ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 210 แผนการของคุณชายสามเย่ มันอำมหิตมาก(1)

บทที่210 แผนการของคุณชายสามเย่ มันอำมหิตมาก(1)

“ครับ น่าจะซื้อให้กับเด็กอายุประมาณห้าขวบครับ”เฉิงจื่อเสริมขึ้นหนึ่งประโยคตามหลักการพิจารณาของตน

เด็กอายุประมาณห้าขวบ?สีหน้าของเย่ซือเฉินมีความสงสัยเล็กน้อย เด็กอายุประมาณห้าขวบ เธอจะซื้อให้ใครนะ?

เขาจำได้ว่าครั้งก่อนเขาก็เห็นเธออยู่ที่จุดขายเสื้อผ้าเด็ก แต่ตอนนั้นเพราะธุระจึงรีบออกไป เลยไม่ได้ซื้อ

แต่ว่า เห็นได้ชัดว่าเวลานี้ไม่มีใครสามารถให้คำตอบกับเขาได้ และตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่จึงไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมาก

หลังจากที่วางสาย สีหน้าของเย่ซือเฉินก็ยิ่งเย็นชาเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เวินลั่วฉิงที่เป็นคนสยบข่าวนั้น

ที่จริงหลังจากที่เวินลั่วฉิงลงจากรถก็ผ่านไปเวลาที่เกิดเหตุไปแล้วครึ่งชั่วโมง ถึงเธอจะเก่งขนาดไหนก็คงไม่สามารถปิดข่าวทั้งหมดได้หรอก

ตอนนั้นคืออยู่ในห้างสรรพสินค้า มีคนพลุกพล่านมากมายและมีโอกาสที่คนจะออกไปได้ตลอดเวลา เวลาครึ่งชั่วโมงนี้ไม่รู้มีคนเข้าๆออกๆเป็นจำนวนเท่าไหร่

ดังนั้นอยากจะปิดข่าวให้มิด สามารถทำถึงขึ้นไม่มีแม้แต่รูปเดียว คงต้องเป็นวิธีที่เริ่มทำการปิดข่าวตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แล้ว

ดังนั้น คนที่ปิดข่าวต้องอยู่ในเหตุการณ์อย่างแน่นอน

อันที่จริงถึงแม้ว่าคนนั้นจะอยู่ในเหตุการณ์ แต่อยากจะปิดข่าวให้มิดชิดคงไม่ใช่เรื่องง่าย

ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่มีนักข่าว แต่ตอนนั้นเขาเห็นมาคนถ่ายรูปหลายคน

คนนั้นคงไม่มีทางเอามือถือคนที่ถ่ายรูปทุกคนมา แล้วลบรูปทิ้งหรอก

และหลายคนใจตอนนั้นก็อาจจะโพสต์ลงในแอพวีแชท แอพเวยโป๋แล้วก็ได้

แต่เมื่อกี้เขาหาดูในแอพเวยโป๋แล้ว ไม่พบรูปถ่ายแม้แต่รูปเดียว

คนที่มีความสามารถอย่างนี้ สามารถทำได้อย่างแนบเนียนจนไม่มีจุดรั่วไหลเลย เย่ซือเฉินนึกชื่อได้หนึ่งคน

และที่สำคัญคนนั้นอยู่ที่เมือง A พอดี

ดวงตาของเย่ซือเฉินค่อยๆหรี่ขึ้น ในความเย็นชาได้แฝงความซับซ้อนเอาไว้

เขาไม่อยากสงสัยในตัวของพี่ใหญ่ แต่หลายๆเรื่องมันฟ้อง เขาไม่อาจจะห้ามความคิดของตัวเองได้

เย่ซือเฉินยืนอยู่ที่ริมหน้าต่าง เห็นได้ชัดว่าสีหน้ามีความเคร่งเครียด จากนั้นไม่นานเขาก็ได้โทรไปหาเบอร์เบอร์หนึ่ง

“พี่ใหญ่ คืนนี้เจอกันหน่อยครับ เวลาห้าโมงที่หมิงเจ๋” เขาไม่อยากจะทายต่อไป เขาอยากจะไปพิสูจน์ดู

“ได้”อีกฝั่งหนึ่งของสายขานตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ฟังอารมณ์ไม่ออกจากน้ำเสียงของเขา

หลังจากที่วางสาย เย่ซือเฉินก็รีบโทรไปหาเวินลั่วฉิง

“คุณอยู่ไหน?”เมื่ออีกฝั่งหนึ่งรับสาย เย่ซือเฉินก็รีบเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มลึก แต่ก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรมากนัก

“ซื้อของในห้างสรรพสินค้าอยุ่ค่ะ”เวินลั่วฉิงรับสายจากเขาแล้วตอบไปตามความเป็นจริง

“คืนนี้ไปกินข้าวด้วยกัน”เย่ซือเฉินพูดจุดประสงค์ที่เขาโทร แต่เขาเพียงแต่พูดว่ากินข้าวด้วยกัน ไม่ได้พูดอย่างอื่นด้วย

“ได้ค่ะ ที่ไหนค่ะ?” ตอนนี้อารมณ์ของเวินลั่วฉิงดีมากเลย จึงตอบอย่างสดชื่น

“รอผมอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวผมไปรับคุณเอง” ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่มีทางบอกเธอว่าที่ไหน แค่ให้เธอรอเขาอยู่ตรงนั้น

“ออ”หลังจากที่เวินลั่วฉิงวางสาย แล้วดูเวลาก็ยังไม่ถึงสี่โมงเย็นเลย เวลานี้เขาก็เลิกงานแล้วหรือ?

เขาทำงานอย่างอิสระจริงๆ

หลังจากที่เวินลั่วฉิงวางสายนึกขึ้นได้ว่าเย่ซือเฉินบอกว่าจะรับสายเธอเดี๋ยวนี้ เธอจึงไม่ได้ซื้อของต่อ

เพียงแต่เห็นของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ในมือก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ของมากมายพวกนี้ส่วนมากจะซื้อให้เด็กๆ เธอคงไม่สามารถถือของพวกนี้ไปพบเย่ซือเฉินได้หรอก

เวินลั่วฉิงคิดว่าเย่ซือเฉินคงจะมาถึงแล้ว เธออยากจะเอาของไปให้เด็กๆก่อนคงจะไม่ทัน ตอนนี้จึงต้องเก็บของพวกนี้ไว้ในห้างสรรพสินค้าก่อน

หลังจากที่ฝากของเสร็จแล้ว เวินลั่วฉิงก็เอามือถือออกมาจะโทรหาเห่อถงถงให้เห่อถงถงมาเอาของตอนที่สะดวก

แต่ว่า ตอนที่เธอคิดจะโทรศัพท์นั้นก็ได้หันหลังไป ดวงตาก็หรี่ขึ้นมากะทันหัน

เธอถูกสะกดรอยตามแล้ว!เวินลั่วฉิงไม่ได้สงสัย แต่มั่นใจมาก

เธอมั่นใจว่าตอนนี้ถูกสะกดรอยตามแล้ว!

เธอไม่รู้ว่าคนนั้นตามเธอนานแค่ไหนแล้ว?ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้า ไม่ได้สังเกตเห็น และคนที่ติดตามก็มีความสามารถมาก

เทียบกับซ่งหยุนได้เลย

ความสามารถในการสะกดรอยตามของซ่งหยุนผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างดิบดี สามารถเทียบชั้นกับซ่งหยุนได้คงจะไม่ใช่คนธรรมดา

หลี่หยุนคงหาคนที่เก่งๆอย่างนี้มาสะกดรอยตามเธอไม่ได้หรอก

แล้วใครเป็นคนสะกดรอยตามเธออยู่ล่ะ?

เธอเพิ่งกลับเมือง Aไม่นาน คนในเมือง Aไม่มีใครรู้อีกสถานะหนึ่งของเธอ เมื่อพูดตามหลักแล้วไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นนะ

รุ่นพี่อยู่ที่เมือง A รุ่นพี่มีความสามารถนี้ แต่เธอรู้ว่าคนนี้ไม่ใช่รุ่นพี่อย่างแน่นอน

แล้วยังมีใครอีก?

จู่ๆเวินลั่วฉิงก็นึกได้คนหนึ่ง——เย่ซือเฉิน!

รุ่นพี่เคยบอกว่าอำนาจของเย่ซือเฉินน่าเกรงขามมาก เขามีลูกน้องอย่างนี้ก็ไม่น่าจะแปลกอะไร

และที่สำคัญ เย่ซือเฉินกำลังตรวจสอบเธออยู่ และกำลังสงสัยในตัวเธอ การลอบถามครั้งก่อนคือสิ่งที่สามารถอธิบายได้ดีที่สุด

เพียงว่าเย่ซือเฉินอยากจะสืบอะไรจากตัวเธอล่ะ?

ตอนนี้เธอเริ่มสงสัยอีกครั้งว่า ตั้งแต่แรกที่เย่ซือเฉินสู่ขอเธอแต่งงานก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อยากจะได้หุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอย่างเดียว

แต่เธอคิดจุดประสงค์อย่างอื่นของเย่ซือเฉินไม่ออกในเวลาอันสั้นนี้……

เวินลั่วฉิงไม่ได้แสดงสีหน้าที่ผิดปกติ เพียงแต่เก็บมือถืออย่างแนบเนียบ ในเมื่อถูกสะกดรอยตามแล้วก็คงไม่สะดวกที่จะโทรอีก

เวินลั่วฉิงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอออกจากห้างสรรพสินค้ามาไม่นาน เย่ซือเฉินก็มาถึง หลังจากที่เธอถึงรถของเย่ซือเฉินแล้วก็พบว่าคนที่สะกดรอยตามก็ไปแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งเป็นการพิสูจน์การคาดเดาของเธอได้ว่า คนที่สะกดรอยตามเธอเมื่อกี้เป็นคนของเย่ซือเฉินนั้นเอง!

“คุณสามีค่ะ เมื่อกี้ตอนฉันอยู่ในห้างรู้สึกมีคนคอยติดตามฉันด้วยค่ะ?”หลังจากที่ออกรถไปได้ระยะหนึ่ง เวินลั่วฉิงก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

มือที่กำลังจับพวงมาลัยของเย่ซือเฉินแน่นขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่เวินลั่วฉิงก็สังเกตเห็นแล้ว

ดวงตาของเวินลั่วฉิงได้ฉายแสงแห่งรอยยิ้มมาแวบหนึ่ง ใช่จริงๆด้วย!

“มีความระมัดระวังตัวสูง?มีความสามารถในการสังเกตสูง?นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาควรจะมีหรือ?”เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบคำถามเธอ แต่กลับถามกลับอย่างมีเจตนารมณ์ น้ำเสียงแฝงการสอบสวนไว้ด้วย

“สัมผัสที่หกของผู้หญิงบางครั้งก็ผิดปกติจนน่ากลัว หรือคุณไม่เคยรู้เหรอ?”ราวกับรู้มาก่อนว่าเขาจะพูดแบบนี้ มุมปากของเวินลั่วฉิงยิ้มขึ้นเล็กน้อย

เย่ซือเฉินจ้องมองเธอที่พูดอย่างนี้ใส่ จนไม่รู้จะโต้ตอบยังไงดีในเวลาอันสั้นนี้

เขารู้ว่าท่าทางเธอที่ดูสบายๆไม่มีร่องรอยอะไรกับคำถาม ที่จริงแล้วก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนส่งไป

ตอนนี้เธอพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ทีแรกเขาคิดจะซักถามอะไรบางอย่างสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องเจอกับดักของเธอเข้าให้

ผู้หญิงคนนี้เมื่อเข้าสู่โหลดปกติก็ฉลาดจนน่ากลัวมาก เขาชอบตอนที่เธอถูกเขาจูบจนสับสนมึนๆมากกว่า

เย่ซือเฉินมองริมฝีปากที่แดงฉ่ำของเธอด้วยดวงตาที่มืดมนเล็กน้อย

“สามีค่ะ คุณได้ยินฉันบอกว่าถูกคนสะกดรอยตามก็ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลยนะคะ” เพียงแต่ว่าเวลานี้ เวินลั่วฉิงได้ส่งเสียงพูดขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิด!!

เวลานี้เวินลั่วฉิงจงใจจะถามอย่างนี้ เธอจะดูสิว่าเขาจะตอบยังไง?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset