ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – ตอนที่ 390 ด้านหน้าไร้ทางไป ด้านหลังมีข้าศึก

ทันทีที่เยี่ยนจ้าวเกอเห็นเหวลึกที่มีแสงไฟส่องสว่าง เขาก็เพิ่มความเร็วพุ่งไปที่นั่นทันที

สีหน้าของจ้าวปีศาจอัคคีที่อยู่ด้านหลังเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มันส่งเสียงคำรามที่ยากจะเข้าใจความมหมาย ก่อนจะคล้ายกับเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน ไล่ตามเยี่ยนจ้าวเกอมา

“คุณชาย” อาหู่สีหน้าเคร่งขรึมถึงขีดสุด ร้องเรียกเสียงทุ้มต่ำ

เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าใจเย็น “อืม ข้ารู้สึกได้แล้ว”

ไกลออกไป มีลมปราณที่แข็งกล้าหลายสายกำลังเข้าใกล้ทิศทางนี้ ลมปราณทั้นั้นงรุนแรทั้งเร่าร้อน เห็นได้ชัดว่าเป็นปีศาจอัคคี

ในจำนวนนี้ มีลมปราณที่แข็งแกร่งไม่ด้อยกว่าจ้าวปีศาจอัคคีตัวข้างหลังอยู่ด้วย

เป็นจ้าวปีศาจอัคคีอีกตัวหนึ่ง!

ไม่ทันไร ในน่านน้ำที่อยู่ไกลออกไป ก็มีร่างซึ่งมีไฟลุกไหม้ปรากฏขึ้น ตัวที่อยู่ด้านหน้าสยายปีกสูง เหมือนกับวิหคเพลิง เข้าใกล้เหวลึกในชั่วพริบตาเดียว

ที่ด้านหลังจ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้ ยังมีปีศาจอัคคีตัวอื่นติดตามอยู่ พอพวกมันเห็นเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ส่งเสียงคำรามพร้อมกันทันที

จ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงคำรามเช่นกัน คล้ายกับต่างฝ่ายต่างสนทนากันอยู่

“คุณชาย จ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้ไล่ตามพวกเรา พร้อมกับหาวิธีติดต่อปีศาจอัคคีตัวอื่น” อาหู่พูดเสียงทุ้ม “หากเวลาผ่านไปอีก คงจะมีปีศาจอัคคีอีกหลายตัวมาตามมาเพิ่มวงล้อม”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไร ยังคงพุ่งไปที่เหวลึกซึ่งมีแสงไฟอย่างแน่วแน่

ระหว่างทาง เขาพลันนำก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ออกมา

ตอนที่อยู่เหนือเหวลึกแห่งนั้น เยี่ยนจ้าวเกอกำมือข้างขวาเป็นหมัด จากนั้นก็กระแทกใส่ก้อนน้ำแข็ง

ก้อนน้ำแข็งสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนพุ่งลงไปยังเหวลึกที่มีแสงไฟสว่างอยู่ด้านล่าง

ปีศาจอัคคีที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลังส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ และพุ่งมาหาเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความเร็วสูง

เขาไม่ได้สนใจจ้าวปีศาจอัคคีสองตัว เพียงแต่ต่อยหมัดใส่ก้อนแข็งอีกครั้งหนึ่ง

ก้อนน้ำแข็งที่ยังไม่แตกทลายโดยสิ้นเชิง ตอนนี้สั่นสะท้านคลายตัวอยู่ในทะเลเพลิง

แสงหลายสายสว่างขึ้น ถักกลายเป็นอักขระเวทสีน้ำเงินหลายแถว และเชื่อมต่อกันเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ยักษ์

น้ำแข็งย้อยเก้าแท่งแยกกันอยู่ตรงขอบค่ายกล จากนั้นก็กระจายออกมา กลายเป็นเสาน้ำแข็งสีขาวเก้าเสา ทะลุทะเลลึก ค้ำยันค่ายกลเอาไว้

ตรงกลางค่ายกลมีผลึกน้ำแข็งสีทองจำนวนมากกองอยู่ ทั้งหมดเป็นอาคมน้ำแข็งปราบมารที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้น

ค่ายกลหยุดนิ่งกลางอากาศ จากนั้นก็ลอยลงไปที่เหวลึกอย่างเชื่องช้า

ที่ก้นเหวลึก หินหนืดและเปลวไฟคล้ายกับมีจิตสำนึก รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง พวกมันปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่สงบเหมือนตอนแรก และเริ่มพวยพุ่งขึ้นสู่ด้านบน

จ้าวปีศาจอัคคีที่คล้ายวิหคเพลิงตัวนั้นลังเลเล็กน้อย คิดจะลงไปก้นเหวลึก

ส่วนจ้าวปีศาจอัคคีที่มีสี่ขาแปดแขนซึ่งตามอยู่ด้านหลังเยี่ยนจ้าาวเกอ กลับพุ่งมาหาเขาดุจสายฟ้าแลบ

มันชูแขนขึ้น โยนหอกเพลิงเล่มหนึ่งถูกมาหาเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง

เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ร่วงลงบนหลังพ่านพ่าน

พ่านพ่านเหยียดเท้าทั้งสี่ ก้อตะบึงอยู่ในทะเลลึก

ปีศาจอัคคีตัวอื่น มีบางตัวพุ่งลงไปยังเหวลึก มีบางตัวคิดขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอ

การคุกคามที่พวกมันมอบให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอยังด้อยกว่าจ้าวปีศาจอัคคีสองตัวนั้น ถ้าหากไม่ใช่จ้าวอัคคีแล้วล่ะก็ ชายหนุ่มจัดการพวกมันได้สบายๆ

ทว่าตอนนี้ มีจ้าวปีศาจอัคคีอยู่ใกล้ๆ การรุมโจมตีของปีศาจอัคคีเหล่านี้จึงส่งผลคุกคามมหาศาล

เยี่ยนจ้าวเกอไม่เสียเวลากับพวกมัน เขากางธนูนภาอลหม่าน ยิงอาคมน้ำแข็งปราบมารที่เหลือติดตัวอยู่น้อยนิดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า

แสงสีองหลายสายพาดผ่านทะเลลึก จับตัวกันเป็นธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ ขวางปีศาจอัคคีเหล่านั้นไว้

แต่หอกเพลิงที่จ้าวปีศาจอัคคีด้านหลังขว้างใส่ มาถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอในพริบตา จนเขาเกือบจะหลบไม่ทัน!

ลมปราณอันบ้าคลั่งและร้อนแรงนี้ ทำให้ธารน้ำแข็งที่เกิดจากอาคมน้ำแข็งปราบมารเริ่มหลอมละลายและแตกออก เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง

เยี่ยนจ้าวเกอมือซ้ายถือธนู มือขวาหยิบเตาเครื่องหอมขนาดเล็กสีดำออกมาดุจสายฟ้าแลบ หันเข้าหาหอกเพลิงที่พุ่งเข้ามาหาตนเอง

จ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้มีรูปร่างสูงใหญ่ หอกเพลิงที่ขว้างมาก็มีขนาดใหญ่โตเช่นกัน ยาวหลายสิบจั้ง มีขนาดเกินหนึ่งหมี่[1]

ชายหนุ่มถือเตากลืนดินบังไว้ด้านหน้า พูดแล้วน่าอัศจรรย์ยิ่ง มิติของเตากลืนดินคล้ายกับถูกบิดเบี้ยว หอกเพลิงขนาดยักษ์หดขนาดลงด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะถูกเตากลืนดินดูดไว้ด้านใน!

พ่านพ่านฉวยโอกาสพาเยี่ยนจ้าวเกอกระโจนไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

“หือ?” ในตอนนี้ ตาขวาของเยี่ยนจ้าวเกอมีสายฟ้าสีม่วงสว่างขึ้น เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบอยู่รางๆ

พ่านพ่านรู้สึกได้ถึงการตื่นขึ้นของเยี่ยนจ้าวเกอ มันจึงแยกเขี้ยวส่งเสียงร้อง พ่นไฟสีขาวสายหนึ่งไปเบื้องหน้า

ลูกศรไฟสีขาวพุ่งออกไปไกล ทีแรกทะลุน้ำทะเลโดยไร้อุปสรรค แต่ต่อมากลับหยุดลงโดยฉับพลัน

วินาทีถัดมา ม่านน้ำที่เหมือนไร้ขอบเขตพลันปรากฏแสงสว่าง สายฟ้าสีเขียวหลายสายกอปรด้วยสายฟ้าสีเงินยวงแปลกประหลาดจำนวนน้อยโผล่ขึ้นมาอย่างฉับพลัน

แสงสายฟ้าสีเขียวพุ่งขึ้นฟ้า บดบังท้องนภา ครอบคลุมรอบๆ เหวลึก

ลูกศรไฟสีขาวที่พ่านพ่านส่งออกไป ชนกับกำแพงสายฟ้าสีเขียว และถูกบดขยี้ในทันที

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นภาพนี้ ม่านตาพลันค่อยๆ หดตัว “ตำหนักอัสนีสวรรค์!”

ภายใต้การครอบคลุมของแสงสายฟ้า ปรากฏร่างของชายหนุ่มตาเดียว เป็นหลินโจว

นอกจากหลินโจวแล้ว ยังมีจอมยุทธ์จากตำหนักอัสนีสวรรค์คนอื่นพากันโผล่ออกมาจากคนละมุม ยึดครองพื้นที่ของใครของมัน

ธงใหญ่สีเขียวสามคันตั้งตระหง่านเหมือนขากระถางธูป ประคับประคองค่ายอาคมสายฟ้าเมฆาเขียวขนาดยักษ์เบื้องหน้า

พวกหลินโจวยังไม่ทันได้พูด เยี่ยนจ้าวเกอก็ตวาดเสียงต่ำ ตาขวามีแสงสายฟ้าสว่างขึ้น ลูกตาสีม่วงพลันลอยอยู่เหนือศีรษะ

เศษดวงตาราชันสายฟ้า!

สายฟ้าแผดเสียงขึ้นในวินาทีนั้นอย่างน่าพรั่นพรึง ระบายพลังที่รุนแรงถึงขีดสุดของตนออกมา

การระเบิดที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินในวินาทีนั้น ทำให้จ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเย็นวาบ

แสงสายฟ้าอันน่ากลัวที่เหมือนกับสายน้ำพุ่งไปด้านหน้า ระเหยน้ำทะเลใกล้ๆ จนหมด กวาดเป็นทางเส้นหนึ่ง

วินาทีที่แสงสายฟ้ากระแทกใส่ข่ายอาคมสายฟ้าเมฆาเขียว ธงใหญ่สีเขียวคันหนึ่งก็ถูกทำลายแหลก!

เขาก้นทะเลที่ธงตั้งอยู่พังทลาย ดินถล่มลงมา

จอมยุทธ์จากตำหนักอัสนีสวรรค์ที่คุ้มครองธง และศิษย์พี่จางซึ่งมีรูปร่างผอมแห้ง ล้วนซวนเซตกลงไปเบื้องล่าง

สายฟ้าสีเขียวจำนวนมากถูกฉีกกลายเป็นรอยแตกขนาดใหญ่รอยหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอพาอาหู่กับพ่านพ่านพุ่งออกจากรอยแตกนั้น

ทว่าเหมือนหลินโจวเตรียมการไว้แต่ต้น เขาพลันหยิบธงใหญ่สีเขียวที่เหมือนกันอีกคันออกมาทันที

ธงสามคันรวมตัวกันอีกครั้ง ข่ายอาคมสายฟ้าเมฆาเขียวก่อตัวขึ้น ขัดขวางทางหนีของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

อาหู่สบถขึ้น “ประเสริฐนัก อัสนีสวรรค์ร่วมมือกับปีศาจอัคคีหรือนี่”

หลินโจวใช้ตาขวาจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง กล่าวอย่างเย็นชา “สำนักเรากำลังสกัดปีศาจอัคคีที่กำลังก่อความวุ่นวายอยู่ต่างหาก พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่พอดี ถือว่าบังเอิญนัก

“แต่ว่าคงจะให้พวกเจ้าออกมาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหากปีศาจอัคคีหนีไป ย่อมต้องก่อให้เกิดการทำลายล้าง ทุกคนรับผิดชอบไม่ไหว

“ถ้าหากมีการสูญเสียอันใด เช่นนั้นก็พูดได้เพียงว่าน่าเสียดาย การสู้กับปีศาจอัคคีย่อมหลีกเลี่ยงการเสียสละไม่ได้ คุณชายแห่งกว่างเฉิงเยี่ยนจ้าวเกอมีเกียรติและหยิ่งในศักดิ์สิทธิ์ คงยินดีสละชีพ ข้าขอขอบคุณที่เจ้ายอมเสียสละเพื่อทุกคนในมหาอำนาจแปดพิภพ”

……………………………………….

[1] หมี่ (米) เท่ากับ เมตร

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset