ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 195 คุณชายเย่สามพบเข้าแล้ว(5)

บทที่ 195 คุณชายเย่สามพบเข้าแล้ว(5)

เย่ซือเฉินเห็นชื่อที่อยู่ในรายการบันทึกโทรเข้าออกนั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เย่ซือเฉินคิดๆแล้ว ยังไงก็ยังโทรออกไป จากนั้นก็เปิดเป็นสปีดโฟน ยื่นไปข้างหน้าของเวินลั่วฉิง ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เขาโทรออก เพื่อให้เธอพูด จากนั้นเขาก็สามารถได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน

แม่งเอ๊ย ขณะนี้เวินลั่วฉิงอยากที่จะด่าคน ยังอยากกัดคนด้วย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตั้งแต่ได้พบกับเย่ซือเฉิน เธอวู่วามอยากที่กัดเขาบ่อยครั้ง

ไม่ น่าจะวู่วามเพราะอยากกัดเขาให้ตาย

“ฮาโหล ฉิงฉิง ทำไมเหรอ?” เวลานี้อารมณ์ของเห่อถงถงจมดิ่งลงมาก ไม่มีความอารมณ์ใดๆเลยแม้แต่น้อย

“ไม่มีอะไร เธอกำลังพักผ่อนอยู่ไม่ใช่เหรอ? งั้นเธอพักผ่อนเถอะ” ฉันวางแล้วนะ เวินลั่วฉิงฟังออกว่าอารมณ์เธอไม่ปกติเท่าไหร่ แต่เวลานี้ไม่กล้าที่จะคุยกับเธอมากนัก พูดเยอะเกินกลัวความแตก

“อ้อ ดี บายบาย” เห่อถงถงนิ่งไปสักพัก ตอบตามอารมณ์เพียงไม่กี่คำ จากนั้นก็วางสาย

“ลูกจ๋า ทำไมต้องให้แม่บุญธรรมพูดแบบนี้ นั่นคือหม่ามี๊ของหนูนะ หม่ามี๊ของหนูได้มารับพวกเราแล้ว” หลังจากที่เห่อถงถงวางสาย ก็ได้มองไปที่ถังจื่อโม่ ทั้งหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยที่ไม่มีคำตอบ

“แม่บุญธรรม พวกเราอย่าเพิ่งไป รออีกแป๊บ” ถังจื่อโม่ดึงเห่อถงถงเดินไปอีกฟาก

“ทำไมละ? หม่ามี๊หนูรออยู่ข้างนอก เดี๋ยวจะหม่ามี๊จะร้อนใจ” เห่อถงถงไม่เข้าใจ

“ไม่ครับ หากพวกเราออกไปตอนนี้ หม่ามี๊ของผมถึงจะร้อนใจจริงๆ แม่บุญธรรม ฟังผมเถอะ ไม่ผิดแน่นอน” แววตาของถังจื่อโม่จริงจังมาก ถึงขั้นเคร่งขรึมมาก

“ได้” เห่อถงถงรู้ว่าปกติถังจื่อโม่เป็นเด็กหัวไว เห็นรูปลักษณ์ของเขาอย่างนี้ ก็ต้องยิ่งเชื่อ

ในขณะที่ถังจื่อโม่และเห่อถงถงคุยเรื่องเหล่านี้กันก็ได้กันถังจื่อซีออก ตอนนี้ถังจื่อซีที่กินอมยิ้มอยู่ สายตากำลังจ้องมองหาแม่

จากการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อกี้ เย่ซือเฉินฟังไม่ออกว่ามมีความผิดปกติอันใด ที่สำคัญคนที่รับสายคือผู้หญิง ทำให้คุณชายสามเย่ไม่ได้สงสัยมาก เขาก็ได้เปิดดูที่กล่องข้อความของเธอ

ข้อความที่จื่อโม่ส่งมานั้น เวินลั่วฉิงได้ลบออกไปนานแล้ว ดังนั้นในข้อความก็ไม่มีอะไร

เพียงแต่ ในโทรศัพท์ข้างในยังมีอย่างอื่นอีก ถึงแม้ไม่ใช่ความลับอะไร แต่ก็สามารถเปิดเผยเรื่องบางอย่างได้เหมือนกัน

หากเขาเปิดดูจริง เกรงว่า…………

ไม่พูดไม่ได้แล้ว เย่ซือเฉินบางครั้งก็เป็นสุภาพบุรุษมาก เขาดูแค่บันทึกสายที่โทรเข้าโทรออกและข้อความ อย่างอื่นเขาไม่ได้ไปดูมั่ว ก็คืนโทรศัพท์ให้กับเธอ

เวินลั่วฉิงรับโทรศัพท์คืนมา เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดิ่งลงไปมาก โกรธ และไม่พูดไม่จา

ใบหน้าของเขาตอนนี้เขียนไว้เพียงว่าฉันโกรธแล้ว ฉันไม่พอใจมาก ห้ามกวนฉัน!

หากมากวนเธอผลลัพธ์จะน่ากลัวมาก

เย่ซือเฉินทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอกำลังงอน ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เหมือนเจตนาจะถามเธอ: “คุณมารับผมเหรอ?”

เขารู้อยู่แล้วว่าทำไมถึงเธอโกรธ เธอมารับเขา เขาสงสัยเธอ ตรวจเช็ดโทรศัพท์เธอ เธอโกรธก็เป็นเรื่องปกติ

“ใช่ คุณไปทำงานที่ประเทศRไม่ใช่เหรอ? จากประเทศRมาถึงเมืองAไฟลท์เช้าสุดมาถึงเก้าโมง เดิมทีฉันนึกว่าหากมาถึงสนามบินเวลานี้ ก็สามารถเจอคุณที่ประตูทางออกพอดี ไม่คิดว่าคุณจะออกมาก่อน” ใบหน้าเธอยังคงเขียนไว้ด้วยคำว่าไม่พอใจ แต่ยังตอบคำถามเขาอยู่

“คุณรู้ว่าผมจะนั่งไฟลท์นี้?” ดวงตาเย่ซือเฉินสั่นไหว เขาได้ใช้ทางผ่านพิเศษจริง หากใช้ทางออกปกติ มันก็น่าจะเพิ่งออกมาในเวลานี้

แต่ว่าเธอทำไมถึงรู้ว่าเขาจะนั่งไฟลท์นี้?

เขาได้บอกเธอว่าไปทำงานสามวัน กลับมาวันนี้ แต่จำได้ว่าไม่ได้บอกเธอว่าไฟลท์กี่โมง!

“ไม่รู้ ฉันดูเวลาไฟลท์บินแรกก็รีบมาทันทีเลย คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่ากลับมาวันนี้? ไม่ใช่ไฟลท์นี้ก็คงไปไฟลท์หน้า ค่อยๆรอไป” เวินลั่วฉิงมองเขาแวบหนึ่ง สรุปคำตอบฟังดูดีอย่างสมบูรณ์ เพียงแค่อารมณ์ยังไม่ปกติ น้ำเสียงก้าวร้าวเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ดูก็รู้ว่าเธอยังคงโกรธอยู่

“ไปเถอะ” แต่ว่าเย่ซือเฉินไม่เคยง้อผู้หญิงและง้อไม่เป็นด้วย คนบางคนที่กำลังงอนน่าจะงอนเก้อเสียแล้ว เพียงแต่ในขณะที่หันหลัง มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อย

“ท่านประธานครับ คุณยังมีประชุมที่สำคัญรออยู่ เกือบจะไม่ทันแล้ว” เลขาหลิวเห็นเขาออกมา เห็นหน้าก็รู้ว่ากำลังร้อนใจ

“คุณยุ่งเถอะ เดี๋ยวฉันเรียกรถกลับบ้านเอง” เวินลั่วฉิงกำลังกลุ้มที่หาข้ออ้างที่จะจากไปไม่ได้ ได้ยินว่าเขารีบไปประชุม รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดี

“ไปบริษัทพร้อมผม” เย่ซือเฉินรั้งเธอไว้ แล้วดึงเธอขึ้นรถโดยตรง

แม่งเอ๊ย เวินลั่วฉิงเอ๋อกินทันที มีความวู่วามที่อยากจะกัดเขาให้ตายอีกครั้ง

เธออยากจะไปเจอลูกน้อยของเธอ ไม่อยากไปบริษัทกับเขา ได้ไหม?

เพียงแต่ตอนนี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ เขาไม่ได้ให้สิทธิ์เธอในการปฏิเสธ คนขับรถได้ออกรถไปแล้ว

ไปถึงที่บริษัท เย่ซือเฉินได้พาเวินลั่วฉิงไปที่ห้องทำงาน จากนั้นจึงค่อยไปห้องประชุม

ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงดังขึ้น เห็นเบอร์ที่โชว์ เธอตรวจดูแล้ว พบว่าในห้องไม่มีกล้องวงจรปิดใดๆ จึงได้รับสาย

“หม่ามี๊ หม่ามี๊โกหกหนูอีกแล้ว ทั้งๆที่บอกว่าจะมารับหนู สุดท้ายก็ไม่ได้มา” หลังจากรับสายแล้ว น้ำเสียงที่น้อยใจของถังจื่อซีถูกส่งมาจากทางโทรศัพท์

“ลูกจ๋า หม่ามี๊ขอโทษ” ในใจเวินลั่วฉิงเจ็บปวด และทรมานมาก

เธออดไม่ได้จนต้องด่าเย่ซือเฉินในใจ เป็นเพราะเขาคนเดียว ทำให้เธอไม่สามารถเจอกับลูกน้อย ทำให้ลูกน้อยของเธอเสียใจ

“ไม่เอาคำขอโทษ หนูจะเอาหม่ามี๊” จื่อซีอดไม่ได้ที่จะน้อยใจ ก็เลยร้องไห้โดยตรง

“ได้ ได้ หม่ามี๊ไป หม่ามี๊จะไปทันทีเลย” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาว หัวใจจะแหลกสลายแล้ว

“สามีจ๋า คุณประชุมยังใช้เวลาอีกนานมั้ย? ฉันสามารถไปเดินเที่ยวไหม” หลังจากวางสาย เวินลั่วฉิงก็ส่งข้อความให้เย่ซือเฉิน

“อืม” เย่ซือเฉินตอบกลับอย่างรวดเร็ว คำที่ง่ายจนไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้แล้ว แต่ก็ถือว่าอนุญาตแล้ว

เวินลั่วฉิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลานี้เธอไม่สามารถสนใจอะไรมากไปกว่านี้ และไม่สนว่าจะทำให้เย่ซือเฉินสงสัยหรือไม่ เธอรู้เพียงว่าลูกสาวกำลังรอเธออยู่ ร้องไห้จะเจอเธอ

ในห้องประชุมนั่งเต็มไปด้วยคน ตอนนี้เย่ซือเฉินกลับมายืนอยู่ที่ด้านนอก มองดูโทรศัพท์ สายตาจมลงเล็กน้อย แล้วโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง: “ไปตรวจสอบรายชื่อของผู้โดยสารและเที่ยวบินทั้งหมดที่เดินทางมาถึงสนามบินในเวลาเก้าโมง และตรวจดูว่าคนเหล่านี้มีใครไปมาหาสู่กับเวินลั่วฉิงมั่ง?”

“ได้ครับ” คำตอบนั้นง่ายและตรงไปตรงมา ทำให้คนไม่อาจสงสัยในอำนาจ

“ท่านประธานครับ คุณหญิงไม่ได้ไปเดินห้างครับ แต่ว่าได้เรียกรถแล้วจากไป” ชั่วขณะ เลขาหลิวก็โทรมารายงาน

“ตามไป แล้วแชร์ตำแหน่งมาให้ผม ผมจะไปทันที จำไว้ อย่าให้เธอรู้ตัว” เย่ซือเฉินหยิบกุญแจรถ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วลงไปบันไดทันที เขารู้อยู่แล้วว่าเธอมีเรื่องปิดบังเขาอยู่

เขาก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเธอไปทำอะไรกันแน่?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset