ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 138 คุณชายสามเย่ที่โหดเหี้ยม (1)

ตอนที่ 138 คุณชายสามเย่ที่โหดเหี้ยม (1)

เธอกับไป๋ยี่รุ่ยมีความสัมพันธ์อย่างไงกัน?

“พี่สาม ผมไม่เคยบอกพี่มาก่อนเหรอ?”ปลายสายอย่างคุณชายห้าฉิงรู้สึกงงงวย เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้พี่สามฟังหรือ?

เรื่องสำคัญอย่างนี้เขากลับไม่เคยบอกพี่สาม?!

“พี่สาม ห้าปีก่อนพี่ไม่ใช่เคยให้ผมหาข้อมูลของเวินลั่วฉิงไม่ใช่หรือ?ตอนนั้นผมไม่ใช่เคยบอกพี่ว่าเวินลั่วฉิงเคยมีแฟนตอนเรียนอยู่มัธยมปลายแล้วไม่ใช่หรือ?คนนั้นก็คือไป๋ยี่รุ่ย เพราะฉะนั้นไป๋ยี่รุ่ยก็คือแฟนเก่าของเวินลั่วฉิง”คุณชายห้าฉิงไม่รอให้คุณชายสามเย่ถามก็รีบอธิบาย

แฟนเก่า?เย่ซือเฉินจับมือถือไว้แน่นหนึบ ดวงตาก็หรี่ขึ้นเล็กน้อย

“ตอนนั้นไป๋ยี่รุ่ยไปสอนแทนที่โรงเรียนของเวินลั่วฉิง ตอนนั้นผลเรียนของเวินลั่วฉิงแย่มาก ไป๋ยี่รุ่ยอาสาจะติวสอนให้เวินลั่วฉิง พอติวไปติวมาก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน ตอนนั้นทั้งคู่รักกันมาก อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ถึงขณะตอนนั้นเวินลั่วฉิงตัดสินหลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้วจะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย คลอดลูกให้ไป๋ยี่รุ่ย แต่ว่า เมื่อดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลัง ไป๋ยี่รุ่ยมาใกล้ชิดกับเวินลั่วฉิงนั้นเป็นเพราะได้แอบแฝงวัตถูประสงค์อื่นไว้ แต่ความรู้สึกที่เวินลั่วฉิงมีต่อไป๋ยี่รุ่ยนั้นเป็นจริงอย่างแน่นอน และรักมากด้วย ตอนนั้นที่เวินลั่วฉิงเลิกกับไป๋ยี่รุ่ย เวินลั่วฉิงก็พักการเรียนไปสองเดือน คาดว่าจะเสียใจมากเพราะไม่สามารถต้านทานความเสียใจที่มาอย่างกะทันหันไม่ได้”คุณชายห้าฉิงรู้ว่าตอนที่เย่ซือเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิงนั้นมีเจตนาอย่างอื่น เขาคิดว่าพวกเขาต้องหย่าร้างกันแน่ ดังนั้นคุณชายห้าฉิงพูดอย่างไม่มีความระแวงใดๆ ไม่รู้สึกสักนิดว่ามีปัญหาอะไร

สีนหน้าของเย่ซือเฉินนั้นเคร่งขรึมถึงขีดสุด มองแล้วน่าเกรงกลัวเป็นอย่างมาก หลายคนที่เดินตามมาก็หยุดเท้าเดิน ไม่กล้าเข้าใกล้

เลขาหลิวก็แอบรู้สึกตกใจ ท่านประธานรับสายของใครกันนะ จู่ๆก็กลายเป็นคนน่ากลัวอย่างนี้?

เวลาต่อมา ดวงตาของเลขาหลิวก็วิบวับเข้าใจทันที น่าจะเป็นสายจากคุณชายห้าฉิง

เขาจำได้ว่า 5 ปีก่อนท่านประธานได้ให้คุณชายห้าฉิงไปสืบเรื่องของคุณนาย ดังนั้นเมี่อกี้เขาโทรศัพท์ไปถามคุณชายห้าฉิง

เขาคิดไม่ถึงว่าคุณชายห้าฉิงจะโทรมาเร็วขนาดนี้ และเขายิ่งไม่รู้ว่าคุณชายห้าฉิงพูดอะไรกับท่านประธานในสาย ทำให้ท่านประธานกลายเป็นสภาพอย่างนี้

เวลานี้เวินลั่วฉิงนั่งอยู่ในรถก็เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา เธอก็รู้สึกแปลกใจ แต่เธอไม่ได้คิดว่าในสายจะพูดถึงเรื่องเธอกับไป๋ยี่รุ่ย

เย่ซือเฉินวางสายแล้วรีบเปิดประตูขึ้นรถไปนั่งข้างหลังกับเวินลั่วฉิง

ตอนแรกเย่ซือเฉินอยากอ้างว่าขาของเวินลั่วฉิงพลิกแล้วพาเวินลั่วฉิงจากไป แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว

เมื่อกี้ตอนคุยในสาย ฉิงถิงบอกว่าตอนนั้นไป๋ยี่รุ่ยหลอกใช้เธอ แล้วตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยยังคิดจะทำอะไรอีก?

เขาอยากรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยหมายความว่าอะไรกันแน่?ดูว่าไป๋ยี่รุ่ยต้องการทำอะไรกันแน่?

เลขาหลิวเห็นประธานของตนขึ้นรถ และนั่งแถวหลังสักด้วย จึงรีบวิ่งเข้าไป

“ประธานเวินนั่งรถของประธานเย่จะดีหรือครับ?”ผู้จัดการลี่เห็นแล้วก็รู้สึกกังวล เกรงว่าจะไม่เหมาะสม

“มีอะไรไม่ดีหรือ?”ฉู่หลิงเอ๋อกลับมองแล้วพอใจ พวกเขาสามีภรรยากันนั่งรถคันเดียวกันจะเป็นอะไรไป?พวกเขายังนอนเตียงเดียวกันนะ!

“ผมเกรงว่า……”สิ่งที่ผู้จัดการลี่กังวลในเวลานี้นั้นมีมากมาย มีมากจนล้นพ้น กังวลว่าเวินลั่วฉิงจะทำให้คุณชายสามเย่ไม่พอใจ และกลัวว่าคุณชายสามเย่ที่มีอารมณ์แปรปรวนจะทำให้เวินลั่วฉิงตกใจกลัว

“คุณชายเย่อุ้มรุ่นน้องขึ้นรถด้วยตัวเอง ไม่งั้นคุณก็ไปแย่งรุ่นน้องกลับมาสิ”ฉู่หลิงเอ๋อบิดสายตามองเขารู้สึกว่าน่าขำสิ้นดี

คำว่า แย่ง ทำให้ผู้จัดการลี่ปิดปากเสียสนิท

หลังจากที่เย่ซือเฉินขึ้นรถสีหน้ายังคงเคร่งขรึมอยู่ แต่ดีกว่าเมื่อกี้มากแล้ว

แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ถามเวินลั่วฉิงเรื่องอะไรทั้งนั้น

เวินลั่วฉิงเห็นเขาอารมณ์ไม่ดี เขาไม่พูด เวินลั่วฉิงก็ไม่พูดอะไร เวลานี้ภายในรถนั้นเงียบสงบมาก

เวินลั่วฉิงเหลือบตาไปเห็นว่ามีคนขับรถตามมาข้างหลังที่กระจกรถ

เวินลั่วฉิงเป็นคนมีความระมัดระวังสูง และเป็นคนที่ช่างสังเกตมาก เธอดูแวบเดียวก็รู้ว่านั้นเป็นรถของไป๋ยี่รุ่ย(ตอนอยู่ที่หน้าประตูบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ไป๋ยี่รุ่ยยืนอยู่ข้างรถคันนี้)

เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว ไป๋ยี่รุ่ยคิดจะทำอะไรกันแน่?

เธอกับเขานั้นเลิกรากันมา 7 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาเขากับเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ไม่เคยโทรหากันแม้แต่สายเดียว ตอนนี้ทำอย่างนี้เพื่ออะไรกันนะ?

ไม่ว่าไป๋ยี่รุ่ยคิดอยากจะทำอะไร ระหว่างเธอกกับไป๋ยี่รุ่ยมันจบไปนานแล้วก็จะไม่มีความสัมพันธ์อะไรอีก ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่ใส่ใจ

เย่ซือเฉินก็รู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยตามพวกเขามาเช่นกัน เขาก็เห็นปฏิกิริยาของเวินลั่วฉิงแล้ว ดวงตาคุณชายสามเย่แวววาว เมื่อสักครู่เธอก็น่าจะสังเกตเห็นแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะมีความระมัดระวังและช่างสังเกตเป็นอย่างมาก ตอนที่ขับรถอย่างเลขาหลิวก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

เมื่อเธอสังเกตเห็นแล้ว ท่าทางในเวลานี้ของเธอ?

คุณชายสามเย่นึกถึงสิ่งที่ฉิงถิงพูดในสาย ดวงตาก็กลายเป็นซับซ้อนลึกล้ำขึ้นมา

“ท่านประธานค่ะ รู้สึกว่าข้างหลังมาคนตามพวกเราอยู่ค่ะ”พอไปได้ระยะหนึ่งเลขาหลิวก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกัน “เหมือนจะเป็นรถของประธานไป๋บริษัทฉิงรุ่ยกรุ้ป”

ขณะที่เลขาหลิวพูดก็แอบถอนลมหายใจ ที่ไป๋ยี่รุ่ยตามพวกเขามาก็คงเป็นเพราะว่าคุณนายแน่เลย ท่านประธานต้องมีโทสะแน่เลยเชียว?

เวินลั่วฉิงไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ ราวกับไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ

ในความคิดของเวินลั่วฉิง เธอรู้สึกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเธอจริงๆ

เย่ซือเฉินเห็นการตอบสนองของเธอ คิ้วขมวดน้อยๆ “ไม่ต้องสนใจเขา ให้เขาตามต่อไป”

เวินลั่วฉิงไม่มีท่าทีใดๆเหมือนเดิม แม้กระทั่งคิ้วก็ไม่มีการะเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

เย่ซือเฉินเม้มปาก เธอปิดบังได้เนียบมาก?หรือไม่ได้สนใจเลยจริงๆ?

เป็นไปได้หรือที่จะไม่สนใจเลยสักนิด?!ไม่ว่าจะยังไงก็เคยรักมากมาก่อน!

เวลานี้ บรรยากาศภายในรถกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม

พอถึงโรงแรมที่ได้สั่งจองไว้ อาหารก็ได้เตรียมเสร็จเรียบร้อย สถานการณ์เช่นนี้เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่ดื่มเหล้าเบียร์

เวินลั่วฉิงแพ้เหล้าเบียร์ กลิ่นเหล้าเบียร์ที่ส่งผ่านอากาศมายิ่งแรงขึ้น ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว เธอจึงอ้างที่จะไปห้องน้ำเพื่อออกจากห้องนี้

เวินลั่วฉิงออกไปตั้งนานก็ไม่กลับมา แค่เข้าห้องน้ำจะไม่ใช้เวลานานขนาดนี้แน่นอน

สีหน้าของเย่ซือเฉินได้แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“โอ้ย! ตั้งนานแล้วรุ่นน้องยังไม่กลับมาสักที ไม่ใช่ว่าไปจู๋จี๋แล้วนะ?”ฉู่หลิงเอ๋อมองเย่ซือเฉินพลางพูดอย่างจงใจ

เธอดูออกว่าเย่ซือเฉินกระวนกระวายแล้ว เธอจะคอยดูว่าเย่ซือเฉินจะนั่งได้อีกนานสักเท่าไหร่?

“คุณพูดเรื่อยเปื่อยอะไรกัน?ประธานเวินบอกแล้วว่าไปเข้าห้องน้ำ”ผู้จัดการลี่ได้ยินคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อก็สะดุ้งตกใจ จ้องมองเธอด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจ เวลานี้จะพูดอย่างนี้ไปเรื่อยได้อย่างไรกัน?

เวลานี้มือถือของเย่ซือเฉินมีเสียงข้อความเข้า เย่ซือเฉินดูข้อความแล้วก็หยี่ตาขึ้น……

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset