เวลานี้คุณย่าเย่ยังชี้นิ้วด่าเวินลั่วฉิงอยู่อีก แววตาของเย่ซือเฉินเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ ตอนนี้เขาตัดขาดกับตระกูลเย่แล้ว วันหลังหากคนตระกูลเย่กล้าติฉินเวินลั่วฉิงอีก เขาก็จะไม่เกรงใจแล้ว
“คุณย่าเย่ ผมขอเตือนว่าควรคิดก่อนพูด คุณรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังคิดปิดบังเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เมื่อกี้นักข่าวถามเรื่องคุณปู่เย่เป็นลม เชิญคุณอธิบายเรื่องนี้ด้วย มิฉะนั้น พวกเราก็สามารถนำทุกเรื่องมาเปิดเผยได้องค์กรยมบาลอย่างพวกเราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น คุณชายน้อยของพวกเราไม่มีอะไรที่ไม่กล้า”กู้หวูเฝ้าถังจื่อโม่อยู่ด้านข้างมาโดยตลอด การที่กู้หวูไม่เอ่ยปากพูดไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจอะไร
กู้หวูดูออกว่าคุณย่าเย่รู้สถานะของคุณชายน้อย คุณย่าเย่รู้ว่าคุณชายน้อยเป็นลูกของลูกพี่กับคุณนาย
ทว่าคุณย่าเย่ไม่มีทีท่าจะยอมรับคุณชายน้อยว่าเป็นหลานเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่กลัวคนอื่นจะรู้เรื่องนี้ คุณย่าเย่กลัวว่าจะกระทบต่อการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ของตระกูลเย่กับองค์กรโกสต์ซิตี้
คุณย่าเย่ไม่อยากนับญาติกับคุณชายน้อยแล้วยังคิดโจมตีคุณนายอีก กู้หวูอยากต่อว่าท่านเหลือเกิน
สมองคุณย่าเย่มีปัญหาหรือเปล่า ท่านคิดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของท่านหรืออย่างไร？
คำพูดของกู้หวูแฝงไปด้วยการขู่เข็ญ เพียงแต่กู้หวูไม่ได้พูดตรงๆ ทว่ากู้หวูรู้ว่าคุณย่าเย่ต้องเข้าใจ
สีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนไปมา ท่านคาดไม่ถึงว่ากู้หวูจะเดาความคิดท่านออก แน่นอน การขู่ของกู้หวูทำให้ท่านกังวลยิ่ง
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ จะให้เกิดข้อผิดพลาดในการเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ เพราะพวกท่านประกาศเรื่องแต่งงานแล้ว และพวกท่านได้ทำหนังสือแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้เรียบร้อยแล้วด้วย
พวกท่านทำให้องค์กรโกสต์ซิตี้เคืองใจไม่ได้ ขอเพียงซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะกลายเป็นของตระกูลเย่ ผลประโยชน์มหาศาลกองอยู่ตรงหน้า ท่านไม่มีทางปล่อยให้หลุดลอยเด็ดขาด
ดังนั้นให้องค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้รู้ไม่ได้ว่าเย่ซือเฉินมีลูกแล้วสองคน องค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นสูงส่ง จะยอมเป็นแม่เลี้ยงได้อย่างไร
คุณย่าเย่เม้มปากแน่น ถ้อยคำของกู้หวูทำให้ท่านระแวดระวัง ไม่กล้าพูดอะไรอีก
คุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียงทั้งโกรธทั้งกระวนกระวายใจ ตอนนี้ท่านแทบอยากจะกระโดดขึ้นมาตีถังจื่อโม่สักฉาด เด็กคนนี้ช่างรู้จักทำให้เสียการเสียงานจริงๆ
เพียงแต่ท้ายที่สุดแล้วคุณปู่เย่ยังคงอดกลั้นอารมณ์ไว้ ถึงแม้นักข่าวที่อยู่ในนี้จะเดาออกว่าเขาแกล้งเป็นลม แต่หากท่านลุกขึ้นในเวลานี้ สถานการณ์ก็จะย่ำแย่กว่าเดิม ผลลัพธ์ของการโจมตีนั้นมันจะเหนือความคาดหมายทุกอย่าง
ดังนั้น ตอนนี้ท่านได้แต่แกล้งเป็นลมอยู่บนเตียงต่อไป
“ในเมื่อคุณย่าเย่ไม่อยากอธิบาย งั้นก็ให้ผมพูดเองเถอะ”ตอนแรกถังจื่อโม่จะให้โอกาสคุณย่าเย่สักครั้ง ถึงแม้ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินจะแถลงข่าวประกาศว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว แต่ถึงอย่างไรคุณย่าเย่ก็เป็นคุณย่าแท้ๆของเย่ซือเฉิน ถังจื่อโม่คิดว่าเวลานี้ คุณย่าเย่จะละอายใจเล็กน้อย เพราะการที่คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมก็เพื่อปรักปรำเย่ซือเฉิน
ถังจื่อโม่อยากให้โอกาสคุณย่าเย่ คิดว่าหากคุณย่าเย่เป็นฝ่ายพูดความจริงเอง มันจะทำให้เย่ซือเฉินรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ถือว่าปลอบประโลมเย่ซือเฉินเล็กน้อย
ทว่าตอนนี้ถังจื่อโม่คาดไม่ถึงว่าคุณย่าเย่ไม่เพียงแต่ไม่ละอายใจ ทั้งยังไม่มีทีท่าสำนึกผิดอีก ยิ่งไปกว่านั้นคุณย่าเย่ยังคิดจะใส่ร้ายคุณแม่ของเขาอีก
ถังจื่อโม่อดหัวเราะเย็นในใจไม่ได้ เห็นทีเขาไม่ควรตั้งความหวังกับคุณย่าเย่ คุณปู่เย่เลยสักนิด
คุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนในครอบครัวเลยสักนิด ไม่ พวกท่านไม่มีความรู้สึกอะไรเลยต่างหาก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีก คุณย่าเย่ไม่พูด งั้นเขาจะพูดเอง เขาจะพูดให้กระจ่าง จะคืนความบริสุทธิ์ให้แก่เย่ซือเฉิน
“นาย……”คุณย่าเย่ได้ยินว่าถังจื่อโม่จะพูดต่อก็รู้สึกร้อนใจกว่าเดิม อยากขัดขวางถังจื่อโม่ด้วยจิตใต้สำนึก
ทว่าครั้งนี้กู้หวูยืนขวางคุณย่าเย่ พลางส่งแววตาแจ้งเตือนให้กับคุณย่าเย่ เห็นได้ชัดว่ากู้หวูไม่อยากยืนเงียบอยู่ข้างๆอีกต่อไป
คุณชายน้อยรับศึกอยู่แถวหน้า อย่างน้อยเขาต้องคุณชายน้อยรับมือเสียหน่อย
ถึงแม้องค์กรยมบาลจะเป็นของเย่ซือเฉิน ทว่าหลายปีมานี้เรื่องเกือบทั้งหมดในองค์กรยมบาล กู้หวูจะเป็นคนรับผิดชอบ เขาสามารถบริหารองค์กรยมบาลได้ แสดงว่าความสามารถของกู้หวูไม่ธรรมดา รัศมีของกู้หวูก็สามารถสยบคนส่วนมากได้ ซึ่งรวมทั้งคุณย่าเย่ผู้ที่ถนัดการวางกลอุบายด้วย
คุณย่าเย่หวาดหวั่นต่อกู้หวูไปชั่วขณะ ถ้อยคำที่ถึงปลายลิ้นก็ต้องกล้ำกลืนลงไป เพราะการขัดขวางของกู้หวูทำให้ท่านไม่อาจเข้าใกล้ถังจื่อโม่ได้
คุณปู่เย่ที่นอนบนเตียงรู้สึกร้อนใจมาก ร้อนใจจนเพลิงโกรธลุกโหมกระหน่ำกลางใจ ท่านรู้ว่าตอนนี้คุณย่าเย่ควบคุมสถานการณ์ไม่ไหวแล้ว ทว่าท่านกลับลุกขึ้นไม่ได้ หากท่านลุกขึ้นมาตอนนี้ก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนทำให้ไม่มีช่องว่างให้พลิกผันสถานการณ์อีก
หากตอนนี้เขาไม่ลุกขึ้นจากเตียง วันหลังเขาก็มีโอกาสคิดหาวิธีกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้
ถังจื่อโม่จ้องมองคุณปู่เย่ที่นอนอยู่บนเตียง เห็นคุณปู่อยู่ท่าเดิมไม่ขยับ ถังจื่อโม่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คุณปู่เย่เป็นจอมเสแสร้งจริงๆ ตอนนี้ยังมารยาสาไถยได้อีก
ในเมื่อคุณปู่เย่อยากเสแสร้งเช่นนี้ก็ให้ท่านทำต่อไปเถอะ แต่ถึงแม้ตอนนี้คุณปู่เย่ยังแกล้งเป็นลมอยู่บนเตียง แต่สิ่งที่ควรล้างมลทินก็ต้องทำอยู่ดี
“ตอนแรกคุณปู่เย่แกล้งเป็นลม จากนั้นคุณย่าเย่ก็ทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โตจนทุกคนรู้กันหมด ที่ทำไปทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อใส่ความเย่ซือเฉิน ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเย่ซือเฉินแถลงข่าวตัดขาดกับตระกูลเย่ คุณปู่เย่จึงเป็นลมเข้าโรงพยาบาล คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อยากให้ทุกคนด่าเย่ซือเฉิน”ถังจื่อโม่รู้ว่านี้คือความจริง เป็นความจริงที่เขามองทะลุเพียงแวบแรก เชื่อว่าคุณพ่อก็เช่นกัน
เมื่อคุณพ่อเห็นทุกอย่างนี้ ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะเสียใจไหม？！
“พูดเหลวไหลอะไร ซือเฉินเป็นลูกหลานตระกูลเย่ เป็นสายเลือดของพวกเรา พวกเราจะทำร้ายเขาได้ยังไง ทุกอย่างที่พวกเราทำก็เพราะหวังดีต่อเขาทั้งนั้น”สีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้มันคือความจริง เป็นแผนการที่พวกท่านวางไว้ ทว่าตอนนี้ถังจื่อโม่พูดต่อหน้าทุกคนอย่างนี้ คุณย่าเย่รู้สึกโกรธอย่างเด่นชัด
นักข่าวที่ได้ยินถังจื่อโม่พูดต่างสบตากัน อันที่จริงหลังจากที่รู้ว่าคุณปู่เย่แกล้งเป็นลม ทุกคนก็คิดถึงจุดนี้ได้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ได้ยินเด็กอายุห้าขวบมาพูด จึงทำให้สั่นสะเทือนมากขึ้น
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นญาติของคุณชายสามเย่ เป็นดังที่คุณย่าเย่พูดเมื่อครู่นี้ คุณชายสามเย่เป็นญาติที่สนิทที่สุดของพวกเขา แต่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กลับโหดร้ายกับสายเลือดตัวเองเพียงนี้ ทุกการถกเถียงของคุณย่าเย่มีความคลุมเครือมาก เพราะตอนนี้มีคนจำนวนมากเริ่มด่าคุณชายสามเย่ในโซเชียลแล้ว แถมยังด่าเป็นหยาบคายสุดๆ。
หากพวกเขาไม่รู้ว่าคุณปู่เย่แกล้งเป็นลมก็แล้วไป แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องคนไข้ด้วย รู้ว่าคุณปู่แกล้งป่วยแกล้งเป็นลม และสาเหตุที่คุณชายสามเย่ถูกด่าก็เพราะคุณปู่เย่แกล้งล้มป่วย
ดังนั้น เมื่อพวกเขาได้ยินคุณย่าเย่พูดว่าทำเพื่อคุณชายสามเย่ ทุกคนก็รู้สึกบาดหูเหลือเกิน รู้สึกแดกดันที่สุด
“ที่พวกคุณทำทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับเขา？คุณปู่เย่แกล้งเป็นลม คุณ‘แต่งหน้าเหมือนคนตาย’ให้คุณปู่เย่ จากนั้นก็จงใจให้คำสัมภาษณ์สองแง่สองมุมกับนักข่าว จงใจให้ทุกคนเข้าใจเย่ซือเฉินผิด จากนั้นตอนนี้ทุกคนก็กำลังด่าเย่ซือเฉินอยู่ พวกคุณทำเพื่อเขาหรือ？ตัวพวกคุณเองเชื่อไหม？”ถังจื่อโม่หัวเราะออกมา เขารู้สึกว่าเป็นคำที่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา สิ่งที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่กระทำต่อเย่ซือเฉินนั้นเรียกว่าทำเพื่อเย่ซือเฉินหรือ？ถังจื่อโม่ไม่รู้จริงๆว่าคุณย่าเย่พูดออกมาได้ยังไง หน้าต้องหนาขนาดไหนกัน？！！
