ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 139 คุณชายสามเย่ที่โหดเหี้ยม (2)

ตอนที่ 139 คุณชายสามเย่ที่โหดเหี้ยม (2)

“ออ ฉันนึกขึ้นได้ว่ารุ่นน้องนั้นเป็นคนสะเพร่า ที่นี่ออกจะกว้างขวาง รุ่นน้องน่าจะหลงทางแล้วมั้ง?”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นสีหน้าของเย่ซือเฉินเปลี่ยนอย่างกะทันหัน ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินได้รับข้อความอะไร แต่ฉู่หลิงเอ๋อรู้ว่าเย่ซือเฉินนั่งไม่อยู่กับที่เสียแล้ว

ดังนั้นเธอจึงทำตัวเป็นคนดีให้ถึงที่สุด ช่วยคุณชายสามเย่หาข้ออ้างที่จะออกไป

เวินลั่วฉิงมีความสามารถที่โดดเด่นในด้านอื่นๆ มีเพียงเรื่องความรักที่เธอไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไหร่ แต่ฉู่หลิงเอ๋อกลับไม่เหมือนกัน ฉู่หลิงเอ๋อนอกจากจะมีความรู้ในด้านของระเบิดแล้ว อย่างอื่นเธอจะเรียนไม่เข้าสมองแล้ว แต่มีเพียงเรื่องความรักที่เธอจะถนัดเป็นพิเศษ รู้สึกได้ไว

“งั้นผมออกไปหาดูครับ……”ผู้จัดการลี่จึงอยากลุกขึ้นไปหาคน

ฉู่หลิงเอ๋อถีบเขาหนึ่งครั้ง ตาลุงคนนี้ไม่ดูสถานการณ์เสียเลย?เกี่ยวอะไรกับเขาเนี้ย?

เย่ซือเฉินได้ลุกขึ้นเดินออกไปแล้ว

“บอกแต่ว่าประธานเย่เป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่วันนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เอาใจใส่ดีนะ”ผู้จัดการลี่เห็นเย่ซือเฉินออกไปแล้ว จึงพูดด้วยความทึ้ง

ฉู่หลิงเอ๋อมองผู้จัดการลี่ด้วยความประหลาดใจ ตาลุงคนนี้สมองเชื่องช้าแข่งกับฉิงฉิงได้เลย

ความเอาใจใส่ของคุณชายสามเย่นั้นต้องดูคนแล้วกระทำ ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าแม้ตายอยู่ที่ข้างทาง คุณชายสามเย่ก็จะไม่มองแม้แต่แวบเดียวมั้ง?

เลขาหลิวเม้มปาก นั้นเป็นภรรยาของท่านประธานนะ ท่านประธานจะไม่ใส่ใจได้อย่างไรกัน?

เย่ซือเฉินออกจากห้อง ดวงตาก็เคร่งขรึมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ข้อความที่เขาได้รับเมื่อกี้คือไป๋ยี่รุ่ยเข้ามาในโรงแรมแล้วขึ้นตึกไป

พอเธอออกจากห้อง เวลานี้ไป๋ยี่รุ่ยก็ขึ้นมา?!

เย่ซือเฉินออกจากห้องก็ไม่เห็นเวินลั่วฉิงแต่อย่างใด จึงเอามือถือโทรไปที่เบอร์หนึ่ง แต่โทรไม่ติดแจ้งเตือนว่าปิดเครื่องแล้ว

เย่ซือเฉินหยุดชะงัก จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ใช้เบอร์ที่เขาให้ แต่เปลี่ยนซิมใหม่แล้ว

เธอไม่ใช้เบอร์ของเขาก็ไม่เป็นอะไร แต่เปลี่ยนซิมใหม่แล้วก็ไม่บอกเขาสักคำ?

ผู้หญิงคนนี้……

เย่ซือเฉินถอนหายใจหนึ่งครั้ง

ไม่มีเบอร์ของเธอ เย่ซือเฉินก็ไม่สามารถติดต่อกับเธอได้ ดวงตาของเย่ซือเฉินยิ่งเคร่งขรึมขึ้น

เย่ซือเฉินกำลังอยากจะโทรบอกให้คนอื่นไปสืบค้น แต่ตอนที่เขาเดินมาตรงมุมเลี้ยว กลับเห็นเธอกำลังยืนอยู่คนเดียวที่หน้าต่าง

เย่ซือเฉินหยุดเดิน จากที่มีสีหน้าที่เคร่งขรึมกลับมาดีขึ้นในระยะที่สายตาสามารถมองเห็นได้ เขารับรู้ว่าความอัดแน่นที่ติดไว้ในใจก็ได้คลายลงแล้ว

เย่ซือเฉินก้าวเดินไปยังทิศทางของเธอ

“จบแล้วเหรอค่ะ?ไปได้แล้วเหรอค่ะ?”เวินลั่วฉิงหันมามองเห็นว่าเป็นเขา ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง

“ไปเถอะ”เย่ซือเฉินหยุดชะงักไปสักครู่แล้วยิ้มอ่อนๆ ดูเหมือนว่าเธอแค่ไม่ชอบการเข้าสังคมจึงหลบออกมา

ดูเหมือนว่าภรรยาของเขาจะไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ในด้านการทำธุรกิจสักเท่าไหร่ เธอออกมาคุยธุรกิจแบบนี้ ถ้าคุยสำเร็จจะเป็นเรื่องที่แปลกมากเลย

แต่ว่ามีเขาอยู่ เธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้หรอก

ถ้าภรรยาของเขาอยากจะกลับไป เขาจะกลับเป็นเพื่อนอย่างแน่นอน ส่วนในห้องวีไอพีมีเลขาหลิวอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

เย่ซือเฉินก็ไม่ได้ไปสนใจเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยอีก ไป๋ยี่รุ่ยอยากจะทำอะไรไม่สำคัญ สำคัญว่าภรรยาของเขาจะทำอย่างไรต่างหาก

ตั้งแต่ที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมาจนถึงที่โรงแรม สิ่งที่ไป๋ยี่รุ่ยทำ เธอก็รับรู้แต่เธอกลับไม่สนใจอะไรเลย

ถ้าหากว่าท่าทีที่เธอไม่สนใจเป็นการเสแสร้ง ถ้าเเสร้งทำได้เนี๊ยบขนาดนี้เขาก็คงต้องเชื่อแล้ว

เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงเดินมาถึงหน้าลิฟต์ พอประตูลิฟต์เปิดออกก็มีคนอยู่ในนั้นพอดี

ทั้งสามเกือบเงยหน้าขึ้นมองพร้อมๆกัน จากนั้นก็หยุดชะงักลง

สีหน้าของไป๋ยี่รุ่ยนั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่เวินลั่วฉิงยังคงไม่แยแสเหมือนเดิม ไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ปากของเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย มือเขาไปกอดเวินลั่วฉิงอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็กอดเวินลั่วฉิงเข้าลิฟต์ไป

เห็นได้ชัดว่าไป๋ยี่รุ่ยจะขึ้นไปที่ชึ้น 7 แต่ตอนนี้เขายืนอยู่ในลิฟต์ไม่ขยับไปไหน ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เวินลั่วฉิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เวินลั่วฉิงกลับไม่ได้มองเขา ตอนนี้เย่ซือเฉินกอดเธอต่อหน้าของไป๋ยี่รุ่ย เธอก็ไม่รู้สึกมีอะไรผิดแปลก สงบและเป็นธรรมชาติมาก เหมือนจะไม่รู้จักไป๋ยี่รุ่ยอย่างไงอย่างนั้น

เย่ซือเฉินพอใจกับท่าทีของเธอในขณะนี้เป็นอย่างมาก

ไป๋ยี่รุ่ยหายใจแผ่วเบา เธอกับเย่ซือเฉินเป็นอะไรกัน?

ประตูลิฟต์ปิด จากที่ลิฟต์มีพื้นที่ที่กว้างขวาง แต่ตอนนี้มีแค่พวกเขาสามคน กลับรู้สึกว่าคับแคบเป็นอย่างมาก

เยซือเฉินกอดเวินลั่วฉิงไว้พลางก้มหน้าลง เข้าใกล้หูเธอแล้วพูดด้วยเสียงราวกระซิบว่า “เมื่อคืนผมทำผ้าปูที่นอนสกปรก ตอนเช้าผมลืมซัก หลังจากลงจากตึกแล้วพวกเราไปซื้อใหม่ที่ห้างซุปเปอร์มาร์เกตกันนะ”

ถึงแม้คุณชายสามเย่จะพูดด้วยเสียงกระซิบ แต่ระดับเสียงนี้ก็เพียงพอที่จะให้ไป๋ยี่รุ่ยได้ยิน

เวินลั่วฉิงรีบละสายตาโดยเร็ว มองเขา ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาอยู่

คนที่ฉลาดอย่างเธอรู้ว่าเย่ซือเฉินจงใจจะพูดให้ไป๋ยี่รุ่ยฟัง ท่าทีของไป๋ยี่รุ่ยนั้นชัดเจน ทำไมเขาถึงจะดูไม่ออก เธอคิดว่าเขารู้เรื่องแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้ถาม เธอจึงไม่ได้พูด

แต่ว่าคำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้มันช่าง……

พลังคำพูดของเขาคำนี้มันใหญ่หลวงยิ่งนัก

อะไรคือทำผ้าปูเลอะเทอะและเขายังเพิ่มคำว่า เมื่อคืน เป็นพิเศษ เขาจะพูดให้มันแรงกว่านี้ไม่ได้เหรอ?

รบกวนถามหน่อยนะว่าจากปกติที่เป็นคนเย็นชาและน่าเกรงขามอย่างคุณชายสามเย่ ทำไมจึงพูดคำเหล่านี้ออกมาได้?

และเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้กลับบ้านไปนอนสักหน่อย

เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจพูดยุยวนให้ไป๋ยี่รุ่ย

ขอถามหน่อยว่าเขาจะโหดกว่านี้อีกหน่อยได้ไหม?!

ไป๋ยี่รุ่ยอึ้งอยู่กับที่ จ้องมองเวินลั่วฉิงด้วยความไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เขาไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อสิ่งที่เย่ซือเฉินพูด

เธอไม่ใช่คนแบบนั้น และเธอจะไปอยู่กับเย่ซือเฉินได้อย่างไรกัน?

“ทำไมถึงมองผมอย่างนี้ ถามคุณอยู่นะว่าลงจากตึกแล้วไปซุปเปอร์มาร์เกตกันไหม?”เย่ซือเฉินสบตาเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและน้ำเสียงที่นุ่มนวล

“ค่ะ”เวินลั่วฉิงแอบยิ้มอยู่ในใจ ถ้าเย่ซือเฉินคิดจะเล่นละคร เธอก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เพราะตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขา

และถ้าเกิดทำอย่างนี้แล้วทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตายใจไม่มายุ่งเกี่ยวกับเธออีก ก็ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

แต่ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคุณชายสามเย่นั้นเหมือนเด็กอนุบาล เธอคิดว่าคุณชายสามเย่จะกลายเป็นเด็กสามขวบแล้ว

“เชื่อฟังดีมาก”เย่ซือเฉินขยับปากยิ้ม ยิ้มได้อย่งพึงพอใจมาก พอใจที่เธอสามารถตอบอย่างเป็นธรรมชาติต่อหน้าของไป๋ยี่รุ่ยได้ จึงแสดงว่าเธอไม่คิดอะไรกับไป๋ยี่รุ่ยจริง

ในลิฟต์นั้น ไป๋ยี่รุ่ยโยกเยกไปมาเหมือนจะล้มลง สีหน้าของเขาก็ไม่น่าดูสักเลย

เธอตอบอย่างนี้แสดงว่าจะอยู่ที่เดียวกับเย่ซือเฉินแล้วใช่ไหม?

เป็นไปได้อย่างไง?นี้จะเป็นไปได้อย่างไร?

เธอกับเย่ซือเฉินเป็นไปไม่ได้?

เขาไม่เชื่อว่าเธอจะรักเย่ซือเฉิน คนที่เธอรักเป็นเขาต่างหาก เธอรักเขามากด้วย……

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset