บทที่ 155 คุณชายสามเย่กำลังโวยวายอะไรอยู่ (1)
เวลานี้เวินลั่วฉิงตั้งใจเลือกเสื้อผ้ามาก เวินลั่วฉิงลองจับเนื้อผ้าดู จึงเลือกสองชุดที่สวมใส่สบาย หลังจากที่เลือกได้แล้วพอดีกับจะหยิบขึ้นมา
ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เวินลั่วฉิงเห็นเบอร์โทรศัพท์ก็กะพริบตา จากนั้นจึงรีบรับสาย
“ลั่วฉิง ซ่งหยุนเกิดเรื่องแล้ว เธอมีข้อมูลที่สำคัญอยู่ในมือตอนนี้ถูกคนจับตามองอยู่ เธออยู่ที่เมืองA คุณไปรับเธอหน่อยสิ” น้ำเสียงอีกฝั่งหนึ่งของสายเป็นกังวลยิ่งนัก
“ได้ อยู่ไหน?”จากที่เวินลั่วฉิงถือเสื้อผ้าอยู่ในมือก็ได้วางลง จากนั้นก็เอียงกายไปทางที่ไม่มีผู้คน เธอไม่ได้ถามอะไรมาก ในเมื่อรุ่นพี่ได้โทรหาเธอเองก็แสดงว่ามันรุนแรงและเร่งด่านมาก
“ตอนนี้คุณกลับไปที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปก่อน แล้วฉันจะโทรไปอีกทีหนึ่ง พอถึงเวลานั้นคุณก็ให้หลิงเอ๋อคุ้มกันคุณออกจากบริษัทเวินซื่อกรุ้ปไปหาซ่งหยุน” อีกฝั่งหนึ่งของสายเยว่หงหลิงพูดเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ฟังแล้วรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก
“ได้” เวินลั่วฉิงเข้าใจดีว่าในห้างสรรพสินค้านั่นมีผู้คนพลุกพล่านไปมา ง่ายต่อการสะกดรอยตาม ดังนั้นรุ่นพี่สั่งอย่างนี้ก็เหมาะสมดีแล้ว
รุ่นพี่ระมัดระวังเช่นนี้ก็คงเป็นเรื่องที่รุนแรงจริงๆ เวินลั่วฉิงจึงไม่เสียเวลารีบออกจากจุดขายเสื้อผ้าเด็กแล้วลงจากตึกไป
ตอนแรกเย่ซือเฉินรอดูเธอซื้อเสื้อผ้า เมื่อกี้เธอกำลังจะซื้ออยู่แล้วเชียว แต่เมื่อรับสายโทรศัพท์ก็จากไปกะทันหันเลย?
ใครเป็นคนโทรมานะ?มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?
ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะแต่งงานกับเธอแล้ว แต่ไม่เคยก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเธอเลยและไม่เคยใช้คนให้ติดตามเธอด้วย แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินกลับทนไม่ไหวอยากจะสะกดรอยตามเธอ
หลังจากที่เวินลั่วฉิงออกจากห้างสรรพสินค้าก็รีบเรียกรถแท็กซี่
ตอนที่เย่ซือเฉินออกมา เธอก็ขึ้นรถแท็กซี่แล้ว และเมื่อกี้เขาได้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านล่าง ถ้าหากไปขับรถขึ้นมาตอนนี้คงจะไม่ทันการเสียแล้ว ดังนั้นเย่ซือเฉินก็เรียกรถแท็กซี่มาหนึ่งคันด้วยเช่นกัน
“ตามรถคันหน้าไป แต่อย่าเข้าใกล้มากเกินไปนะ ไม่ต้องให้เขาสังเกตเห็นนะ”เย่ซือเฉินรู้ว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนที่มีความระมัดระวังสูง อย่างครั้งที่แล้วที่ไป๋ยี่รุ่ยสะกดรอยตามพวกเขา เธอก็สามารถสังเกตเห็นในเวลาอันรวดเร็ว และเลขาหลิวที่กำลังขับรถอยู่นั้นยังไม่ทันเห็นเลย
คนขับรถแท็กซี่ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เมื่อขับรถแท็กซี่มานานแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นเห็นเรื่องแปลกเป็นเรื่องที่ปกติไปเสียแล้ว
คนขับรถแท็กซี่มีเทคนิคการขับที่ดีมาก บวกกับการชี้แนะของเย่ซือเฉิน จึงแอบซ่อนได้ดีทีเดียว พวกเขาไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังให้มีรถสองสามคันขับหลังรถแท็กซี่ที่เวินลั่วฉิงนั่งไว้อีก
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เวินลั่วฉิงที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่คันหน้าก็สังเกตเห็นเสียแล้ว เพราะตอนนี้อยู่ในยามคับขัน ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงระมัดระวังกว่าปกติ
ดวงตาของเวินลั่วฉิงยิบหยี แต่เธอไม่ได้กระทำอะไรและไม่ได้แสดงความผิดปกติแต่อย่างใด
ตอนนี้เธอกำลังกลับไปที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ป ดังนั้นถึงจะมีคนตามเธออยู่แต่ก็ไม่สามารถได้เห็นอะไร
“ฉันถูกคนติดตาม” แต่เวินลั่วฉิงยังคงส่งข้อความให้เยว่หงหลิง
“พวกเขาติดตามคุณเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?น่าจะเป็นไปไม่ได้ สถานะในเมืองAที่คุณเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินพวกเขาไม่มีทางรู้แน่ ตอนที่ฉันโทรหาคุณอยู่นั้น มู่หรงดัวหยางก็ได้ตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็ไม่พบเห็นจะมีใครเลย น่าจะไม่ใช่พวกเขา”เยว่หงหลิงตอบข้อความเธออย่างรวดเร็ว
“ไม่แน่ใจว่าเป็นใครกัน ดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เพราะเป็นรถแท็กซี่ ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่รู้ว่าเป็นใครกัน เนื่องจากยังไม่แน่ใจ จึงไม่ได้ทำอะไรโดยพละการ
“โอเค คุณระวังตัวด้วย เพื่อความปลอดภัยหากคุณหลุดจากการติดตามแล้วก็ติดต่อฉันด้วยนะ”เยว่หงหลิงตอบข้อความอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าคนพวกนั้นไม่สังเกตเห็นเวินลั่วฉิงเร็วขนาดนี้หรอก แต่ก็ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า
เวนลั่วฉิงกำมือถือไว้แล้วจับตาดูสถานการณ์ด้านหลังอย่างตั้งใจ เธอเม้มปากขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอถูกติดตามตั้งแต่ที่ออกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร?และติดตามเธอเพื่ออะไร?
เพราะรถแท็กซี่คันนั้นมีรถหลายคันอยู่ด้านหน้า และคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ที่แถวหลังของรถแท็กซี่คันนั้น ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงเห็นได้ไม่ชัดเจน
เวินลั่วฉิงเห็นว่ากำลังจะไปถึงที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปแล้ว มุมปากของเธอยกขึ้น เธอกำลังคิดว่าต่อจากนี้เธอก็น่าจะรู้ว่าคนที่ติดตามเธอเป็นใครกัน
รถแท็กซี่ที่เวินลั่วฉิงนั่งได้จอดอยู่ที่หน้าตึกบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เวินลั่วฉิงเปิดประตูลงจากรถ จากนั้นก็เดินเข้าไปภายในตึกของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป
เย่ซือเฉินเห็นเธอเดินเข้าไปที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ป ดวงตาก็กะพริบอย่างรวดเร็ว เขาคิดมากไปหรือเปล่า?หรือเธอสังเกตเห็นว่ามีคนติดตาม จึงจงใจเข้ามาที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปกันแน่?
เย่ซือเฉินคิดว่าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ในเมื่อเขาได้มาถึงที่นี่แล้วก็ควรจะลงจากรถไปดู
ถ้าเกิดว่าเธอยังไม่เห็น เขาก็ต้องลงจากรถไปดูว่าเธอรีบกลับมาทำไม?
ตอนแรกเธอกำลังตั้งใจเลือกเสื้อผ้าอย่างมีความสุขอยู่แล้ว แต่จู่ๆก็ไม่ซื้อเสียแล้ว ถ้าเกิดไม่มีเรื่องสำคัญก็คงจะไม่ถูก
แน่นอนว่าถ้าเธอเห็นเขาแล้วจริงๆ เขาก็ควรที่จะลงจากรถด้วย
หลังจากที่เวินลั่วฉิงลงจากรถก็เอามือถือออกมา เธอแกล้งทำเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แต่ความจริงคือเปิดกล้องถ่ายรูป และปรับให้เป็นการถ่ายโดยอัตโนมัติ
หลังจากที่เธอเดินเข้าที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปแล้ว เธอคำนวณเวลาเสร็จแล้วก็เอามือถือออกจากข้างหูมาด้านหน้าเล็กน้อยและปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจึงไม่ต้องหันหลังไปมองก็สามารถดูสถานการณ์ด้านหลังในมือถือได้อย่างชัดเจน
ตอนที่เธอมองเห็นเย่ซือเฉินลงจากรถแท็กซี่ผ่านทางกล้องโทรศัพท์ ดวงตาก็กะพริบไปมา ทำไมถึงเป็นเย่ซือเฉินล่ะ?เขาไปส่งเมิ่งโร่ถิงแล้วมิใช่หรือ!!
ทว่าทำไมเขาถึงได้ติดตามเธอ?
ขณะที่เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่นั่นก็เห็นเย่ซือเฉินเดินเข้าตึกของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปมา เวินลั่วฉิงถอนหายใจหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เก็บมือถือไว้อย่างไม่เหลือร่องรอยไว้
หากพบว่าคนที่ติดตามเป็นคนอื่น เวินลั่วฉิงก็จะต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาด แต่คนคนนี้เป็นเย่ซือเฉิน จึงต้องพูดอีกทีหนึ่ง
เธอยังไม่แน่ใจว่าเย่ซือเฉินติดตามตัวเธอนั้นมันเป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจจะทำกันแน่?เธอรู้สึกว่าต้องทำจุดนี้ให้กระจ่างเสียก่อน
เวินลั่วฉิงไม่ได้หันกลับไปมอง ยังคงก้าวเดินในจังหวะที่เหมือนเดิม ไม่ได้เร็วขึ้นและไม่ได้ช้าลง
หลังจากที่เวินลั่วฉิงเดินเข้าลิฟต์ส่วนตัวแล้วถึงจะหันหลัง จากนั้นก็เห็นเย่ซือเฉินเดินมาที่ลิฟต์
เวินลั่วฉิงมิได้รีบร้อนจะปิดลิฟต์ เธอยืนมองเขาอยู่ในลิฟต์ นาทีต่อมาคุณชายสามเย่ก็ได้เดินเข้ามาในลิฟต์อย่างรวดเร็ว
เวินลั่วฉิงเห็นเขาเดินเข้าลิฟต์อย่างเปิดเผย หางคิ้วจึงยกขึ้นเล็กน้อย
เขาตามเข้ามาตอนนี้เพื่อจะคุยอะไรกับเธอกันนะ?