ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 198 คุณชายสามเย่ที่ฉลาดหลักแหลม(1)

บทที่ 198 คุณชายสามเย่ที่ฉลาดหลักแหลม(1)

เจ้าหนูน้อย หนูกำลังโกหก เสียงของเย่ซือเฉินที่ส่งมาจากโทรศัพท์ยังคงมีพลังอำนาจที่ทำให้คนตกใจ

และน้ำเสียงของเขาในตอนนี้ยืนยันได้ว่า มันไม่ใช่คำถาม

ชั่วพริบตาเวินลั่วฉิงก็ฟังเสียงของเย่ซือเฉินออก ณ ตอนนั้น เธอนึกว่าตัวเองได้ยินเสียงหลอน เย่ซือเฉินคุณโทรศัพท์กับจื่อโม่?

เรื่องมันยังไงกันแน่? เมื่อกี้ได้เกิดเรื่องอะไรที่ที่ไม่รู้หรือเปล่า?

และได้ยินเสียงพูดของเย่ซือเฉิน ร่างกายของเธอแข็งทื่อทันที

เย่ซือเฉินพูดว่าจื่อโม่โกหก?

ทำไมเย่ซือเฉินถึงพูดแบบนี้? จื่อโม่คุยอะไรกับเขา?

เวินลั่วฉิงไม่กล้าพูด ตอนนี้โทรศัพท์ของจื่อโม่เปิดสปีดโฟนไว้ หากเธอพูด เสียงของเธอก็จะถูกส่งผ่านไปถึงที่เย่ซือเฉินอย่างชัดเจน

โชดีที่เมื่อกี้ตอนเธอเข้ามาในห้องแล้วไม่ได้พูด เห็นจื่อซีแค่ล้มนอนตะแคงอยู่บนพื้น ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่กลับร้องไห้เสียงดังขนาดนั้น เขากำลังสงสัย เสียงตกใจเมื่อกี้เป็นเสียงของเห่อถงถง

ตอนที่จื่อโม่คุยโทรศัพท์นั้นเวินลั่วเฉินก็เห็นแล้ว เพียงแต่เธอคิดว่าจื่อโม่คงคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียน จึงไม่ได้รู้สึกสงสัย

จื่อโม่เป็นเด็กที่ความคิดโตกว่าเด็กปกติทั่วไป มีความคิดเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เธอจึงไม่ได้เข้มงวดกับจื่อโม่นัก

เห่อถงถงเห็นปฏิกิริยาของเวินลั่วฉิงที่อึ้งอยู่

“เย่ซือเฉิน” เวินลั่วฉิงใช้ภาษาปากบอกกับเห่อถงถง

เห่อถงถงเวลาที่อยู่ในช่วงเวลาสำคัญปฏิกิริยาในการตอบสนองค่อนข้างเร็ว: “เธอจึงรีบคำรามอย่างโมโห? นี่มันโทรศัพท์ของใคร แล้วลูกกำลังคุยกับใคร?”

“ผมจะโทรหาพ่อครับ แต่ว่าโทรผิดครับ” ถังจื่อโม่เข้าใจความหมายที่เห่อถงถงสื่อในทันที ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่บางเบา

“โทรผิดก็วางสายสิครับ ทำไมยังไม่คุยเยอะแยะแบบนั้น แม่เคยบอกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ ห้ามคุยกับคนแปลกหน้า? ลูกคุยอะไรกับเข้าบ้าง? หากเป็นคนร้ายล่ะ รู้ข้อมูลของพวกเรา แล้วมาขโมยของที่บ้านเราหรือจับตัวลูกไปเรียกค่าไถ่จะทำยังไง? ยังไม่รีบวางสายอีก” เห่อถงถงแสดงบทบาทของแม่อยู่ที่อยู่ในเมือง

อ้อ ถังจื่อโม่ตอบด้วยเสียงต่ำ ในที่สุดก็ได้วางสาย

เย่ซือเฉินที่ถูกกระหน่ำด้วยเสียงที่มาจากโทรศัพท์จากนั้นก็ถูกวางสายใส่ ทำให้เขาอึ้งไปเล็กน้อย

แต่ในวินาทีต่อมาดวงตาที่คมกริบของเขาก็หรี่ลงทีละนิด เขาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีปัญหา!

“ฮู่ เกือบละ เกือบละ” เห็นถังจื่อโม่วางสายแล้ว เห่อถงถงก็อ่อนปวกเปียกไปกับพื้นทันที มองไปที่เวินลั่วฉิง: “เธอว่าเขาจะเชื่อมั้ย?”

“ไม่น่าจะเชื่อนะ” ท่าทางของเวินลั่วฉิงดูเคร่งขรึมเล็กน้อย จากความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับเย่ซือเฉิน อยากจะหลอกให้เย่ซือเฉินเชื่อนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย

“แล้วทำไงดี? โม่โม่ลูกได้เผยข้อมูลอะไรให้เขามั้ย?” เห่อถงถงรีบมองไปที่ถังจื่อโม่

“ไม่ครับ ไม่อย่างแน่นอนครับ ข้อมูลที่ผมบอกเขาเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด เขาถามว่าแม่เป็นใคร ผมก็บอกชื่อของแม่บุญธรรมไปครับ ผมรับประกันเลยครับว่าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆทั้งนั้น” ถังจื่อโม่รีบส่ายมือ เห็นสีหน้าที่เคร่งขลึมของเวินลั่วฉิง เสียงยิ่งอยู่ยิ่งเบา

เขาไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดี แต่เขากลัวหม่ามี๊โกรธ

“งั้นก็ดี งั้นก็ดี ถึงแม้เขาไม่เชื่อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก เพราะข้อมูลที่โม่โม่ให้เขานั้นเป็นข้อมูลเท็จ เขาไม่น่าที่จะหามาถึงตรงนี้ได้ และคงไม่รู้ว่าใครเป็นคนโทรหาเขา” เห่อถงถงโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

“แล้วลูกโทรหาเขาทำไมเหรอ?” เวินลั่วฉิงมองไปที่ลูกชาย ในใจสงสัย ทำถังจื่อโม่ต้องโทรหาเย่ซือเฉิน?

โทรออกโดยไม่ตั้งใจครับ ถังจื่อโม่ตอบทันควัน

เวินลั่วฉิงไม่ได้ถามตอบ สำหรับคำพูดของลูกชาย เธอเชื่อ

เพียงแต่ จู่ๆเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา: “ถังจื่อโม่ ลูกใช้โทรศัพท์ของลูกโทรหาเขา? หมายเลขโทรศัพท์ของลูกเป็นของประเทศM”

หลังจากที่ถังจื่อโม่กลับมา เพราะเขาไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์ คนที่จื่อโม่จะติดต่อก็ไม่ได้เยอะอยู่แล้ว หลังจากจื่อโม่กลับมาแล้วติดต่อรุ่นผี่ส่วนใหญ่ก็ติดต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเบอร์โทรศัพท์ของจื่อโม่เลยไม่ได้เปลี่ยนสักที

ตอนนี้ถังจื่อโม่ใช้เบอร์ของประเทศMโทรหาเย่ซือเฉิน?

หากเป็นเช่นนี้ เพียงแค่เย่ซือเฉินตรวจสอบ ทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผย

เดิมทีเย่ซือเฉินก็สงสัยเธออยู่แล้ว และห้าปีที่ผ่านมานี้เธอพักอยู่ที่ประเทศMตลอด หากเย่ซือเฉินตรวจพบว่าหมายเลขของจื่อโม่เป็นของประเทศM ถึงเวลานั้นต้องสงสัยแน่นอน………

เห่อถงถงก็ตกใจจนอึ้ง สายตาคู่นั้นมองไปที่ถังจื่อโม่อย่างทันควัน

“อันนี้ไม่ใช่เบอร์ของประเทศMครับ เป็นเบอร์ที่แม่บุญธรรมซื้อให้เมื่อสองสามวันก่อน เป็นเบอร์ใหม่” ถังจื่อโม่ที่ถือโทรศัพท์ไว้ได้โชว์ขึ้นที่หน้าของเวินลั่วฉิง ในที่สุดใบหน้าน้อยๆก็ได้ยิ้มออกมา แม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ

“ใช่ ใช่ เป็นเบอร์ใหม่ ตอนที่จะออกไปเที่ยวเพื่อความสะดวกในการติดต่อจื่อโม่ฉันเลยซื้อเบอร์ใหม่ให้เขา ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากให้คนอื่นรู้สถานะของโม่โม่ ดังนั้นฉันไม่ใช้แม้แต่บัตรประชาชนของตัวเอง พอดีพี่ชายฉันเพิ่งเปิดร้าน เขาได้ให้เบอร์เก่าที่เขาเคยใช้ทำงาน ด้านนี้เธอไม่ต้องกังวลเลย เห่อถงถงก็ได้ยิ้มแล้ว เห็นได้ชัดว่าโล่งอก เมื่อกี้เธอตื่นเต้นจนลืมเรื่องนี้ไป” ยังคงเป็นเด็กโม่ที่ฉลาดหลักแหลม สมองตอบสนองเร็ว

“………..” เวินลั่วฉิงแอบสูดลมหายใจ แต่ก็คงยังไม่ค่อยวางใจนัก เธอเข้าใจเย่ซือเฉิน ผู้ชายคนนี้อันตรายจริงๆ

“อี๋? จื่อโม่ลูกกำลังดูอะไรเหรอ? ทำไมมีแต่เย่ซืเฉิน? จื่อโม่กำลังตรวจสอบเย่ซือเฉิน? ดูท่าทางลูกรักของบ้านเรารู้เรื่องของเย่ซือเฉินไม่น้อยเลยนะ เห่อถงถงเห็นข้อมูลบนจอคอมพิวเตอร์ของถังจื่อโม่เลยอดที่จะถามไม่ได้ จื่อโม่คนนี้ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดเหลือเกิน

เพียงแต่ดูไปดูมา ตาของเธอก็เบิ่งกว้างทันที “สิ่งเหล่านี้ลูกหาเจอได้ยังไง? แม้แต่หม่ามี๊ยังหาไม่เจอเลย”

จะว่าไปแล้วเธอก็เป็นยอดฝีมือด้านคอมพิวเตอร์ แต่ต้องมาพ่ายแพ้ให้แก่เด็กที่อายุไม่ถึงห้าขวบ?

มันช่างไม่สมเหตุผลเอาเสียเลย?

“ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ของเขาทั้งหมดมู่หรงดัวหยางเป็นคนสอนด้วยตัวเอง” เวินลั่วฉิงอธิบายเพิ่มเติม

ประสาทเสียจริง เห่อถงถงพูดอย่างอัดอั้น คำว่าประสาทที่เธอพูดนั้นหมายถึงตัวของมู่หรงดัวหยาง ไม่ได้หมายความว่าเขาเก่งด้านคอมพิวเตอร์

สอนเด็กห้าขวบให้เก่งได้ขนาดนี้ อยากเห็นว่ามู่หรงดัวหยางจะเก่งแค่ไหน

เวินลั่วฉิงรู้ว่าหากเย่ซือเฉินพบว่าคนที่อยู่บนแท็กซี่ไม่ใช่เธอ ต้องหาเธอแน่นอน ดังนั้นเธอจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ เธอต้องรีบไปจากที่นี่

“ลูกจ๋า หม่ามี๊ยังมีธุระ คงไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนลูกได้อีกแล้วนะ…….” ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่อยากจะจากไป แต่เธอไม่มีหนทางอื่นจริงๆ

“หนูรู้แล้วค่ะ หม่ามี๊ไปยุ่งก่อนเลยค่ะ” เพียงแต่ ครั้งนี้ถังจื่อซีกลับเป็นเด็กที่เหลือเกินเวิ่นลั่วฉิงอึ้งไปชั่วขณะ รู้แปลกใจเล็กน้อย เจ้าหนูน้อยให้เขาจากไปได้ง่ายดายแบบนี้? เธอรู้ว่าเด็กซีก็คงไม่อยากให้เธอจากไปเหมือนกัน เด็กซีคงไม่อยากให้เธอเป็นห่วง

เวินลั่วฉิงมองดูลูกรักทั้งสอง ในใจสับสน แต่ไม่ไปก็ไม่ได้

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset