ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 220 เขานิมิตทมิฬช่วยเหลือคนเพื่อความสุข

ทุกคนขยับเข้ามาใกล้เยี่ยนจ้าวเกอกับเสาหินพร้อมกัน ผิวเสาหินต้นนั้นส่องประกายแสงโชติช่วงอย่างช้าๆ

ริ้วแสงลวงตาที่ควบแน่นอยู่ในอากาศไม่สลายไป คล้ายกับประกอบขึ้นใหม่เป็นส่วนหนึ่งที่แตกหักขาดหายไปของเสาหิน

เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ด้านล่างของเสาหิน มือข้างหนึ่งกดอยู่บนผิวเสาหิน มืออีกข้างหนึ่งยื่นนิ้วชี้ออกไป ดีดบนจุดตันเถียนของตนเบาๆ

สายตาของเขาจดจ้องพายุสีดำที่จู่โจมเข้ามาตีฝ่าเขตค่ายกลเบื้องหน้าโดยไม่ละสายตา

จุดสนใจของ ‘ผู้อาวุโสหลี่’ กับ ‘เหยาซาน’ อยู่บนร่างเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ นอกจากนี้ยังมีพ่านพ่านที่เวลานี้ย่อส่วนมาอยู่ข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว

ชายหนุ่มมองพายุที่พลิกม้วนพัดมาทางตน ไม่หยุดกะพริบตา พลางคิดคำนวณอยู่ภายในใจ

ภายในจุดตันเถียนของเยี่ยนจ้าวเกอ ปราณสะอาดกระจายออก กลุ่มธาตุปราณบริสุทธิ์ปลุกปั่นสาดซัดอยู่ตลอดเวลา

ระหว่างที่ปราณจิตราเที่ยวเตร่ พลันแฝงไปด้วยฉันทลักษณ์ที่ทั้งมหัศจรรย์ทั้ งเป็นเอกลักษณ์ ทั้งห่างไกลจากปัจจุบัน อีกทั้งทรงพลังอีกด้วย

คนอื่นไม่อาจรับรู้และสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมัน หรือต่อให้รู้สึกได้ ก็ไม่มีทางหยั่งรู้ ไม่มีทางมองออกเช่นกัน

ฝ่ามือที่เยี่ยนจ้าวเกอกดไว้บนผิวเสาหิน ปราณจิตราที่กรอกเข้าไปในเสาหินเรียบ แต่ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ริ้วแสงบนผิวเสาหินยิ่งทวีความจ้าตา

ทุกคนพรวดพราดไปยังข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างก็มองเขาด้วยความประหม่าทั้งสิ้น

ครั้นหันกายมองไป พายุนิมิตทมิฬอันน่าพรั่นพรึง ขณะนี้ดูเหมือนมังกรที่เหินฟ้ามุดดำลงดินมากมาย

ทะเลทรายบริเวณที่พายุพัดผ่านไป ล้วนถูกไถคราดออกเป็นร่องต่อเนื่อง เนินทรายเป็นเนินๆ ขึ้นลงมากมายถูกถากจนเรียบ พายุทรายจำนวนมากพลิกม้วนทั่วท้องฟ้า

จากสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอที่มองไป ถึงขั้นเห็นได้ว่าเม็ดทรายเล็กๆ นั้น หลังจากถูกม้วนพัดเข้าไปอยู่ในพายุแล้ว แตกออกเป็นชิ้นเล็กน้อยกลายเป็นละอองฝุ่นที่ยิ่งทวีความเล็กเข้าไปอีกขั้น!

บริเวณที่พายุหมุนพัดผ่านไป ทรายไหลที่กลบเสาหินไว้ กลับยังคงมั่นคงดั่งภูเขาไท่ซาน เนื่องด้วยความสัมพันธ์ที่เชื่อมกันระหว่างเสาหินกับทะเลทราย

ทว่าผู้คนที่ยืนอยู่บนทะเลทราย กลับประหนึ่งลิขิตไว้ว่ายากที่จะโชคดีรอดพ้น จะต้องถูกพายุหมุนอันบ้าคลั่งฉีกร่างเป็นชิ้นๆ!

นัยน์ตาเห็นว่าพายุได้เข้าใกล้ยังเบื้องหน้าแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกลับยังคงไม่เคลื่อนไหวอะไร จนพวกเขาล้วนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา

ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ก่อความวุ่นวาย ทว่าท่ามกลางสายตาของทุกคนล้วนปกปิดความร้อนใจไว้ไม่อยู่

เพราะการตัดสินใจของเยี่ยนจ้าวเกอก่อนหน้านี้ ทุกคนจึงไม่ได้ถอยออกไปหลบมังกรทมิฬพิฆาตในทันที

บัดนี้มังกรทมิฬพิฆาตเข้าจู่โจม หากชายหนุ่มไม่มีวิธีจัดการละก็ นอกจากตนเองแล้ว ทุกคนล้วนต้องถูกฝังจมลงไปที่นี่พร้อมกับคนตาย

กระนั้นคนอื่นกลับไม่ถึงขั้นที่จะนึกคิดไปว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีความคิดจะทำร้ายพวกเขา เพราะว่าตัวชายหนุ่มเองก็ประสบภัยอันตรายเฉกเช่นเดียวกัน

แต่ยามนี้ดวงตาเห็นว่าพายุมาถึงตัว กลับไม่มีมาตรการตอบโต้ ยากจะเลี่ยงความสิ้นหวังอย่างมากไปได้

‘ผู้อาวุโสหลี่’ และ ‘เหยาซาน’ สบตากันแวบหนึ่ง “เขาไม่อนุญาตให้ขับเคลื่อนพลังของเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั่นหรือ? ตัดใจไม่ลงหรือไม่อาจขับเคลื่อนได้เลย? ไม่มีเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แล้วความมั่นใจที่เขาจะยืนกรานไม่ถอยออกไปอยู่ที่ใด?”

“ถ้าหากจริงๆ แล้วเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั่นของเขาไม่อาจขับเคลื่อนได้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสร้างมังกรทมิฬพิฆาตแล้ว!” เหยาซานตัวปลอมขุ่นเคืองอยู่บ้าง “บัดนี้มังกรทมิฬพิฆาตจู่โจมมา ลากพวกเราเข้ามาชดใช้เองด้วยแล้ว!”

แววตา ‘ผู้อาวุโสหลี่’ มืดครึ้ม “ถึงจะไม่สมัครใจอยู่บ้าง แต่ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงๆ นั่นก็เป็นชะตาชีวิตเช่นกัน ฝังส่งบุคคลอันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ของสำนักเขากว่างเฉิง ยอดอัจฉริยะอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง ที่ใช้พลังฝึกปรือระดับปรมาจารย์ก็สามารถก่อกวนสถานการณ์ใต้หล้าได้คนหนึ่ง พวกเราไม่เสียเปรียบ!”

เขาเปล่งเสียงฮึดฮัด “ต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น บางทีเขาอาจจะมีนิสัยเห็นแก่ตัว มีวิธีการที่ปกป้องเพียงแต่ตัวเขาเอง ก็เลยไม่เกรงกลัว”

“หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเราต้องคว้าโอกาสสุดท้ายไว้ ส่งเขาไปลงนรกไปเสีย!”

ในช่วงเวลาชั่วเสี้ยวขณะนี้เอง พายุอันน่าพรั่นพรึงได้มาถึงเบื้องหน้าฝูงชนแล้ว!

สองสามคนที่ยืนอยู่รอบนอกที่สุด ปักหลักได้ไม่มั่นคงนัก ร่างกายไม่อาจยืนอยู่บนพื้นได้ กำลังจะถูกม้วนพัดขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง!

เห็นดังนั้น ทุกคนล้วนสีหน้าถอดสี!

เงามืดแห่งความตายปกคลุมทุกคน อันตรายเข้ามาใกล้แค่คืบ!

ในเวลานี้เอง เยี่ยนจ้าวเกอกดมือทั้งสองลงไปบนเสาหิน!

เสาหินที่ทอริ้วแสงระยิบระยับ สั่นไหวอย่างรุนแรง ลำแสงจำนวนมากพุ่งออกไปทั่วสารทิศ!

แสงสว่างโชติช่วงประหนึ่งผ้าไหมทอแสงระยิบระยับ คล้ายกับโซ่ตรวนหลากเส้น เหยียดขยายเข้าไปในพายุทำลายล้าง ราวกับสายฟ้าแลบตามอำเภอใจ

มีช่วงเวลาชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่ง ที่มิติเวลาคล้ายกับแข็งตัว

พายุสีดำอันน่าพรั่นพรึง ดูเหมือนว่าอืดอาดอยู่กลางท้องฟ้า ประหนึ่งภาพหยุดนิ่งอย่างไรอย่างนั้น เห็นเพียงลำแสงสว่างไสวหลากสีแผ่ขยายอย่างรวดเร็วภายในพายุ คลุกเคล้าเข้ากับพายุ

ชั่วขณะถัดมา ดูเหมือนว่าหยุดนิ่งไปเป็นเวลาชั่วเสี้ยวขณะแล้ว เคลื่อนไหวขึ้นใหม่อีกครั้ง พายุรุนแรงยังคงกระโจนเข้าหาฝูงชนอยู่ดี

ถึงกระนั้นขณะนี้ บนผืนทรายใต้ฝ่าเท้าฝูงชน ก็ปรากฏอักขระวิญญาณหนาใหญ่หลากสายขึ้นใหม่อีกครั้ง แผ่คลุมไปทั่วทะเลทรายที่อยู่ใกล้เคียง

รัศมีแสงหลายสายพุ่งขึ้นสู่ท้อง ปกคลุมเยี่ยนจ้าวเกอกับผู้คนโดยรอบเอาไว้ด้วยกัน ตัดขาดพายุเอาไว้ภายนอกอีกครั้ง

ทุกคนที่อยู่ในอารามตื่นตระหนกเห็นว่าแสงสว่างไสวทุกสายที่กระจายส่งออกไปจากเหนือเสาหิน ยังคงก่อกวนอยู่กับพายุ กวัดแกว่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอากาศ ตามลมจิตราอันหนาวเย็น

เยี่ยนจ้าวเกอสูดลมหายใจแล้วส่งเสียงออกมา “แข็งตัว!”

เสาหินที่เปล่งแสงสีสันทั่วทุกส่วน บัดนี้บริเวณรอยแตกแหว่งหายไป ปรากฏรัศมีแสงวาบ เกิดลำแสงยื่นขยายออกมาไม่หยุด เติมเต็มบริเวณตรงกลางริ้วแสงอันว่างเปล่านั้น

เสาหินที่คล้ายกับแตกออก ปรากฏอีกท่อนออกมาใหม่อีกครั้ง กำลังฟื้นสภาพสู่รูปแบบเดิม!

ทุกๆ คน รวมถึง ‘ผู้อาวุโสหลี่’ และ ‘เหยาซาน’ มองดูภาพฉากนี้ ล้วนอ้าปากตาค้าง “หรือว่าเขาจะสามารถดึงเอาเสาหินนี้ออกไปจากภายในทะเลทรายได้? ยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ระดับสุดยอดยังทำไม่ได้เลยนี่!”

ในตอนที่เสาหินที่แตกหักหยุดขยายลง ภายใต้แสงสว่างไสวปกคลุม หลังจากเค้าโครงรูปลักษณ์ภายนอกดูๆ ไปแล้วท่วงทำนองมีแนวโน้มจะสมบูรณ์ เยี่ยนจ้าวเกอก็ตะโกนเสียงต่ำอีกหน

“ขึ้น!”

ท่ามกลางเสียงตะโกนทุ้มต่ำของเยี่ยนจ้าวเกอ แสงสว่างไสวหลากสายที่ยื่นขยายออกไปจากบนเสาหิน พลันยืดตรงในทันใด!

พายุสีดำที่เดิมทีนำมาซึ่งการคุกคามถึงแก่ชีวิตแก่ผู้คน เวลานี้ดูเหมือนเทพอสูรเป็นร้อยเป็นพัน ใช้มือคว้าจับโซ่ตรวนแสงไสวเหล่านี้ไว้ด้วยกัน

ทะเลทรายเบื้องล่างเสาหินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นโครมคราม ดุเดือดอย่างไม่เคยมีมาก่อน!

ฟ้าดินโดยรอบ คล้ายกับแกว่งไกวไปพร้อมกันอยู่ในขณะนี้

จากนั้นเสาหินที่เหมือนกับจะหล่อหลอมเข้ากับทะเลทรายทั้งหมดก็เปล่งแสงสว่างไสวเจิดจ้า ถอนออกจากพื้นทรายขึ้นมา ท่ามกลางสายตาจดจ้องของทุกคนที่กำลังอ้าปากตาค้าง!

เสาหินขนาดมหึมาทะยานขึ้นจากในทะเลทรายทีละนิด หลุดพ้นจากการจองจำ!

ทะเลทรายใต้ฝ่าเท้าทุกคนสั่นไหวตลอดเวลา แสงสว่างไสวที่ปกป้องพวกเขา กำลังอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง

ทว่าพายุเหนือศีรษะที่ทำลายล้างตามอำเภอใจนั้น ขณะนี้กลับไม่มีเวลาจะสร้างอันตรายต่อฝูงชน แต่ตกอยู่ในระหว่างการประมือกับเสาหิน

ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเจนในรายละเอียด ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเยี่ยนจ้าวเกอทำได้อย่างไร กระนั้นฝูงชนต่างก็ค่อยๆ ตื่นตัวกลับมา “เขาอาศัยพลังภัยธรรมชาติของทะเลทรายชายขอบฝั่งตะวันออก สะท้อนกลับไปยังการหลอมรวมจองจำของมหาทะเลทรายแดนตะวันตกที่มีต่อเสาหินต้นนั้น…”

เวลานรี้ทุกๆ คนไม่อาจระงับการชื่นชมภายในใจลงได้ ‘พลังฝึกปรือในระดับปรมาจารย์ กลับสามารถอาศัยพลังธรรมชาติสะท้อนกลับได้ นี่ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว น่ากลัวเสียจริง! เขาทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไรกัน?’

หลังจาก ‘ผู้อาวุโสหลี่’ และ ‘เหยาซาน’ หลุดออกจากภวังค์แล้ว พวกเขาก็มองหน้าสบตากันและกัน “นี่เขา…อาศัยมังกรทมิฬพิฆาตที่พวกเราสร้างขึ้นหรือนี่?”

หากไม่ใช่มังกรทมิฬพิฆาตถาโถม ทำให้พายุในเขตส่วนพื้นที้ใกล้เคียงทวีความแข็งแกร่งอย่างฉับพลัน เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะถอนเสาหินด้วยพายุนิมิตทมิฬแถบนี้ขึ้นมา เกรงว่าคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายและสบายๆ เช่นนี้

พวก ‘ผู้อาวุโสหลี่’ ทั้งสองตระหนักได้ว่าฝ่ายตนกลับจะช่วยเยี่ยนจ้าวเกอเสียด้วยซ้ำไป สีหน้าจึงซีดเซียวอยู่บ้างชั่วขณะหนึ่ง ราวกับกลืนหนูตายเปล่าๆ ลงไปอย่างไรอย่างนั้น

………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset