ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 38 ขอดอกเบี้ยก่อนสักนิด

จากมุมมองของเยี่ยนจ้าวเกอ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เมิ่งหว่านเข้ามาในน้ำ สถานการณ์ก็มีบางอย่างไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด

เสมือนว่ามีแนวโน้มที่มารจะเข้าแทรก

นางนั่งขัดสมาธิ ทั่วทั้งร่างกายถูกน้ำเย็นของบึงห้อมล้อมไว้ ใบหน้าที่สวยสะอาดมีสีหน้าเขียวทีแดงทีสลับกันไปไม่หยุด

ดวงตาทั้งสองข้างของนางปิดสนิท คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดทรมานอยู่จางๆ

เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจว่า ‘นางไม่ได้เข้ามาในบึงเย็นเพื่อฝึกฝนจริงๆ ด้วย แต่เป็นเพราะเดิมทีร่างกายมีปัญหาอยู่แล้ว จึงใช้บึงเย็นแห่งนี้มาช่วยยับยั้ง’

และในตอนนี้เอง เยี่ยจิ่งก็ได้เข้ามาในบึงเย็นเช่นกัน ก่อนจะมองเมิ่งหว่านด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง

เมื่อถูกบึงเย็นกระตุ้น ลายเปลวเพลิงบนร่างกายของเขาก็ทอประกายขึ้น เกิดเป็นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงอย่างยิ่ง

เมิ่งหวานลืมตาขึ้น และมองไปที่เยี่ยจิ่งเช่นกัน ในดวงตากลมโตคู่นั้นเผยให้เห็นถึงความตกใจและความหวาดระแวง

สถานการณ์ในตอนนี้ นางทำได้เพียงแค่ฝืนประคับประคองไว้ให้ได้เท่านั้น ด้วยเพราะสมดุลของนางอ่อนแอนัก จึงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้

เยี่ยจิ่งไม่จำเป็นต้องโจมตีนาง เพียงแค่รบกวนนิดเดียว นางก็ไม่มีทางฟื้นตัวได้อีก

เขาเหมือนจะรู้สภาพของเมิ่งหว่านในตอนนี้ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าโจมตีนาง หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาถึงจะเข้าไปใกล้นางอย่างช้าๆ

สุดท้าย เขาก็ยกมือบอกเมิ่งหว่านว่าตนเองไม่มีเจตนาร้าย แต่ต้องการจะช่วยนาง

เยี่ยจิ่งยื่นมือทั้งสองออกไปตรงๆ ฝ่ามือของเขาร้อนดุจไฟ แม้จะอยู่ในส่วนลึกของบึงเย็น แต่ก็คล้ายกับว่าสามารถสัมผัสได้ถึงพลังความร้อนนั้นเลยทีเดียว

เมิ่งหว่านกะพริบตาและกัดฟัน ก่อนจะยื่นมือทั้งสองออกไปเช่นกัน ฝ่ามือของนางหันเข้าหาฝ่ามือของเยี่ยจิ่งในน้ำ

นางมีจันทรากาย ส่วนร่างกายที่สร้างขึ้นใหม่ของเยี่ยจิ่ง เห็นได้ชัดว่ามีสภาพที่ร้อนรุ่มดั่งไฟด้วยเหตุผลพิเศษ ทั้งสองคนจึงเป็นสภาพที่หยินหยางช่วยส่งเสริมและยับยั้งกันได้พอดี

วรยุทธ์ของเยี่ยจิ่งในตอนนี้แม้จะยังห่างชั้นจากเมิ่งหว่านมาก แต่ตอนนี้กลับคลายความคับขันของนางได้พอดี ราวกับฝนที่ตกลงมาในเวลาที่เหมาะสม

ปราณจิตราในร่างกายของเมิ่งหว่านที่กำลังจะอยู่ในวิกฤติมารเข้าแทรกนั้น ค่อยๆ สงบลงเนื่องจากความช่วยเหลือของเยี่ยจิ่งทันที

เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้แล้ว กลับกลอกตาขาว

“บทแบบนี้ คุ้นเคยเหลือเกิน…”

“เป็นการพบกันครั้งแรกโดยบังเอิญที่ซึ้งกินใจจริงๆ”

“แม้จะไม่ต้องถอดเสื้อรักษาบาดแผล แต่หลังจากนี้หากได้ติดต่อกันหลายครั้ง ก็จะอยู่ด้วยกันแล้วเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นมากมายใช่หรือไม่?”

“วาสนาเรื่องผู้หญิงของเจ้า…ข้าหมดคำบรรยายจริงๆ”

แต่ว่าเมื่อถูกปราณจิตราของทั้งสองคนกระตุ้น โครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งเหมันต์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งของก้นบึง ก็เริ่มมีแสงสีขาวอ่อนๆ วิ่งผ่านไปตรงบริเวณกระดูกส่วนหัวของมังกร

จิตมังกรน้ำแข็งเริ่มตื่นขึ้นจากการหลับใหลแล้ว!

บึงเย็นเริ่มสั่นไหว น้ำที่เย็นเฉียบของบึงก็กระเพื่อมไม่หยุด ในเบ้าตาของกระดูกส่วนหัวมังกรขนาดใหญ่บริเวณน้ำแข็งก้นบึงเย็น พลันมีแสงสีครามสว่างขึ้น!

ชั่วครู่หนึ่ง ชั้นน้ำแข็งที่ก้นบึงเย็นก็แตกร้าวออกมาในที่สุด เสียงคำรามดังสนั่นดังขึ้น บนโครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งเกิดแสงสีขาวเป็นแฉกๆ ขึ้น

ในบึงเย็นราวกับเกิดคลื่นกระหน่ำเข้ามาในทันที

น้ำในบึงกลายเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ ที่จะบดทุกอย่างที่ตกลงไปให้แหลกละเอียด

ในส่วนลึกของบึงเย็น ฝ่ามือทั้งสี่ของเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งทาบเข้าหากัน ร่างกายหมุนไปตามแรงของน้ำวน และพยายามต้านทานแรงกดดันที่มาจากน้ำวนไปพร้อมๆ กัน

ด้านล่างของน้ำวน มังกรน้ำแข็งยื่นโครงกระดูกส่วนหัวขนาดใหญ่ออกมา ก่อนจะอ้าปากกว้างพลางคำรามไม่หยุด

การเคลื่อนไหวของกระดูกมังกรทำให้บึงเย็นสั่นสะเทือนไปทั่ว และยังขยายออกไปตามแนวพื้นดิน

ธารน้ำแข็งที่เป็นที่ตั้งของกระดูกส่วนหาง ก็ได้รับผลกระทบในทันที

ผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับแรงหมุนของน้ำวน จึงเริ่มหาวิธีที่จะเอาตัวรอด

ร่างกายของเมิ่งหว่านได้รับการดึงดูดจากโครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งถูกพัดไปยังส่วนหัวของมังกร และถูกมันดูดไว้

บัดนี้วรยุทธ์ในร่างกายของนางกำลังขับเคลื่อนถึงขีดสูงสุด แสงสีขาวที่ปรากฏขึ้นตรงหัวของมังกรพลันไหลเข้าร่างกายของนางในทันที

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นภาพตรงหน้าก็เข้าใจทันที “จันทรากายเป็นเงื่อนไขที่พิเศษจริงๆ…นางรั้งจิตมังกรน้ำแข็งได้อย่างที่คิด”

เมื่อได้จิตกระดูกมังกรเข้าไปในร่างกาย สีหน้าของเมิ่งหว่านที่ขาวซีด ก็เริ่มกลับมามีสีแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้ง

เยี่ยจิ่งที่ยังคงทาบฝ่ามือทั้งสี่ไว้กับนาง ก็ถูกดูดไปที่กระดูกหัวของมังกรน้ำแข็งเช่นกัน

แม้ว่าน้ำในน้ำวนจะยังคงพัดร่างของเยี่ยจิ่งอยู่ แต่เขาก็ยังฝืนร่างกายให้นิ่งได้

ลายเปลวเพลิงไหลเวียนทั่วทั้งร่างกายของเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นการขับเคลื่อนวรยุทธ์จนถึงขีดสูงสุดเช่นกัน

แสงสีขาวเริ่มไหลผ่านจากมือทั้งสองของเมิ่งหว่าน ไปยังร่างกายของเขาทีละเล็ก ทีละน้อย

เมิ่งหว่านไม่ถือสาอะไร แม้นางจะโชคดีที่มีจันทรากายตั้งแต่เกิด แต่คิดจะเก็บจิตมังกรน้ำแข็งเพียงลำพังคนเดียวก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี

แต่ในวินาทีนั้นเอง จู่ๆ ร่างกายขนาดมหึมาของมังกรน้ำแข็งก็เกิดนิ่งชะงัก

แสงสีขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนกระดูกมังกร ทะลุออกจากข้อต่อของกระดูกสันหลัง และขยายไปเรื่อยๆ จนถึงหัวมังกร

จากนั้นแสงสีขาวที่กำลังสั่นไหว ก็เริ่มเบาบางอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนจ้าวเกอรู้ดีแก่ใจ ว่าเป็นเพราะตนเองกับอาหู่มาถึงแล้ว และเริ่มเก็บจิตมังกรน้ำแข็งจากส่วนหางของมังกร เมื่อได้รับผลกระทบเช่นนี้ ส่วนหัวมังกรเองก็จะถูกกระตุ้นด้วยเช่นกัน

หลังจากน้ำวนในบึงเย็นสงบลงเล็กน้อย จู่ๆ ก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงทันที

สองมือของเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งที่ทาบเข้าหากันอยู่ พลันสั่นไหวจนหลุดออกจากกัน ทั้งสองคนจึงถูกน้ำวนพัดไปคนละทิศทาง

ความทรงจำของจิตมังกรน้ำแข็งปรากฏภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตอีกครั้งอย่างสมบูรณ์

แต่ละภาพแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความทรงจำที่บันทึกไว้จบลงเพียงเท่านี้ ภาพที่เยี่ยนจ้าวเกอมองเห็นในตอนนี้ตรงกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันแล้ว

ถึงจะเป็นการเชื่อมจิตเข้ากับจิตมังกรน้ำแข็ง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงมองเห็นสถานกาณ์ของฝั่งตรงข้ามได้ชัดเจน

สิ่งที่ต่างกันก็คือ ดวงตาดุจน้ำใสในทะเลสาบคู่หนึ่ง บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า และมองสบตากับตนเองอยู่

เมิ่งหว่านเชื่อมจิตกับจิตมังกรน้ำแข็ง

เยี่ยนจ้าวเกอมองเมิ่งหว่านด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ

หลังจากมาถึงโลกนี้ เมื่อได้รู้เรื่องของมงกุฎจันทรา เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังได้รู้ถึงเรื่องที่น่าอึดอัดใจมากเรื่องหนึ่งเช่นกัน

คือสำนักเขากว่างเฉิงของตนเองไม่มีสตรีจันทรา

สำนักเขากว่างเฉิงไม่มีลูกศิษย์หญิงที่มีจันทรากาย แน่นอนว่าไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันชิงมงกุฎจันทราได้

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่ามงกุฎจันทราตกหล่นไปยังสำนักอื่นแล้ว จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขากว่างเฉิงเลย

แต่ละดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์อันดีและไม่ดีระหว่างกัน

และที่บังเอิญก็คือ สำนักเขากว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน

ตนเองไม่สามารถได้มาซึ่งมงกุฎจันทรา นั่นหมายความว่าฝ่ายตรงข้ามก็ต้องไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ดังนั้นถึงแม้จะไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับเมิ่งหว่านก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงในระดับสูงกว่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่อาจมองข้ามได้

เยี่ยนจ้าวเกอมองไป ก่อนจะเห็นทางฝั่งบึงเย็นมีแนวโน้มว่าจะถล่ม เนื่องจากการสั่นไหวก่อนหน้านี้

กำแพงหินที่อยู่รอบๆ บึงเย็นพากันร้าวและถล่มลง กลายเป็นคลองมืดใต้ดินหลายสาย น้ำในบึงเย็นก็เริ่มไหลไปตามคลองต่างๆ

เยี่ยจิ่งก็ถูกน้ำพัดเอาตัวไป และกำลังจะถูกพัดไปในคลองมืดสายหนึ่ง

เมื่อเห็นว่าเขาตกอยู่ในอันตราย เมิ่งหว่านก็เลิกคิ้วสูง คิดอยากจะยื่นมือออกไปให้ความช่วยเหลือ แต่จิตมังกรน้ำแข็งดูดร่างกายของนางไว้ จึงไม่สามารถขยับได้

เมิ่งหว่านกระตุกข้อมือครั้งหนึ่ง ภายใต้ปราณจิตราที่ถูกขับเคลื่อน ผ้าแพรยาวผืนหนึ่งยื่นทะลุน้ำที่ไหลเชี่ยวในบึงไปถึงตรงหน้าของเยี่ยจิ่งราวกับเป็นเหล็กกล้าท่อนหนึ่ง

เยี่ยจิ่งจึงรีบยื่นมือออกไปจับผ้าแพรยาวสีขาวนั้น แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณจิตราของเมิ่งหว่าน เขาก็สติหลุดลอยไปเล็กน้อย

จิตของเขาเชื่อมเข้ากับจิตมังกรน้ำแข็งอย่างแผ่วเบา

หลังจากนั้น ใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

ดวงตาทั้งสองของเยี่ยจิ่งก็แดงก่ำทันที

“เยี่ยนจ้าวเกอ!!!“

ลายเปลวเพลิงบนตัวของเขาเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นในพริบตา และเริ่มลุกลามอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งตัว

เมิ่งหว่านที่เห็นบึงเย็นกำลังจะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง และอีกฝั่งก็มีการแย่งชิงจากเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยจิ่งที่เป็นผู้ช่วยของฝั่งตนเองก็สภาวะไม่มั่นคง นางจึงถอนหายใจเงียบๆ ครั้งหนึ่ง

นางตัดสินใจใช้วิชาสวนทาง ฝืนทนการกระอักเลือดไว้ และตัดความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและจิตมังกรน้ำแข็งออกไปอย่างดื้อๆ เตรียมถอนตัวออกจากบึงเย็นก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เยี่ยจิ่งเบิกตาโพลงด้วยความโกรธจัด ความโมโหและความไม่พอใจเปลี่ยนเป็นความแค้น ‘ข้าไปที่ไหน เจ้าก็ตามไปถึงที่นั่น จะฆ่าข้าให้ตายหรืออย่างไร’

‘ข้าขอบอกเจ้าเลย ว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!’

‘สุนัขบ้าที่คอยทำร้ายข้าไม่เลิกรา แค้นนี้ข้าต้องชำระแน่!’

เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยจิ่ง แล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา ‘เจ้าเด็กน้อย เจ้าน่าจะดีใจนะ ที่ตอนนี้ข้าไม่ได้อยู่ที่บึงเย็นฝั่งนั้น’

‘เมิ่งหว่านคล่องแคล่วมาก จัดการตัดความสัมพันธ์ออกดื้อๆ แล้วรีบหนี มิเช่นนั้นข้าคงส่งคนไปดักพวกเจ้าไว้ที่บึงเย็นแน่’

‘แต่ว่าเจ้าคิดว่าเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะหมดหนทางจัดการกับเจ้าหรือ?’

‘จ่ายดอกเบี้ยมาก่อนสักนิดแล้วกัน’

เยี่ยนจ้าวเกอชักฝ่ามือที่วางอยู่บนกระดูกหางของมังกรกลับอย่างฉับพลัน จากนั้นก็ตบมือไปลงบนแผ่นป้ายโลหะที่ติดอยู่ระหว่างข้อต่อของกระดูกครั้งหนึ่ง!

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset