ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 163 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจ(3)

บทที่163 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจ(3)

“ผู้หญิงคนนี้มันแสบจริงๆ หรือเธอจะรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่” คุณชายห้าฉิงกระตุกมุมปาก”ไม่ใช่สิ หากเธอรู้ว่ามีกล้องวงจรปิด เธอไม่ลงจากรถตรงนี้แน่นอน นี่คงเป็นการระวังตัวด้วยเป็นนิสัยของเธอ หรือจากเป็นการทำผิดแล้วเกิดความระแวงกันแน่ แต่ว่า ตรงที่เธอลงจากรถนั้นรอบๆมันดูโล่งๆ แม้แต่ที่ซ่อนตัวยังไม่มี เธอไม่กลัวว่าตอนนั้นพวกเราจะเห็นหรือไง”

เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอเลือกลงจากรถทันทีเมื่อพ้นจากโรงแรม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุด เพราะว่า พวกคนที่ตกใจจากระเบิดมือยังไม่ได้ทันได้สติ และทางเขาก็ยังตามจับไม่ทัน

แต่ว่า รอบๆนั้นโล่ง มันสามารถเห็นตัวได้ง่ายมาก และกลางค่ำกลางคืนมาถือร่มยิ่งชัดเจนไปใหญ่

คนอย่างเธอฉลาดจะตาย ซึ่งไม่ควรจะทำพลาดแบบนี้

เย่ซือเฉินจ้องมองคลิป ไม่แม้แต่จะกระพริบตา

เขาเห็น’ร่มดำ’เคลื่อนไหวไปกลางถนนอย่างรวดเร็ว เป็นความเร็วที่เร็วมาก ไม่แพ้ความเร็วของผู้ชายปกติเลยสักนิด

เธอจะทำอะไรกันแน่”คุณชายห้าฉิงขมวดคิ้ว ดวงตากลมเบิกกว้าง

ต่อมา ก็เห็นเพียงคนในคลิป กระโดดผ่านราวกั้นถนน พลิกไปที่ตรงข้าม

ในถนนนี้ราวกั้นสูงมาก คนปกติไม่สามารถกระโดดข้ามไปง่ายๆได้แน่ และตลอดการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้น ร่มที่ถืออยู่ในมือเธอยังสามารถบังร่างเธอได้ดี ไม่เผยออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

“ฝีมือโคตรยอดเยี่ยมเลย นักอาชญากรรมจิตวิทยาฝีมือดีแบบนี้เลยเหรอเนี่ย ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”คุณชายห้าฉิงถึงกับตะลึงอึ้งไปเลย นี่เก่งมากๆ จนเก่งกว่าเขาอีก

เย่ซือเฉินนึกถึงสถานการณ์เมื่อห้าปีก่อนที่เธอกระโดดเข้ามาภายในห้องเขา ชั้น 22 เธอได้กระโดดข้ามห้องเจ้าสี่มาห้องเขายังง่ายดาย

ไม่เพียงต้องการความกล้า แต่ยังต้องใจกล้าและมีเทคนิคทักษะด้วย

ใช่ เธอนั้นไม่ธรรมดามาตลอด และไม่ธรรมดามากเสียด้วย

ภายในคลิปวีดีโอ เธอยังคงกางร่มเช่นเดิม ข้ามผ่านถนน จากนั้นก็เดินเข้าไปในปั๊มน้ำมันข้างทาง

เธอเดินเข้าไปในมินิซูเปอร์มาร์เก็ตข้างปั๊มน้ำมัน

มุมกล้องไม่สามารถถ่ายโดนข้างในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ แต่ว่า ในปั๊มน้ำมันทั้งหมดมีเพียงทางออกเดียวเท่านั้น

ในยามนี้ นอกปั๊มน้ำมันไม่มีผู้คน แล้วไม่มีรถวิ่งเข้าออก

เย่ซือเฉินเร่งภาพให้เร็วขึ้น แต่ก็ไม่ผลกระทบต่อการตรวจเช็ก

ภายในภาพ เธอยังไม่ได้ออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต

“ในปั๊มน้ำมันนี้มีเพียงทางออกเดียว เธอยังคงอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแน่”ในที่สุดใบหน้าของคุณชายห้าฉิงก็เผยถึงความดีใจออกมา “พี่สาม ไปตอนนี้ คงจับเธอไว้ได้แน่”

แววตาเย่ซือเฉินนิ่งไป ไม่ขยับ และเริ่มปรับเร่งความเร็วภาพในคลิป แต่ว่า กลับพบว่า ไม่ว่าจะปรับเร่งอย่างไง ภาพในคลิปยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ยังไร จนเห็นได้ชัดว่ามันถูกตัดต่อตั้งนานแล้ว

เพราะในบนภาพนั้นไม่มีคน และไม่มีสรรพสิ่ง การเคลื่อนที่ได้ เพราะแบบนี้ จึงยากมองออกยากถึงความเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้น และที่สำคัญ ในระหว่างที่เขาเช็กดูภาพนั้นยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอด จึงทำให้คนรู้สึกพลาดคิดว่ากล้องวงจรปิดยังคงทำงานตามปกติ

แต่ว่า เห็นได้ชัด ว่าตอนเธอเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น กล้องวงจรปิดก็ถูกคนแก้ไขแล้ว ภาพถูกตัดต่อในตอนนั้นเอง เพียงแต่ เขาไม่เข้าใจ ว่าภาพในการเคลื่อนไหวนั้นทำออกมาได้ยังไง

เขาลองเช็กดูคลิปวีดีโออื่น กลับพบว่า กล้องวงจรปิดในสวนนี้ไม่สามารถใช้ได้แล้ว แต่ที่สวนอื่น

ยังเป็นปกติเหมือนเดิม

ดูเหมือนว่า จะพบมือโปรในด้านนี้เข้าแล้วจริงๆ

เขารู้ ว่าตอนนี้เธอไม่อยู่ตรงปั๊มน้ำมันแน่นอน

เพราะฉะนั้น เพื่อหนีออกจากน้ำมือของเขา เธอทำได้ทุกอย่างจริงๆ

ดี ดีมากๆ

ในค่ำคืนที่หนาวเย็น แต่ตอนนี้ดวงตาเขากลับหนาวเย็นดั่งน้ำแข็ง

คุณชายห้าฉิงดวงตาเบิกกว้าง จ้องนิ่งไปยังภาพในคลิปวีดีโอ เนิ่นนานจนไม่ได้สติ

คุณชายห้าฉิงประสานตากับเย่ซือเฉิน แล้วเกิดตะลึงอึ้งในใจ

“พี่สาม ให้ผมไปดูก่อนไหม”คุณชายห้าฉิงยังไม่ตายใจเสียทีเดียว จึงอยากออกไปดู

“เฉียวหยูหนานยังอยู่ที่โรงแรมไหม”นัยน์ตาเยือกเย็นของเย่ซือเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วจู่ๆถามประโยคนี้ออกมา ขณะนี้น้ำเสียงเขาฟังดูแผ่วเบา แต่กลับซ่อนความเยือกเย็นสุดขั้วเอาไว้

ก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงส่งข้อความมาให้เขา บอกว่าคืนนี้เธอจะไม่กลับมา ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะไม่ตกลง แต่เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สนใจว่าเขาจะตอบตกลงรึเปล่า

ดังนั้น ถึงตอนนี้เขากลับบ้านไปก็จับคนอย่างเธอไม่ได้ และเธอมีข้อแก้ตัวที่จะหลุดพ้นได้

เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่รีบที่จะกลับบ้าน

“อยู่ครับ”คุณชายห้าฉิงแอบรู้สึกหนาวที่แผ่นหลัง ตอนนี้พี่สามช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน

“ให้คนพาเฉียวหยูหนานไปที่ห้องรับแขกชั้นหนึ่ง”ตอนนี้ปล่อยให้เธอหนีไปก่อน ไม่ว่ายากแค่ไหนเขาก็จะหาหลักฐานออกมาให้ได้

ห้องรับแขกชั้นหนึ่ง

ขณะนี้ ใบหน้าเย่ซือเฉินยังคงใส่หน้ากากเอาไว้ เพราะเขาตั้งใจที่จะไม่ถอดออกมา

“ฉันไม่ทราบจริงๆค่ะว่าเธอเป็นใคร เธอใส่หน้ากากเอาไว้ ฉันจึงมองไม่ออกว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงค่ะ”เฉียวหยูหนานรู้สึกตัวเองถูกใส่ร้าย แล้วแสนจะลำบากใจ ในตอนนี้สติเธอยังกลับมาไม่หมด จนถึงกับจำเย่ซือเฉินไม่ได้เลย

“คุณไม่รู้ว่าเธอคือใครแล้วทำไมยังช่วยเธออีกล่ะ ทางที่ดีคุณคิดก่อนแล้วพูด เรื่องนี้ผมจะตรวจสอบด้วยตัวเอง คุณคงรู้ความผิดร้ายแรงของมันใช่ไหมครับ”คุณชายห้าฉิงเอ่ยทุกคำพร้อมกับคำขู่

“เพราะ เพราะว่าเธอข่มขู่ฉันค่ะ เธอเอาปืนมาข่มขู่ฉันค่ะ”สีหน้าเฉียวหยูหนานเปลี่ยนเล็กน้อย คำพูดฟังดูสับสน และหลบหลีกสายตา ดูปุ๊บก็รู้เลยว่ากำลังโกหก

“หากเธอเอาปืนมาข่มขู่คุณจริง ตอนลิฟต์หยุดลงที่ชั้นหนึ่ง ตอนคุณออกมาลิฟต์สิ่งแรกที่ควรทำคือร้องตะโกนให้คนช่วย ไม่ใช่แกล้งบาดเจ็บ ขวางทางไม่ให้พนักงานเข้าลิฟต์”คุณชายห้าฉิงยิ้มอย่างเย็นชา”ต่อหน้าผม คุณไม่ควรพูดโกหกจะดีที่สุดนะครับ ไม่งั้นผมอาจสงสัยว่าคุณเป็นพวกเดียวกับเธอก็ได้ เมื่อกี้ตอนเธอออกจากโรงแรมนั้น ได้ขว้างระเบิดมือมาลูกหนึ่ง บาดเจ็บทั้งหมดเจ็ดคน หากจับตัวเธอไม่ได้ งั้นคุณ……”

“ฉันไม่ใช่พวกเดียวกับเธอ ไม่ใช่จริงๆ ฉันไม่รู้จักเธอจริงๆนะคะ”เฉียวหยูหนานตกใจจนหน้าซีด จนร่างกายเริ่มสั่นเธอไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะร้ายแรงมากเพียงนี้

“งั้นก็พูดความจริงออกมา ให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย”ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าบางครั้งคุณชายห้าฉิงก็ไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาเสียเลย

“เธอ เธอเอาความลับบางอย่างมาข่มขู่ฉันค่ะ เพราะฉะนั้น ฉันจึงไม่ช่วยเธอไม่ได้”

“ความลับของคุณ ความลับอะไร แล้วเธอรู้ได้ยังไง”คุณชายห้าฉิงขมวดคิ้ว รู้สึกประหลาดใจกับคำตอบอย่างเห็นได้ชัด

นี่ถือว่าเป็นการก้าวผ่านไปอีกขั้น อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับเฉียวหยูหนาน และเหมือนรู้จักกันดีเสียด้วย ไม่งั้นก็คงไม่รู้ความลับของเฉียวหยูหนาน

นัยน์ตาเย่ซือเฉินเปล่งประกายชั่ววูบหนึ่ง

“นี่คือเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันไม่สามารถบอกได้ แล้วฉันก็ถูกบังคับเสียด้วย ฉันก็ถือเป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกันนะคะ คุณตำรวจอย่างพวกคุณก็ควรปกป้องฉันถึงจะถูก”เฉียวหยูหนานหลบสายตาเล็กน้อย นั้นคือความลับของเธอ เธอพูดไม่ได้เด็ดขาด และยิ่งไม่ควรพูดกับฉิงถิงด้วย

เพราะเธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉิงถิงกับเย่ซือเฉิน ถ้าฉิงถิงรู้เย่ซือเฉินก็ต้องรู้เหมือนกัน

“แต่ว่า เธอดูเหมือนรู้เรื่องของฉันเป็นอย่างดี”ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าเฉียวหยูหนานนั้นฉลาดมากเลยทีเดียว เธอรู้ควรทำเช่นไรถึงจะเป็นผลดีกับตัวเองมากที่สุด