ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 165 ในยามดึก กับการสอบสวนของคุณชายสามเย่ (2)

บทที่165 ในยามดึก กับการสอบสวนของคุณชายสามเย่ (2)

หากไม่ได้ตกหายที่โรงแรม งั้นหายตอนไหนกันนะ

เธอจำได้ว่าตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ปาร์ตี้นั้น เธอยังตรวจอย่างละเอียด แล้วตอนนั้นก็ยังอยู่

ข้อมูลนั้นสำคัญขนาดไหน ในใจเวินลั่วฉิงรู้ดี วันนี้หายไปแล้ว ผลที่จะตามมานั้นเธอไม่กล้าคิดเลยจริงๆ

ต่อมา เวินลั่วฉิงอยากจะรีบใส่เสื้อผ้า แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเอสซี การ์ดอยู่ที่ไหนกันแน่ และแม้เธอจะรู้ว่าตอนนี้กลับไปจะอันตรายแค่ไหน แต่เธอก็จำเป็นต้องไปหาในตอนนี้

เพียงแต่ ในตอนนี้ จู่ๆเวินลั่วฉิงก็เห็นแสงข้างกระจกรถส่องเข้ามา แล้วยังมีเสียงรถขับเข้ามาอีก

เวินลั่วฉิงตะลึงตกใจ เย่ซือเฉินกลับมาแล้วใช่ไหม

เวินลั่วฉิงหยุดใส่เสื้อผ้าไว้ เธอฟังอย่างเงียบไป จากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากชั้นล่าง

รู้ได้เลย ว่าเย่ซือเฉินได้กลับมาแล้วจริงๆ

เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ เย่ซือเฉินกลับมาแล้ว เธอจะออกไปตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด

และตอนนี้หากเธอจะออกไปจากประตูจริงๆละก็ ก็กลัวว่าเย่ซือเฉินจะไม่อนุญาตเธอ

เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงเท้าเดินเข้ามาชั้นบน เธอก็รีบวางเสื้อผ้าไว้ข้างๆ จากนั้นก็นอนลงบนเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุม แล้วแกล้งทำเป็นหลับ

เธอกลัวว่าเย่ซือเฉินจะขึ้นชั้นบนมาตรวจดูที่ห้องเธอ

แต่ที่ทำให้เธอประหลาดใจคือหลังจากที่เย่ซือเฉินขึ้นมาชั้นบนแล้ว ไม่เข้ามาห้องเธอ ในตอนแรกนั้นเธอเลือกห้องข้างในสุดในนี้ ตอนนี้ เธอได้ยินเย่ซือเฉินเดินไปสักพักก็หยุด จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก

นับคำนวณจำนวนก้าวที่เขาเดินขึ้นมาจากชั้นบนนั้น เย่ซือเฉินคงเข้าไปในห้องสมุด

ดึกขนาดนี้เขาเข้าไปห้องสมุดทำอะไรนะ

ในใจเวินลั่วฉิงซ่อนความสงสัยมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็นอนอยู่ที่เตียงไม่ขยับ เธอรู้ว่าในเวลานี้เธอขยับไม่ได้เด็ดขาด แต่ว่าเธอคิดไปคิดมา แล้วจึงจะหยิบชุดนอนมาใส่อย่างระมัดระวัง

ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงเท้าเย่ซือเฉินอีกครั้ง รู้ได้เลยว่าเขาได้ออกมาจากห้องสมุดแล้ว

หลังจากเย่ซือเฉินออกจากห้องสมุด แววตาคู่นั้นก็จับจ้องไปยังห้องนอนเวินลั่วฉิง ต่อมา สายตาก็เขาได้หรี่ลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีบก้าว

เดินตรงไปที่ห้องของเวินลั่วฉิงทันที

ภายในห้อง เวินลั่วฉิงกำลังนอนบนเตียงคิดเรื่องเย่ซือเฉินไปห้องสมุดอยู่ ได้ยินเสียงเดินข้างนอกที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว เธอก็ตกใจไม่น้อย

เย่ซือเฉินคิดจะมาที่ห้องเธอเหรอ

เพราะห้องนอนเย่ซือเฉินไม่ได้อยู่ทางนี้ แต่กลับอยู่อีกด้านที่ตรงกันข้ามกัน

แม้ก่อนหน้านี้เธอจะเตรียมตัวไว้แล้ว แต่ก็ยังอดตื่นเต้นกังวลไม่ได้อยู่ดี เธอถึงกับรู้สึกว่าอัตราการเต้นของหัวใจตัวเองนั้นเสียจังหวะไปหมด

เธอไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่ตอนนี้เธอกลัวเย่ซือเฉินจริงๆ

เวินลั่วฉิงแอบหายใจออก และหายใจเข้า เพื่อพยายามให้ตัวเองสงบลงมา เธอหลับตาลง แล้วแกล้งนอนต่อ พยายามแกล้งให้ธรรมชาติปกติ และแกล้งทำให้เหมือนที่สุด

ต่อมา เย่ซือเฉินก็ได้เปิดประตูห้องเธอ……

ในขณะนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกเหมือนใจของตัวเองนั้นจะเต้นหลุดออกมาแล้ว ยังดีที่เธอคลุมผ้าห่มไว้ และในห้องก็ไม่ได้เปิดไฟ เพราะฉะนั้นเย่ซือเฉินมองไม่ออกถึงความเปลี่ยนแปลงแน่นอน

แม้เย่ซือเฉินมองไม่เห็นพิรุธของเวินลั่วฉิง แต่เพราะแสงจากข้างนอกที่ส่องมา เขากลับเห็นได้ชัดเจนถึงเงาร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียง

ในตอนนั้น เย่ซือเฉินหยีตาพร้อมกับประกายแวววาว มุมปากค่อยๆกระตุกขึ้น เหมือนยิ้มแล้วไม่ยิ้ม

ดี ดีมาก ไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับมาแล้ว และตอนนี้ยังแกล้งหลับอยู่บนเตียงด้วย

เย่ซือเฉินยื่นมือออกไป เปิดไฟในห้อง และเป็นไฟดวงที่สว่างที่สุดในห้อง

แสงไฟที่สว่างขึ้นอย่างกะทันหันนั้นทำให้เวินลั่วฉิงปรับตัวไม่ได้เล็กน้อย แต่เธอก็ยังแกล้งทำหลับต่อ

จู่ๆแสงไฟก็สว่างเลยทำให้เปลือกตาเธอมีการสนอง แต่ว่า เวินลั่วฉิงก็อดทนเอาไว้ ไม่เผยพิรุธออกมาแม้แต่น้อย

แม้การเปิดไฟที่กะทันหันนั้นจะมีผลกระทบ แต่เวลานี้เป็นช่วงที่คนนอนหลับลึกที่สุด เพียงเปิดไฟนั้นไม่เพียงพอสำหรับการตื่นของคนที่หลับลึก

แน่นอน สิ่งที่สำคัญคือเวินลั่วฉิงไม่สะดวกที่จะตื่นขึ้นมาในตอนนี้ เพราะถ้าตื่นขึ้นมาในตอนนี้ เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับเขา และต้องเผชิญหน้าเกี่ยวกับเรื่องมากมาย

แกล้งหลับในตอนนี้จึงเป็นวิธีหลีกเลี่ยงได้ดีที่สุด

นัยน์ตาเย่ซือเฉินจ้องมองไปยังเธอ และภายใต้นัยน์ตานั้นมีรอยยิ้มเผยออกมา เพียงแต่รอยยิ้มที่เห็นนั้นกลับทำให้คนรู้สึกขนพองสยองเกล้ายังไงไม่รู้

เย่ซือเฉินเดินไปตรงหน้าเตียง ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้เรียกเธอด้วย สายตาเขาจ้องมองเสื้อผ้าวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงของเธอ ที่เห็นได้ชัดคือชุดชั้นในที่อยู่ข้างบนสุด

เวินลั่วเฉินนอนอยู่เตียง ไม่กล้าลืมตา จึงไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

เพียงไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆ ในใจเธอก็เริ่มร้อนรน เขาทำอะไรกันแน่ คงไม่สังเกตเห็นอะไรเข้าแล้วใช่ไหม

เพราะตอนที่เธอเข้ามานั้นไม่ได้เปิดไฟ ในความมืดนั้นอาจมีทิ้งให้เห็นอยู่ก็ได้

แน่นอน เวินลั่วฉิงยังคงแกล้งหลับต่อ เพราะฉะนั้นเธอจะขยับไม่ได้ และลืมตาไม่ได้เช่นกัน

เธอมีเพียงใบหูที่สามารถยังฟังได้ แต่ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่หลุดเสียงพูดอะไรออกมาทั้งนั้น

เย่ซือเฉิหันไปมองเวินลั่วฉิงที่กำลังแกล้งหลับอยู่บนเตียงชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือออกมา หยิบชุดชั้นในเธอขึ้นมา

เขาหยิบชุดชั้นในเธอแล้ว ก็พลิกมาดู ในชุดชั้นในยังมีอีกชั้นซ่อนอยู่ ใช้ใส่ฟองน้ำเสริมอก แต่ว่า ตอนนี้ชุดชั้นในตัวนี้เธอไม่ได้ใส่ฟองน้ำเสริมอกแล้ว

จากไซส์ของเธอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ฟองน้ำเสริมอกของพวกนั้นหรอก

ชุดชั้นในนี้ของเธอดีไซน์องศากำลังดี ปากทางด้านในไม่ใหญ่มาก และมีความลาดเอียงจากบนถึงล่าง ดังนั้นเมื่อใส่ของเข้ามา ชุดชั้นในที่ใส่ไว้กับตัวก็จะแนบชิดกับผิว จากไซส์ของเธอนั้นเพียงพอสำหรับเติมเต็มในช่องว่างนี้ ของที่ใส่ไว้ข้างในไม่ตกอย่างแน่นอน

อืม ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าเป็นที่ซ่อนของที่ดีมากๆ

แต่ว่า……

เย่ซือเฉินจับชุดชั้นในนั้นไว้ แล้วนั่งลงที่ข้างเตียงเธอ เขาก็ยังไม่พูดอะไรเช่นเดิม และไม่มีการเคลื่อนตัวอะไรที่ทำให้เธอตื่นเลย

เขามองดูเธออยู่เช่นนั้น เขาอยากรู้จริงๆว่าเธอจะแกล้งหลับอยู่ภายใต้การเฝ้าดูมองของเขาได้นานสักแค่ไหน

แต่ว่า เย่ซือเฉินประเมินความอดทนของเธอต่ำไป

เวินลั่วฉิงยังคงหลับต่อไป ภายในการเฝ้ามองดูของเขา เธอยังคงหลับอยู่เช่นเดิม และยังคงมีท่าทีหลับสนิท

เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจ เขารู้ ว่าถ้าตอนนี้เขาไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอคงจะแกล้งหลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ

จู่ๆเขาก็ก้มหน้าลง แล้วกัดที่ริมฝีปากเธอแรงๆ ที่จริงตอนนี้เขามีความคิดที่จะกัดเธอให้ตายเสียด้วย

เวินลั่วฉิงที่เริ่มแกล้งต่อไม่ไหว ตอนนี้มาโดนเขากัดอย่างแรงๆแบบนี้อีก เธอก็ต้องตื่นขึ้นทันที

“โอ๊ย เจ็บ”เวินลั่วฉิงเอ่ยเสียงแผ่วเบา แล้วลืมตาขึ้น แกล้งทำเหมือนเพิ่งตื่น สีหน้ามึนงง จ้องมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าเธอแสดงสมจริงเป็นอย่างมาก จนไม่มีพิรุธเลยสักนิดเดียว

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset