ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 191 สังหารต่อเนื่อง!

เยี่ยนจ้าวเกอพูดไม่ทันขาดคำ เศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่ฝังอยู่บนเจดีย์สูงสีทอง คล้ายกับถูกยึดติดเอาไว้ พลันเปล่งแสงรุนแรงออกมาครู่หนึ่ง!

เจดีย์สูงสีทองสั่นไหวอย่างรวดเร็วตามการเปล่งแสงระยิบระยับครู่หนึ่งนี้

การสั่นไหวของเจดีย์สูงสีทอง เชื่อมกับทั้งมหาค่ายกล เหมือนกับว่าโยกคลอนเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

เงาประตูสีแดงที่ทอดลงบนพื้นสั่นไหวอย่างรุนแรง มิติเวลาราวกับแข็งตัวในชั่วขณะ

พลังปราณนพยมโลกน่าพรั่นพรึงไร้ขอบเขตที่ทำให้ผู้คนตกใจกลัวนั่น คล้ายกับอับแสงลงเล็กน้อยในชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน

กลางท้องฟ้า ในภูเขาเทพสีดำนั้น เกิดเสียงแผดคำรามของผู้อาวุโสโม่ดังขึ้นไม่ขาดสาย!

ผู้กลายเป็นมารภายในโลกหล้าแดนมารทั้งหมด ได้รับผลสะท้อนกลับจากนพยมโลก สั่นคลอนจิตใจ ต่างก็ปรากฎให้เห็นความซึมกะทือวูบหนึ่ง

ในขณะเดียวกันนั้น ร่างเยี่ยนจ้าวเกอก็วับวาบ เลือนหายไปจากที่เดิม

ขณะนั้น แสงมรกตสายหนึ่งทอแสงขึ้นฉับพลัน สายรุ้งทอดยาวผ่านนภา พริบตาเดียวทะลุผ่านอากาศ ตัดตรงไปยังเบื้องหน้าของหลิวเซิ่งเฟิง!

หลังจากเลื่อนลอยอยู่ชั่ววูบ หลิวเซิ่งเฟิงถึงหลุดออกจากภวังค์ เกือบจะลงมือออกแรง บีบศีรษะจางเหยาให้แหลกไปโดยไม่รู้ตัว!

ทว่าสำหรับจอมยุทธ์เช่นเยี่ยนจ้าวเกอ เพียงเสี้ยววินาทีนี้ก็ยาวนานพอแล้ว!

แสงมรกตกะพริบ โลหิตสดๆ สาดกระเซ็น!

หลิวเซิ่งเฟิงส่งเสียงฮึดฮัดอู้อี้ แขนที่บีบแก้มจางเหยาไว้ ถูกกระบี่เยี่ยนจ้าวเกอสับขาด!

ผู้ตกเป็นมารทั้งสองข้างกายเขา เวลานี้ก็ได้สติกลับคืนเช่นกัน ไม่มีเวลาจะสนใจหลิวเซิ่งเฟิง ทั้งสองต่างยกมือขึ้นพร้อมกัน!

เชือกหนาสองเส้นลอยออกไป บนเชือกหนาปรากฎให้เห็นอาคมยันต์หลากสาย

ชั่วพริบตานั้น ลำแสงอันแรงกล้าส่องสว่างขึ้น กลายสภาพเป็นลูกแสงลูกหนึ่ง กำลังจะผนึกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ด้านใน!

เยี่ยนจ้าวเกอไม่แม้แต่จะมอง เขาพลิกมือซ้ายครั้งหนึ่ง ภาชนะแก้วใบหนึ่งปรากฎออกมา ภายในภาชนะทอแสงสีโลหิตระยิบระยับ

หลังจากทำลายตาข่ายรังไหมโลหิตของหลินโจวครั้งก่อน เยี่ยนจ้าวเกอก็สร้างหลอดเลือดอสูรอีกครั้ง

แสงโลหิตกระโจนออกไป ฉับพลันนั้นก็ทำลายเขตอาคมที่มีรูปร่างเป็นลูกแสงทรงกลมนั้นลง!

ผู้ตกเป็นมารทั้งสองต่างก็มุ่นคิ้วเป็นปมแน่น เขตอาคมแก่กล้าของพวกเขานั้น อาศัยชัยภูมิที่ได้เปรียบของแดนมาร พอที่จะผนึกปรมาจารย์ขั้นฝ่านภาได้ช่วงเวลาหนึ่ง ต่อให้เป็นมหาปรมาจารย์ก็ล้วนผนึกไว้ได้พักหนึ่งเช่นกัน

แต่ใครจะคาดคิดว่า เยี่ยนจ้าวเกอตีฝ่าทะลวงเขตอาคมได้ทันควัน โดยที่ไม่เกิดความติดขัดเลยแม้แต่น้อย!

ทั้งสองล้วนเป็นกลุ่มที่ชำนาญในการโจมตีสังหาร หากไม่บรรลุเป้าหมายในครั้งแรก ก็จะไม่มีความลังเล และทำการรุกโจมตีครั้งที่สองในทันใด

ผู้ตกเป็นมารหนึ่งในนั้นร้องเสียงทุ้มต่ำ พลางลอยตัวขึ้นถีบเท้าข้างหนึ่งตรงไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

ครั้นเขายกขาข้างหนึ่งออกไป ปราณจิตรากลายเป็นโลกลวงตาโดยฉับพลัน กระแสคลื่นอันไร้ที่สิ้นสุดม้วนไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ

ขาของจอมยุทธ์ผู้นี้ส่งวัฏจักรออกไป ราวกับพายุคลื่นทะเลต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด คลื่นหนึ่งสูงกว่าอีกคลื่นหนึ่ง มะรุมมะตุ้มไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ

ชายหนุ่มคิดที่จะประจัญหน้ากับศัตรูผู้กลายเป็นมารอีกคนหนึ่ง สองมือของเขาประกบเป็นวงแหวน ปราณจิตราจำนวนมากรวมเข้าด้วยกันจนล้นทะลัก ระเบิดแสงแรงกล้าออกมา ในช่องว่างระหว่างมือทั้งสองของเขา

ปราณจิตราทั่วกายของคนผู้นี้รวมตัวกัน ก่อรูปเป็นลูกแสงทรงกลมมหึมาลูกหนึ่ง จากนั้นเขาก็ผลักทั้งสองมือ จากอีกทิศทางหนึ่งไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ!

ลูกแสงขนาดมหึมาไม่เพียงแต่ครอบเยี่ยนจ้าวเกอเอาไว้ ยิ่งกว่านั้นคือม้วนเอาเยี่ยฉงโจว จางเหยา และคนอื่นๆ ที่ล้มเปลี้ยลงบนพื้นขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอจัดการไม่รอบคอบ พวกเยี่ยฉงโจวก็จะโดนลูกหลงไปด้วยทันที

หากช่วยกลุ่มของเยี่ยฉงโจวต้านทาน การรุกโจมตีของคู่ต่อสู้อีกคนก็จะยิ่งคุกคามเยี่ยนจ้าวเกอ!

กลุ่มของเยี่ยฉงโจวเบิกตากว้าง รำพึงกับตนว่าถ้าหากอยู่ต่างแดน เกรงว่ายากที่จะโต้ตอบสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้!

“เขาจะทำอะไร?” ในใจหร่วนผิงบีบแน่น

จางเหยาเผลออ้าริมฝีปากออกโดยไม่ได้ตั้งใจ “ศิษย์พี่เยี่ยน…”

เยี่ยฉงโจวกำหมัดแน่น “อย่าสนใจพวกข้า เวลาแบบนี้ป้องกันตัวเจ้าเองก่อนเถอะ!”

แววตาหลิวเซิ่งเฟิงดุร้าย กุมปากแผลบริเวณต้นแขนของตนไว้ จี้หยกสีดำที่แขวนอยู่ตรงช่วงเอวบัดนี้ลอยขึ้น กลายสภาพเป็นลำแสงสว่างไสว เชื่อมอยู่บนแขนที่ขาดของเขา!

“เยี่ยนจ้าวเกอ!” หลิวเซิ่งเฟิงแผดเสียงดังกึกก้อง บริเวณปากแผลแขนขาดของเขา แสงสีดำผนึกกลายเป็นแขนใหม่ชั่วคราวอย่างมิคาดคิด!

ปราณจิตราทั่วร่างเขารวมตัวกัน จากนั้นก็ผลักฝ่ามือทั้งสองออก โจมตีไปทางเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน!

ครั้นรู้ว่าบนกายเยี่ยนจ้าวเกอมีอาวุธวิญญาณอยู่หลายชิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มอาศัยอาวุธวิญญาณมาโจมตีปะทะ พวกหลิวเซิ่งเฟิงจึงอ้าปากตะโกนเสียงดังพร้อมกัน

แสงอาทิตย์สายหนึ่งพ่นออกมาจากปากของแต่ละคน ผนึกกันเป็นวงแหวนอยู่ในอากาศ

วงแหวนทรงกลมไม่ใช่อาวุธวิญญาณแต่อย่างใด ทว่าเป็นอาวุธวิเศษที่พิเศษชิ้นหนึ่ง

ระหว่างที่แสงอาทิตย์เปล่งประกาย เยี่ยนจ้าวเกอก็สูญเสียการเชื่อมต่อระหว่างตนเองกับอาวุธวิญญาณไป

หลังจากเห็นดังนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังไม่รีบร้อน แววตาของเขาเรียบนิ่ง ทว่าร่างกายพลันสว่างจ้า ก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งไปข้างหน้า รูปร่างเหมือนกับภาพฉากลวงตา!

ยึดครองทะเลแลดารา กลืนมังกรทั้งเป็น ราชาอสรพิษสวรรค์หลังมีสิบสองปีกราวกับปรากฏบนโลกหล้าอีกครั้ง!

เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือคว้าไป ทำลายคลื่นทะเล จับขาขวาของอีกฝ่ายเอาไว้

ชายหนุ่มไม่รอให้ผู้ตกเป็นมารคนนั้นได้เคลื่อนไหวสักก้าว เขาหันหลังกลับ พลางออกแรงแขนย้อนกลับไปอย่างแรง!

ชั่วขณะถัดมา ทั้งร่างของผู้ตกเป็นมารผู้นี้ก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอเหวี่ยงออกทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปอีกทิศ!

ทิศทางนั้นก็คือตำแหน่งที่ลูกแสงทรงกลมมหึมา ที่อีกคนผลักฝ่ามือทั้งสองออกมาพร้อมกันอยู่นั่นเอง!

ท่ามกลางเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น คู่ต่อสู้คนแรก ถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำเป็นโล่มนุษย์ทั้งเป็น ต้านทานการรุกโจมตีอันโหดเหี้ยมของคู่ต่อสู้คนที่สอง!

ธารไหลอันบ้าคลั่งกระจายไปทั้งสี่ทิศ ทว่าไม่อาจทำร้ายเยี่ยนจ้าวเกอได้ และก็ไม่อาจทำร้ายกลุ่มเยี่ยฉงโจวและจางเหยาได้เช่นกัน

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสะบัดแขน คนทั้งร่างก็พุ่งถลาออกไปประหนึ่งสายฟ้าก็ไม่ปาน ฝ่ามือหนึ่งไล่ไปบนร่างผู้ตกเป็นมารคนแรกที่ต้านทานแทนตนเองต่อเนื่องไป

คนผู้นั้นโจมตีสหายตนเองสุดพลังติดๆ กัน เดิมทีก็บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เวลานี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอซ้ำเติมด้วยฝ่ามืออีก ชีวิตก็หาไม่ทันที!

ขณะนั้น ภายในเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่อยู่บนเจดีย์สูงสีทอง ก็ส่งเสียงดังโครมครามออกมา!

ไข่มุกวิเศษสีม่วงพลันสั่นสะในระดับสายตาคนแทบจะมองไม่ทัน ราวกับว่าจักรพรรดิอัสนีโบราณกาลกะพริบตาลงวูบหนึ่งเท่านั้น!

สายฟ้าบ้าระห่ำอันไร้ที่สิ้นสุด ระเบิดปะทุออกมาทั้งหมดในชั่วเวลาอันสั้นนี้!

ชั่วพริบตาที่สายฟ้าสว่างวาบ มันเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมพลังทั้งหมดไว้แล้วผลิบานออกทั้งหมดในชั่วขณะเดียว!

ภายใต้แสงอัสนีเจิดจ้า สีหน้าเยี่ยนจ้าวเกอไม่เปลี่ยนแปลง ฝ่ามือดันศพของคู่ต่อสู้คนแรกเอาไว้ คล้ายกับยกชูโล่กำบังไว้ แล้วกระแทกต่อไปทางคู่ต่อสู้คนที่สอง!

ศัตรูกัดฟันกรอด ผลักฝ่ามือทั้งสองออกไปอีกครั้ง ต้องการจะอัดศพสหายรวมทั้งเยี่ยนจ้าวเกอให้แหลกลานไปพร้อมกัน!

ทว่าชั่วเสี้ยววินาทีที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กัน ร่างเยี่ยนจ้าวเกอปราดเปรียวคล้ายกับวานรก็ไม่ปาน พลันพลิกหมุนทันที

ฝ่ามือศัตรูโจมตีศพร่างนั้นจนแหลก แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับปรากฎตัวอยู่ข้างกายเขา ฝ่ามือที่บ้าคลั่งใช้พลังถล่มนภา อัดเขาอย่างโหดเหี้ยมจนร่วงลง!

ท่ามกลางเสียงดังระเบิด คู่ต่อสู้คนที่สองถูกฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอตบจนกะโหลกศีรษะแหลกละเอียด!

เวลานี้ หลิวเซิ่งเฟิงที่ไล่ตามเยี่ยนจ้าวเกอสุดชีวิต เพิ่งจะตามหลังเยี่ยนจ้าวเกอทัน

เยี่ยนจ้าวเกอหันกลับมา ดวงตาทั้งสองดุจสายฟ้า จ้องมองยังหลิวเซิ่งเฟิง

หลิวเซิ่งเฟิงรู้สึกหวั่นใจในทันที แสงสายฟ้าส่องสะท้อนจนสีหน้าเขาเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน

ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอก็ก้าวเท้ารุดหน้า ต่อยหมัดตรงดิ่งมาทางหลิวเซิ่งเฟิง!

ปราณจิตราเกาะกลุ่ม เพลิงคุโชนโชติช่วงมืดฟ้ามัวดิน กวาดล้างปีศาจมารร้ายทั้งหมด

หลิวเซิ่งเฟิงไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย แขนใหม่ที่กลายสภาพมาจากแสงสีดำ ต่อยหมัดหนึ่งออกไปเช่นกัน!

ขณะที่ลำแสงทอประกายวาบ ก่อรูปกลายเป็นภาพฉากลวงตา ในแสงสีดำราวกับมีมารชั่วร้ายมากมายส่งเสียงคำรามดุร้ายออกมาพร้อมกัน!

เยี่ยนจ้าวเกอต่อยหมัดหนึ่งออกไป เสียงพยัคฆ์ร้องมังกรคำรามดังขึ้น พลังอันน่าพรั่นพรึงพังทลายเงาแสงมารชั่วร้ายนับไม่ถ้วนจนดับสูญ ไร้เทียมทาน!

………….

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset