ตำนานเทพยุทธ์ – ตอนที่ 60

สำนักซื่อหม่า ที่เงียบเชียบและวังเวงไม่รู้เกิดสิ่งใดขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นทำให้เป่าฮู่รู้สึกหวาดระแวง จึงได้กล่าวออกไปว่า

“ทุกคนระวังตัว”

 

จากนั้นก็ได้ปลดปล่อยอสูรในพันธะสัญญาของตนออกมา ราอสรพิษฟ้าครามที่ใหญ่โตลำตัวที่ใหญ่สามารถบดขยี้เหล่าศัตรูได้โดยง่าย เป่าอู่สั่งให้มันออกสำรวจโดยรอบและตัวเป่าฮู่เองก็สั่งคนของมันทั้ง 5 ออกตรวจสอบและจงกลับมารายงานเป่าฮู่ที่เนินหินแห่งนี้

“เอาหละจงไปสำรวจรอบพื้นที่แถวนี้และจงจำไว้ว่า อย่าได้วู่วามลงมือก่อนที่ข้าจะสั่ง”

 

เพียงตัวขององครักษ์ทั้ง 5 กระจายตัวออกไปเป่าฮู่ก็นั่งลงและยื่นสุราชั้นดีให้แก่

หย่วนซิวหยูไปเพื่อให้นางดื่มเพื่อสร้างความอบอุ่น

“อื่มแม่นางซิวหยูรับไป”

แต่หย่วนซิวหยูกลับปฏิเสธเพราะนางมีพลังธาตุไฟในตัวแล้วไม่จำเป็นต้องพึ่งสุราเพื่อเสริมสร้างความอบอุ่น

“นายท่าน ซิวหยูขออภัย ข้าคงรับไม่ได้ เพราะสุราเป็นบ่อเกิดแห่งภัยร้าย”

 

เป่าฮู่ได้ฟังถึงกับนิ่งไปพักใหญ่ สุราเป็นบ่อเกิดของภัยร้าย ในใจกับคิด ภัยร้าย ภัยร้ายบ้าน….หรือไง คนเขาอุส่ามอบให้เพื่อคลายหนาว แต่ก็ช่างในขณะที่ทั้งสองได้พักอยู่บนเนินหินก็ได้เห็นว่ามีศิษย์ที่สวมใส่ชุดของสำนักซื่อหม่ากำลังนำพาศพมาทิ้งที่ด้านหลังเขา

“ศิษย์พี่ นี่ก็คนที่ 5 แล้ว ท่านจ้าวสำนักกำลังฝึกวิชาอะไร ถึงได้ทำกับพวกนางเช่นนี้”

การฝึกวิชาที่มีความชั่วรายเป็นทุนเดิมนั้นสร้างแต่ความเสียหาย ศพที่เป่าฮู่ได้เห็นก็คือหนึ่งในเหยื่อของคนที่ฝึกวิชามารนี้ ความคลั่งแค้นี่มีทำให้เป่าฮู่ตัดสินใจที่จะตามศิษย์เหล่านั้นไป

“แม่นางซิวหยูจง อยู่ที่เนินหินนี้รับข่าวจาก องครักษ์ทั้ง5 ส่วนข้าจะตามคนเหล่านั้นไปดู”

เมื่อซิวหยูได้ฟังนางก็เป็นห่วงว่านายท่านจะมีอันตราย

“แต่ว่านายท่าน?”

เป่าอู่ยกมือขึ้นห้าม พร้อมทั้งหันไปกล่าวต่อ ซิวหยู ถึงสิ่งที่เป็นหน้าที่ของนาง ส่วนเรื่องอื่นจงอย่าได้นำมาคิดใส่ใจ ชีวิตขิงตนเป่าฮู่ดูแลได้

หลังจากนั้นร่างเงาของเป่าฮู่ก็เลือนหายไปตาม หิมะที่โปรยลงมาสำนักซื่อหม่าที่เงียบสงบนั้น แท้จริงด้านในถ้ำหลักของสำนัก หม่าเฟ่ยปิงสั่งให้ศิษย์ทุกคนไปรวมตัวกันและทำการถ่ายทอดพลังลมปราณลงในหินลมปราณเพื่อส่งให้บิดาของตนดูดซับ

ลมปราณมากมายจากศิษย์ชั้นนำกว่า 1000 คน ทำให้หม่าฟงเสียนยกระดับตนเองจากราชันลมปราณขั้นกลางมาแตะขอบราชันขั้นสูงได้เพียงเวลาไม่นาน แต่ช่วงนี้ลมปราณยังไม่เสถียรจึงไม่สามารถที่จะใช้ออกได้เต็มที่

 

เป่าฮู่ตามมาจนถึงโถงใหญ่ก็พบกับ หญิงร้ายกาจนางนั้น หญิงที่สั่งให้สังหารแม่นาง

เหมยฮวา นางคือคนที่เดินตาม หม่าเฟ่ยปิง ที่เป็นบุตรสาวเจ้าสำนักดั่งมือและเท้า

“คุณหนู ท่านอาจารย์กำลังเร่งดูดซับพลัง วันนี้เราศิษย์ทั้งหมดของสละตนเองเพื่อต้านภัยร้ายพรรคใต้หล้าที่ล้อมเขาซื่อหม่านี้ไว้จะไม่มีวันได้รับชันชนะหากท่านอาจารย์สำเร็จวิชาเก้าหยินโคจร”

 

เมื่อเป่าฮู่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด ก็ได้เข้าใจว่าแท้จริงมารชั่วใช้ศิษย์ของตนเป็นบ่อเกิดพลังปราณเพื่อยกระดับตนเองอย่างก้าวกระโดด และยังมีความชั่วช้าที่สังหาร ศิษย์หญิงและนำศพไปทิ้งอย่างไร้หัวใจ วันนี้เป่าฮู่ไม่อาจที่จะปล่อยให้ศัตรูที่ล้มล้างนิกายอยู่ร่วมโลกของตนได้

สุดยอด ช่างเป็นคำพูดที่สวยหรู มากแม่นาง”

คำกล่าวที่เป่าฮู่ชายหนุ่มรุปงามที่กล่าวออกมาท่ามกลางศิษย์นับพันคนที่อ่อนหล้า

หม่าเฟ่ยปิงได้เห็นชายหนุ่มแปลกหน้า แสดงตนออกมาท่ามกลางโถงหลักของสำนัก โดยที่พวกนางไม่รู้ตัว

“เจ้า! เจ้าเป็นใคร?”

 

เมื่อคำถามสุดฮิตถูกกล่าวออกมา เป่าฮู่ก็ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ เพราะด้านหน้ามีแต่ศิษย์สตรีของสำนักซื่อหม่าทั้งหมด ทุกนางล้วนสวยงามและยังเป็นวัยเยาว์ที่น่า…..อย่างมาก

แต่ว่าเป่าฮู่รู้ตัวว่าไม่ควรมาคิดไร้สาระ

“ดูจากท่าทาง แม่นางผู้นั้นคงเป็น บุตรสาวของเจ้าสำนักแห่งนี้ เช่นนั้น

รบกวนท่านไปเชิญบิดาของท่านออกมา หากไม่ข้าคงต้องไปลากคอเขาออกมา”

 

เมื่อเป่าฮู่ได้กล่าวออกไป หมาเฟ่ยปิง ก็ได้ลุกขึ้นพร้อมกับชักกระบี่ในมือออกมา

“บังอาจ คิดว่าตนเองเป็นใคร บุกรุกสำนักคนอื่นและยังมีหน้ามาสั่งนั่นสั่งนี่ ทุกคนฆ่ามัน”

คำสั่งนี้ทำให้ศิษย์ทั้ง 1000 คนที่มีอยู่ลุกขึ้นพร้อมทั้งชักอาวุธออกมา แต่เป่าฮู่ได้เห็นก็สุดจะทานทนจึงระเบิดลมปราณออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ขออภัยแล้วกัน….ครึ่ม!”

คลื่นพลังระดับราชันลมปราณที่เป่าฮู่มีทำให้ตัวของหม่าฟงเสียนรับรู้ ในขั้นแข็งพลังของหม่าฟงเสียน นั้นจะให้ใครมารบกวนไม่ได้ แต่ว่าเมื่อครู่ตัวมันกลับพบว่ามียอดยุทธ์ที่แข็งแกร่งปลดปล่อยลมปราณออกมาและจากจุดที่สัมผัสได้นั่นคือ โถงใหญ่ของสำนักที่บุตรสาวของตัวมันเองอยู่และศิษย์ทั้งหมด

 

“ไม่ได้การเช่นนี้แย่แน่ เฟ่ยปิง ลูกพ่อ”

จากนั้นประตูบานใหญ่ที่ถูกเปิดออก หม่าฟงเสียนก็ระเบิดลมปราณออกมา ทันทีที่ได้เห็นบุตรสาวของมันเองบาดเจ็บจากลมปราณของเป่าฮู่ ลมปราณที่แข็งแกร่งและมีพิษเย็นแฝงมาจนทำให้ศิษย์ทั้ง 1000 คนที่ได้รับพิษของอสรพิษฟ้าครามไปต้องเดินลมปราณขับพิษร้ายนั้นออกมา จึงทำให้ไม่มีใครสามารถที่จะลุกมาต่อกรได้

เป่าฮู่ได้เห็นคนที่เป็นทีสุดของสำนักในที่สุดก็ออกมาจนได้

“ในที่สุดเต่าหดหัวเช่นท่านก็ออกมา เอาหละได้เวลายุบสำนักซื่อหม่านี้ได้แล้ว”

เป่าฮู่ประกาศก้องออกมา ทำให้หม่าฟงเสียนนั้นโกรธจนเส้นเลือดปูดโปน ความโกรธกระตุ้นให้ลมปราณในตัวที่ยังไม่สามารถสยบและปรับให้เสถียรเกิดคุ้มคลั่ง

เป่าฮู่เห็นชายวัย 65 ปี ระเบิดลมปราณระดับราชันขั้นกลางออกมาตนเองรับรู้ได้จากสีของวงแหวนที่ด้านหลัง ก็ทำให้เป่าฮู่ไม่รอช้ารีบโคจรลมปราณเทพเต่าดำ คุ้มกายทันที

“ไอ้บัดซบ! กล้าทำร้ายลูกข้า ตาย ตาย วันนี้แก่ต้องตาย”

เมื่อหม่าฟงเสียนโคจรตามเคล็ดวิชาเก้าหยินโคจรทำให้เป่าฮู่รับรู้ถึงกระแสพลังที่น่าอัศจรรย์นั้น

เต่าอักขระได้ออกมาจากวงแหวนอัญเชิญและกล่าวออกไปว่า

“เจ้าหนูนั่นเป็นทักษะ เสริมพลังของลมปราณเทพ ทักษะเก้าหยินโคจรหากเจ้าได้มันมารับรองว่า ลมปราณเทพเต่าดำของเจ้าจะต้องรับมือกับชนชั้นจักรพรรดิลมปราณได้แน่”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเป่าฮู่ก็ยิ้มออกมาเพราะมันมีเต่าอักขระที่สามารถคัดลอกทักษะเก้าหยินโคจรได้ก่อนที่จะนำม้วนหนังเก่าๆไปมอบแก่หยุนเต๋อที่ไม่มีลมปราณเทพหนุนนำ ต่อให้ฝึกให้ตายก็ไม่สำเร็จ

 

“เช่นนั้นก็เท่ากับว่าฟ้าส่งเสริมข้าเป่าฮู่คนนี้”

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายตำนานเทพยุทธ์ “ข้าจะกลับไปแก้แค้นพวกเจ้าทุกคน” ชายหนุ่มที่มีวัย เพียง 18 ปี ผู้เป็นศิษย์ที่มีพรแสวงมากที่สุด จากจำนวนศิษย์ภายใน สำนักกว่า 200 คน นามของเขาก็คือ เป่าฮู่ ชายผู้เกิดมาพร้อมชะตาที่อาภัพ บิดามารดาทั้งสองตกตายไปอย่างอนาถ ทิ้งชายหนุ่มหาเลี้ยงตนเองตลอดระยะเวลาหลายปี โรคระบาดคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ดังนั้นบิดามารดาจึงได้ล้มตายจากไปอย่างมีเงื่อนงำ แต่เป่าฮู่ก็ไม่อับจนโชคชะตาซะทีเดียว สวรรค์มิได้รังแกเขามากนัก เด็กชายวัยเยาว์จึงถูกชุบเลี้ยงโดยอาวุโสระดับสูงของนิกายนักยุทธ์นาม เสวียนอู่ อันเป็นนิกายอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ การพบเจอด้วยความบังเอิญ จึงได้รับตัวเข้ามาเป็นศิษย์ชุบเลี้ยงอย่างเอ็นดูรักใคร่ดั่งบุตรในสายตระกูล

Comment

Options

not work with dark mode
Reset