ตอนที่ 765 : ร่วมช่วยเหลือ

ได้เห็นฉินหยุนเข้าไปต่อแถว หลายคนต่างรู้สึกว่าผิดคาด เพราะพวกเขามั่นใจถึงเด็กหนุ่มผู้นั้น ว่าเพียงเข้าร่วมเพราะนึกสนุก
ในช่วงบ่าย อาจารย์จารึกลึกล้ำหลายคนต่างหมดเรี่ยวแรง กระนั้น พวกเขาก็ยังพยายามลบนามที่ฝังอยู่ภายในบอลผลึกแก้วอย่างสุดใจอย่างไม่คิดยอมแพ้
เวลานี้ ที่ตรงหน้าฉินหยุนมีคนต่อแถวรอไม่มาก และพวกเขาเหล่านี้ ล้วนเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำ พวกเขาต่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงจนอิดโรย ใบหน้าพวกเขาซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด กระนั้นพวกเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ การแข่งขันนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการรีดเร้นพลังจิตของผู้คนจนถึงขีดสุดอย่างแท้จริง
ไม่ช้า จึงค่อยถึงคราวฉินหยุน!
ฉินหยุนมองที่บอลผลึกแก้วซึ่งมีนาม “หลงหยินเชี่ยน” นี่คือนามของอาจารย์จารึกเต๋า และอาจารย์จารึกเต๋าผู้นี้ก็ยืนอยู่ข้างบอลผลึกแก้ว เขายืนกอดอกพร้อมเผยสีหน้าเดียดฉันท์ยามมองปีศาจน้อยตรงหน้า ฉินหยุนมองที่นาฬิกาทราย เวลากำลังไหลไปเรื่อยและรวดเร็ว ตัวเขาเข้าแถวนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาอันดี เขาเพียงต้องลงมือให้ทันเวลา เขียนนามของตนเองฝากฝังเอาไว้ในช่วงเวลาสุดท้าย และตอนนั้น จึงค่อยมีการประกาศจบการแข่งขัน
ฉินหยุนวางสองมือลงบนบอลผลึกแก้ว ปลดปล่อยพลังจิตเข้าสู่ภายใน บอลผลึกแก้วนี้พลันเริ่มสั่นเทิ้ม! หลายคนต่างต้องร้องอุทานดังออก! นี่หมายความถึงพลังจิตทรงอำนาจอย่างยิ่ง มีแต่การทำให้บอลผลึกแก้วสั่นไหวได้ จึงค่อยเป็นการลบล้างพลังจิตที่อยู่ภายในแต่เดิม และชั่วขณะนี้ หลงหยิงเชี่ยนที่จับจ้องฉินหยุนด้วยสายตาเดียดฉันท์เมื่อครู่ ตอนนี้กลับต้องเบิกตาโพลงอย่างไม่อาจเชื่อสิ่งที่เห็น
บรรดาอาจารย์จารึกลึกล้ำที่ไร้ซึ่งแรงใจ ต่างมองราวกับตนเองอยู่ในห้วงความฝัน พวกเขาต้องถูไถดวงตาหลายครั้งคราจ้องมองปีศาจน้อยตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง! ไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าเด็กหนุ่มที่เหมือนมาที่นี่เพื่อหาความสำราญ แท้จริงถึงขั้นมีความสามารถ!
ชายชราไว้หนวดเครายาวที่เข้ามาสนทนากับฉินหยุนแต่แรก เขาเองก็มองทางนี้ด้วยความตื่นตะลึง ผู้คนล้วนจดจำได้ ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้กล่าว ว่าตนเองใช้ชีวิตมานานนับหมื่นปี แม้ภายหลังกล่าวว่าพูดไปเรื่อย กระนั้นเวลานี้ผู้คนต่างเชื่อกันแล้ว ว่าคำกล่าวนั้นคือความจริง
“หลงหยินเชี่ยนคือหนึ่งในสิบอันดับแรกของอาจารย์จารึกเต๋าแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า!”
“ชายผู้นี้แข็งแกร่งนัก ถึงขั้นเก็บงำตนเองไว้อย่างลึกล้ำเพียงนี้!”
“และเรื่องราวยังเกิดในเวลานี้ หากนามนั้นถูกลบออก อย่างนั้นก็ถูกคัดออกแล้ว!”
“หวา เด็กหนุ่มนั่นคิดหาเรื่องหลงหยินเชี่ยน คงมีแต่ความตายที่รอคอยแล้ว!”
ฉินหยุนวางมือลงบนบอลผลึกแก้ว ถ่ายเทพลังจิตต้นกำเนิดอันเลิศล้ำเข้าไป เพื่อลบนาม “หลงหยินเชี่ยน” ออกไปทีละน้อย
ฮูม!
บอลผลึกแก้วพลันสั่นไหว ปลดปล่อยสายลมรุนแรงออก นี่เป็นเหตุการณ์ซึ่งสมควรต้องเกิดขึ้น เพราะพลังจิตภายในแต่เดิมได้ถูกทำลายแล้ว!
“หลงหยินเชี่ยน” สามคำนี้ปรากฏที่บอลผลึกแก้วลูกนี้มาครึ่งค่อนวัน เวลานี้ได้ถูกผู้อื่นลบเลือนออกไปแล้ว!
ที่ทำผู้คนตื่นตะลึง คือหลงหยินเชี่ยนเป็นถึงอาจารย์จารึกเต๋าผู้มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งตระกูลหลง ทว่าเวลานี้ นามของเขาได้ถูกเด็กหนุ่มที่ไม่มีผู้ใดทราบพื้นเพลบเลือนหายไป!
ใบหน้าของหลงหยินเชี่ยนกลับกลายเป็นสุนัขตัวหนึ่ง! เขาจ้องมองฉินหยุนที่ลบนามของตนเองหายอย่างไม่อาจทำอะไรได้!
นาฬิกาทราย ก็ใกล้จะปล่อยเม็ดทรายชุดสุดท้ายลงมาแล้ว!
ฉินหยุนเร่งรีบใช้พลังจิตตนเอง ควบแน่นเกิดขึ้นเป็นแสงสว่างสีแดง “เชี่ยวหยุน” แม้สองคำนี้สั้น ทว่าผู้คนได้เห็นชัดเจน ลายเส้นไม่ต่างอะไรกับเด็กเพิ่งหัดเขียน หากเทียบกับบอลผลึกแก้วอื่น นี่ออกจะน่าเกลียดเกินไปแล้ว
“ปีศาจน้อยผู้นี้เขียนได้น่าเกลียดเกินไปแล้ว! กระทั่งว่าทราบการแกะสลักอักขระ แต่กลับมีลายมือเลวร้ายเพียงนี้!”
“นี่ไม่ต่างอะไรกับไก่เขี่ย!”
“สมองปีศาจน้อยผู้นี้อาจไม่ปกติกระมัง เขียนลายมือน่าเกลียดต่อหน้าผู้คนมากมาย กระนั้นกลับยังยิ้มได้!”
ฉินหยุนจงใจเขียนให้น่าเกลียด หากเขาเขียนออกอย่างสมบูรณ์แบบ มันจะเป็นการใช้พลังจิตที่เพิ่มมากขึ้น
“หมดเวลา!” เจี้ยนสือเทียนประกาศดัง
หลงหยินเชี่ยนรู้สึกราวกับลมเย็นพัดพาเข้าที่ใบหน้า ตัวเขาถึงกับถูกคัดออกเพราะบุคคลไร้หัวนอนปลายเท้า! หากพบเห็นได้ หัวใจของเขาเวลานี้คงมีเส้นความโกรธปรากฏเด่นชัด นอกจากหลงหยินเชี่ยน อาจารย์จารึกเต๋าตระกูลหลงอีกหนึ่งคนได้ถูกคัดออกเช่นกัน! นี่เป็นฝีมือของมู่เฟิง!
ฉินหยุนยินดี เขาหัวเราะพลางกล่าว “ได้เข้ารอบถัดไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!”
อาจารย์จารึกเต๋าผู้อื่นต่างมองทางหลงหยินเชี่ยน พวกเขามองว่าอีกฝ่ายเผชิญโชคร้าย หลงหยินเชี่ยนคิดอยากเข้าไปฉีกกระชากใบหน้าหัวเราะร่าของฉินหยุนออกเป็นชิ้น! ตัวเขาคืออาจารย์จารึกเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ กระนั้นตอนนี้กลับถูกคัดออกโดยอาจารย์จารึกลึกล้ำ!
เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดีของบรรดาอาจารย์จารึกเต๋าที่ได้เข้ารอบ เพราะพวกเขาจะได้เผชิญคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งลดทอนลงไป กลับกลายเป็นว่าถึงกับถอนหายใจโล่งอกด้วยความโชคดี เพราะพวกเขาเองก็อาจถูกคัดออกเมื่อครู่
และอาจารย์จารึกเต๋าทั้งหลายที่นี้ ต่างต้องทึ่งกับพลังจิตของเด็กหนุ่มตรงหน้า มันมหาศาลถึงขั้นสามารถลบล้างพลังจิตของอาจารย์จารึกเต๋าออกไปได้!
“บอลผลึกแก้วจะถูกวางไว้ในเวทีการแข่งขัน วันพรุ่งนี้จึงค่อยเริ่มรอบที่สอง!”
เจี้ยนสือเทียนเองก็คิด ว่าเรื่องราวยากเกินเชื่อ เขาไม่คิด ว่าเด็กหนุ่มที่คล้ายมาหาความสำราญเล่นในที่นี้ จะถึงขั้นผ่านเข้าสู่รอบที่สองได้
ฉินหยุนเดินกลับไปอย่างเริงร่า ทว่าเขาก็ได้ทราบว่าหลายคนติดตามมา โชคดีที่เป็นเวลาค่ำคืน เขาจึงใช้พลังเงาสลัดกลุ่มคนเหล่านั้นทิ้งหายหมด ก่อนจะกลับไปยังรถลากของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
“พี่สาวซาลาเปานึ่งและพี่สุ่ยไปกับแม่เฒ่าหยุนเหยา” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้มซุกซนกล่าวคำ “พี่ชายทำได้น่าประทับใจนัก เป็นท่านเขี่ยหลงหยินเชี่ยนทิ้งได้อย่างหมดจด!”
“ไม่ทราบเลย ว่าเนื้อหาการแข่งขันวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อ” ฉินหยุนกล่าวอย่างนั้น ทว่าสีหน้ากลับผ่อนคลาย
“พี่ชาย ข้าคิดไปสืบข่าวคราว ในการแข่งขันระดับยอดยุทธ์ในงานชุมนุมยุทธ์ดาบมีผู้แข็งแกร่งอยู่หลายคน ข้าไม่มั่นใจ ว่าตัวท่านที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงสุดจะสามารถเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นได้หรือไม่!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว
“ไว้ถึงรอบก็ได้ทราบเอง!” ฉินหยุนยิ้มตอบ
“เอาอย่างนี้เป็นไร คืนนี้ข้าฝึกฝนร่วมกับท่าน ช่วยท่านขัดเกลาผลึกแก้วแกนกลางสัตว์อสูรดวงดาวพวกนั้น!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “บางทีอีกหลายวันถัดจากนี้ ท่านอาจเลื่อนระดับได้กระมัง?”
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่ จากนั้นจึงส่ายศีรษะ “ข้าไม่อาจเลื่อนระดับได้ง่ายดายเพียงนั้น”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยบุ้ยปาก “ไม่ใช่ว่าก็แค่ควบแน่นแก่นเต๋าลึกล้ำหรือไร? ยังจะมีอันใดยาก?”
ฉินหยุนฝึกฝนร่างเซียนอสูร เมื่อเป็นส่วนของร่างกาย ตัวเขาไม่ติดขัดที่ตรงใด ที่ต้องฝึกฝน ก็มีแต่แก่นเต๋า
“ได้ อย่างนั้นทดลองดู” ฉินหยุนพยักหน้ารับตกลง
หลังเข้าสู่ห้องชุดของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ทั้งสองต่างเข้าไปยังห้องลับ ฉินหยุนนำผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวที่สุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิงมอบให้ออกมา พวกมันมีจำนวนมหาศาล เป็นผลของการรวบรวมมาเป็นเวลาหลายปี
“พี่ชาย พี่สาวทั้งสองดีต่อท่านนัก พวกนางกล้าเผชิญหน้าอันตรายออกล่าสิ่งเหล่านี้มา แน่นอนว่าต้องหมดเรี่ยวแรงไปไม่น้อย” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยมองที่ผลึกแก้วแกนกลางพร้อมถอนหายใจ “ท่านป้าเองก็มีให้ท่านไม่ใช่น้อย หลังจบเรื่องนี้ ท่านต้องไปพบนางด้วย”
“พวกเจ้าช่างดีต่อข้านัก” ฉินหยุนสัมผัสใบหน้าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพร้อมเผยยิ้ม
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยวางแกนกลางผลึกแก้วรายล้อม พวกมันจะเป็นแหล่งพลังงานให้ใช้ดูดกลืนระหว่างการฝึกฝน
ฉินหยุนนำเอาหนังสัตว์ผืนใหญ่ออกมา “เย่ว์เหม่ย ข้าจะติดตั้งค่ายอาคม นี่จะทำให้การดูดกลืนเป็นไปรวดเร็วมากขึ้น”
เขานำเอาปากกาลึกล้ำสะท้อนจิตออกมา พร้อมเริ่มแกะสลักอักขระดวงดาวและจันทรา พวกมันเหล่านี้คือตัวช่วยการควบแน่นพลังลึกล้ำ นอกจากนี้แล้ว ยังมีอักขระลึกล้ำชั้นเลิศที่สามารถช่วยการควบแน่นพลังลึกล้ำ เพราะครอบครองจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวและนายหญิงจันทรา เขาจึงสามารถแกะสลักอักขระทั้งสองประเภทได้รวดเร็วยิ่ง เพียงสองชั่วยาม เขาก็ทำพวกมันได้จนสำเร็จ
“สงสัยนักว่าผลลัพธ์จะออกมาเยี่ยงไร!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยลอบคาดหวังพร้อมยิ้มกล่าว
“เริ่มกันได้แล้ว!” ฉินหยุนเอ่ยคำ
ทั้งสองนั่งที่ด้านบนแผ่นอาคมหนังสัตว์ขนาดใหญ่ มือประสานไว้ด้วยกัน ฉินหยุนใช้งานเคล็ดวิชาฝึกฝน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยใช้งานพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา หลังค่ายอาคมเริ่มทำงาน แสงสว่างสีขาวพลันทะลักออกภายในห้องลับ
พลังลึกล้ำดวงดาวมหาศาลภายในแกนกลางดวงดาว พวกมันกำลังถูกค่ายอาคมชี้นำออกมาจนอัดแน่นทั่วทั้งห้อง หลิงหยุนเอ๋อเข้าควบคุมวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬเพื่อดูดกลืนพวกมัน หลังเข้าสู่แก่นเต๋า พวกมันจึงค่อยปล่อยพลังออกไปให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้ดูดกลืนต่อไป
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ นางฝึกฝนแก่นเต๋าลึกล้ำ ด้วยนางใช้พระสูตรหัวใจตะวันจันทราเพื่อดูดกลืนพลังลึกล้ำดวงดาวจากร่างกายฉินหยุน หลังจากโคจรผ่านร่างของนาง มันจะกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากนั้นจึงไหลเวียนกลับสู่ร่างของฉินหยุน เช่นนี้ พลังลึกล้ำดวงดาวที่ส่งกลับจากร่างเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงแข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าทวี
ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงค่อยโคจรพลังลึกล้ำดวงดาวภายในร่าง และขัดเกลาพวกมันสู่ผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำ หากผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำใหญ่เพียงพอ พวกมันจะเริ่มผสานรวมเข้ากับแก่นเต๋า และแปรเปลี่ยนสู่แก่นเต๋าลึกล้ำ
“เย่ว์เหม่ย นำเอาผลึกแก้วแกนกลางออกมาเพิ่ม เรื่องราวกำลังไปได้ด้วยดี” ฉินหยุนเผยยิ้ม
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่นำพวกมันออกมาในทันที กลับกัน นางเพียงยิ้ม “พี่ชาย ข้าควรไปพาพี่สาวซาลาเปานึ่งและพี่สุ่ยมา รวมถึงท่านป้าด้วย หากฝึกฝนร่วมกับท่านหลายคน พลังลึกล้ำดวงดาวจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเป็นหลายเท่า!”
“วิธีการเช่นนี้ทำได้จริงหรือ?” ฉินหยุนที่คิดตาม อดไม่ได้ที่จะเผยอาการตื่นเต้นยินดี
“ย่อมต้องทำได้อยู่แล้ว ชาติภพก่อนท่านทำเช่นนี้บ่อยครั้ง นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่ชาติภพก่อนท่านล่อลวงหญิงสาวจากพระราชวังกวงหานไปมากมาย ก็เพราะเพื่อการฝึกฝน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะกล่าว
“อย่างนั้นให้พี่หยางมาด้วยแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“ย่อมได้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่งรีบออกไป
ฉินหยุนรอคอยกว่าครึ่งชั่วยาม เมื่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับมา นางนำสามโฉมงามร่วมทางมาด้วย เชี่ยวเสวียนฉินสวมใส่ชุดขาว นางทั้งอ่อนหวานและงดงาม พอได้พบเห็นฉินหยุน นางหัวเราะเบา สีหน้ากลับคืนสู่ปกติ เพราะภายในใจของนางเวลานี้ มันยินดีมากล้นยิ่งนักแล้ว
“พี่หยางเล่า?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ท่านยายหยุนเหยาไม่คิดให้นางออกมาภายนอก!” เชี่ยวเสวียนฉินตอบ “ข้าเองก็ไม่ได้บอกต่อนางว่าเจ้าได้กลับมาแล้ว ข้าเป็นกังวลว่านางจะมาที่นี่เพื่อพบเจ้า!”
สื่อชิงเฉิงกล่าว “ข้าได้ยินว่าหลายคนที่จับตาท่านยายหยุนเหยาล้วนแข็งแกร่ง เหล่านั้นเป็นครึ่งเซียน! ดังนั้นนางจึงไม่อาจปล่อยให้ฉีเย่ว์อยู่ห่างกายได้”
สุ่ยเทียนสื่อถอนหายใจ “แม้เป็นเกาะแห่งดาบ ก็ยังต้องระแวดระวังเพียงนี้”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะรับ “อย่าได้พูดกล่าวแล้ว เริ่มกันเลยดีกว่า!”
ระหว่างทาง นางได้บอกกล่าวทั้งสามถึงการฝึกฝนนี้ ตั้งแต่ที่เข้าร่วมเกาะจันทราปีศาจ พวกนางย่อมได้ทราบพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา หลังเข้าสู่ห้องลับเรียบร้อย พวกนางจึงเริ่มนำเอาผลึกแก้วแกนกลางออกมาจัดเรียงโดยรอบจำนวนมาก
“หากเรื่องราวราบลื่นดี หลังใช้งานผลึกแก้วแกนกลางเหล่านี้ น่าจะพอให้ฉินหยุนได้ควบแน่นแก่นเต๋าลึกล้ำขึ้นมาได้!” เชี่ยวเสวียนฉินยังคงรู้สึกผิดต่อฉินหยุน เพราะเดิมเป็นเขาช่วยนางเอาไว้ ทว่า นางกลับต้องปล่อยให้เขาอยู่ในเขตแดนอ้างว้างจันทราทมิฬอย่างโดดเดี่ยว
พวกนางนั่งลงที่บนค่ายอาคมหนังสัตว์ ตั้งวงล้อมโดยการจับมือต่อกันเอาไว้พร้อมเริ่มการฝึกฝน ไม่นาน ฉินหยุนจึงสัมผัสได้ ถึงพลังลึกล้ำดวงดาวที่ไหลคืนกลับมา มันแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ภายในใจอดไม่ได้ที่จะลอบยินดี เขาไม่ทราบ ว่าการฝึกฝนร่วมกันหลายผู้คนเช่นนี้มีแต่ผู้คนถวิลหา ถึงกับได้รับความเชื่อใจจากสตรีเพื่อฝึกฝนพระสูตรตะวันจันทรา เพียงเรื่องนั้นก็ไม่ใช่ง่ายแล้ว ทว่าฉินหยุน เขาถึงขั้นได้รับความเชื่อใจจากสตรีหลายต่อหลายคน!
สุ่ยเทียนสื่อพลันเผยยิ้มบาง “ข้าได้ยินว่าภายในสระเซียนที่อัดแน่นด้วยพลังงานเซียน หากฝึกฝนร่วมกันที่นั่น ผลลัพธ์มีแต่จะดียิ่งขึ้น!”

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset