงบ่ายอยู่อีก!”
ฉินหยุนกัดฟันแน่น พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดขณะคิดหา
หนทางแก้ไข
กระทั่งว่าพวกเขาบาดเจ็บจนแทบแย่ ก็ยังไม่อาจปลดปล่อยพลังของ
แก่นเต๋าออกมาเพื่อตอบโต้ นี่คือส่วนที่กดดันอย่างถึงที่สุด!
อย่างกะทันหัน ฉินหยุนนึกถึงสิ่งที่หยางฉีเย่ว์บอกกล่าวได้ ว่าพลัง
ความสามารถเทวะแผ่นดินไหวมีความยืดหยุ่นสูง
หลังปลดปล่อยความสามารถเทวะแผ่นดินไหว คลื่นกระแทกรุนแรง
จะก่อเกิด พร้อมระเบิดปะทุในผืนแผ่นดิน
หากเขาสามารถควบคุมอํานาจการระเบิดของแผ่นดินไหว เช่นนั้น
เขาจะสามารถตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉินหยุนกัดฟันแน่น เร่งรีบเรียกใช้ความสามารถเทวะแผ่นดินไหว!
ขุมพลังรุนแรงระเบิดออกจากแก่นเต๋าของเขา มันทะลักล้นเข้าสู่พื้น
ผ่านทางขาของเขา
ฉินหยุนเร่งรีบใช้พลังจิต ควบคุมความสามารถเทวะแผ่นดินไหว
พลังจิตปกคลุมพวกมันเอาไว้ ทําการโคจรไปทั่วทั้งร่างกาย ก่อนจะ
ปลดปล่อยออกสู่ภายนอกร่างกาย
ขุมพลังแผ่นดินไหวซึ่งไม่อาจมองเห็น ขณะนี้ถูกฉินหยุนควบคุมก่อ
เกิดขึ้นเป็นม่านพลัง!
หากเขาสามารถปลดปล่อยพลังจากแก่นเต๋าสั่นไหวโดยตรง เขาย่อม
สามารถสร้างเป็นโล่ป้องกัน ทว่าพลังอํานาจของศัตรูไม่อ่อนด้อย
พวกมันจะถูกทําลายลงในเวลาเพียงไม่นาน ดังนั้นจึงไม่เหมาะสม
ใช้งาน
แต่พลังสั่นไหวที่เกิดขึ้นผ่านความสามารถเทวะ มันแข็งแกร่งกว่า
และรุนแรงยิ่งกว่า
หากเขาสามารถควบคุมมัน ก็จะทําให้เขาสามารถใช้งานมันเพื่อตั้ง
ป้องกันได้!
“เข้ามาใกล้ข้า!”
ฉินหยุนเร่งร้อนตะโกนบอกเทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ต่างเร่งรีบเข้าหาจากทั้งสองฟากข้างของ
ฉินหยุน
ขณะนี้เอง ศิษย์สถาบันดาบอสนีบาตครามที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่นิ้วจาก
ฉินหยุนและคณะ พลันถูกสกัดกันเอาไว้โดยคลื่นกระแทก
พวกเขากระชับดาบในมือแน่น พยายามจ้วงแทงผ่านม่านพลังที่มอง
ไม่เห็น แต่แล้ว พลังสั่นไหวที่เกิดขึ้นเป็นม่านพลัง มันทําให้เกิด
อาการสั่นไหวที่ดาบซึ่งจ้วงแทงเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ดาบเหล่านั้น ไม่
อาจคงสภาพการรวบรวมพลังเอาไว้ได้
กระทั่งร่างกายของผู้ใช้งาน ยังต้องสั่นไหวตามตัวดาบ เป็นอาการ
สั่นราวสุนัขตกนํ้าเย็นเยือก!
“ส่งพลังให้แก่ข้า!” ฉินหยุนบอกทั้งสองคนขณะยังคงใช้ความสามารถ
เทวะต่อเนื่อง
เป็นเขาควบคุมและปลดปล่อยพลังของความสามารถเทวะ ให้มัน
ค่อย ๆ ปะทุออกมาทีละเล็กทีละน้อย ทําให้ความสามารถเทวะ
สามารถคงสภาพได้ยาวนานมากขึ้น

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset