ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 1265 คุณชายสามเย่ที่ไม่ได้ดั่งใจ (2)

เย่ซือเฉินอยู่ด้านนอก เวลานี้สีหน้าท่าทางของถังหยุนเฉิงนั้นจริงจังมาก ราวกับว่ามีเรื่องที่สำคัญมากๆจะพูดกับเย่ซือเฉิน

เย่ซือเฉินเห็นว่าเป็นถังหยุนเฉิง ไม่ใช่ถังหลินนั้น ท่าทางก็เปลี่ยนไป กับถังหยุนเฉิงนั้นเย่ซือเฉินเคารพและยำเกรงมาตลอด และเวลานี้ถังหยุนเฉิงบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา เย่ซือเฉินก็ต้องตั้งใจฟังอยู่แล้ว

“มีปัญหาของรายละเอียดหลายอย่างที่ฉันลืมพูดถึงไปก่อนหน้านี้” ถังหยุนเฉิงยืนอยู่หน้าประตู ไม่ได้มีความหมายว่าจะเข้ามา แล้วก็ไม่ได้จะไปด้วยเช่นกัน แต่ได้ยินความหมายนี้ของถังหยุนเฉิงแล้วคิดว่าจะยืดยาวแล้ว

ปัญหารายละเอียด และยังหลายอย่างอีก ภายในเวลาสั้นๆก็คงจะพูดได้ไม่ชัดเจนอย่างแน่นอน

เวินลั่วฉิงที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดของถังหยุนเฉิงแล้วก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็ดอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าแท้ที่จริงแล้วลุงจะเป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่านี่ลุงมีเจตนา

เป็นอย่างที่คิดไว้ จากนั้นเรื่องที่ถังหยุนเฉิงพูดนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญอะไร ล้วนแต่เป็นเรื่องที่คุยกันแล้วก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น รายละเอียดที่ถังหยุนเฉิงบอกนั้นก็เป็นรายละเอียดจริงๆ คำพูดนี้ของถังหยุนเฉิงนั้นละเอียดมากพอแล้วจริงๆ

เย่ซือเฉินฟังปัญหาทั้งหมดของถังหยุนเฉิงซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรอยู่เลย

เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาด เข้าใจอยู่แล้วว่าถังหยุนเฉิงตั้งใจ ถ้าหากเป็นถังหลิน คุณชายสามเย่คงจะถีบไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่กับถังหยุนเฉิงแล้วคุณชายสามเย่ไม่กล้าจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ไม่กล้าถีบเท่านั้น แต่ไม่กล้าแม้กระทั่งจะไล่เขาไปด้วยซ้ำ

เย่ซือเฉินทำได้เพียงอดทนฟัง พอถังหยุนเฉิงพูดนั้นก็พูดไปถึงยี่สิบกว่านาที อีกทั้งถังหยุนเฉิงยังไม่ได้มีความหมายว่าจะหยุดเลยด้วย

ระหว่างนั้นเย่ซือเฉินมีแทรกคำพูดของถังหยุนเฉิงอยู่บ้างสองสามครั้ง เบี่ยงเบนประเด็นไป ความหมายที่จะไล่เขาไปของเย่ซือเฉินนั้นเห็นได้ชัดมาก แต่ถังหยุนเฉิงกลับแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายนี้ของเย่ซือเฉิน แล้วก็สาธยายยืดยาวของเขาต่อ

ดูสถานการณ์ของถังหยุนเฉิงแล้วราวกับจะสามารถพูดไปจนถึงพรุ่งนี้ได้เลยอย่างไรอย่างนั้น

หางคิ้วของเย่ซือเฉินนั้นอดที่จะกระตุกขึ้นมาสองสามครั้งไม่ได้ เย่ซือเฉินรู้ว่าตอนนี้เขาจะพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ เย่ซือเฉินแอบส่งสัญญาณมือให้กับเวินลั่วฉิงอยู่ทางด้านหลัง ขอความช่วยเหลือจากเวินลั่วฉิง

“คุณลุงคะ ยืนอยู่ข้างนอกนานแล้ว เหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ เข้ามาคุยกันข้างในดีกว่าค่ะ” เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของเย่ซือเฉินจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าให้คุณลุงพูดต่อไปแบบนี้คงจะไม่ได้แน่

ไม่ว่าจะว่าอย่างไร เธอเองก็อยากจะนอนแล้วเช่นกัน

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ลุงพูดจบแล้ว พวกเธอพักผ่อนกันเถอะ” ถังหยุนเฉิงได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้วก็สิ้นสุดการสาธยายยืดยาวของเขาลง แล้วถังหยุนเฉิงก็เอ่ยขึ้นอีกสองประโยคแล้วก็เดินจากไป

เย่ซือเฉินเห็นว่าถังหยุนเฉิงไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ เขารู้สึกว่าเขาสามารถอดทนได้จนถึงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

คุณชายสามเย่ปิดประตูลง แล้วกลับเข้ามาในห้อง

เวินลั่วฉิงมองเขา อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เธอรู้ว่าคุณลุงตั้งใจ แต่เย่ซือเฉินสามารถอดทนได้นานขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่มาก เธอคิดว่าเย่ซือเฉินจะทนไม่ไหวแล้วไล่เขาไปเสียก่อนซะอีก

“คุณยังจะหัวเราะอีก?” เย่ซือเฉินเห็นเธอเผยรอยยิ้มตามอำเภอใจแล้ว ความกลัดกลุ่มเมื่อครู่นี้ก็หายไปทันที เขาเดินไปทางด้านหน้าแล้วโอบเธอมาอยู่ในอ้อมกอด แล้วจูบลงบนริมฝีปากของเธอ อาจจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเรื่องเมื่อครู่นี้ ครั้งนี้เย่ซือเฉินไม่ได้ทำตามอำเภอใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

แต่หลังจากที่จูบแล้วนั้น คุณชายสามเย่ก็ทนไม่ไหว แค่จูบนั้นไม่พอ เขายังอยากได้มากกว่านั้น

เย่ซือเฉินจูบเธออีกสองสามที มองรอยยิ้มบนใบหน้านั้น เย่ซือเฉินเองก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ริมฝีปากทั้งสองคนแนบชิดกันอีกครั้ง

จูบนั้นยังคงลึกซึ้งอย่างต่อเนื่อง ยิ่งรุนแรงมากขึ้น คุณชายสามเย่เองก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ และยิ่งหมกมุ่นมากขึ้นด้วย…..

เพียงแต่ ตอนนี้เองนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับครั้งที่แล้ว เสียงหนึ่งตามมา เสียงหนึ่งที่ชัดเจนขึ้น และเสียงที่ดูรีบร้อนขึ้น…….

เหมือนกับครั้งที่แล้ว มีเพียงเสียงเคาะประตู ไม่มีเสียงคนพูด

การเคลื่อนไหวของเย่ซือเฉินหยุดลง สีหน้าของเขามืดมนไปหมดแล้ว ครั้งนี้สีหน้าท่าทางของคุณชายสามเย่ดูจะไม่สามารถอธิบายออกมาได้แล้ว

“ครั้งนี้คุณว่าเป็นใครครับ?” ดวงตาของเย่ซือเฉินกระพริบลงอย่างรวดเร็ว ครั้งที่แล้วเขาคิดว่าเป็นถังหลินมากลั่นแกล้ง คุณชายสามเย่เดิมทีคิดว่านอกจากถังหลินแล้ว คนอื่นๆก็ไม่มีใครทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว

แต่เรื่องของถังหยุนเฉิงเมื่อครู่นี้ทำให้คุณชายสามเย่รู้แล้วว่า คนของตระกูลถังผิวเผินดูจริงจังเข้มงวด ใจดำโหดร้ายขึ้นมากลับน่ากลัวยิ่งกว่าใครทั้งนั้น

ถังหลินใจดำโหดร้ายแล้ว ถังหยุนเฉิงยิ่งโหดร้ายกว่าถังหลินเสียอีก ดังนั้นตอนนี้ถึงแม้จะบอกว่าคนที่เคาะประตูอยู่ทางด้านนอกเป็นท่านปู่ถัง เขาก็เชื่อ

“ไม่รู้สิคะ” มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุกขึ้น ครั้งนี้อดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ เย่ซือเฉินจะรู้หรือเปล่าว่าสีหน้าของเขาในเวลานี้ทำให้คนตกใจได้ขนาดไหนกัน?

แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกกลัวอยู่แล้ว เพราะถึงอย่างไรคนที่หาเรื่องเย่ซือเฉินนั้นก็ไม่ใช่เธอ เย่ซือเฉินไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว แต่คนที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่เหมือนกัน

“ถ้าหากเป็นถังหลิน……” ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงเล็กน้อย คำพูดที่กัดฟันด้วยความแค้นนี้ได้ยินแล้วให้ความรู้สึกอกสั่นขวัญหายมากเป็นพิเศษ คำพูดข่มขู่นี้ถึงแม้ไม่ได้พูดออกมา แต่เวินลั่วฉิงรู้ว่าเวลานี้คนที่อยู่ทางด้านนอกหากเป็นถังหลิน ถังหลินก็คงจะแย่จริงๆแล้ว

แต่จากที่เธอเข้าใจนั้น ถังหลินไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น ก่อนหน้านี้คุณลุงคุยกับเย่ซือเฉินเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะใช้เวลาให้คุณลุงไปได้นั้นไม่ใช่ง่ายๆ นี่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน เวลานี้ถังหลินจะไม่ใช่ว่าเป็นการทำให้ตัวเองหาที่ตายหรอกหรือ?

ถังหลินไม่มีทางโง่แบบนั้นอย่างเด็ดขาด

ดังนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเป็นถังหลิน ถ้าหากไม่ใช่ถังหลิน แล้วจะเป็นใครกัน?

ท่านย่าถัง? ป้าสะใภ้? เวินลั่วฉิงล้วนแต่รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขารู้ว่าเย่ซือเฉินอยู่ในห้องของเธอ พวกเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันจะต้องไม่มาในเวลานี้อย่างแน่นอน ค่อนข้างจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก อีกทั้งถ้าหากท่านย่าถังกับป้าสะใภ้มา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาพูดคุยกับเย่ซือเฉินตลอดแบบนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหมือนกับคุณลุงแบบนั้น

ตระกูลถังก็มีเพียงไม่กี่คน ตัดออกสองสามคนแล้ว ดูเหมือนจะเหลือแค่เพียงท่านปู่ถัง ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นท่านปู่ถัง เวินลั่วฉิงรีบปฏิเสธความคิดของตัวเองทันที

ท่านปู่ถังมีลักษณะที่น่าเกรงขามขนาดนั้น จริงจังขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะเป็นท่านปู่ถัง

เสียงเคาะประตูยังดังขึ้นต่อ ยังคงเหมือนกับครั้งที่แล้ว ยิ่งดังขึ้น และยิ่งเร่งขึ้นด้วย

เย่ซือเฉินกัดฟันอย่างแรง คุณชายสามเย่อาจจะกลัดกลุ้มมากเกินไปจริงๆ ดูไม่มีที่ให้ระบาย จากนั้นจึงระบายเป็นการจูบลงไปบนริมฝีปากของเวินลั่วฉิงแรงๆแทน!!

จากนั้นคุณชายสามเย่ถึงได้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่ประตู

มีประสบการณ์ครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เย่ซือเฉินไม่ได้เอ่ยพูด แต่กลับเปิดประตูออกก่อน ไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะต้องรอดูคนที่อยู่ข้างนอกให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยพูด

เย่ซือเฉินเปิดประตู ตอนที่เห็นคนที่อยู่ด้านนอกนั้น ดวงตากระพริบลงเบาๆ ตกตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด เวลานั้น มุมปากของคุณชายสามเย่อดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้

คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเวลานี้ก็คือท่านปู่ถังนั่นเอง!!

เย่ซือเฉินอยู่ด้านนอก เวลานี้สีหน้าท่าทางของถังหยุนเฉิงนั้นจริงจังมาก ราวกับว่ามีเรื่องที่สำคัญมากๆจะพูดกับเย่ซือเฉิน

เย่ซือเฉินเห็นว่าเป็นถังหยุนเฉิง ไม่ใช่ถังหลินนั้น ท่าทางก็เปลี่ยนไป กับถังหยุนเฉิงนั้นเย่ซือเฉินเคารพและยำเกรงมาตลอด และเวลานี้ถังหยุนเฉิงบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา เย่ซือเฉินก็ต้องตั้งใจฟังอยู่แล้ว

“มีปัญหาของรายละเอียดหลายอย่างที่ฉันลืมพูดถึงไปก่อนหน้านี้” ถังหยุนเฉิงยืนอยู่หน้าประตู ไม่ได้มีความหมายว่าจะเข้ามา แล้วก็ไม่ได้จะไปด้วยเช่นกัน แต่ได้ยินความหมายนี้ของถังหยุนเฉิงแล้วคิดว่าจะยืดยาวแล้ว

ปัญหารายละเอียด และยังหลายอย่างอีก ภายในเวลาสั้นๆก็คงจะพูดได้ไม่ชัดเจนอย่างแน่นอน

เวินลั่วฉิงที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดของถังหยุนเฉิงแล้วก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็ดอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าแท้ที่จริงแล้วลุงจะเป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่านี่ลุงมีเจตนา

เป็นอย่างที่คิดไว้ จากนั้นเรื่องที่ถังหยุนเฉิงพูดนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญอะไร ล้วนแต่เป็นเรื่องที่คุยกันแล้วก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น รายละเอียดที่ถังหยุนเฉิงบอกนั้นก็เป็นรายละเอียดจริงๆ คำพูดนี้ของถังหยุนเฉิงนั้นละเอียดมากพอแล้วจริงๆ

เย่ซือเฉินฟังปัญหาทั้งหมดของถังหยุนเฉิงซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรอยู่เลย

เย่ซือเฉินเป็นคนฉลาด เข้าใจอยู่แล้วว่าถังหยุนเฉิงตั้งใจ ถ้าหากเป็นถังหลิน คุณชายสามเย่คงจะถีบไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่กับถังหยุนเฉิงแล้วคุณชายสามเย่ไม่กล้าจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ไม่กล้าถีบเท่านั้น แต่ไม่กล้าแม้กระทั่งจะไล่เขาไปด้วยซ้ำ

เย่ซือเฉินทำได้เพียงอดทนฟัง พอถังหยุนเฉิงพูดนั้นก็พูดไปถึงยี่สิบกว่านาที อีกทั้งถังหยุนเฉิงยังไม่ได้มีความหมายว่าจะหยุดเลยด้วย

ระหว่างนั้นเย่ซือเฉินมีแทรกคำพูดของถังหยุนเฉิงอยู่บ้างสองสามครั้ง เบี่ยงเบนประเด็นไป ความหมายที่จะไล่เขาไปของเย่ซือเฉินนั้นเห็นได้ชัดมาก แต่ถังหยุนเฉิงกลับแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายนี้ของเย่ซือเฉิน แล้วก็สาธยายยืดยาวของเขาต่อ

ดูสถานการณ์ของถังหยุนเฉิงแล้วราวกับจะสามารถพูดไปจนถึงพรุ่งนี้ได้เลยอย่างไรอย่างนั้น

หางคิ้วของเย่ซือเฉินนั้นอดที่จะกระตุกขึ้นมาสองสามครั้งไม่ได้ เย่ซือเฉินรู้ว่าตอนนี้เขาจะพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ เย่ซือเฉินแอบส่งสัญญาณมือให้กับเวินลั่วฉิงอยู่ทางด้านหลัง ขอความช่วยเหลือจากเวินลั่วฉิง

“คุณลุงคะ ยืนอยู่ข้างนอกนานแล้ว เหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ เข้ามาคุยกันข้างในดีกว่าค่ะ” เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของเย่ซือเฉินจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าให้คุณลุงพูดต่อไปแบบนี้คงจะไม่ได้แน่

ไม่ว่าจะว่าอย่างไร เธอเองก็อยากจะนอนแล้วเช่นกัน

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ลุงพูดจบแล้ว พวกเธอพักผ่อนกันเถอะ” ถังหยุนเฉิงได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้วก็สิ้นสุดการสาธยายยืดยาวของเขาลง แล้วถังหยุนเฉิงก็เอ่ยขึ้นอีกสองประโยคแล้วก็เดินจากไป

เย่ซือเฉินเห็นว่าถังหยุนเฉิงไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ เขารู้สึกว่าเขาสามารถอดทนได้จนถึงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

คุณชายสามเย่ปิดประตูลง แล้วกลับเข้ามาในห้อง

เวินลั่วฉิงมองเขา อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เธอรู้ว่าคุณลุงตั้งใจ แต่เย่ซือเฉินสามารถอดทนได้นานขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่มาก เธอคิดว่าเย่ซือเฉินจะทนไม่ไหวแล้วไล่เขาไปเสียก่อนซะอีก

“คุณยังจะหัวเราะอีก?” เย่ซือเฉินเห็นเธอเผยรอยยิ้มตามอำเภอใจแล้ว ความกลัดกลุ่มเมื่อครู่นี้ก็หายไปทันที เขาเดินไปทางด้านหน้าแล้วโอบเธอมาอยู่ในอ้อมกอด แล้วจูบลงบนริมฝีปากของเธอ อาจจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเรื่องเมื่อครู่นี้ ครั้งนี้เย่ซือเฉินไม่ได้ทำตามอำเภอใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

แต่หลังจากที่จูบแล้วนั้น คุณชายสามเย่ก็ทนไม่ไหว แค่จูบนั้นไม่พอ เขายังอยากได้มากกว่านั้น

เย่ซือเฉินจูบเธออีกสองสามที มองรอยยิ้มบนใบหน้านั้น เย่ซือเฉินเองก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ริมฝีปากทั้งสองคนแนบชิดกันอีกครั้ง

จูบนั้นยังคงลึกซึ้งอย่างต่อเนื่อง ยิ่งรุนแรงมากขึ้น คุณชายสามเย่เองก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ และยิ่งหมกมุ่นมากขึ้นด้วย…..

เพียงแต่ ตอนนี้เองนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับครั้งที่แล้ว เสียงหนึ่งตามมา เสียงหนึ่งที่ชัดเจนขึ้น และเสียงที่ดูรีบร้อนขึ้น…….

เหมือนกับครั้งที่แล้ว มีเพียงเสียงเคาะประตู ไม่มีเสียงคนพูด

การเคลื่อนไหวของเย่ซือเฉินหยุดลง สีหน้าของเขามืดมนไปหมดแล้ว ครั้งนี้สีหน้าท่าทางของคุณชายสามเย่ดูจะไม่สามารถอธิบายออกมาได้แล้ว

“ครั้งนี้คุณว่าเป็นใครครับ?” ดวงตาของเย่ซือเฉินกระพริบลงอย่างรวดเร็ว ครั้งที่แล้วเขาคิดว่าเป็นถังหลินมากลั่นแกล้ง คุณชายสามเย่เดิมทีคิดว่านอกจากถังหลินแล้ว คนอื่นๆก็ไม่มีใครทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว

แต่เรื่องของถังหยุนเฉิงเมื่อครู่นี้ทำให้คุณชายสามเย่รู้แล้วว่า คนของตระกูลถังผิวเผินดูจริงจังเข้มงวด ใจดำโหดร้ายขึ้นมากลับน่ากลัวยิ่งกว่าใครทั้งนั้น

ถังหลินใจดำโหดร้ายแล้ว ถังหยุนเฉิงยิ่งโหดร้ายกว่าถังหลินเสียอีก ดังนั้นตอนนี้ถึงแม้จะบอกว่าคนที่เคาะประตูอยู่ทางด้านนอกเป็นท่านปู่ถัง เขาก็เชื่อ

“ไม่รู้สิคะ” มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุกขึ้น ครั้งนี้อดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ เย่ซือเฉินจะรู้หรือเปล่าว่าสีหน้าของเขาในเวลานี้ทำให้คนตกใจได้ขนาดไหนกัน?

แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกกลัวอยู่แล้ว เพราะถึงอย่างไรคนที่หาเรื่องเย่ซือเฉินนั้นก็ไม่ใช่เธอ เย่ซือเฉินไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว แต่คนที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่เหมือนกัน

“ถ้าหากเป็นถังหลิน……” ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงเล็กน้อย คำพูดที่กัดฟันด้วยความแค้นนี้ได้ยินแล้วให้ความรู้สึกอกสั่นขวัญหายมากเป็นพิเศษ คำพูดข่มขู่นี้ถึงแม้ไม่ได้พูดออกมา แต่เวินลั่วฉิงรู้ว่าเวลานี้คนที่อยู่ทางด้านนอกหากเป็นถังหลิน ถังหลินก็คงจะแย่จริงๆแล้ว

แต่จากที่เธอเข้าใจนั้น ถังหลินไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น ก่อนหน้านี้คุณลุงคุยกับเย่ซือเฉินเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะใช้เวลาให้คุณลุงไปได้นั้นไม่ใช่ง่ายๆ นี่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน เวลานี้ถังหลินจะไม่ใช่ว่าเป็นการทำให้ตัวเองหาที่ตายหรอกหรือ?

ถังหลินไม่มีทางโง่แบบนั้นอย่างเด็ดขาด

ดังนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเป็นถังหลิน ถ้าหากไม่ใช่ถังหลิน แล้วจะเป็นใครกัน?

ท่านย่าถัง? ป้าสะใภ้? เวินลั่วฉิงล้วนแต่รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขารู้ว่าเย่ซือเฉินอยู่ในห้องของเธอ พวกเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันจะต้องไม่มาในเวลานี้อย่างแน่นอน ค่อนข้างจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก อีกทั้งถ้าหากท่านย่าถังกับป้าสะใภ้มา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาพูดคุยกับเย่ซือเฉินตลอดแบบนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหมือนกับคุณลุงแบบนั้น

ตระกูลถังก็มีเพียงไม่กี่คน ตัดออกสองสามคนแล้ว ดูเหมือนจะเหลือแค่เพียงท่านปู่ถัง ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นท่านปู่ถัง เวินลั่วฉิงรีบปฏิเสธความคิดของตัวเองทันที

ท่านปู่ถังมีลักษณะที่น่าเกรงขามขนาดนั้น จริงจังขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะเป็นท่านปู่ถัง

เสียงเคาะประตูยังดังขึ้นต่อ ยังคงเหมือนกับครั้งที่แล้ว ยิ่งดังขึ้น และยิ่งเร่งขึ้นด้วย

เย่ซือเฉินกัดฟันอย่างแรง คุณชายสามเย่อาจจะกลัดกลุ้มมากเกินไปจริงๆ ดูไม่มีที่ให้ระบาย จากนั้นจึงระบายเป็นการจูบลงไปบนริมฝีปากของเวินลั่วฉิงแรงๆแทน!!

จากนั้นคุณชายสามเย่ถึงได้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่ประตู

มีประสบการณ์ครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เย่ซือเฉินไม่ได้เอ่ยพูด แต่กลับเปิดประตูออกก่อน ไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะต้องรอดูคนที่อยู่ข้างนอกให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยพูด

เย่ซือเฉินเปิดประตู ตอนที่เห็นคนที่อยู่ด้านนอกนั้น ดวงตากระพริบลงเบาๆ ตกตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด เวลานั้น มุมปากของคุณชายสามเย่อดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้

คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเวลานี้ก็คือท่านปู่ถังนั่นเอง!!

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset