มู่หรงดัวหยางได้ยินน้ำเสียงของเวินลั่วฉิงก็รู้สึกทนไม่ไหว ฉิงฉิงเคยกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมอย่างนี้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนไม่อาจทำกับฉิงฉิงอย่างนี้ได้
ปกติมู่หรงดัวหยางไม่ใช่คนชอบพูดจาซาบซึ้งกินใจ เขาพูดเพื่อแสดงจุดยืนของเขา ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงกล่าวคำขอบคุณกับเขา ดังนั้นเขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีกครั้ง “เมื่อคืนคุณแม่ผมเล่นไพ่นกกระจอกจนนอนดึก ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลย ถ้าท่านรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะกลุ้มใจขนาดไหน”
สิ่งที่มู่หรงดัวหยางกล่าวเป็นความจริงทุกประการ คุณนายเหว้ยเห็นเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวแท้ๆ ทุกครั้งที่เวินลั่วฉิงเกิดเรื่อง คุณนายเหว้ยก็จะร้อนรุ่มกลุ้มใจมาก
“ปิดคุณน้าไว้ก่อนเถอะค่ะ”เวินลั่วฉิงรู้จักคุณนายเหว้ยดี เวินลั่วฉิงก็พอจะจินตนาการภาพคุณนายเหว้ยอนาทรร้อนใจได้
“คุณล้อเล่นอะไรกัน？มีข่าวใหญ่แต่เช้าถึงสามข่าว ตอนนี้เกือบรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว คุณคิดว่าปิดแม่ผมได้หรือ？”มู่หรงดัวหยางอดกระตุกมุมปากไม่ได้ สถานการณ์อย่างนี้คิดจะปิดคุณแม้ผู้ฉลาดเฉียบแหลมของเขา กลัวว่าแม้แต่คุณย่าที่ซื้อผักซื้อปลาข้างถนนยังรู้เลย
ถ้อยคำของมู่หรงดัวหยางทำให้เวินลั่วฉิงเงียบงันอีกครั้ง เกิดเรื่องเอิกเกริกเช่นนี้ คนเกือบรู้กันหมดแล้ว นี่คือเป้าหมายของถังไป๋เชียนหรือ？！
ถังไป๋เชียนกระพือข่าวให้คนรู้ไปทั่ว ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไรกันแน่？
“ฉิงฉิง คุณไม่ต้องกังวลมากหรอก ผมจะหาวิธีกลบข่าวในโซเชียล ……”มู่หรงดัวหยางเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูด ก็รับรู้ว่าตัวเองพูดผิด จึงรีบแก้เสริม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”เวินลั่วฉิงตัดบทเขาทิ้ง“เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว คนที่เห็นก็เห็นกันหมดแล้ว คุณกลบข่าวตอนนี้ก็ยิ่งทำให้คนสงสัยมากขึ้น อาจทำให้ใครบางคนใช้เป็นเครื่องมืออีก”
“ออ ออ ผมเข้าใจแล้ว งั้นตอนนี้พวกเราจะไม่ยุ่งและไม่ทำอะไรทั้งนั้นเลยหรือ？”น้ำเสียงมู่หรงดัวหยางมีความกลัดกลุ้มหลายส่วน เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้ที่สุด
“เขาทำเรื่องมากมายอย่างนี้ ต้องมีเป้าหมายของเขาแน่นอน พวกเรารอดูก่อน”เวินลั่วฉิงหรี่ตาชขึ้น แต่ไหนแต่ไรมา ถังไป๋เชียนจะเป็นคนหนักแน่นในเป้าหมาย เขาทำเรื่องพวกนี้ขึ้น ต้องมีวัตถุประสงค์ของเขาแน่นอน เธอจะรอดูว่าถังไป๋เชียนต้องการทำอะไรกันแน่
เธอคิดว่าถังไป๋เชียนทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอคงไม่ต้องรอนานหรอก
“ฉิงฉิง คุณยังเป็นฉิงฉิงที่ผมรู้จัก”มู่หรงดัวหยางอึ้ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา ความกลัดกลุ้มเมื่อครู่จางหาย ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอเพียงฉิงฉิงอยู่ เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว ไม่กังวล ฉิงฉิงสามารถจัดการปัญหาได้เสมอ
“ฉิงฉิง ผมสืบคนสร้างกระแสโจมตีคุณได้แล้ว ผมส่งที่อยู่IPของคนพวกนี้ทั้งหมดให้คุณแล้ว มันกระจัดกระจายอยู่เป็นบริเวณกว้าง เหนือใต้ออกตกมีหมด คุณลองอ่านดูนะ”อีกฝั่งหนึ่งของสาย มู่หรงดัวหยางแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็รีบส่งข้อมูลให้เวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงได้รับก็เปิดออกมาดู เธอขมวดคิ้วมุ่น เป็นอย่างที่มู่หรงดัวหยางบอก มีทุกที่จริงๆ ทำไมถึงกระจายตัวอย่างนี้？
เย่ซือเฉินก็เข้าไปดูที่อยู่IPใกล้ ดวงตาเย่ซือเฉินประกายความเคร่งขรึมออกมา
“ฉิงฉิง ผมคิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ลูกน้องถังไป๋เชียน คงเป็นคนของคนอื่น”
“คนอื่น？”ได้ยินเย่ซือเฉินกล่าว เวินลั่วฉิงรีบเงยหน้ามองเขา คนในห้องโถงทุกคนต่างพากันมองมายังเย่ซือเฉิน
“หาคนสร้างกระแสโจมตีทั่วประเทศอย่างนี้ ไม่เป็นวิธีการของถังไป๋เชียน ผู้รู้ว่าเรื่องนี้มีคนจงใจทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเรา อย่างที่มู่หรงดัวหยางบอก ไม่ว่าถังไป๋เชียนจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางให้คนอื่นด่าฉิงฉิงหรอก ดังนั้นผมคิดว่าผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังยังมีอีกหนึ่งคน”เย่ซือเฉินสันนิษฐานความเป็นได้นี้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้เห็นเนื้อหาที่มู่หรงดัวหยางส่งมา จึงยิ่งมั่นใจขึ้น
“ซือเฉิน ความหมายของนายก็คือมีคนช่วยถังไป๋เชียน คนคนนี้รับผิดชอบด้านคอมเมนต์พวกนี้？”ถังหยุนเฉิงได้ยินเย่ซือเฉินพูดก็รีบกะพริบตา“ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้”
“คงไม่ได้ควบคุมเฉพาะส่วนของคอมเมนต์เท่านั้นครับ ผมรู้สึกว่าคนผู้นี้ช่วยถังไป๋เชียนทำผลตรวจดีเอ็นเอชุดนั้นด้วยครับ ผมให้คนจับตามองถังไป๋เชียนตลอด ถังไป๋เชียนไม่มีทางติดต่อทั้งหมอทั้งโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแน่ครับ”เย่ซือเฉินบอกความคิดของตัวเองแก่ทุกคน
ได้ยินเย่ซือเฉินพูด คนในห้องโถงก็เงียบกริบอีกครั้ง
“แล้วคุณคิดว่าคนผู้นี้เป็นใคร？”ถังหลินถามหนึ่งประโยค อันที่คือกุญแจสำคัญ เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด
หากทางนี้มีคนคอยช่วยเหลือถังไป๋เชียน การหาบุคคลนี้ออกมาคือกุญแจสำคัญที่สุด
“หลายปีมานี้ถังไป๋เชียนอยู่แต่ประเทศM อำนาจส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่ประเทศM จึงไม่มีอำนาจภายในประเทศนี้ บุคคลที่สามารถทำทุกอย่างนี้ได้ แสดงว่าต้องมีอำนาจและอิทธิพลมากแน่ๆ”เย่ซือเฉินกะพริบตาเบาๆ จากนั้นก็วิเคราะห์จัดแจงออกมา
“ซือเฉินพูดถูก ถังไป๋เชียนไม่ได้มีอำนาจบาตรใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะคุณเคยทำลายถิ่นฐานส่วนใหญ่ของเขาในประเทศMแล้ว ตอนนี้ถังไป๋เชียนจึงเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้ แถมซือเฉินยังให้คนจับตามองอยู่ ถ้าถังไป๋เชียนทำอะไรภายในประเทศ พวกเราต้องอยู่ตั้งนานแล้ว ดังนั้นต้องมีคนช่วยถังไป๋เชียนในประเทศนี้แน่นอน และผู้ที่สามารถจัดการได้ดีอย่างนี้ ทำให้ตระกูลถังเจอโจทย์ยากอย่างนี้ ทำให้พวกเรารับมือยากอย่างนี้ ต้องมีฝีมือแน่นอน”ถังหลินเห็นด้วยกับความคิดของเย่ซือเฉิน
“และคนนี้รู้จักพวกเราดี”ก้นบึ้งแววตาของเย่ซือเฉินมีความเย็นเยียบเพิ่มขึ้นหลายส่วน“เขารู้ว่าวันนี้ผมกับฉิงฉิงจะไปจดทะเบียนสมรสกัน เขารู้ว่าวันนี้ตระกูลถังจะเปิดเผยสถานะของฉิงฉิงกับของลูกๆ ไม่งั้น คงไม่บังเอิญเปิดเผยข่าวเช้าวันนี้หรอก！！”
“เป็นไปไม่ได้มั้ง ผมโทรถามคนที่รู้เรื่องฉิงฉิงกับเด็กๆแล้ว และคนที่รู้ว่าวันนี้พวกคุณจะไปจดทะเบียนสมรสกันก็มีโจ๋วชิงกับด๊อกเตอร์กู่ สองคนนี้ไม่ช่วยถังไป๋เชียนแน่นอน”ถังหลินหน้านิ่วคิ้วขมวด สีหน้าหนักอึ้งมาก
มู่หรงดัวหยางได้ยินน้ำเสียงของเวินลั่วฉิงก็รู้สึกทนไม่ไหว ฉิงฉิงเคยกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมอย่างนี้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนไม่อาจทำกับฉิงฉิงอย่างนี้ได้
ปกติมู่หรงดัวหยางไม่ใช่คนชอบพูดจาซาบซึ้งกินใจ เขาพูดเพื่อแสดงจุดยืนของเขา ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงกล่าวคำขอบคุณกับเขา ดังนั้นเขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีกครั้ง “เมื่อคืนคุณแม่ผมเล่นไพ่นกกระจอกจนนอนดึก ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลย ถ้าท่านรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะกลุ้มใจขนาดไหน”
สิ่งที่มู่หรงดัวหยางกล่าวเป็นความจริงทุกประการ คุณนายเหว้ยเห็นเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวแท้ๆ ทุกครั้งที่เวินลั่วฉิงเกิดเรื่อง คุณนายเหว้ยก็จะร้อนรุ่มกลุ้มใจมาก
“ปิดคุณน้าไว้ก่อนเถอะค่ะ”เวินลั่วฉิงรู้จักคุณนายเหว้ยดี เวินลั่วฉิงก็พอจะจินตนาการภาพคุณนายเหว้ยอนาทรร้อนใจได้
“คุณล้อเล่นอะไรกัน？มีข่าวใหญ่แต่เช้าถึงสามข่าว ตอนนี้เกือบรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว คุณคิดว่าปิดแม่ผมได้หรือ？”มู่หรงดัวหยางอดกระตุกมุมปากไม่ได้ สถานการณ์อย่างนี้คิดจะปิดคุณแม้ผู้ฉลาดเฉียบแหลมของเขา กลัวว่าแม้แต่คุณย่าที่ซื้อผักซื้อปลาข้างถนนยังรู้เลย
ถ้อยคำของมู่หรงดัวหยางทำให้เวินลั่วฉิงเงียบงันอีกครั้ง เกิดเรื่องเอิกเกริกเช่นนี้ คนเกือบรู้กันหมดแล้ว นี่คือเป้าหมายของถังไป๋เชียนหรือ？！
ถังไป๋เชียนกระพือข่าวให้คนรู้ไปทั่ว ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไรกันแน่？
“ฉิงฉิง คุณไม่ต้องกังวลมากหรอก ผมจะหาวิธีกลบข่าวในโซเชียล ……”มู่หรงดัวหยางเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูด ก็รับรู้ว่าตัวเองพูดผิด จึงรีบแก้เสริม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”เวินลั่วฉิงตัดบทเขาทิ้ง“เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว คนที่เห็นก็เห็นกันหมดแล้ว คุณกลบข่าวตอนนี้ก็ยิ่งทำให้คนสงสัยมากขึ้น อาจทำให้ใครบางคนใช้เป็นเครื่องมืออีก”
“ออ ออ ผมเข้าใจแล้ว งั้นตอนนี้พวกเราจะไม่ยุ่งและไม่ทำอะไรทั้งนั้นเลยหรือ？”น้ำเสียงมู่หรงดัวหยางมีความกลัดกลุ้มหลายส่วน เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้ที่สุด
“เขาทำเรื่องมากมายอย่างนี้ ต้องมีเป้าหมายของเขาแน่นอน พวกเรารอดูก่อน”เวินลั่วฉิงหรี่ตาชขึ้น แต่ไหนแต่ไรมา ถังไป๋เชียนจะเป็นคนหนักแน่นในเป้าหมาย เขาทำเรื่องพวกนี้ขึ้น ต้องมีวัตถุประสงค์ของเขาแน่นอน เธอจะรอดูว่าถังไป๋เชียนต้องการทำอะไรกันแน่
เธอคิดว่าถังไป๋เชียนทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอคงไม่ต้องรอนานหรอก
“ฉิงฉิง คุณยังเป็นฉิงฉิงที่ผมรู้จัก”มู่หรงดัวหยางอึ้ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา ความกลัดกลุ้มเมื่อครู่จางหาย ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอเพียงฉิงฉิงอยู่ เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว ไม่กังวล ฉิงฉิงสามารถจัดการปัญหาได้เสมอ
“ฉิงฉิง ผมสืบคนสร้างกระแสโจมตีคุณได้แล้ว ผมส่งที่อยู่IPของคนพวกนี้ทั้งหมดให้คุณแล้ว มันกระจัดกระจายอยู่เป็นบริเวณกว้าง เหนือใต้ออกตกมีหมด คุณลองอ่านดูนะ”อีกฝั่งหนึ่งของสาย มู่หรงดัวหยางแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็รีบส่งข้อมูลให้เวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงได้รับก็เปิดออกมาดู เธอขมวดคิ้วมุ่น เป็นอย่างที่มู่หรงดัวหยางบอก มีทุกที่จริงๆ ทำไมถึงกระจายตัวอย่างนี้？
เย่ซือเฉินก็เข้าไปดูที่อยู่IPใกล้ ดวงตาเย่ซือเฉินประกายความเคร่งขรึมออกมา
“ฉิงฉิง ผมคิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ลูกน้องถังไป๋เชียน คงเป็นคนของคนอื่น”
“คนอื่น？”ได้ยินเย่ซือเฉินกล่าว เวินลั่วฉิงรีบเงยหน้ามองเขา คนในห้องโถงทุกคนต่างพากันมองมายังเย่ซือเฉิน
“หาคนสร้างกระแสโจมตีทั่วประเทศอย่างนี้ ไม่เป็นวิธีการของถังไป๋เชียน ผู้รู้ว่าเรื่องนี้มีคนจงใจทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเรา อย่างที่มู่หรงดัวหยางบอก ไม่ว่าถังไป๋เชียนจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางให้คนอื่นด่าฉิงฉิงหรอก ดังนั้นผมคิดว่าผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังยังมีอีกหนึ่งคน”เย่ซือเฉินสันนิษฐานความเป็นได้นี้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้เห็นเนื้อหาที่มู่หรงดัวหยางส่งมา จึงยิ่งมั่นใจขึ้น
“ซือเฉิน ความหมายของนายก็คือมีคนช่วยถังไป๋เชียน คนคนนี้รับผิดชอบด้านคอมเมนต์พวกนี้？”ถังหยุนเฉิงได้ยินเย่ซือเฉินพูดก็รีบกะพริบตา“ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้”
“คงไม่ได้ควบคุมเฉพาะส่วนของคอมเมนต์เท่านั้นครับ ผมรู้สึกว่าคนผู้นี้ช่วยถังไป๋เชียนทำผลตรวจดีเอ็นเอชุดนั้นด้วยครับ ผมให้คนจับตามองถังไป๋เชียนตลอด ถังไป๋เชียนไม่มีทางติดต่อทั้งหมอทั้งโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแน่ครับ”เย่ซือเฉินบอกความคิดของตัวเองแก่ทุกคน
ได้ยินเย่ซือเฉินพูด คนในห้องโถงก็เงียบกริบอีกครั้ง
“แล้วคุณคิดว่าคนผู้นี้เป็นใคร？”ถังหลินถามหนึ่งประโยค อันที่คือกุญแจสำคัญ เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด
หากทางนี้มีคนคอยช่วยเหลือถังไป๋เชียน การหาบุคคลนี้ออกมาคือกุญแจสำคัญที่สุด
“หลายปีมานี้ถังไป๋เชียนอยู่แต่ประเทศM อำนาจส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่ประเทศM จึงไม่มีอำนาจภายในประเทศนี้ บุคคลที่สามารถทำทุกอย่างนี้ได้ แสดงว่าต้องมีอำนาจและอิทธิพลมากแน่ๆ”เย่ซือเฉินกะพริบตาเบาๆ จากนั้นก็วิเคราะห์จัดแจงออกมา
“ซือเฉินพูดถูก ถังไป๋เชียนไม่ได้มีอำนาจบาตรใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะคุณเคยทำลายถิ่นฐานส่วนใหญ่ของเขาในประเทศMแล้ว ตอนนี้ถังไป๋เชียนจึงเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้ แถมซือเฉินยังให้คนจับตามองอยู่ ถ้าถังไป๋เชียนทำอะไรภายในประเทศ พวกเราต้องอยู่ตั้งนานแล้ว ดังนั้นต้องมีคนช่วยถังไป๋เชียนในประเทศนี้แน่นอน และผู้ที่สามารถจัดการได้ดีอย่างนี้ ทำให้ตระกูลถังเจอโจทย์ยากอย่างนี้ ทำให้พวกเรารับมือยากอย่างนี้ ต้องมีฝีมือแน่นอน”ถังหลินเห็นด้วยกับความคิดของเย่ซือเฉิน
“และคนนี้รู้จักพวกเราดี”ก้นบึ้งแววตาของเย่ซือเฉินมีความเย็นเยียบเพิ่มขึ้นหลายส่วน“เขารู้ว่าวันนี้ผมกับฉิงฉิงจะไปจดทะเบียนสมรสกัน เขารู้ว่าวันนี้ตระกูลถังจะเปิดเผยสถานะของฉิงฉิงกับของลูกๆ ไม่งั้น คงไม่บังเอิญเปิดเผยข่าวเช้าวันนี้หรอก！！”
“เป็นไปไม่ได้มั้ง ผมโทรถามคนที่รู้เรื่องฉิงฉิงกับเด็กๆแล้ว และคนที่รู้ว่าวันนี้พวกคุณจะไปจดทะเบียนสมรสกันก็มีโจ๋วชิงกับด๊อกเตอร์กู่ สองคนนี้ไม่ช่วยถังไป๋เชียนแน่นอน”ถังหลินหน้านิ่วคิ้วขมวด สีหน้าหนักอึ้งมาก
