ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 200 เวินลั่วเฉินเปิดเผยความรู้สึกตัวเอง

บทที่ 200 เวินลั่วเฉินเปิดเผยความรู้สึกตัวเอง

รอให้เขาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน หาหลักฐานได้ก่อน แล้วค่อยคิดบัญชีกับเธอ เย่ซือเฉินไม่มีทางยอมรับว่า เวลานี้เป็นเพราะเขาใจอ่อน

ทรมานไปครึ่งวัน ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว

“ไปเถอะ ไปทานข้าวกันก่อน” ครั้งนี้ เสียงของเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เยือกเย็นเหมือนเมื่อกี้แล้ว

เลขาหลิวได้แต่ทำตากะพลิบๆ เหมือนกับไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เห็นในข้างหน้านี้ นี่ นี่คือจบแล้วเหรอ?

ท่านประธานเราง้อง่ายขนาดนี้เชียว?

เวินลั่วฉิงได้โล่งอกไปอีกเปลาะ เพียงแต่เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่า เวลานี้ ลูกชายของเธอและเพื่อนรักของเธอกำลังวานแผนการใหญ่อยู่

เย่ซือเฉินผ่อนคลายลง ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดกระเพาะอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาเกร็งเล็กน้อย ขนาดที่หันหลัง มือไปกุมท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ตอนที่เวินลั่วฉิงเดินมาถึงข้างกายเขา มือของเขาก็ได้ปล่อยลงมาอย่างไร้ร่องรอย

เวินลั่วฉิงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา ดวงตาเป็นประกาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ขึ้นไปบนรถ เย่ซือเฉินไม่พูดไม่จา พิงลงเบาะเล็กน้อย หน้าซีดเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงสังเกตมือของเขา ทิศทางของมืออยู่ที่ตำแหน่งกระเพาะ เขาคงต้องการกดกระเพาะของเขาโดยจิตใต้สำนึก แต่กลับอดกลั้นเอาไว้

ท่าทางของเขา น่าจะปวดกระเพาะ?

คนอย่างเขา ชีวิตประจำวันสังสรรค์บ่อย ส่วนใหญ่จะเป็นโรคกระเพาะ

ถึงแม้เวินลั่วฉิงได้ตัดสินใจไปแล้วไม่อยากสร้างตัวตนต่อหน้าของเขา แต่เห็นท่าทางแบบนี้ของเขา ก็อดใจไม่ค่อยไหว หรือเป็นเพราะปกติดูแลลูกน้อยสองคนจนเคยชิน ดังนั้นเห็นท่าทางเขาที่ไม่สบาย จิตใต้สำนึกอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง

อีกอย่างเธอรู้สึกว่าที่เย่ซือเฉินอาการปวดกระเพาะกำเริบ อาจจะเป็นเพราะโกรธ ถูกเธอทำให้โกรธ!

ดังนั้น เขาต้องรับผิดชอบ

“เลขาหลิว ข้างหน้าช่วยจอดรถให้หน่อย” สุดท้ายเวินลั่วฉิงก็ใจอ่อนอยู่ดี

“อ้อ” เลขาหลิวอึ้งไปชั่วขณะ ท่านประธานของเขาไม่ได้ขัดขวาง เขาเลยจอดรถไว้ข้างทาง

รถจอดลง เวินลั่วฉิงเปิดประตูลงไปจากรถ

เวลานี้เย่ซือเฉินปวดรุนแรงมากขึ้น และ เขาก็ไม่เคยคิดจะควบคุมเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้ถามเหตุผลที่เธอลงจากรถ

“ท่านประธานครับ กระเพาะของคุณกำเริบอีกแล้วเหรอครับ ผมไปซื้อยาให้คุณมั้ยครับ ด้านหน้ามีร้านขายยาอยู่” เห็นเวินลั่วฉิงลงรถ เลขาหลิวก็หันหลังมา มองประธานของตัวเองอย่างห่วงใย

เวินลั่วฉิงลงรถไป เย่ซือเฉินก็กดกระเพาะ ครั้งนี้มันปวดได้รุนแรงมาก เขาเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว เพียงแต่ได้ยินคำพูดของเลขาหลิว นัยน์ตาประกายแวบเดียว: “รอก่อน”

“ท่านประธาน ที่จริงคุณไม่ต้องปกปิดคุณหญิง หากคุณหญิงรู้จะได้ดูแลคุณ” เลขาหลิวดูออกว่าท่านประธานของเขาไม่อยากให้คุณหญิงรู้ แต่เขาไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ท่านประธานทำไมต้องปิดบังคุณหญิงด้วย?

ดูแลเขา?

ตั้งแต่คุณแม่เสียชีวิตแล้ว ในชีวิตของเขาราวกับว่าไม่มีคำว่าดูแลสองตัวอักษรนี้ หลายปีที่ผ่านมานี้เขาดูแลตัวเองมาโดยตลอด

หลายปีมานี้ เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เขาต้องการคือศิโรราบ ไม่ใช่การดูแล

เพราะเรื่องราวของพ่อแม่ในอดีต หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้างกายเขาไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อน นอกจากอุบัติเหตุเมื่อห้าปีที่แล้ว ยังมีครั้งนี้ที่แต่งงานกับเธอ

“อี๋ คุณหญิงไปร้านยา? คงจะไปซื้อยาให้ท่านประธาน?” จู่ๆเลขาหลิวก็อุทานออกมา ขัดจังหวะความคิดของเย่ซือเฉิน

สายตาของเย่ซือเฉินมองไปที่ร้านยาโดยสัญชาตญาณ เห็นเวินลั่วฉิงเดินเข้าไปในร้านยาพอดี

เพราะซื้อยาให้เขา? เขาสงสัยจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงคนนี้จะทำ

เขารู้อยู่เต็มอก ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับเธอ ดังนั้น เขาก็ไม่ได้หวังว่าเธอจะเป็นห่วงเขาจริงๆ

อย่างน้อยตอนนี้ยังไม่คาดหวัง

กระเป๋าสตางค์ใบนั้น เธอคงคิดได้ว่าเขาจะต้องโกรธ ดังนั้นจึงซื้อมาง้อเขา และตอนนี้เขาไม่ได้โกรธแล้ว ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่จะไปข่มขู่เธอได้ เธอไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้เขาพอใจ

และสองสามวันมานี้ เขาก็ดูออก ผู้หญิงคนนี้เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเธอ เธอไม่ค่อยจะใส่ใจ และสนใจ

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่ได้บอกเธอ เขาปวดกระเพาะ เธอก็คงไม่รู้ว่าเขามีโรคกระเพาะ

ไม่นานนักเวินลั่วฉิงก็ออกมาจากร้านยา รวดเร็วทันใจ ในมือถือยาไว้หนึ่งกล่อง เพียงแต่ ระยะห่างพอสมควร ดูไม่ออกว่าเป็นยาอะไร

“ท่านประธาน ดูท่าผมจะพูดไม่ผิด คุณหญิงไปซื้อยาให้ท่านประธานจริงๆครับ” ใบหน้าของเลขาหลิวมีความสุขเล็กน้อย

มุมปากของเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังยิ้มเยาะเย้ยตัวเองอยู่ เขาไม่กล้าที่จะไปคิดถึงด้านนี้จริงๆ

ไม่คิดก็ไม่ผิดหวัง ยิ่งคิดมาก ก็ยิ่งผิดหวังมาก

เวินลั่วฉิงวิ่งกลับมา เปิดประตูรถ รีบขึ้นรถอย่างเร็ว ยังนั่งไม่สนิท ก็เอายาที่อยู่ในมือยื่นไปด้านหน้าของเย่ซือเฉิน

หลังจากนั่งเรียบร้อยแล้ว พลางหยิบน้ำขึ้นมาหนี่งขวดแล้วยื่นไปด้านหน้าของเย่ซือเฉิน

เย่ซือเฉินมองดูยากระเพาะที่อยู่ในมือเธอย่างอึ้งนิดหน่อย ดวงตาคู่นั้นมองมาที่เวินลั่วฉิง ทันใดนั้นรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

หลายปีที่ผ่านมา ข้างกายเขาไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อน ดังนั้น ก็ไม่เคยถูกดูแลแบบนี้มาก่อน แน่นอนมันไม่ใช่ว่าไม่มีผู้หญิงยินยอม แต่เพราะเขาไม่เคยให้โอกาสผู้หญิงเหล่านั้น

เขาไม่สามารถทนดูความตอแหลเหล่านั้นได้

แต่เขารู้ว่าเธอไม่ได้ตอแหล เพราะเธอไม่จำเป็นต้องตอแหล ผู้หญิงคนนี้รังเกียจเขาจะตาย รังเกียจจนอยากจะไปให้พ้นๆเขา อยากจะกลับประเทศMด้วยซ้ำ

ถึงแม้พวกเขาแต่งงานกันแล้ว แต่เธอก็คิดถึงเรื่องหย่าตลอดเวลา

เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมเธอรู้ว่าเขาปวดกระเพาะ?

ใช่แล้ว เธอเป็นคนช่างสังเกตมาโดยตลอด

เพียงแต่ ครั้งนี้เธอไม่กลัวที่จะแสดงออกมา?

“เป็นอะไร ไม่กินเหรอ? หรือว่าฉันซื้อมาผิด?” เวินลั่วฉิงถูกเขาจ้องมอง จู่ๆรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“คุณรู้ได้ไงว่าผมปวดกระเพาะ?” โดยปกติเย่ซือเฉินไม่ใช่คนพูดมาก แต่เวลานี้เขาอดไม่ได้ที่จะถาม

เวินลั่วฉิงอึ้งไปแป๊บ ดวงตาเป็นประกาย ด้วยการสังเกตอย่างชาญฉลาดของเธอ ไม่ยากที่จะพบว่าเขาปวดกระเพาะ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เธอก็ไปซื้อยา เมื่อกี้สมองรวนหรือเปล่า? แบบนี้ไม่เท่ากับเผยความรู้สึกตัวเองหรอกเหรอ?

เลขาหลิวเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูดไม่จา นึกว่าเวินลั่วฉิงเขินอาย ก็เลยจงใจพูดขึ้นมา: “คุณหญิงช่างเป็นห่วงท่านประธานเสียจริง ถึงแม้ท่านประธานจะไม่บอก คุณหญิงก็สังเกตเห็นเอง”

เมื่อกี้คุณกุมท้องไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เพราะปวดกระเพาะเหรอ? คงจะไม่ใช่ปวดตับ ปวดปอด ปวดลำไส้ใหญ่ หากเป็นอย่างนั้น อาการคงจะหนักน่าดู เวลานี้เวินลั่วฉิงรู้สึกหดหู่ หดหู่จนอยากไปชนกำแพง เธอคิด คงเป็นเพราะดูแลเด็กน้อยทั้งสองจนเคยชิน ถือได้ผิดพลาดในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้

เลขาหลิวอึ้งทันที คำพูดนี้เป็นคำพูดของผู้หญิงปกติที่เขาพูดกันเหรอ? คำพูดนี้ฟังดูแล้วเหมือนกำลังแช่ท่านประธาน?

ได้ยินคำพูดของเธอ เย่ซือเฉินไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ยิ้มที่มุมปากเล็ก จู่ๆเขาก็พบว่า ผู้หญิงคนนี้ปากร้ายแต่ใจดี

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset