ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – ตอนที่ 496 เป็นมิตรหรือเป็นศัตรู

ปราณสีดำมากมายกลายเป็นคมดาบนับหมื่นนับแสน เข่นฆ่าเข้ามาหาทุกคนที่อยู่ใกล้ข่ายอาคมชนิดคลุมฟ้าคลุมดิน

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนพวกฟางหมิ่นและหยางฉู่ฟานหนังตากระตุกอย่างรุนแรง ‘คนของสำนักตาข่ายปีศาจ!’

สีหน้าของคนจากเกาะจิตประสานกลายเป็นขื่นขม เพราะปราณดาบมากมายนั้นแสดงให้เห็นว่า อีกฝ่ายอย่างน้อยต้องมีจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณถึงสองคน

เห็นได้ชัดว่า หลังจากคนของสำนักตาข่ายปีศาจตามหลังพวกเขามาโดยเฉพาะแล้ว ก็คิดจะฉวยโอกาส

รอจนพวกเขาเจอข่ายอาคมและเปิดข่ายอาคม ค่อยฉวยโอกาสฆ่าปิดปากและแย่งชิงสิ่งของ

พวกฟางหมิ่นรู้สึกไม่ยินยอม และไม่กลัวสักเท่าไร แต่ว่าหยางฉู่ฟานมีประสบการณ์มากมาย จึงคิดมากกว่า

จิตสังหารจากพลังโจมตีของอีกฝ่ายเด็ดขาด ถึงกับคิดจะฆ่าพวกเขาทุกคนที่นี่

การลงมือในสถานการณ์เช่นนี้ มากกว่าครึ่งมั่นใจว่าจะจัดการคนของเกาะจิตประสานที่อยู่รอบๆ ได้เป็นแน่ ไม่แน่ว่าจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะท้ายสองคนจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด

ตอนนี้จิตใจของหยางฉู่ฟานพลันหวาดหวั่นเล็กน้อย หางตากวาดมองเยี่ยนจ้าวเกอ

ในตอนที่รีบร้อน เขาไม่ทันตรวจสอบความเป็นมาของเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงแม้อีกฝ่ายจะยังดูอ่อนเยาว์ แต่ก็รู้สึกว่ามิใช่คนธรรมดา ตนถึงกับมีความรู้สึกถึงอันตรายจากการเจอศัตรูสองด้าน

หยางฉู่ฟานถามว่า “ท่านกับเขาหงส์วิเศษเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู”

เยี่ยนจ้าวเกอสนอกสนใจ พิจารณาปราณดาบที่โจมตีมาแต่ไกลผ่านรูข่ายอาคมที่เปิดออก ก่อนจะตอบว่า “สมควรเป็นมิตร ทว่าก็ยังไม่แน่ใจ”

น้ำเสียงสบายๆ ของชายหนุ่มทำให้หยางฉู่ฟานหายใจไม่ออก บัดนี้ชี้ปราณดาบสีดำมาถึงตรงหน้าตัวเอง เขาจึงพูดด้วยเสียงเร่งร้อน “นี่คือคนของสำนักตาข่ายปีศาจ สำนักนี้ถูกจัดอยู่ในหกพรรคมาร เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับเขาหงส์วิเศษ หนึ่งในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะ”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้น “ข้ามิได้สนใจสำนักตาข่ายปีศาจ ข้าเพียงอยากถามว่า เกาะจิตประสานของพวกท่านมีความสัมพันธ์ใดกับเขาหงส์วิเศษ?”

หยางฉู่ฟานกำลังจะตอบ กลับไม่ทันเสียแล้ว เขาตวาดคำหนึ่ง ก่อนจะพุ่งร่างขึ้นฟ้า พลางโบกสองฝ่ามือ เกิดแสงมากมายส่องระยิบระยับ

ชายหนุ่มตั้งใจมอง เห็นแสงสีเขียวมรกตใจกลางฝ่ามือของหยางฉู่ฟาน มันเคลื่อนไหวเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าอยู่กลางอากาศ

แสงสว่างสีเขียวมรกตที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดูอ่อนแอ แต่กลับเร็วอย่างผิดปกติ มันกำลังหารูโหว่ในท่าดาบของฝ่ายตรงข้ามแล้วมุดเข้าไป แก้ไขพลังโจมตีอันรุนแรงนั้น

แสงสีเขียวเคลื่อนไปที่ใด ไม่เพียงแต่แก้ไขพลังโจมตีของอีกฝ่ายเท่านั้น ยังไหลย้อนขึ้นด้านบน คิดจะโจมตีอีกฝ่ายผ่านช่องโหว่ของท่าดาบเหมือนกับปักเข็มใส่รอยแยก[1]

มีหลายครั้งที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกว่า จอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจผู้นั้นตั้งใจอ่อนให้ เผยช่องโหว่ของตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น

หรือไม่ก็ทั้งสองฝ่ายเป็นคนรู้จักที่แลกกระบวนท่ากัน ทั้งคู่คิดคำนวณในใจอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนรู้ใจกันดี ดูสอดประสานราวกับสอดด้ายใส่เข็ม

เยี่ยนจ้าวเกอมองพลางพยักหน้าเล็กน้อย รู้สึกมั่นใจ

ระดับวรยุทธ์ของเกาะจิตประสานกับสำนักตาข่ายปีศาจที่เบื้องหน้านี้ ค่อนข้างมีความประณีตใกล้เคียงกับเขาหงส์วิเศษและสำนักมังกรโลหิตที่เขาเคยเจอ

การพัฒนาและการฟื้นฟูวรยุทธ์ของโลกผืนสมุทรไม่อ่อนแอจริงๆ

จอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจที่อยู่อีกด้าน ใช้สองคนร่วมมือกันก็ยังทำอะไรหยางฉู่ฟานไม่ได้ พลันเหมือนถูกสะกิดโทสะ ปราณดาบเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นในชั่วพริบตา

ปราณดาบสีดำในตอนนี้กลายเป็นสีแดงเลือด!

สีแดงเลือดซึ่งกระจายไปทั่วท้องฟ้า ในตอนนี้จับตัวกันกลายเป็นทะเลเลือดของจริง กระดูกสีขาวพลันกองสุมกันเป็นภูเขากระดูกสีขาวบนทะเลเพลิง

เขากระดูกและทะเลเลือดกดอัดลงมาอย่างหนักหน่วงและดุร้าย

ปราณดาบในตอนนี้เหมือนกับแผ่นเหล็ก ไม่มีช่องโหว่ใดๆ อีก ทำให้หมัดจิตประสาน เคล็ดวิชาสุดยอดของเกาะจิตประสานที่หยางฉู่ฟานใช้ มิอาจทำลายพลังดาบตรงหน้าได้

บนตัวของหยางฉู่ฟานมีแสงมากมายลอยขึ้นมา อาวุธวิญญาณชั้นกลางที่นำติดตัวมาด้วยแสดงผล แต่ว่าอีกฝ่ายก็มีอาวุธวิญญาณชั้นกลางเช่นกัน อีกทั้งยังมีถึงสองชิ้น

ภายใต้แรงกดดันอันรุนแรง แสงสีมรกตมากมายที่เกิดจากฝ่ามือของหยางฉู่ฟานค่อยๆ ถูกภูเขากระดูกกลบหาย ถูกทะเลเลือดกลืนกิน

พวกฟางหมิ่นซึ่งเป็นจอมยุทธ์เกาะจิตประสานรีบร้อนเข้าไปช่วยเหลือ แต่สำนักตาข่ายปีศาจมีจอมยุทธ์คนอื่นมาถึงเช่นกัน อีกทั้งยังมีจำนวนคนมากกว่า

การโจมตีจากจอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจในตอนนี้ ทำให้ทุกคนจากเกาะจิตประสานพลันรับมือไม่ไหว

ฟางหมิ่นกัดฟัน ก่อนจะตบฝ่ามือขวาใส่ข้อมือซ้ายของตัวเอง กำไลหยกอันหนึ่งแตกสลายทันที แสงสว่างมากมายทะลักขึ้นมา ประกอบกันเป็นที่กั้น ครอบคลุมตนกับศิษย์ร่วมสำนักเอาไว้

แต่ว่าเขากระดูกสีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่บนทะเลเลือดกดลงมาพร้อมกัน พวกหยางฉู่ฟานกับฟางหมิ่นขยับเขยื้อนไม่ได้ในทันที

หยางฉู่ฟานกัดฟันกรอด มองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง เขาตะโกนว่า “สำนักตาข่ายปีศาจกับเขาหงส์วิเศษเป็นศัตรูคู่อาฆาต ท่านไม่ได้เบาะแสใดจากปากของพวกเขาหรอก!”

เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตนเอง สีหน้าเป็นปกติ จากนั้นก็ทอดสายตามองไปยังจอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจที่อยู่บนทะเลเลือดและเขากระดูก

เหล่าจอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจที่มหาปรมาจารย์ระดับขั้นกำเนิดญาณระยะท้ายเป็นผู้นำ ต่างขมวดคิ้วมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในข่ายอาคม

ทว่าพวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหว ยังคงโจมตีคนของเกาะจิตประสานด้วยพลังอันดุดัน คล้ายกับไม่ห่วงว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะก่อปัญหา

แต่จะมากจะน้อยอย่างไรก็คอยระวังชายหนุ่มอยู่บ้าง

ในวินาทีนั้นเอง คนจากเกาะจิตประสานแสดงพลังอย่างเหี้ยมหาญ แสงสว่างที่กำไลหยกของฟางหมิ่นสร้างขึ้นพลันรวมตัวกันเป็นจุดเดียว แยกเขากระดูกสองลูกออกจากกัน

ดวงตาทั้งสองข้างของหยางฉู่ฟานเปล่งประกายสีเขียวมรกต ทั่วทั้งร่างวูบไหว คล้ายกับหายไปกลางอากาศ

ประกายแสงที่เล็กเหมือนกับปลายเข็มและรวงข้าวสาลีลอยขึ้นด้างบนอย่างต่อเนื่อง ข้ามทะเลเลือด เจาะทะลุภูเขากระดูก แม้จะดูเล็กเหมือนกับเส้นขน แต่ว่ากลับไม่มีอะไรหยุดยั้งมันได้

หยางฉู่ฟานโจมตีคู่ต่อสู้คนหนึ่งเสร็จ ก็คิดพาพวกฟางหมิ่นจากไป

อีกฝ่ายมีสภาวะแข็งแกร่ง ในตอนนี้ได้แต่ถอยก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสชำระแค้น

แต่ว่าในตอนนี้เอง ท้องฟ้าพลันมีปราณดาบสีดำสายหนึ่งพุ่งมาอย่างไร้อุปสรรค

หยางฉู่ฟานใช้หมัดจิตประสาน ลำแสงสีเขียวมรกตพลันพุ่งขึ้นท้องฟ้า แต่ไหนเลยจะรู้ว่าปราณดาบสีดำที่ดูเหมือนธรรมดานั้น คล้ายกับเกิดแรงดึงดูด ดึงแสงสีเขียวไปติดกับคมดาบ

มองดูแล้วเหมือนเชือกสีเขียวเส้นหนึ่งพันบนดาบสีดำ

ครั้นดาบสีดำฟันลง เชือกสีเขียวมรกตพลันขาดเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน

หยางฉู่ฟานสีหน้ากลายเป็นซีดขาว “ฉู่สยง?”

เขารู้สึกได้ว่า อีกฝ่ายเองมีพลังฝึกปรือเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นที่หก ขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย มิใช่มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ

ทว่ามหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณสามารถฝึกฝนปราณดาบวิหคทมิฬได้ถึงระดับนี้ มีแค่คนเพียงคนเดียวเท่านั้น ‘ปีศาจวิหค’ เจียงสยง!

ปราณดาบสีดำรวมตัวกันกลายเป็นดาบยาวสีดำที่แท้จริงเล่มหนึ่ง คนผู้หนึ่งกำด้ามดาบเอาไว้ ดูไปอายุประมาณสี่สิบปี มีหนวดอยู่บนริมฝีปากเล็กน้อย ดวงตาปรากฏริ้วเลือดชัดเจน

มุมปากของเจียงสยงปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ย ขณะเบิกดวงตาที่เต็มไปด้วยริ้วเลือดมองคนจากเกาะจิตประสาน ในแววตาปรากฏประกายแสงที่อันตรายถึงขีดสุด

เมื่อเห็นเขา หัวใจของหยางฉู่ฟานก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

มิน่าถึงแม้มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณอีกสองคนจะเห็น ว่ายังมีคนที่ไม่ได้มาจากเกาะจิตประสานอยู่ด้วย แต่ก็ไม่สนใจ

มิน่าสำนักตาข่ายปีศาจจึงมีท่าทีจะสังหารเขาไว้ที่นี่ตลอดกาล อีกฝ่ายมีความสามารถในการจัดการพวกเขาจริงๆ!

“ขอบคุณพวกเจ้าที่นำทาง” เจียงสยงกล่าวอย่างสบายอารมณ์

หลังจากที่ตัดทางหนีของพวกหยางฉู่ฟานแล้ว จอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจเหล่านั้นก็โจมตีมาอีกครั้ง เจียงสยงชี้ที่ฟางหมิ่น “ห้ามฆ่าหลานสาวของเฒ่าฟาง คนอื่นให้ฆ่าทิ้ง”

หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เดินไปที่รูบนข่ายอาคม พลางมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ท่านต้องการหาคนของเขาหงส์วิเศษหรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถูกต้อง”

เจียงสยงถาม “เป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกับเขาหงส์วิเศษ?”

……………………………………….

[1] ปักเข็มใส่รอยแยก สุภาษิตจีน หมายถึง ใช้พื้นที่และเวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset