ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 119 แรงกระตุ้นนี้มีมากเกินไป (1)

บทที่119 แรงกระตุ้นนี้มีมากเกินไป (1)

ถ้าเธอคิดจะทำ เขาก็จะให้เธอทำ สำเร็จทำไม่สำเร็จนั้นก็ไม่สำคัญ

ผลที่เลวร้ายที่สุดก็คือเมื่อถึงเวลานั้นขายบริษัทอาจได้เงินน้อยหน่อย แต่ทรัพย์สินพวกนั้นที่เขาเหลือให้ฉิงฉิงนั้นก็พอให้เธอใช้ทั้งชีวิตแล้ว

แน่นอน คุณปู่เวินไม่ได้คาดหวังอะไรกับเวินลั่วฉิงเลย ถึงแม้ปีนั้นที่ให้เวินลั่วฉิงไปเรียนออกแบบ แต่เขาก็รู้สถานการณ์หลายปีที่มหาวิทยาลัยของเวินลั่วฉิงดี

ถึงแม้เขาจะเอ็นดูรักใคร่หลานสาวเขาจริง แต่บางเรื่องเขาก็ควรยอมรับความจริง เช่นเรื่องที่การด้านออกแบบของฉิงฉิงของเขานั้นไม่สามารถเป็นที่พึงพอใจได้จริง

เวินลั่วฉิงรู้ออกถึงความคิดของคุณปู่เวินอยู่แล้ว แต่เธอไม่คิดจะแก้ตัวอะไรทั้งนั้น

เรื่องบางเรื่องไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจทันทีทันใด

“เอกสารพวกนี้ เธอต้องเซ็นชื่อก่อน” คุณปู่เวินเห็นเวินลั่วฉิงอย่างไม่ได้เซ็นเอกสาร จึงเร่งอีกครั้ง

ตอนนี้สถานการณ์บริษัทเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าเธอทำพังไปอีก เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีสถานการณ์อย่างไรกันแน่น ดังนั้นก็ต้องโอนของพวกนี้ให้ฉิงฉิงก่อน

เอกสารนั้นเวินลั่วฉิงก็ดูมาหมดแล้ว ทรัพย์สินพวกนี้บวกกันแล้วมันมีจำนวนไม่น้อยเลย เวินลั่วฉิงไม่อยากรับไว้ แต่เห็นสีหน้าแนวแน่ของคุณปู่เวินแล้ว เธอรู้เลยว่าพูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว จึงได้ทำตามความคิดของคุณปู่โดยการเซ็นชื่อไปก่อน

เวินลั่วฉิงเพิ่งเซ็นเสร็จ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เวินลั่วฉิงเอามือถือออกมา

เมื่อมองดูแปบนึง ก็รีบรับสาย ขณะที่เวินลั่วฉิงรับโทรศัพท์นั้น ได้เดินออกห่างไปเล็กน้อย

เดิมทีคุณปู่เวินยืนด้านข้างเวินลั่วฉิง แต่เพราะความเร็วอย่างมากของเวินลั่วฉิง ทำให้มองไม่เห็นว่าเป็นชื่อใครที่ขึ้นในมือถือ

“อยู่ไหนเนี่ย”ด้านอีกของปลายสายนั้น เสียงทุ้มต่ำของเย่ซือเฉินได้ลอยเข้ามา

“อยู่บ้าน” เวินลั่วฉิงเม้มปากให้เบาๆ น้ำเสียงเอ่ยเบาลงเล็กน้อย ฟังดูอ่อนโยนยิ่ง “อยู่บ้านตระกูลเวิน คุณปู่กลับมาแล้ว”

คุณปู่เวินทีแรกก็ทำหน้าสงสัยมองดูเธอ เมื่อฟังคำพวกนี้เข้า ในแวตาก็ประกายขึ้นมามาก

อยู่บ้านก็อยู่บ้านสิ แล้วยังต้องบอกอยู่บ้านตระกูลเวินอีก ในเมืองAนอกจากบ้านตระกูลเวินแล้ว เธอยังมีบ้านที่ไหนอีก

มีปัญหา มีปัญหาใหญ่ด้วย

และฉิงฉิงก็เอ่ยถึงว่าเขากลับมาโดยเฉพาะด้วย ฉิงฉิงได้รายงานเรื่องของเขาให้คนในสายด้วย

แหละนี่เป็นปัญหาที่ใหญ่มาก

แววตาคุณปู่เวินที่จ้องมองเวินลั่วฉิงก็ยิ่งเป็นประกาย คนคนนั้นกับฉิงฉิงของเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่

แม้เขาไม่เห็นชัดสายเข้าที่ปรากฏขึ้นในโทรศัพท์ และถึงแม้ฉิงฉิงรับสายแล้วเดินออกไป แต่ว่า เขาได้แอบฟังเสียงในโทรศัพท์ คนทางนั้นเป็นเสียงผู้ชายคนหนึ่ง

เป็นเสียงมั่นคง สุขุมของผู้ชายคนหนึ่ง

โทรศัพท์จากผู้ชายเหรอ ทันใดนั้นภายในดวงตาของคุณปู่เวินก็แสดงความตื่นเต้นดีใจจนเป็นดวงดาวเล็กๆ

“กลับมาเมื่อไหร่” เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้คุณปู่เวินกลับมาแล้ว เธอกลับไปที่นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า ไม่รู้เพราะอะไร ในใจเขากลับรู้สึกไม่สบายขึ้นมาเล็กน้อย

“ยังไม่แน่ใจ” เวินลั่นฉิงนึกได้ว่าคุณปู่อยู่ข้างๆเธอ ดังนั้น บางคำพูดเธอจึงไม่สะดวกพูดออกไปให้ชัด และเวินลั่วฉิงคิดไว้แล้ว ว่าคืนนี้อาจจะยืมเรื่องที่คุณปู่กลับมานั้นไม่กลับไปที่บ้านเย่ซือเฉิน

“ผมจะไปรับคุณเอง” เย่ซือเฉินจะไม่รู้ควาคิดเธอได้ไง เพียงประโยคเดียวของคุณชายสามเย่ทำความคิดทั้งหมดของเธอให้ฝันสลายไปเลย

ในขณะที่เย่ซือเฉินพูดนั้น มุมปากค่อยๆกระตุกขึ้น เขาคิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี และดีมากด้วย

เวินลั่วฉิงกำมือถือด้วยความมือสั่น มือถือเกือบหล่นไปที่พื้น เขาจะมารับเธอเหรอ

ถ้าหากเขาจะมารับเธอ ผลที่ตามมานั้นเธอไม่กล้าคิดเลย

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ฉันขอวางสายก่อนนะ”ตอนนี้อยู่ต่อหน้าคุณปู่เวิน เวินลั่วฉิงไม่กล้าพูดอะไรมาก

เธอคิดขอวางสายก่อน จากนั้นก็รีบออกไปทันที และรอให้ออกจากบ้านตระกูลเวินก่อนแล้วเธอค่อยโทรหาเย่ซือเฉินใหม่

” ทำไม มีแฟนแล้วเหรอ แฟนโทรมาหรือไง”คุณปู่เวินถือเป็นนักธุรกิจจิ้งจอกเฒ่าที่นานมากแล้วคนหนึ่ง ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะไม่บอกอะไรชัดเจน แต่เขาก็มองออกว่ามีอะไรในนั้น

เขารีบเดินไปตรงหน้าเวินลั่วฉิง แล้วจองมองเวินลั่วฉิงด้วยแววตาที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

เวินลั่วฉิงที่กำลังจะวางสายนั้น ตอนแรกมือเธอนั้นจะกดปุ่มวาง แต่จู่ๆคุณปู่เวินก็เดินมาอยู่หน้าเธอ บวกกับคำพูดคุณปู่เวิน เวินลั่วฉิงถึงกับตกใจสะดุ้ง ทำให้นิ้วมือเธอลื่น แล้วไปกดโดนเป็นอย่างอื่นแทน จนไม่สามารถวางสายได้อีก

แต่เวินลั่วฉิงไม่สังเกตเห็นถึงจุดนี้

“ไม่ใช่ค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่ทันได้คิดอะไร ก็รีบตอบออกไปทันที

ที่จริงนั้น สิ่งที่เธอพูดนั้นก็ไม่โกหกอะไร เพราะเย่ซือเฉินไม่ใช่แฟนเธอตั้งแต่แรก

แต่เย่ซือเฉินควรถือว่าเป็นสามีเธอ

อีกด้านของปลายสายคุณชายสามเย่นั้นได้ฟังบทสนทนาของพวกเธอได้อย่างชัดเจน ได้ฟังเธอปฏิเสธอย่างไม่ลังเลใดๆ สายตาเขานั้นค่อยๆหรี่ขึ้นมา

“ไม่ใช่เหรอ เขาไม่ใช่แฟนคนที่เธอกำลังคบอยู่หรือไง “คุณปูเวินเอ่ยอย่างเตรียมแผนที่ดีไว้ เวินลั่วฉิงไม่ทันได้สังเกตว่าเธอยังไม่ได้วางสายทิ้ง แต่คุณปู่เวินนั้นสังเกตเห็นแล้ว สายตาคุณปู่เวินซ่อนด้วยความขำ

อีกด้านของปลายสาย เย่ซือเฉินในขณะที่หรี่ตานั้นซ่อนด้วยความเยือกเย็นบางส่วน แฟนที่เธอคบด้วยเหรอ

สายตาเงินลั่วฉิงตะลึงเล็กน้อย แฟนที่เธอคบเหรอ เธอคบแฟนตอนไหนกัน

เธอโตถึงขนาดนี้เคยมีแฟนแค่คนเดียว นั้นก็คือ……

และเรื่องนั้นคุณปู่ก็รู้อยู่แล้ว

แต่เรื่องนั้นมันได้ผ่านไปแล้ว จู่ๆคุณปู่คุณปู่ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

“ฉิงฉิง เธอจะคบแฟนคุณปู่ไม่ห้ามอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเธออย่าปิดคุณปู่เลย ตอนเธอเรียนมหาลัยที่ประเทศMแล้วคบแฟนเรื่องนั้น คุณปู่รู้ตั้งนานแล้ว “คุณปู่เวินมองเวินลั่วฉิง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และท่าทางเป็นกันเองอย่างมาก

เวินลั่วฉิงถึงกับมึนไปเลย เธอไม่ได้คบแฟนที่ไหนเลย แล้วคุณปู่รู้ได้ไง

“เธอยังจะคิดปิดคุณปู่อีกเหรอ ครั้งก่อนที่คุณปู่ไปหา เห็นกับตาว่าพวกเธอทั้งสองดูรักใคร่ สนิทสนม ตอนนั้นคุณปู่ถึงไม่อยากรบกวนพวกเธอ”คุณปู่เวินไม่รอให้เวินลั่วฉิงพูดตอบอะไร ก็รีบพูดต่อ

นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณปู่เวินต้องการพูดให้เวินลั่วฉิงฟังตั้งแต่แรก

สายตาเวินลั่วฉิงถึงกับชะงัก ดูรักใคร่ สนิทสนมหรอ นี่คือใครกับใคร ไหนกับไหนกันเหรอ

ดูรักใคร่ สนิทสนมเหรอ

“ผู้ชายคนนั้นดูไม่เลวเลยนะ หากเขาชอบเธอจริง มาบ้านตระกูลเวินขอหมั้นหมาย คุณปู่จะตอบตกลงแน่”คำพวกนี้คุณปู่เวินตั้งใจพูดให้คนในปลายสายฟัง ที่จริงแล้วคุณปู่เวินก็ไม่แน่ใจว่าคนที่โทรมานั้นจะเป็นคนที่เขาเคยเจอเมื่อวันนั้นหรือเปล่า

แต่คุณปู่เวินฟังจากสิ่งที่พวกเขาสนทนากันแล้วรู้เลยว่าคนที่โทรในขณะนี้เป็นผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กับฉิงฉิงของเขาไม่ธรรมดา

หากเขาเป็นผู้ชายวันนั้นที่เขาเจออยู่ด้วยกับฉิงฉิงพอดี เขาพูดแบบนี้ก็ชัดเจนมาแล้วนะ ถ้าหากผู้ชายคนนั้นก็ชอบพอกันกับฉิงฉิง ก็ควรมาขอหมั้นหมายกันไว้ก่อน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset