ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 136 คุณชายสามเย่หึงหวงแล้ว (3)

ตอนที่ 136 คุณชายสามเย่หึงหวงแล้ว (3)

เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้แบ่งเป็นสองกลุ่ม ฉิงรุ่ยกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ปส่งผลงานมาก่อน ดังนั้นเลขาหลิวจึงได้ประกาศว่ามีสองบริษัท ผ่านเข้ารอบคือฉิงรุ่ยกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป

เย่ซือเฉินสั่งให้เลขาหลิวเชิญฉิงรุ่ยกับนักออกแบบของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปลงจากตึก

เลขาหลิวนึกถึงฉู่หลิงเอ๋อทีไรก็จะเริ่มรู้สึกขนลุก ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกับเป็นระเบิดที่สามารถจะระเบิดได้ตลอดเวลา ระเบิดตกไปอยู่ที่ไหนตรงนั้นก็จะต้องพังเสียหายยับเยิน เธอจึงเกรงกลัวมาก

ยังดีที่ครั้งนี้ฉู่หลิงเอ๋อให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แถมยังเดินตามเลขาหลิวอย่างเชื่อฟังอีกด้วย การให้ความร่วมมือของเธอในครั้งนี้ทำให้เลขาหลิวรู้สึกคาดไม่ถึง ระหว่างนำทางเลขาหลิวยังคงหวาดผวาอยู่

“รอบตัดสินสุดท้าย ผลงานที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปกับฉิงรุ่ยส่งมาก็โดดเด่นมาก……”เลขาหลิวพาฉู่หลิงเอ๋อกับนักออกแบบของฉิงรุ่ยกลับมาที่ห้องรับแขก เดินขึ้นเวทีจะประกาศผลการตัดสิน

“บริษัทฉิงรุ่ยกรุ้ปขอสละสิทธิ์ครับ”เพียงแต่ว่าเลขาหลิวยังไม่ทันได้พูดจบ ไป๋ยี่รุ่ยก็พูดแทรกขึ้นมากะทันหัน

ทำให้ผู้คนต่างตกตะลึงไปตามๆกัน！！

ฉิงรุ่ยหมายความว่าอย่างไรกัน สุดท้ายมาสละสิทธิ์เอง？

ถึงแม้ว่าผลงานการออกแบบของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะโดดเด่นจริง แต่ของฉิงรุ่ยก็ไม่ได้แพ้กันเลย เลขาหลิวยังไม่ทันได้พูดจบเลย ไป๋ยี่รุ่ยจะใจร้อนทำไมกันนะ？

เมื่อกี้เลขาหลิวพูดอยู่หยกๆว่าผลงานของฉิงรุ่ยกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ปต่างก็โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นฉิงรุ่ยก็ยังคงมีความหวังอยู่ ตอนแรกฉิงรุ่ยตั้งใจมาก แต่ตอนนี้มาถึงรอบสุดท้ายแล้วกลับมาถอดตัว？

ความรู้สึกนี้มันเหมือนเป็นการคุ้มครองระหว่างทางให้กับเรือของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป！！

เวินลั่วฉิงก็รู้สึกคาดไม่ถึง เธอหันหน้าไปมองไป๋ยี่รุ่ยโดยอัตโนมัติ เวลาไป๋ยี่รุ่ยก็มองมาทิศทางของเธอ ชั่วขณะนั้นทั้งคู่กำลังสบตากัน……

แต่ว่าเวินลั่วฉิงก็เก็บสายตาการมอง

ประจวบเหมาะกับที่เย่ซือเฉินเดินเข้ามาดวงตาคู่นั้นลุกเป็นไฟจนถึงขีดสุดแล้ว นี่เป็นถ่นของเย่ซือเฉิน ไฉนจะให้คนอื่นมาช่วยภรรยาของเขาได้？และยังจะมาทำเป็นสบตาสื่อรักกันอีก？！

คิดว่าเย่ซือเฉินตายแล้วหรือ？

ดวงตาของฉู่หลิงเอ๋อเบิกออกจนโต เธอมาสลับไปมาระหว่างเวินลั่วฉิงกับไป๋ยี่รุ่ย ดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดเรื่องขึ้นนะ？

ฉู่หลิงเอ๋อเห็นดวงตาดุร้ายที่ราวกับเป็นน้ำแข็งของเย่ซือเฉิน จนถึงขั้นสามารถเย็นให้คนอื่นตัวแข็งตายได้ ใบหน้าของเธอมีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าต่อจากนี้จะได้เห็นช็อคเด็ดกันแล้ว

ตอนแรกฉู่หลิงเอ๋อพลั้งพูดอะไรต่อหน้าเย่ซือเฉินออกไป จึงกลัวการเข้าใกล้กับเวินลั่วเฉิน ดังนั้นจึงยังไม่กล้ากลับไปอยู่ที่ข้างตัวของเวินลั่วฉิง

ตอนนี้จะมีช็อคเด็ดดู จึงลืมเรื่องเมื่อกี้เสียสนิท ราวกับความจำได้ลอยหายไปสู่บนนภาลัยแล้ว เวลานั้นจึงกลับไปหาเวินลั่วฉิงอีกด้วยการลากเก้าอี้และน้ำกับผลไม้ไปด้วย

เตรียมการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็สามารถนั่งดูช็อคเด็ดได้อย่างสบายๆแล้ว

เวินลั่วฉิงมองเธอ ทนไม่ไหวขยิบปากขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ประธานไป๋รับรู้ข่าวได้รวดเร็วมากเลยครับ ดูเหมือนว่ารู้แล้วผลตัดสินของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปของเราแล้ว ดังนั้นจึงรีบถอนตัวออก ประธานไป๋รับกับการพ่ายแพ้ไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอครับ”เย่ซือเฉินเดินมาถึงตรงกลางกวาดสายตาไปมองไป๋ยี่รุ่ยแวบหนึ่ง มันเป็นแววตาที่ดูถูกและเยาะเย้ยอย่างไม่คิดจะปิดบังใดๆ

คุณชายสามเย่พูดแบบนี้ทำให้เจตนารมณ์ที่ดีของไป๋ยี่รุ่ยกลับด้าน และยังทำให้ไป๋ยี่รุ่ยเสียชื่อเสียงไปสองข้อด้วย

ประการที่หนึ่งคือรับการพ่ายแพ้ไม่ได้

ประการที่สองคือแอบลวดความลับของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป

ประกายแรกเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชาย ประการที่สองเกี่ยวกับเรื่องปัญหาคุณธรรมประจำตัวของรายบุคคล

คุณชายสามเย่พูดประโยคเด็ดนี้ออกมา ทำให้ไป๋ยี่รุ่ยยับเยินจนสู้กากเต้าหูมิได้ แถมยังต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วย

“ผู้ชายของเธอปากจัดมาก โหดจริงๆ！”ฉู่หลิงเอ๋อตกตะลึงและสะดุ้งสั่นโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอถึงเข้าใจว่าเมื่อกี้เย่ซือเฉินได้ออมมือให้เธอ

ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบ มีหรือ？เธอรู้สึกว่ายังโอเคอยู่นะ！

ปากของเลขาหลิวกระตุก ไป๋ยี่รุ่ยจะไปรู้ผลการตัดสินของเย่ซือเฉินได้ยังไง？ก่อนหน้านี้ประธานไม่เคยประกาศผลอะไรทั้งนั้น คนในบริษัทไม่มีใครรู้เรื่องเลย ถ้าเธอไม่เข้าใจความคิดของท่านประธาน เธอก็จะไม่รู้เหมือนกัน

ถึงแม้ว่าไป๋ยี่รุ่ยจะมีความสามารถล้ำเลิศ แต่ก็ไม่อาจจะล่วงรู้สิ่งที่ไม่เคยมีการตัดสินมาก่อนเลย

เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านประธานจะพูดเท็จเก่งมากถึงเพียงนี้？

แน่นอนว่าที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อคุณนาย！！

“คุณชายเย่ ผม……”เห็นได้ชัดว่าไป๋ยี่รุ่ยคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะพูดอย่างนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

“ถ้าฉิงรุ่ยถอนตัว ก็เชิญออกไปได้ครับ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งบริษัทตระกูลเย่ไม่ถือสาครับ”แต่เย่ซือเฉินตัดคำพูดของเขา ไม่ให้เขาได้มีโอกาสพูดเลย แถมยังเปิดปากไล่คนอื่นอีก

แววตาที่ไป๋ยี่รุ่ยมองภรรยาของเขา เขาก็รู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยมีจุดประสงค์ที่ไม่ธรรมดาต่อภรรยาของเขา

ไป๋ยี่รุ่ยยอมเปลี่ยนกลุ่มเอง พอถึงนาทีสำคัญกลับถอนตัวออกเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกอย่างก็พูดได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว

ผู้ชายที่คลั่งไคล้อยากได้ภรรยาของเขา เขาไม่อยากไว้แม้แต่วินาทีเดียว

เย่ซือเฉินพูดว่าเชิญ แต่มือกลับสั่งการให้รปภ. แสดงว่าทำสัญลักษณ์ให้รปภ.ขับไล่ออกไปชัดๆ

ไป๋ยี่รุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเย่ซือเฉินจึงทำแบบนี้ ถึงแม้เขาจะไม่พอใจ แต่ก็คงไม่สามารถมีเรื่องกับเย่ซือเฉินในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปได้ ดังนั้นจึงได้แต่นำพาคนของตัวเองออกไป

“ฉิงฉิง ผู้ชายของเธอน่ากลัวจังเลย ไป๋ยี่รุ่ยถูกกดทับอย่างนี้ แม้โอกาสที่จะดิ้นทุรนทุร่ยก็ไม่มี”ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกผิดหวัง เธอเตรียมตัวอย่างเป็นทางการเพื่อจะดูฉากที่อลังการใหญ่โต แต่ใครจะไปคิดว่าแค่ระยะเวลาอันสั้นก็ทำให้ไป๋ยี่รุ่ยถูกไล่ออกไปเสียแล้ว

ความสามารถต่างกันจริงเชียว！！

เท้าที่ไป๋ยี่รุ่ยเดินจากไปหยุดลง แล้ววงมาที่ข้างกายของเวินลั่วฉิงและพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ผมรอคุณอยู่ด้านนอกนะ”

เขาพูดจบก็ไม่รอให้เวินลั่วฉิงขานตอบก็รีบเดินออกไป

ดวงตาของเย่ซือเฉินเย็นถึงขีดสุด

คนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเลขาหลิวถอยหลังไปสองก้าว เธอรู้สึกว่ามีความเสี่ยงต่อชีวิตของเธอทุกเสี้ยววินาที

“ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่าบริษัทเวินซื่อกรุ้ปของพวกเราชนะแล้ว บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจะร่วมลงทุนกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ปของเรา？”ผู้จัดการลี่ไม่ได้สังเกตการโจมตีที่ซุกซ่อนไว้ เขาสังเกตเห็นแค่เรื่องเดียวก็คือความจริงที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจะร่วมลงทุนกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป

ดีจังเลย ทีนี้บริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะรอดแล้ว

“เหมือนว่าจะเหลือแต่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปค่ะ”ฉู่หลิงเอ๋อคิ้วกระตุก ความสัมพันธ์ฉิงฉิงกับเย่ซือเฉิน มีหรือที่เย่ซือเฉินจะไม่เลือกบริษัทเวินซื่อกรุ้ป？และที่สำคัญไปกว่านั้นผลงานของฉิงฉิงก็ไม่มีใครเทียบเทียมได้

“ดีจังเลย ดีจังเลย”ผู้จัดการลี่ดีใจมาก ตื่นเต้นมาก จู่ๆก็จับมือของฉู่หลิงเอ๋อไว้“นักออกแบบฉู่ ขอบคุณคุณมากเลยครับ ขอบคุณจริงๆ”

เวลานี้รู้สึกว่าเวินจีหยันจะไม่ค่อยดีใจนัก ท่าทางรู้สึกแปลกๆ

“ท่านประธานครับ ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ไปครับ รออยู่หน้าบริษัทครับ”หลังจากที่เลขาหลิวรับสายก็เดินไปข้างๆของเย่ซือเฉินแล้วรายงานด้วยเสียงเบาๆ

ตอนที่เลขาหลิวรายงานเห็นสีหน้าของประธานตัวเอง สองขาก็เริ่มรู้สึกสั่นขึ้นมา