ตอนที่ 667 แก่นเต๋าดวงดาว

ตอนที่ 667 แก่นเต๋าดวงดาว
ฉินหยุนกำลังโหมบุกสังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ เก็บเกี่ยวเอา
แก่นเต๋าดวงดาวจำนวนมหาศาลมา ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพทั้งสองตัว
ลงมือแข็งขันและดุดัน นอกจากนี้แล้ว พวกมันยังแกร่งกล้า สามารถ
สังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ได้ราวออกล่าสัตว์
และฉินหยุนยังใช้ดาบแทนกระบี่เพื่อโจมตี แม้ว่าไม่สะดวกไปบ้าง
แต่ก็ถือเป็นอาวุธที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะมีใช้ในมือแล้ว
“หากใช้ค้อนเทวะเก้าตะวันได้ สังหารเจ้าพวกนี้ไม่ต่างอะไรกับตัด
หญ้าในสวน!”
เพื่อสงวนกำลังเอาไว้ ฉินหยุนจึงพยายามหลบเลี่ยงใช้งานพลังรุนแรง
ยามโจมตีออก เขามักจะลากถ่วงเพื่อรอโอกาสจนค่อยบุกโจมตี
อันที่จริง วิชากระบี่พื้นฐานโดยหลักแล้วก็คือการฉกฉวยโอกาส ด้วย
การลงแรงที่น้อยทว่าให้ผลอย่างมหาศาล
แม้อุปกรณ์ในมือไม่ใช่สิ่งที่ถนัด กระนั้นก็ยังใช้สังหารอสูรดวงดาว
ขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังอันใดมากนัก
ราชสีห์สวรรค์สองตัวออกโจมตีพื้นที่วงกว้าง พวกมันจึงตรวจพบว่า
มีคนกำลังพุ่งทะยานเข้ามาจากแต่ไกล
เวลานี้ เจี้ยนหนันหู่ได้มุ่งหน้ามาพบฉินหยุน และยังมาพร้อมเหลียง
หยวนไห่ที่แข็งแกร่งตามติดด้านหลัง
“เจี้ยนหนันหู่!” หลิงหยุนเอ๋อพลันกล่าว
“เหตุใดตัวน่ารำคาญผู้นี้จึงมาที่นี่?” ฉินหยุนเร่งรีบสั่งราชสีห์สวรรค์
สองตัวให้ถอย เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเป้าของเจี้ยนหนันหู่
เจี้ยนหนันหู่เป็นตัวตนอหังการอวดดี หากพบว่าราชสีห์สวรรค์ทั้ง
สองตัวแข็งแกร่ง เขาคงคิดว่าพวกมันเป็นสัตว์ราชันอสูรและบุกเข้า
โจมตี ถึงตอนนั้นเรื่องราวจะกลับกลายเป็นยากลำบากขึ้นมา
“ไม่ใช่มีแต่เจี้ยนหนันหู่ ยังมีคนตามติดมาด้านหลังด้วย!” หลิงหยุน
เอ๋อกล่าวคำ “ข้าจำได้ว่ามันผู้นั้นเป็นศิษย์ของหุบเขาเซียนโอสถ ทว่า
รูปลักษณ์คล้ายแปลกออกไป หรือว่านั่น… โดนอสูรครอบงำ?”
“เป็นไปได้ด้วยหรือ?” ฉินหยุนยิ่งรู้สึกไม่ดียามได้เห็นเจี้ยนหนันหู่
มุ่งหน้ามาหาตน
“เจี้ยนหนันหู่ เจ้ามาทำอะไร?” ฉินหยุนตะโกนถาม
“ฉินหยุน ข้ามีของขวัญให้เจ้า! ไม่ใช่ว่าเจ้าเกลียดชังพวกคนของหุบ
เขาเซียนโอสถหรือไร? ด้านหลังข้าเป็นคนของหุบเขาเซียนโอสถ!”
เจี้ยนหนันหู่พอมาถึงจึงเผยเสียงหัวเราะดังออก “เร่งรีบกล่าวขอบคุณ
ข้าเสีย!”
“ขอบคุณมารดาเจ้า!” ฉินหยุนพอได้เห็นว่าเหลียงหยวนไห่แข็งแกร่ง
เพียงใด เขาพลันสบถออก “เจี้ยนหนันหู่ เจ้าไม่ใช่รักชอบเปิดศึก
หรือไร? เหตุใดยังต้องนำมันมาให้ข้า!”
ฉินหยุนยังคิดอยากสังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่เพื่อคว้าชิงเอา
แก่นเต๋าดวงดาวมาครอง
“ตอนนี้ข้าไม่ค่อยมีเวลาเท่าใดนัก จอมราชันดวงดาวอสูรกำลังรอให้
ข้าไปสังหาร มันผู้นั้นแข็งแกร่งไม่น้อย ข้าจะปล่อยให้มันหนีรอด
ไม่ได้! ดังนั้นข้าคงต้องฝากเหลียงหยวนไห่ให้เจ้าดูแลแทนแล้ว!”
เจี้ยนหนันหู่กล่าวคำจบจึงเร่งรีบทะยานผ่านพ้นฉินหยุนไปอีกด้าน
เหลียงหยวนไห่พอได้เห็นฉินหยุน เขาพลันคำรามออกด้วยโทสะ
“ฉินหยุน เจ้าคือศัตรูของหุบเขาเซียนโอสถเรา!”
“นี่เจ้ากลายร่างหรือไร?” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วยามสัมผัส
ได้ถึงออร่าอสูรอัดแน่นจากตัวเหลียงหยวนไห่
“เป็นนายท่านจอมราชันประทานพลังแก่ข้า!”
เหลียงหยวนไห่เดิมคิดอยากสังหารฉินหยุน หลังโดนอสูรครอบงำ
เขาจึงยิ่งกระหายเลือดมากยิ่งขึ้น
เจี้ยนหนันหู่หนีหายไปไกลแล้ว!
ฉินหยุนหาได้คิดสู้กับเหลียงหยวนไห่ไม่ เขาคิดอยากสงวนพลัง
เอาไว้เพื่อรับมือกับสัตว์ราชันดวงดาวอสูร
“ตัวบัดซบเจี้ยนหนันหู่นั่น นึกว่าเป็นไอ้หน้าโง่ผู้หนึ่งที่เอาแต่บุก
โจมตี ไม่นึกว่ามันจะลากขยะมาทิ้งให้ผู้อื่นตามเก็บ!” ฉินหยุนหัน
กายกลับด้านไล่ตามเจี้ยนหนันหู่ไป
เจี้ยนหนันหู่ได้เห็นฉินหยุนไล่ตามตนเองมา เขาพลันร้องตะโกน
“ฉินหยุน เจ้าตามข้ามาทำอะไร?”
“ข้าจะส่งคืนกลับให้เจ้า คิดหรือว่าข้าไม่ต้องการไปสังหารสัตว์ราชัน
ดวงดาวอสูร!”
ฉินหยุนเกิดมีโทสะไม่น้อยแล้ว หากไม่ใช่เจี้ยนหนันหู่นำพาอีกฝ่าย
มา เขาคงสังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ต่อไปได้อย่างง่ายดาย
“ฉินหยุน กำลังเจ้าไม่แย่ แม้ไม่อาจเอาชนะมันได้ อย่างน้อยก็ไม่มี
ทางถูกสังหาร! อย่าได้รบกวนข้าแล้ว!”
“บัดซบ เจ้ามีเรื่องต้องทำแล้วข้าไม่มีหรือไร! เจ้ามีสิทธ์ิอะไรคิดไป
สังหารจอมราชันดวงดาวอสูรโดยทิ้งภาระบัดซบนั่นไว้ให้ข้า!” ฉิน
หยุนตะโกนกราดเกรี้ยว
“ข้าย่อมไม่สน ข้าไม่คิดเสียเวลาสู้กับมัน!” เจี้ยนหนันหู่กล่าว พร้อม
เร่งรีบทะยานร่างหายไปในพื้นดิน
ฉินหยุนมองที่รูเบื้องล่างพลางอึ้ง
“ตัวบัดซบนี่ถึงขั้นหลบเป็นตุ่นมุดดินเลยหรือ?”
ตู้ม!
เหลียงหยวนไห่ไล่ตามมากระชั้นชิด หมัดโจมตีออก พลังหมัดนี้พุ่ง
ผ่านอากาศหลายร้อยเมตร สร้างแรงปะทะกับพื้นดินไว้จนสั่น
สะท้านถึงเบื้องล่างลึกลงไป
ฉินหยุนยิ่งมีโทสะ “สังหารตัวบัดซบนี่ จากนั้นค่อยไปคิดหนี้แค้น
กับเจี้ยนหนันหู่ พวกมันทั้งสองล้วนบัดซบพอกัน!”
แม้พลังหมัดที่เข้ามาถึงนี้แข็งแกร่ง ทว่าฉินหยุนก็สามารถกระโดด
ขึ้นกลางอากาศหลบเลี่ยงได้
“เจี้ยนหนันหู่ที่อ่อนแอ เพราะไม่มีกำลังพอเร่งรีบจัดการมันจึงโยน
มาให้ข้า!” ฉินหยุนทะยานขึ้นฟ้า พร้อมฟาดฟันดาบในมือพุ่งออก
พลังของเหลียงหยวนไห่เหนือล้ำ กระนั้นเขาเพียงเพิ่งกลายร่างเป็น
อสูร สภาวะพลังจึงยังไม่คงที่
เมื่อได้เห็นฉินหยุนโจมตีเข้าใส่ ร่างกายเขาพลันบวม แขนนั้นกลับ
กลายเป็นสีดำปูดบวมออก มันเปรียบดังกรงเล็บอสูรกำลังยืดขยาย
ขึ้นฟ้าพร้อมคว้าจับที่ฉินหยุน
ดาบในมือฉินหยุนสับฟันเข้าใส่ฝ่ามือของเหลียงหยวนไห่ อสนีบาต
อัคคีรุนแรงปะทุลั่นออกกลางท้องฟ้ากินพื้นที่เป็นวงกว้าง
“นี่บ้าอะไรอีก?!”
ฉินหยุนแตกตื่นไปวูบ เขาไม่คาดคิด ว่าดาบของตนจะถูกเหลียง
หยวนไห่คว้าจับเอาไว้ได้
“เหอะเหอะ… สวะก็คือสวะ…” เหลียงหยวนไห่หัวเราะอย่างคลุ้ม
คลั่งดังลั่น “นี่คือพลังของข้า พลังอำนาจที่นายท่านจอมราชันประทาน
มอบให้แก่ข้า ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหลียงหยวนไห่ราวกับคลุ้มคลั่ง เขาหัวเราะออกด้วยเสียงอันดังพร้อม
พยายามทำลายดาบในมือฉินหยุน
ครืน!
คลื่นพลังงานรุนแรงปะทุออกจากแขนเหลียงหยวนไห่ มันทำเอาร่าง
ฉินหยุนต้องกระเด็นไกล
ฉินหยุนที่ถือดาบหักเอาไว้ในมือยิ่งตื่นตะลึง
“หยุนเอ๋อ หลังกลายร่างเป็นอสูรมันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
กระทั่งฉินหยุนยังต้องทึ่งต่อพลังระดับนี้ เขาเอ่ยถาม “มันเอาแต่พูด
ถึงจอมราชันอะไรสักอย่าง มันคืออะไร?”
หลิงหยุนเอ๋อเร่งรีบกล่าว “ระวังตัวก่อน รีบหลบ!”
ฉินหยุนเคลื่อนหลบร่างเหลียงหยวนไห่ที่บินตามมาหมายโจมตีต่อ
ทั้งพลังและความเร็วของเหลียงหยวนไห่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หลัง
โจมตีพลาด เขาจึงไล่ตามฉินหยุนคิดโจมตีต่อเนื่อง
ฉินหยุนใช้งานเงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์ก่อนจะหายวับ!
“เจ้าไม่มีทางหนีรอด!” เหลียงหยวนไห่หัวเราะราวอสูรคลั่ง เขาเร่ง
รีบไล่ตามฉินหยุน เป็นเขาคาดเดาได้ว่าฉินหยุนคิดไปที่ใด
ฟึ่บ ฟึ่บ!
แขนของเหลียงหยวนไห่ที่มีจิตมุ่งร้ายสับฟันลง เบื้องล่างเกิดขึ้นเป็น
หลุมใหญ่ยักษ์ปรากฏ
ฉินหยุนหลบได้อย่างทันท่วงที!
เมื่อครู่กล่าวได้ว่าอันตรายยิ่ง เขารู้สึกว่าแม้ครอบครองร่างราชสีห์
สวรรค์ลึกล้ำ ทว่าตนคงไม่อาจต้านทานพลังแขนชวนสะพรึงนั้น
เอาไว้ได้
“มันผู้นี้ สมควรได้รับพลังที่ราชันวิญญาณอสูรดวงดาวมอบให้!”
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “แกนกลางของดวงดาวอสูรจะให้กำเนิดวิญญาณ
อสูรดวงดาวจำนวนมหาศาล วิญญาณอสูรดวงดาวเหล่านั้นย่อมมี
ราชัน หากข้าจำไม่ผิด ราชันตัวนั้นสมควรผนวกรวมเข้ากับสัตว์
ราชันอสูรไปแล้ว!”
“สัตว์ราชันอสูรตัวนั้นที่เจี้ยนหนันหู่ไล่ตามไปงั้นหรือ?” ฉินหยุน
กล่าวไปพลางหลบเลี่ยงการโจมตีของเหลียงหยวนไห่
เหลียงหยวนไห่ที่พบเห็นอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้หลายครั้งครา เขายิ่งมา
ยิ่งมีโทสะ
หลังแปรเปลี่ยนเป็นอสูร ตัวเขามีพลังอันเหนือล้ำกว่าผู้ใด เมื่อเกิด
เรื่องเช่นนี้ เขายิ่งไม่อาจสงบใจเอาไว้ เสียงคำรามร้องดังต่อเนื่องไม่
หยุดพร้อมทุ่มสุดแรงโจมตีใส่ฉินหยุน
“เจี้ยนหนันหู่คิดไปจัดการจอมราชันดวงดาวอสูร เจ้าตัวนั้นน่าจะยัง
วิวัฒนาการไม่สมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่เจี้ยนหนันหู่เร่งรีบไล่ตาม เขา
คงกังวลว่าหากปล่อยมันวิวัฒนาการโดยสมบูรณ์ เมื่อนั้นคิดสังหาร
มันก็เป็นเรื่องยากแล้ว!”
“ข้าควรเรียกราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพออกมาอีกหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ย
ถาม
“เสี่ยวหยุน! เจ้าต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อจัดการมันผู้นี้ แต่นั่นก็จะเป็นภัย
ต่อเจ้าด้วย” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวอย่างร้อนใจ “แม้ให้เย่ว์หลานเข้าช่วย
คิดเอาชนะมันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย!”
“จะบอกว่าข้าทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ?” ฉินหยุนกัดฟันแน่น เขา
ยังคงหลบเลี่ยงเหลียงหยวนไห่ที่คลุ้มคลั่งโจมตีมา
“มันครอบครองวิญญาณอสูรดวงดาวในร่าง ทั้งยังเป็นที่แข็งแกร่ง
หมายความถึงแก่นเต๋าของมันจะมีพลังดวงดาวอัดแน่นอยู่” หลิงหยุน
เอ๋อกล่าว
ตึง!
ฉินหยุนถูกหมัดปะทะที่หน้าท้อง ร่างต้องกระเด็นลอยลิ่ว!
เหลียงหยวนไห่ครอบครองพลังชวนสะพรึงทุกด้าน ทั้งความเร็ว
พละกำลัง และประสาทรับรู้ ทั้งหมดพุ่งขึ้นสูงถึงขีดสุด
“เสี่ยวหยุน มันมีวิธีสังหารเจ้านี่โดยง่าย แต่… แต่มันมีความเสี่ยง!”
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “นั่นก็คือการมุ่งตรงกลืนกินพลังดวงดาวจาก
แก่นเต๋าของมัน สาเหตุที่เสี่ยงเพราะข้าไม่ทราบ ว่าพลังดวงดาวใน
แก่นเต๋าของมันบริสุทธ์ิหรือไม่”
“หากไม่ และเจ้ากลืนกินเข้าไปแล้ว มันอาจก่อปัญหาขึ้นได้”
ฉินหยุนตอบคำ “มีแต่ต้องลองดูแล้ว หากปล่อยให้ลากถ่วงออกไป
อีก ข้าอย่างไรก็หนีไม่พ้น หากเย่ว์หลานและคนอื่นเข้ามา เรื่องราว
จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น!”
ขณะพูดคุยกันอยู่ เหลียงหยวนไห่ก็พุ่งทะยานเข้ามาแล้ว
หลิงหยุนเอ๋อควบคุมพลังแก่นเต๋าตะวันทมิฬ เริ่มทำการควบแน่น
พลัง พร้อมปลดปล่อยพลังแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลออกมาเข้าสะกด
ร่างเหลียงหยวนไห่เอาไว้
เหลียงหยวนไห่ซึ่งถูกพลังแรงโน้มถ่วงรุนแรงสะกดลงอย่างกะทันหัน
พบว่าร่างกายยากขยับ ฉินหยุนไม่คิดรอช้า เร่งรีบทะยานเข้าใส่คว้า
ร่างเหลียงหยวนไห่เอาไว้ จากนั้นจึงกดอีกฝ่ายหน้าทิ่มพื้นและ
พันธนาการมือทั้งสองไว้ด้านหลัง
“เอาเลย!” ฉินหยุนตะโกนบอกหลิงหยุนเอ๋อ
หลิงหยุนเอ๋อควบคุมวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ เริ่มทำการกลืนกิน
พลังดวงดาวจากแก่นเต๋าของเหลียงหยวนไห่
“ได้ผล! เป็นพลังดวงดาวบริสุทธ์ิ!” หลิงหยุนเอ๋อร้องรับยินดี “ชายผู้
นี้อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งจึงปลดปล่อยพลังของแก่นเต๋าออกมาไม่หยุด
เช่นนี้ยิ่งทำให้ง่ายแก่การดูดกลืน!”
“หากมันฉลาดสักนิด คงสามารถต้านทานพลังกลืนกินของเจ้าได้”
ฉินหยุนสัมผัสได้ถึงกระแสพลังดวงดาวอันไร้สิ้นสุดกำลังถ่ายเทเข้า
สู่แก่นเต๋าตะวันทมิฬ มันถูกขัดเกลาให้กลายเป็นพลังจิตบริสุทธ์ิอย่าง
รวดเร็ว จากนั้นจึงค่อยส่งถ่ายไปยังศีรษะของเขา เพื่อเข้าสู่ผลึกแก้ว
ดวงดาวสีม่วง
“หากมีคนอย่างมันอีกสักหลายคน เราคงเลื่อนระดับพลังได้แน่!”
ฉินหยุนหัวเราะยินดี
“เลื่อนระดับไม่ใช่เรื่องง่าย! สถานการณ์ของเจ้าค่อนข้างพิเศษ หาก
ต้องการแปรเปลี่ยนจิตให้กลายเป็นจันทรา เจ้าจำเป็นต้องใช้เงื่อนไข
พิเศษบางอย่างร่วมด้วย แต่ตราบเท่าที่พวกเราพบเจอพี่หยาง นางจะ
มีวิธีการที่ดีกว่าเพื่อช่วยเหลือเจ้า!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬของฉินหยุนมีความเร็วการกลืนกินพลัง
ดวงดาวสูงล้ำ เพียงไม่นาน มันกลืนกินไปได้ปริมานมหาศาลแล้ว
เหลียงหยวนไห่พยายามดิ้นรนพร้อมสบถด่าต่อเนื่อง หากเขาหยุด
ปล่อยพลัง ฉินหยุนจะกล่าววาจายั่วยุให้อีกฝ่ายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง
ขึ้นมา
เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ฉินหยุนจะได้กลืนกินพลังดวงดาวอย่าง
ต่อเนื่อง
อย่างกะทันหัน พลังดวงดาวชั่วร้ายในอากาศคล้ายวิปริตคลุ้มคลั่ง
มันพุ่งทะยานไปยังทิศทางหนึ่ง
“นายท่านจอมราชันเกือบวิวัฒนาการได้สมบูรณ์แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า อีกไม่
นานท่านต้องมาช่วยเหลือข้า!” เหลียงหยวนไห่หัวเราะดัง
หลิงหยุนเอ๋อพลันเร่งรีบเพิ่มความเร็วดูดกลืน แก่นเต๋าของเหลียง
หยวนไห่กลับกลายเป็นว่างเปล่าทีละน้อย ไม่ช้า มันจึงหลงเหลือไว้
เพียงแต่เปลือกแก่นเต๋า
จากนั้นฉินหยุนจึงสังหารเหลียงหยวนไห่!
“เร่งรีบไปทางด้านนั้น อย่าได้ให้จอมราชันดวงดาวอสูรวิวัฒนาการ!”
น้ำเสียงของหลิงหยุนเอ๋อเป็นกังวล “หากไม่แล้ว พวกเราทั้งหมดจะ
กลายเป็นตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง!”

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset