ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 302 ต้องตายเสียให้หมด!

ไหล่เยี่ยนจ้าวเกอแบกไว้ด้วยโลงเย็น รุดเดินไปข้างหน้า

ด้านบนเหนือศีรษะ มหาค่ายกลนภาโคจรเสียงดังอื้ออึง พลังมหาศาลไร้ขอบเขตคล้อยลง เสริมหนุนบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ

ชายหนุ่มรวบนิ้วทั้งห้าชิด ตั้งฝ่ามือขึ้นดุจดาบ ฟาดตามแนวขวางไปเบื้องหน้า

ขณะแสงวาวโรจน์ทอประกาย ยันต์วิญญาณแต่ละสายก็รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นค่ายกลยันต์ใหญ่ยักษ์ค่ายหนึ่ง เสมือนกับมหาค่ายกลนภาแบบย่อส่วน

มหาค่ายกลเปลี่ยนเป็นคมดาบ กวาดเป็นแนวขวางไปข้างหน้าตลอดทาง ฟันเอวจอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตจำนวนมากขาดเป็นสองท่อน!

มิติต่างแดนด้านบนแตกออกเป็นรอยแยก กระแสน้ำพินาศอันน่าพรั่นพรึงไหลพุ่งออกมาจากภายใน

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นทอดมองท้องฟ้า ยันมือซ้ายขึ้นบน กางนิ้วทั้งห้าออก กลางฝ่ามือขนานกับผืนฟ้าเหนือยอดเขากว่างเฉิงพอดี

ชั่วขณะถัดมา เยี่ยนจ้าวเกอรวบนิ้วทั้งห้ากำหมัด

มหาค่ายกลนภาบนท้องฟ้าโคจรดังกึกก้อง ตามการเคลื่อนไหวกำหมัดนี้ของเขา ลวดลายค่ายกลแต่ละสายกลายสภาพเป็นหมอกแสง ขวักไขว่อยู่ในนภาอากาศ

หมอกแสงถักทอเข้าด้วยกัน ผูกเป็นตาข่าย โอบล้อมมิติต่างแดนนั่นเอาไว้ตลอดเวลา แสงโชติช่วงค่อยๆ มอดดับ ทว่ามิติต่างแดนก็เปลี่ยนเป็นแข็งแรงมั่นคงขึ้นมาใหม่อีกครั้งเช่นกัน

ท้องฟ้าอากาศที่ก่อนหน้านี้บิดเบี้ยวแกว่งไกวอย่างรุนแรง ค่อยๆ ฟื้นคืนความสงบเงียบ เปลี่ยนเป็นโปร่งแสงไร้รูปร่างอีกครั้ง ทำให้คนยากจะสังเกตเห็น

เยี่ยนจ้าวเกอก้มหน้าลงอีกหน มองดูจอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตบนเขากว่างเฉิงด้วยความเย็นชา

มือซ้ายที่ชูขึ้น ทุบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ระหว่างที่มหาค่ายกลนภาบนท้องฟ้าโคจร แสงขาวหลายสายตกลง วาดผ่านผืนฟ้า ประดุจสายฟ้าแลบ อีกทั้งประดุจสวรรค์ลงทัณฑ์!

จอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตคนแล้วคนเล่าสิ้นใจไร้ที่ฝัง ภายใต้การระเบิดอันน่าหวาดผวาไม่เป็นสองรองใครของมหาค่ายกลนภานี้

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ชะงักฝีเท้า แบกโลงเย็นด้วยกันกับสวีเฟยและอิงหลงถู ย่ำเหยียบไปบนทางสายใหญ่ที่ลวดลายค่ายกลปูเอาไว้ เดินทางตลอดทาง กระทั่งมาถึงหน้าประตูสำนัก

กลุ่มคนส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ ไปบนยอดเขานภากาศ ยอดเขาสูงสุด

เมื่อชายหนุ่มฟาดฝ่ามือหนึ่งลง มหาปรมาจารย์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตทั้งสองก็ร่างแหลกกระดูกเป็นผุยผงอีก

ครั้นวางโลงเย็นที่บรรจุศพของสือเถี่ยไว้บนพื้นดินเหนือยอดเขาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มองดวงหน้าของสือเถี่ย สูดลมหายใจลึกคำหนึ่ง แล้วโผนกายทะยานขึ้นไป

ด้วยการเสริมหนุนจากพลังมหาค่ายกลนภา เยี่ยนจ้าวเกอทลายการขวางกั้นมิติ เข้าไปภายในมิติต่างแดนได้สำเร็จ

ภายในมิติต่างแดน ทั้งสามคนเยี่ยนตี๋ หยวนเทียน และซินตงผิง ผ่านการต่อสู้สุดชีวิตมาคราวหนึ่ง บัดนี้สีหน้าล้วนย่ำแย่อยู่บ้างเช่นกัน บนร่างของทั้งสามล้วนเกลื่อนด้วยบาดแผลทั้งสิ้น

เยี่ยนจ้าวเกอมองอดีตผู้อาวุโสร่วมสำนักท่านนั้นตาเขม็ง “ซิน! ตง! ผิง!”

ชายหนุ่มเหยียดมือข้างหนึ่งไปข้างหน้า ฟาดกระบวนท่าฝ่ามือนภากว่างเฉิงหนึ่งลงไป

บนพื้นดินทั้งสี่ด้านในมิติต่างแดน ปรากฏลวดลายค่ายกลจำนวนมากที่เปล่งแสงสุกสว่าง จากนั้นก็แปรสภาพเป็นฝ่ามือยักษ์

การเคลื่อนไหวของฝ่ามือข้างนี้ สอดประสานเป็นจังหวะเดียวกับเยี่ยนจ้าวเกอโดยสมบูรณ์ มือมหึมาค้ำฟ้า อัดลงมาทางซินตงผิงดังกึกก้องกัมปนาท!

ฟ้าดินภายในมิติต่างแดนแห่งนี้ ราวกับพลิกหมุนกลับในชั่วขณะนี้อย่างแท้จริง

ครั้นร่างเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎอยู่ในมิติต่างแดน ซินตงผิงพลันเงยหน้าถอนใจยาวครั้งหนึ่ง

เส้นสายตาของเขาตกไปบนนัยน์ตาซ้ายของเยี่ยนจ้าวเกอ ก่อนจะเห็นว่าในลูกตาดำซ้ายเยี่ยนจ้าวเกอสาดแสงขาวออกมา และมีจุดแสงสีทองวับวามอยู่ในนั้น

ซินตงผิงเอ่ย “เป็นวิชาพิเศษนี้น่ะหรือ ที่ทำให้พวกเจ้าชิงมหาค่ายกลนภากลับมาได้?”

เขาเองก็เลื่อนฝ่ามือขึ้น สำแดงฝ่ามือนภากว่างเฉิงกระบวนท่าหนึ่งเช่นเดียวกัน

สองฝ่ามือสอดประสาน นภาอากาศสั่นไหว เส้นแบ่งเขตฟ้าและดินเลือนราง คล้ายกับกำลังคว่ำลงตลอดเวลา

ขณะเดียวกันที่เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือหนึ่งไปทางซินตงผิง มืออีกข้างหนึ่ง ก็ต่อยหมัดออกไปเบื้องหน้า เป้าหมายคือเยี่ยนตี๋ บิดาของตน

มหาค่ายกลนภาหยิบยืมพลังมหาศาลไร้ที่สิ้นสุดจากโลกหล้า ทะลักเข้าสู่ภายในร่างกายเยี่ยนตี๋จำนวนมาก ตามหมัดนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ดวงตาทั้งสองของเยี่ยนตี๋ยิงแสงรัศมีไปทั้งสี่ด้าน ชุดคลุมนภาบนเรือนกาย พลังที่แผ่ออกมาก็พุ่งพรวดขึ้นมาเช่นกัน

ปราณสะอาดหลายสายแพร่กระจายไปรอบๆ ทั้งสี่ด้าน ค่อยๆ สร้างการเชื่อมต่อกับการก่อสร้างมิติต่างแดนขึ้นอีกครั้ง

เยี่ยนตี๋สะบัดดาบ เจตจำนงดาบอันแข็งแกร่งหาที่เปรียบได้ไม่ม้วนไปทางจอมมารศักดิ์สิทธิ์หยวนเทียน!

บุตรบิดาทั้งสองร่วมกันปล่อยพลัง เยี่ยนจ้าวเกอเบิกตามองซินตงผิง พลางแผดคำรามเดือด ประหนึ่งพยัคฆ์ร้องมังกรคำรามอย่างไรอย่างนั้น

ภูเขาไฟอันน่าหวาดหวั่น ปะทุขึ้นโดยสมบูรณ์ในชั่วขณะนี้!

ท่ามกลางเสียงแผดร้องยาวของเยี่ยนจ้าวเกอ ท่าฝ่ามือนภากว่างเฉิงแปรผันฉับพลัน

ซินตงผิงที่ประมืออยู่กับเขา สัมผัสได้โดยตรง

นั่นไม่ใช่พลังที่พลิกฟ้ากลับแผ่นดินแล้ว หากแต่ฟ้าและดินล้วนไม่มีอยู่อีกต่อไป!

โลกประหนึ่งย้อนกลับไปก่อนที่ฟ้าดินจะกำเนิด ทั้งปวงยังคงอยู่ในสภาวะธาตุอากาศสลัวทั่วบริเวณ

ไร้ทินกรไร้จันทรา ไร้ก่อนไร้หลัง ไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด ไร้ขยับไร้ตั้งมั่น

ชั่วเสี้ยวขณะถัดมา กลุ่มธาตุอากาศระเบิดดังสนั่น!

คล้ายว่ากลุ่มธาตุอากาศรับเอาสรรพสิ่งเข้าไป จากนั้นดับสูญ จักรวาลเปิดออกอีกครั้ง!

ชั่วเสี้ยววินาที ทั้งมหาค่ายกลนภาก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ นานา ราวกับถือกำเนิดโลกสมัยดึกดำบรรพ์ซ้ำอีกหน!

พลังแก่กล้าอันไพศาลไร้ที่เปรียบเหล่านี้ ทลายฝ่ามือนภากว่างเฉิงของซินตงผิงอย่างโหดเหี้ยม!

ซินตงผิงตกตะลึง มืออีกข้างหนึ่งเปล่งประกายกระบี่วาบวับ กระบวนท่ากระบี่นภาไร้ขอบเขตสุด ทอดผ่านฟ้าดิน ลอยฟันมาทางเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอส่งเสียงระบายความอัดอั้นออกมา เหยียดสองมือออกไปข้างหน้าพร้อมกัน จากนั้นประกบตบเข้าหากันตรงกลาง

ภายในมิติต่างแดน ฝ่ามือขนาดยักษ์สองข้างอันแปรสภาพมาจากลวดลายค่ายกลทอแสงวาบนับไม่ถ้วน เคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกับเยี่ยนจ้าวเกอ ประกบเข้าหากันตรงกลางเช่นกัน ฉับพลันนั้นประกายกระบี่ที่ซินตงผิงปล่อยออกมาก็สอดที่กึ่งกลางฝ่ามือทั้งสอง

ชายหนุ่มมองซินตงผิงอย่างเย็นยะเยือก ท่วงทำนองพลังน่าพรั่นพรึงดุจกลุ่มธาตุอากาศระเบิดนั่นปรากฏขึ้นอีกครา

พลังอันบ้าระห่ำ บดกระบี่นภาไร้ขอบเขตสุดของซินตงผิงอีกครั้ง!

ซินตงผิงขมวดหัวคิ้วแน่น ผละกายถอยกลับ ไม่ปะทะแข็งกับเยี่ยนจ้าวเกอและมหาค่ายกลนภาต่อไป หากแต่ต้องรวมตัวกับจอมมารศักดิ์สิทธิ์หยวนเทียน

ที่นั่น หยวนเทียนก็กำลังถูกดาบหนึ่งของเยี่ยนตี๋ไล่ฟันจนถอยกรูดเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอสูดหายใจลึกคำหนึ่ง ผลักสองฝ่ามือขนานออกไปพร้อมกัน!

คลื่นคลั่งไร้จุดสิ้นสุด อัดไปทางซินตงผิงพร้อมกับจอมมารศักดิ์สิทธิ์หยวนเทียน ด้วยท่าสูงเทียมฟ้า!

ในขณะเดียวกันนั้น ดาบหนึ่งของเยี่ยนตี๋ทอดข้ามท้องฟ้า แบ่งแยกฟ้าดิน ทลายนภาอากาศ บุกไปทางซินตงผิงกับหยวนเทียนเช่นกัน!

เจตจำนงหมัดผสานร่วมกับเจตจำนงดาบ คลื่นคลั่งสูงเทียมฟ้าท่วมซินตงผิงและหยวนเทียนมิด!

ประกายกระบี่อันกว้างใหญ่ กอปรกับปราณอนิจจังอันคลุมเครือ ทลายสูญแตกเป็นเสี่ยงๆ เป็นวงกว้าง!

เยี่ยนจ้าวเกอยกฝ่ามือขึ้นฟาดลงไป มหาค่ายกลโคจรไม่หยุดยั้ง แรงปะทุอันน่าตื่นตกใจจากการระเบิดกลุ่มธาตุอากาศอย่างหนัก อัดแขนข้างหนึ่งของซินตงผิงจนแหลกละเอียดอย่างโหดเหี้ยม!

อีกด้านหนึ่ง ดาบอันโหดร้ายอำมหิตของเยี่ยนตี๋สะบั้นแส้ยาวอาวุธวิญญาณระดับสูงในมือหยวนเทียนขาดผึง ช่วงอกเอวก็เกิดแผลสายหนึ่งนองเลือดเช่นกัน

หากถอยไม่ทันกาล ก็ต้องถูกแหวกช่องอกทะลวงช่องท้องโดยพลัน

ซินตงผิงและหยวนเทียนรุดถอยหลัง เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนท่าฝ่ามือ ประสานมือทั้งสอง ทั้งมิติต่างแดนบีบเบียดเข้าหาทั้งสองคน

มิติต่างแดนในขณะนี้ เกิดการยุบตัวลงอย่างคาดไม่ถึง ขณะเดียวกันที่พลังมหาศาลไร้ที่สิ้นสุดกำลังคุมขังซินตงผิงกับหยวนเทียนเอาไว้ ก็บดร่างของพวกเขาด้วยเช่นกัน

เยี่ยนตี๋ยกดาบ จุดแสงดำแซมทองบนชุดคลุมนภา เคลื่อนตามไปบนดาบสวรรค์มังกรทะยานจำนวนมาก ปราณสะอาดหลายสายพันรอบใบดาบ

ดาบอันดุดันเล่มหนึ่งร่วงลง กดซินตงผิงและหยวนเทียนไว้จนไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงร่วมมือกันตอบโต้สุดกำลัง

ซินตงผิงที่ระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างอ่อนด้อยกว่า ยิ่งเริ่มบาดเจ็บเนื่องด้วยเจตจำนงดาบเย็นเยียบแล้ว!

มือทั้งสองของเยี่ยนจ้าวเกอที่ผสานกันหลอกๆ ประกบกันฉับพลัน!

มหาค่ายกลนภา พลิกผันกลับทันใด!

ขณะที่แปรเปลี่ยนย้อนกลับฉับพลัน ก่อเกิดพลังอันน่าตกใจ ระหว่างบิดเบี้ยว คล้ายกับสามารถฉีกโลกแปดพิภพออกมุมหนึ่ง!

ซินตงผิงและหยวนเทียนล้วนแค่นเสียงน่าเวทนาทั้งสิ้น

บาดแผลบนหน้าอกหยวนเทียน ขยายลามออกไปโดยรอบทั้งสี่ด้านทันที แทบจะทำให้เขาแยกออกเป็นเสี่ยงๆ!

ร่างกายของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทนทานเพียงไหน จะแกร่งกล้าเพียงใด ทว่าบัดนี้จวนเจียนจะแหลกละเอียด!

ซินตงผิงที่อยู่อีกด้านย่ำแย่ยิ่งกว่า วิชาสวรรค์คุ้มครองไร้ที่สิ้นสุดดับสูญโดยสิ้นเชิง ทั่วสรรพางค์กายระเบิดออกเป็นฝนโลหิตกลุ่มหนึ่ง!

ทั้งกายราวกับจะถูกบดเป็นเนื้อบด!

ซินตงผิงและหยวนเทียน ฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในประกายตาทั้งสิ้น

ท่ามกลางเสียงโอดโอย ไอมารสีดำจำนวนมากทะลักออกจากภายในร่างพวกเขา

ลูกตาดำของทั้งสอง ต่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม ขณะเดียวกันก็มีแสงโลหิตยิงออกมาจากภายใน!

“มารรึ?” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มโหดเหี้ยม จิตสังหารท่วมท้นเสียดฟ้า “ข้าจะทำให้พวกเจ้าเป็นมารสมใจ!”

เยี่ยนจ้าวเกอเปิดกระเป๋าย่อส่วนออก ก่อนที่ธนูคันหนึ่งและลูกธนูสามดอก จะตกลงในมือของเขา!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset