ตำนานเทพยุทธ์ – ตอนที่ 45

หลังจากที่ได้ดูดซับวงแหวนจากราชาอสรพิษฟ้าคราม จนเวลาผ่านพ้นไปกว่า 2 วัน

วันนี้เป่าฮู่มีเนื้อตัวที่เหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเน่าที่ร่างกายขับออกมา ในขณะที่ต้องรับภาระจากการดูดวับวงแหวน

กลิ่นที่ปะปนมากับหยาดเหงื่อก็มีพิษที่เจือจางมาด้วย เป่าฮู่รู้สีกว่าระหว่างการดูดวับวงแหวน ร่างกายดั่งมีเข็มนับพันนับหมื่นเล่มทิ่มแทง

การที่รู้สึกเจ็บแบบนั้นแสดงให้เห็นถึงการแทรกซึมเข้ามาของลมปราณ จากอสูรใน

พันธะสัญญาและไม่นานอสรพิษฟ้าครามก็พลันปรากฏกาย

แต่หากคราวนี้เป็นเพียงร่างจิตวิญญาณที่ต้องการโลหิตของผู้เป็นนายสร้างกายหยาบตามพันธะสัญญาร่วม จึงจะมีตัวตนได้อีกครั้งในฐานะวงแหวนรับใช้ของคนผู้นั้น

การที่ราชาอสรพิษได้เห็นมนุษย์ตัวน้อยคนเดิมที่ล้มมันลงได้ ด้วยพลังน้ำแข็งที่น่าหวาดกลัว การแช่แข็งได้แม้กระทั่งเกล็ดที่ทรงพลังของมันนั่นย่อมไม่ธรรมดา

 

หลังจากที่พ่ายแพ้ไปเป็นจิตวิญญาณก็ได้รู้ว่าพลังของนายใหม่คนนี้ไม่ธรรมดา สักวันต้องนำพาพวกมันเหยียบย่ำเข้าแดนเทพได้เป็นแน่

การที่เหล่าสัตว์ลมปราณบำเพ็ญตะบะจนแก่กล้า ก็เพื่อให้บรรลุเป็นสัตว์เทพที่ยิ่งใหญ่ดั่งเสือขาว มังกรฟ้า หงส์เพลิงและเต่าดำ

 

หลังจากนั้นราชาอสรพิษก็ย่อขนาดตัวลงมาและปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเป่าฮู่ร่างสีเขียวดำดูน่าหวั่นเกรงสร้างหวาดหวั่นแก่ผู้พบเห็น

“เมื่อเจ้ายอมติดตามข้าแต่โดยดี เอาหละหลังจากนี้จงมาเป็นกำลังให้ข้า”

 

การหลั่งเลือดออกมาที่กลางหน้าผากหรือส่วนหัวของสัตวอสูรลมปราณพันธะสัญญาวิญญาณนั้นจึงเริมขึ้น กระแสลมอุ่นๆพัดมากระทบใบหน้าของเป่าฮู่พร้อมทั้งอสรพิษฟ้าครามก็พลันสลายหายไปเป็นแสงพุ่งเข้าไปในวงแหวนสีแดงด้านหลังของชายหนุ่ม

((((วิ้ง!)))) หลังจากแสงสีเขียวหายไปแล้วนั้น เป่าฮู่ก็คิดว่าหากตนเองได้เดินย่ำเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งอย่างนี้คงไม่อาจจะนำพาชีวิตให้รอดออกมาได้เป็นแน่ จึงได้กล่าวบางสิ่งออกไป

“ท่านผู้เฒ่าหลางจง”

คำกล่าวแรกที่ได้ตื่นจากการดูดซับวงแหวน เป่าฮู่ร้องหาเฒ่าหลางจงทันที และกล่าวถึงสิ่งที่ต้องการ

“เจ้าต้องการปลอมตัว ?”

เมื่อเป่าฮู่ต้องการหาหน้ากากหนังมนุษย์ย่อมเป็นการยากที่จะหามาได้ แต่สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในการหลบหนีและเดินทางไกลเช่น เฒ่าหลางจง จะมีของที่ทำให้ที่รักปลอดภัยในช่วงเวลาวิกฤตย่อมต้องมีเสมอ

“ฮื่อ! เมื่อคิดจะทำก็ต้องทำให้ถึงที่สุด เอาหละ เอาหละรับไปนี่เป็นหน้ากากหนังมนุษย์ของข้า ละเจ้าต้องปลอมตัวเข้าไปนั้นเจ้าจะหลบซ่อนพลังลมปราณได้เช่นไร?”

 

เมื่อสิ่งที่เฒ่าชราต้องการรู้ก็คือ การซ่อนพรางใบหน้านั้นง่ายดาย แจะซ่อนพลังระดับราชันนั้นยากยิ่งกว่ายาก เพียงการกัดกลุ้มในนั้นไม่ได้ทำอะไรเป่าฮู่ลงได้ เมื่อเป่าฮู่ได้เรียกเต่าอักขระออกมาจากวงแหวน

“เจ้าเต่าบ้า เจ้าสามารถทำให้ระดับพลังข้าถูกปิดบังไว้ได้หรือไม่?”

เมื่อเต่าอักขระคิดถึงตอนที่สู้กับราชาอสรพิษทำให้เต่าอักขระคิดมาตลอดถึงเวลาเอาคืนที่สาสม แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มที่เป็นนายตนกำลังนำความหวังน้อยๆที่ริบหรี่มาใส่พานถวาย และเมื่อดูจากห้วงความทรงจำแล้วนั้น เหมาะนักที่จะกระทำบางสิ่งตามที่นายของันมุ่งหวัง

“((กรี๊ก)) ฮ่าๆๆ เจ้าหนูข้าเป็นใคร เทพเต่าผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ”

เพียงการพูดจาคุยโตกว่าเหล่าสัตว์อสูรในพันธะสัญญาจะทำได้ ทำให้

จี้เออร์และหลางจง เฝ้ามองพฤติกรรมของนายบ่าวคู่นี้

“เจ้าหนูอสูรของเจ้าพูดจาได้น่าฟัง หากมันสามารถทำได้ด้วยพลังอักขระของมันนับว่าเบาแรงเจ้าไปเยอะมากน่าดู”

 

การที่เต่าอักขระได้ฟังคำอวยพรที่แสนหวานนั้น ดั่งสวรรค์ส่องทางสว่างมาทางนั้นโดยตรง เมื่อการสลักอักขระสะกดทับพลังลมปราณเอาไว้จนกว่าอักขระจะถูกคลายออกพลังของเป่าอู่จะดำรงเช่นนั้นตลอดไป ด้วยกรรมวิธีในการคลายอักขระก็ขึ้นอยู่กับว่า อักขระเหล่านั้นแข็งแกร่งเพียงใดและมีกลไกลอย่างไร

 

เมื่อมีแผนที่จะเดินทางในรุ่งเช้า เป่าฮู่ไม่อยากเสียเวลาเพิ่มไปอีกสั่งให้เต่าอักขระสะกดอักขระบดบังพลังลมปราณของตัวเป่าฮู่ให้เหลือเพียงราชาขั้นที่ 1 เท่านั้น

 

ด้วยการสะกดทับแบบนี้และสวมใส่หน้ากากหนังมนุษย์เท่านี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย เพียงเท่านี้เป่าฮู่ก็หันไปทางหลางจงก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า

“เอาหละท่านผู้เฒ่าหลังจากนี้ เราสองเป็นศิษย์อาจารย์

ข้าจะทำหน้าที่ดูดซับพิษจากทุกสิ่งที่มีภัยต่อท่านและจี้เออร์ ดังนั้นท่านโปรดตั้งชื่อใหม่ให้ข้า หลังจากนี้เป่าฮู่จะเป็นนามต้องห้ามจนกว่าจะจบการประลองศึกชิงเจ้ายุทธ์”

 

ด้วยหลายสิ่งที่เฒ่าหลางจงแปลกใจแต่ก็ต้องทำตมที่ชายหนุ่มต้องการ เพราะชายหนุ่มไม่มีจุดประสงค์ร้ายต่อตนและหลาน หากแต่การทำตามแผนนี้จะทำให้ทั้งสามได้ผลประโยชน์ทั้งสามคน ทรัพยากรในตระกูลเต้าไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาแล้วคว้าออกไปได้

 

การเดินทางไปตามคำเชิญของผู้อาวุโสจากตระกูลเต้าและเป้าหมายก็คือการนำซากราชาอสรพิษมาปรุงโอสถเพื่อเสริมสร้างพลังลมปราณที่มีคุณค่าสำหรับการหล่อเลี้ยง แก่นแท้วิหคสวรรค์ ที่ตระกูลเต้าเก็บงำมานาน การที่มีแหล่งลมปราณพิเศษจากแร่ธาตุซากอสูรหรือแม้แต่สมบัติสวรรค์ ก็จะเพิ่มขีดความสามารถสำหรับอสูรลมปราณที่จะกำเนิดขึ้น ดังนั้นวิหคสวรรค์ถือเป็นสัตว์ที่ตระกูลเต้านับถือและยังเป็นสัตว์อสูรคู่กายบรรพชนรุ่นแรกของตระกูลอีกด้วย

 

ดังนั้นการที่ทั้งสามได้เดินเข้ามายังห้องโถงที่ตอนนี้ บัดนี้มีเหล่าอาวุโสทั้งหลายของตระกูลเต้า ไม่ว่าจะเป็นเต้าเจิ่งผิงและ บุตรชายเต้าอิงเฉิง นั่งมองซากอสูรที่ถูกนำมาเก็บไว้ในห้องเย็นของตระกูล

เพียงหลางจงเดินนำทางศิษย์ของมันและหลานสาวเข้ามาก็ทำให้ทุกคนแปลกใจเพราะว่า ตามข่าวที่รายงานมาหลางจงมีเพียงหลานสาวที่ป่วยสองคนเท่านั้น แต่นี้กลับมีบุคคลที่สามเข้ามาด้วย

“ท่านมารฟ้าโอสถ เจ้าหนุ่มนั่นเป็นใคร?”

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายตำนานเทพยุทธ์ “ข้าจะกลับไปแก้แค้นพวกเจ้าทุกคน” ชายหนุ่มที่มีวัย เพียง 18 ปี ผู้เป็นศิษย์ที่มีพรแสวงมากที่สุด จากจำนวนศิษย์ภายใน สำนักกว่า 200 คน นามของเขาก็คือ เป่าฮู่ ชายผู้เกิดมาพร้อมชะตาที่อาภัพ บิดามารดาทั้งสองตกตายไปอย่างอนาถ ทิ้งชายหนุ่มหาเลี้ยงตนเองตลอดระยะเวลาหลายปี โรคระบาดคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ดังนั้นบิดามารดาจึงได้ล้มตายจากไปอย่างมีเงื่อนงำ แต่เป่าฮู่ก็ไม่อับจนโชคชะตาซะทีเดียว สวรรค์มิได้รังแกเขามากนัก เด็กชายวัยเยาว์จึงถูกชุบเลี้ยงโดยอาวุโสระดับสูงของนิกายนักยุทธ์นาม เสวียนอู่ อันเป็นนิกายอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ การพบเจอด้วยความบังเอิญ จึงได้รับตัวเข้ามาเป็นศิษย์ชุบเลี้ยงอย่างเอ็นดูรักใคร่ดั่งบุตรในสายตระกูล

Comment

Options

not work with dark mode
Reset